ไม่รู้สิว่า ผมลืมไปแล้วว่า การมีเพื่อนมันดียังไง ตั้งแต่จบ ม.6 มา ผมแทบจะตัดขาดกับโลกภายนอก ไปเรียน ไปทำงาน เช้าไป เย็นกลับบ้าน ไม่เฮฮา ไม่สังสรรค์ กับใครทั้งสิ้น มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นน้อยมาก เพราะมันมีความเจ็บปวดจากการที่เพื่อนและแฟนหักหลังตอน ม.6 ทำให้ผมเอง เปลี่ยนกลายเป็นคนที่เก็บกด และ พยายามเรียนให้ได้ที่ 1 โดยไม่คบใครเป็นเพื่อนเลย พอไปทำงานที่ญี่ปุ่นปีกว่า ก็ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใคร นอกจากคุณอา กับ น้องสาว และ เว็บ Pantip ด้วย ซึ่งกับเป็นเพื่อนในออนไลน์ แต่ในชีวิตจริง ผมไม่มีเพื่อนสักคน พอมาเป็นครู ผมทำตามแค่หน้าที่ ไม่พยายามสนิทกับเด็กคนไหน หรือ ครูคนไหน เพราะผมกลัวความเจ็บปวด สุดท้ายผมลาออกไปเอง เพราะความเหงา และ ทนระบบราชการไม่ไหว เลยไปเรียนที่ ม.รามต่อ เพื่อจะเป็นนักประวัติศาสตร์ระดับโลกให้ได้ แต่ยังคงเดิม คือ พยายามทำตัวให้เก่งที่สุด และ หลีกเลี่ยงการมีเพื่อนสนิท มีแต่คนที่พอคุยกันได้
พอผมได้อ่านเรื่องที่ ผู้ร่วมชั้นเรียนในเอกประวัติศาสตร์ ได้บอกผมใน Facebook ว่า (ผมแอด friend หลายคน แต่ผมแอดเพราะเรื่องงานเท่านั้น ไม่คุยเรื่องส่วนตัว) "คุณน่ะ เป็นโรคจิตแล้ว คุณพยายามเอาชนะคนอื่น แม้แต่อาจารย์ผู้สอน และการที่คุณพยายามไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับใคร ไม่มีเพื่อน มันร้ายแรงนะ" ผมกลับมานั่งนึกดู ตลอด 12 ปีนี่ ผมไม่มีใครอยู่ใกล้เลย ขนาดตอนอยู่หอ ผมไม่ยอมแชร์กับใคร กับ พ่อแม่ ผมก็ห่างเหินมาก (เพราะผมได้แยกตัวออกจากบ้านมาตั้ง 8-9 ปี แล้วมั้ง) ยอมรับว่า ไม่มีความสุข แต่ตราบใดที่ไปไม่ถึงฝัน ผมมีความสุขไม่ได้ แม้ว่าชีวิตนี้จะต้องอมทุกข์แค่ไหน ผมก็ยอม
แต่กลายเป็นว่า พออายุ 30 แล้ว ผมกลับมานั่งนึกดูว่า มันเหงามาก ที่อยู่ในคอนโดคนเดียว ผมรู้สึกกลัวการคบเพื่อน หรือ การมีปฏิสัมพันธ์กับใคร ผมคิดว่าจะไปปรึกษาจิตแพทย์ แต่ก็กลัวการพบหมอเหมือนกัน จะทำอย่างไรดี เพราะมันรู้สึกทรมานอย่างไงก็ไม่รู้ กับการอยู่คนเดียว 10 กว่า ปี โดยไม่มีเพื่อนสนิทเลย มีแต่คนที่คุยกันได้ แต่ผมไม่สามารถเปิดรับใครได้ในชีวิต เพราะเป้าหมายที่จะมีงานวิจัยระดับนานาชาติยังไม่สำเร็จเลย จะทำอย่างไรดี (ผมไม่ทำอะไรบ้าๆเช่นฆ่าตัวตายหรอก แต่อาจจะอมทุกข์ไปตลอดชีวิตก็เท่านั้น)
ความเหงา ที่ไร้เพี่อน 10 กว่าปี
พอผมได้อ่านเรื่องที่ ผู้ร่วมชั้นเรียนในเอกประวัติศาสตร์ ได้บอกผมใน Facebook ว่า (ผมแอด friend หลายคน แต่ผมแอดเพราะเรื่องงานเท่านั้น ไม่คุยเรื่องส่วนตัว) "คุณน่ะ เป็นโรคจิตแล้ว คุณพยายามเอาชนะคนอื่น แม้แต่อาจารย์ผู้สอน และการที่คุณพยายามไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับใคร ไม่มีเพื่อน มันร้ายแรงนะ" ผมกลับมานั่งนึกดู ตลอด 12 ปีนี่ ผมไม่มีใครอยู่ใกล้เลย ขนาดตอนอยู่หอ ผมไม่ยอมแชร์กับใคร กับ พ่อแม่ ผมก็ห่างเหินมาก (เพราะผมได้แยกตัวออกจากบ้านมาตั้ง 8-9 ปี แล้วมั้ง) ยอมรับว่า ไม่มีความสุข แต่ตราบใดที่ไปไม่ถึงฝัน ผมมีความสุขไม่ได้ แม้ว่าชีวิตนี้จะต้องอมทุกข์แค่ไหน ผมก็ยอม
แต่กลายเป็นว่า พออายุ 30 แล้ว ผมกลับมานั่งนึกดูว่า มันเหงามาก ที่อยู่ในคอนโดคนเดียว ผมรู้สึกกลัวการคบเพื่อน หรือ การมีปฏิสัมพันธ์กับใคร ผมคิดว่าจะไปปรึกษาจิตแพทย์ แต่ก็กลัวการพบหมอเหมือนกัน จะทำอย่างไรดี เพราะมันรู้สึกทรมานอย่างไงก็ไม่รู้ กับการอยู่คนเดียว 10 กว่า ปี โดยไม่มีเพื่อนสนิทเลย มีแต่คนที่คุยกันได้ แต่ผมไม่สามารถเปิดรับใครได้ในชีวิต เพราะเป้าหมายที่จะมีงานวิจัยระดับนานาชาติยังไม่สำเร็จเลย จะทำอย่างไรดี (ผมไม่ทำอะไรบ้าๆเช่นฆ่าตัวตายหรอก แต่อาจจะอมทุกข์ไปตลอดชีวิตก็เท่านั้น)