โดย พิมพ์ชนก พุกสุข
มติชนรายวัน 13 เมษายน 2558
ใน 365 วัน จะมีสักกี่วันที่พอจะเรียกได้ว่าเป็น "วันปลดปล่อย" อย่างแท้จริง
จะกี่มากน้อย มนุษย์ย่อมต้องการช่วงเวลาที่สามารถสนุกได้โดยไม่ผิดกฎไม่ผิดเกณฑ์การอยู่ร่วมกันในสังคม ก็ใช่ที่ว่าแต่ละวัน เราหาเรื่องสังสรรค์หรือพักผ่อนจากการทำงานก็ย่อมได้ แต่ถ้ามีสักวันที่ได้ทั้งหยุดงาน พักผ่อน และปลดปล่อยด้วยการเล่นสนุกจนถึงขีดสุด คงดีไม่น้อย
เทศกาลปีใหม่ที่เวียนมาเมื่อครบขวบปีนั้นอาจจะนับได้ว่าเป็นอีกเทศกาลที่ถือเป็นวันปลดปล่อย แต่ถ้าจะได้ "เห็นภาพ" มากกว่านั้น คงหนีไม่พ้น "เทศกาลสงกรานต์" ที่ในช่วงเวลานี้ สมัยนี้ แทบจะถือเป็นเทศกาลที่เข้าไปร่วมละเล่นแล้วได้รู้สึกปลดปล่อยให้หายอยาก
ไม่ได้หมายถึงให้ร่ำสุรายาเมากันจนหัวทิ่มหัวตำ หรือออกไปขับรถแล้วเหยียบมิดไมล์เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ แต่ยังมีทางออกอื่นที่วัฒนธรรมเปิดโอกาสให้เราๆ มนุษย์ผู้จับเจ่าได้ปลดปล่อยความเหนื่อยล้าออกไปได้บ้างจากการสาดน้ำเข้าหากัน
ใครบ้างจะปฏิเสธว่า ในอารมณ์คึกคักและสนุกสนาน การสาดน้ำเย็นๆ เข้าหากันเพื่อดับร้อนมันเป็นเรื่องไม่สนุก ยังไม่นับกิจกรรมระหว่างวันที่ล้วนแล้วก็มีชีวิตชีวาทั้งสิ้น
และไม่ได้มีประเทศไทยเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่มีเทศกาลเพื่อความสนุกสนาน แต่ต่างประเทศเองก็เช่นกัน กับความสนุกสนานอันเกิดจากวัฒนธรรม ไม่เพียงสาดน้ำ แต่ยังรวมไปถึงการปาข้าวของใส่กันในลักษณะที่ไม่ถึงกับทำให้เจ็บตัว ได้แต่เพียงกระตุ้นให้รู้สึกสนุกเท่านั้น
กับเทศกาลเหล่านี้ที่แม้บางที่จะอยู่ไกลกันคนละซีกโลก แต่อ่านแล้วก็เกิดอยากจะชีพจรลงเท้า เข้าไปร่วมละเล่นด้วยเสียอีกราย
8 เทศกาล ′สาด′ ทั่วโลก ซัดกันนัว ด้วยอาวุธกินได้!?
มติชนรายวัน 13 เมษายน 2558
ใน 365 วัน จะมีสักกี่วันที่พอจะเรียกได้ว่าเป็น "วันปลดปล่อย" อย่างแท้จริง
จะกี่มากน้อย มนุษย์ย่อมต้องการช่วงเวลาที่สามารถสนุกได้โดยไม่ผิดกฎไม่ผิดเกณฑ์การอยู่ร่วมกันในสังคม ก็ใช่ที่ว่าแต่ละวัน เราหาเรื่องสังสรรค์หรือพักผ่อนจากการทำงานก็ย่อมได้ แต่ถ้ามีสักวันที่ได้ทั้งหยุดงาน พักผ่อน และปลดปล่อยด้วยการเล่นสนุกจนถึงขีดสุด คงดีไม่น้อย
เทศกาลปีใหม่ที่เวียนมาเมื่อครบขวบปีนั้นอาจจะนับได้ว่าเป็นอีกเทศกาลที่ถือเป็นวันปลดปล่อย แต่ถ้าจะได้ "เห็นภาพ" มากกว่านั้น คงหนีไม่พ้น "เทศกาลสงกรานต์" ที่ในช่วงเวลานี้ สมัยนี้ แทบจะถือเป็นเทศกาลที่เข้าไปร่วมละเล่นแล้วได้รู้สึกปลดปล่อยให้หายอยาก
ไม่ได้หมายถึงให้ร่ำสุรายาเมากันจนหัวทิ่มหัวตำ หรือออกไปขับรถแล้วเหยียบมิดไมล์เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ แต่ยังมีทางออกอื่นที่วัฒนธรรมเปิดโอกาสให้เราๆ มนุษย์ผู้จับเจ่าได้ปลดปล่อยความเหนื่อยล้าออกไปได้บ้างจากการสาดน้ำเข้าหากัน
ใครบ้างจะปฏิเสธว่า ในอารมณ์คึกคักและสนุกสนาน การสาดน้ำเย็นๆ เข้าหากันเพื่อดับร้อนมันเป็นเรื่องไม่สนุก ยังไม่นับกิจกรรมระหว่างวันที่ล้วนแล้วก็มีชีวิตชีวาทั้งสิ้น
และไม่ได้มีประเทศไทยเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่มีเทศกาลเพื่อความสนุกสนาน แต่ต่างประเทศเองก็เช่นกัน กับความสนุกสนานอันเกิดจากวัฒนธรรม ไม่เพียงสาดน้ำ แต่ยังรวมไปถึงการปาข้าวของใส่กันในลักษณะที่ไม่ถึงกับทำให้เจ็บตัว ได้แต่เพียงกระตุ้นให้รู้สึกสนุกเท่านั้น
กับเทศกาลเหล่านี้ที่แม้บางที่จะอยู่ไกลกันคนละซีกโลก แต่อ่านแล้วก็เกิดอยากจะชีพจรลงเท้า เข้าไปร่วมละเล่นด้วยเสียอีกราย