“ท่านนายพลปีเตอร์ครับ สถานการณ์โดยรวม เรายังพอตีกรรเชียงไปได้ครับ”
“หมายความว่ายังไง” นายพลปีเตอร์ ถามเสธค็อคกี้ อย่างวิตก
“ข่าวเจ้า สไตรป์แมน ที่ถูกตรวจสอบการขายข้าวโพดบรรจุถุง ที่กำลังทำให้ประชาชนสนใจ ตอนนี้โอเคแล้วครับ
ไม่มีการลงข่าวต่อเนื่อง เดี๋ยวคนก็ลืมแล้วครับ” เสธค็อคกี้ พูดด้วยน้ำเสียงรัวๆ “
นายพลปีเตอร์ มองตาเสธค็อคกี้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “จัดการมันด้วยกฎหมายภาษี
ว่าการซื้อขายของมัน มีการจดทะเบียนพาณิชย์ หรือมีการยื่นแบบแสดงการเสียภาษีหรือไม่ ให้มันซื้อขายไม่ได้สะดวก
เราจะปล่อยให้มันซื้อขายข้าวโพดในราคาตันละหมื่นห้า ต่อไปไม่ได้ ไม่ยังงั้นฉิบHaiกันหมด
คดีที่เรากำลังดำเนินกับเจนนี่ และรัฐมนตรีสมัยนางเป็นนายก ก็จะยากยิ่งขึ้น ข้อพิสูจน์ว่าการรับจำนำข้าวโพดของนาง ไม่ได้ทำให้รัฐเสียหายก็จะมีน้ำหนัก เราจะระบายข้าวโพด ในระบบจีทูจีอย่างถูกๆ และรวดเร็วไม่ได้ เพราะสายตาชาวโลกมองเราอยู่ อย่าลืมนะ ตราบใดที่ข้าวโพดในสต็อคยังมีอยู่ มันก็ทำให้การคำนวนความเสียหายสุทธิยังทำไม่ได้”
นายพลปีเตอร์ถอนหายใจ พร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นจิบ ก่อนที่จะพูดต่อ “ส่งคนไปจับตาและดูแลความเคลื่อนไหวของ เจ้าลายขวางไว้ ตรวจดูว่ามันซื้อข้าวโพดจากแหล่งไหน และขายให้ใครบ้าง ถ้าพบว่ามันจัดฉากซื้อข้าวโพดเพียงเล็กน้อย แล้วสร้างข่าวว่าซื้อมากขายมาก ก็จัดเต็มเลย ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ เอาให้มันจบเดี๋ยวนั้นเลย"
ชั่วขณะที่ทั้งสอง กำลังคิดถึงข้าวโพดตราลายขวาง เสียงโทรศัพท์ทรงโบราณ บนโต๊ะ ก็ดังขึ้น กริ้ง....กริ้ง.....กริ้ง....
นายพลปีเตอร์ เอื้อมมือคว้าโทรศัพท์อย่างรำคาญ "ดังได้ทั้งวัน เฮ้อ..."
น้ำเสียงอันนอบน้อมของอีกฝั่งดังขึ้น " ผมหยุ่นครับท่าน"
"เอ้าว่าไป มีอะไรเหรอ" เสียงเนือยๆ ของนายพลตอบกับปลายสาย
"ง่า...คือ หนังสือการปลูกมะนวย ที่ท่านปรารภ ตอนนี้จัดพิมพ์และออกจำหน่าย แล้วครับ สายส่งบอกว่า ร้านหนังสือทุกแห่งให้การตอบรับดีมาก" บก.หยุ่นรายงานด้วยน้ำเสียงประดุจนักอ่านข่าวมืออาชีพ
"อะไรนะ มะนวย คุณพูดอะไรของคุณ" นายพลถามด้วยน้ำเสียงงุนงง
"อ๋อ มะนวย คือมะนาวยักษ์พันธุ์ไร้เมล็ดครับ เราต้องสร้างจิตวิทยามวลชน ให้ชาวบ้านสนใจครับ ถ้าเขาโฟกัสที่มะนวยแล้ว
เขาก็จะลืมเรื่องการเมืองไปชั่วขณะ เราก็ลุยเรื่องรัฐธรรมนวย อุ้ย! ขอโทษครับ รัฐธรรมนูญใหม่ต่อไปเลยครับ"
The Gold Hammer Island นิยายสั้นเป็นตอนๆ โดยลุงโอลด์ครัช
“หมายความว่ายังไง” นายพลปีเตอร์ ถามเสธค็อคกี้ อย่างวิตก
“ข่าวเจ้า สไตรป์แมน ที่ถูกตรวจสอบการขายข้าวโพดบรรจุถุง ที่กำลังทำให้ประชาชนสนใจ ตอนนี้โอเคแล้วครับ
ไม่มีการลงข่าวต่อเนื่อง เดี๋ยวคนก็ลืมแล้วครับ” เสธค็อคกี้ พูดด้วยน้ำเสียงรัวๆ “
นายพลปีเตอร์ มองตาเสธค็อคกี้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “จัดการมันด้วยกฎหมายภาษี
ว่าการซื้อขายของมัน มีการจดทะเบียนพาณิชย์ หรือมีการยื่นแบบแสดงการเสียภาษีหรือไม่ ให้มันซื้อขายไม่ได้สะดวก
เราจะปล่อยให้มันซื้อขายข้าวโพดในราคาตันละหมื่นห้า ต่อไปไม่ได้ ไม่ยังงั้นฉิบHaiกันหมด
คดีที่เรากำลังดำเนินกับเจนนี่ และรัฐมนตรีสมัยนางเป็นนายก ก็จะยากยิ่งขึ้น ข้อพิสูจน์ว่าการรับจำนำข้าวโพดของนาง ไม่ได้ทำให้รัฐเสียหายก็จะมีน้ำหนัก เราจะระบายข้าวโพด ในระบบจีทูจีอย่างถูกๆ และรวดเร็วไม่ได้ เพราะสายตาชาวโลกมองเราอยู่ อย่าลืมนะ ตราบใดที่ข้าวโพดในสต็อคยังมีอยู่ มันก็ทำให้การคำนวนความเสียหายสุทธิยังทำไม่ได้”
นายพลปีเตอร์ถอนหายใจ พร้อมกับยกแก้วน้ำขึ้นจิบ ก่อนที่จะพูดต่อ “ส่งคนไปจับตาและดูแลความเคลื่อนไหวของ เจ้าลายขวางไว้ ตรวจดูว่ามันซื้อข้าวโพดจากแหล่งไหน และขายให้ใครบ้าง ถ้าพบว่ามันจัดฉากซื้อข้าวโพดเพียงเล็กน้อย แล้วสร้างข่าวว่าซื้อมากขายมาก ก็จัดเต็มเลย ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ เอาให้มันจบเดี๋ยวนั้นเลย"
ชั่วขณะที่ทั้งสอง กำลังคิดถึงข้าวโพดตราลายขวาง เสียงโทรศัพท์ทรงโบราณ บนโต๊ะ ก็ดังขึ้น กริ้ง....กริ้ง.....กริ้ง....
นายพลปีเตอร์ เอื้อมมือคว้าโทรศัพท์อย่างรำคาญ "ดังได้ทั้งวัน เฮ้อ..."
น้ำเสียงอันนอบน้อมของอีกฝั่งดังขึ้น " ผมหยุ่นครับท่าน"
"เอ้าว่าไป มีอะไรเหรอ" เสียงเนือยๆ ของนายพลตอบกับปลายสาย
"ง่า...คือ หนังสือการปลูกมะนวย ที่ท่านปรารภ ตอนนี้จัดพิมพ์และออกจำหน่าย แล้วครับ สายส่งบอกว่า ร้านหนังสือทุกแห่งให้การตอบรับดีมาก" บก.หยุ่นรายงานด้วยน้ำเสียงประดุจนักอ่านข่าวมืออาชีพ
"อะไรนะ มะนวย คุณพูดอะไรของคุณ" นายพลถามด้วยน้ำเสียงงุนงง
"อ๋อ มะนวย คือมะนาวยักษ์พันธุ์ไร้เมล็ดครับ เราต้องสร้างจิตวิทยามวลชน ให้ชาวบ้านสนใจครับ ถ้าเขาโฟกัสที่มะนวยแล้ว
เขาก็จะลืมเรื่องการเมืองไปชั่วขณะ เราก็ลุยเรื่องรัฐธรรมนวย อุ้ย! ขอโทษครับ รัฐธรรมนูญใหม่ต่อไปเลยครับ"