นับตั้งแต่วันที่ฉันรักเธอ [ตอนที่ 6]

กระทู้สนทนา
6



    “กรี๊ดดดดด! ฮ่าๆๆๆ >[]< ฮ่าๆๆ ฮะๆๆ >O< โอ๊ย ฮ่าๆๆ ยะ...ฮะๆ หยุดได้แล้วพี่บริงค์! ฮ่าๆๆ >[]< โอ๊ย ฮะๆๆๆ” จู่ๆ พี่แกก็เล่นมาจี้เอว จี้คอ จี้ตรงนั้นตรงนี้ทั่วไปหมด จนฉันชักดิ้นชักงอ หัวเราะอย่างบ้าระห่ำ พอจะปัดมือเขาทิ้ง พี่แกก็เลยล็อกมือฉันทั้งสองข้างไว้ซะเลย! ฮ่าๆๆๆ ไม่มีมือใช้บาทาก็ได้วะ นี่แน่ะๆๆ ฉันเตะฉันยันพี่แกจ้าละหวั่น โดนบ้างไม่โดนบ้าง

    “ฮะๆๆ ฮ่าๆๆ >[]< ยอม...ยอมแล้ว ฮะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ พอ ฮะๆๆ พอแล้ว ฮะๆๆ ว้าก! ฮ่ะๆๆๆ >0<” ยิ่งพี่แกมาเกาคอฉันยิ่งหัวเราะจนปวดท้องปวดกราม ฮ่าๆๆ หยุดซะทีเถอะ! ฮ่าๆๆ ฮ้าๆๆ >O<  เฮ้อ ตูจะบ้าตาย!!! \T0T/ ฮ่าๆๆๆ

    “แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก หยุด...หยุดก็ได้ หมูป่ารึไงเนี่ย? =0= แรงเยอะชะมัด” ยังมีหน้ามาพูดอีก!

    “แฮ่กๆๆ ไอ้...ไอ้คนใจร้าย! แฮ่กๆๆๆ ฝาก...ฝากไว้ก่อนเถอะ แฮ่กๆ เหนื่อย แฮ่ก เหนื่อยโว้ย!”

    แอ่ก = =lll

    “นิกิม!” ฉันหงายท้องตึงไปทันที ทั้งเหนื่อยทั้งแค้น หายใจหอบถี่เรียกอากาศเข้าปอดอย่างยากลำบาก ฉันไม่ชอบให้ใครมาเล่นแบบนี้เลยจริงๆ เพราะมันจะทำให้ฉันละเมอน่ะสิ!

    จ๊อกกกก~ =///=

    “ฮึ?”

    “อึ๋ย~ >///<” อ๊ายยยย อายจัง! ท้องมันร้องซะดังเลยง่ะ T^T

    “พรืด! ฮ่าๆๆ >[]<” พี่บริงค์ขำพรืดก่อนจะปล่อยก๊ากออกมาเต็มที่ มองฉันยิ้มๆ ฉันเองก็กุมพุงไว้แล้วลูบไปลูบมา ทำไงได้อ่ะ ไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เย็นแล้ว T_T

    “หิวเหรอ?”

    “อือ T_T แม่ให้งดข้าวเย็นตอนวันพระ”

    “งั้นแสดงว่าเมื่อเย็นก็ไม่ได้กินอะไรมาเลยน่ะสิ?” เขาเลิกคิ้ว ฉันพยักหน้าอ๋อยๆ โอย หิวชะมัดเลย

    “นี่ก็ห้าทุ่มกว่าแล้ว อีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงคืน ^^” อยู่ๆ พี่บริงค์ก็พูดขึ้น

    “แล้วไง = =?” จ๊อกกกกๆๆ

    “เอ้า ก็ขึ้นวันใหม่ไปแล้วไง ทีนี้ก็กินได้ ^^”

    “เออเนอะ!” ฉันโพล่งออกไปด้วยเพิ่งคิดได้ เพราะตลอดเวลาสิบหกปีที่ผ่านมา ฉันทนหิวจนกระทั่งถึงมื้อเช้า พอเห็นข้าวกะเพราก็ถึงได้ซัดโซ้ยเต็มเหนี่ยว ใช่ๆๆ ลืมคิดไปได้ไงนะ ว่าพอผ่านเที่ยงคืนไปแล้ว ก็คือการขึ้นวันใหม่ โอ๊ย! โง่จริงๆ เลยฉัน >_< ฮ่าๆๆ แต่ไม่เป็นไร วันนี้ฉันฉลาดแล้ว ^_^
    จ๊อกๆๆ

    “แต่เราหิวแล้วอ่ะ ปวดท้องด้วย T^T” ฉันยันกายให้ลุกขึ้นอีกครั้ง นั่งพิงหัวเตียงอย่างทรมาน ไม่ชินซะที มันน่าจะชินได้แล้วนะ เพราะทนหิวอย่างนี้มาเป็นปีแล้ว

    “เออน่า อีกแป๊บเดียว ทนไว้ๆ ^^” ฉันเบ้ปาก พี่แกถึงได้หัวเราะแล้วยื่นมือมาขยี้ผมเล่นอีก ฮึกๆ ไม่เขินแล้ว หิว!

    รอ...

    “อีกกี่นาทีอ่ะพี่บริงค์?”

    “สิบห้า”

    รอ...

    “อีกกี่นาทีอ่ะ?”

    “เจ็ด”

    รอ...

    “อีกกี่นาทีเนี่ย!”

    “เป็นอะไร โมโหหิวเรอะ” พี่แกพูดกลั้วหัวเราะ แล้วหันไปดูนาฬิกา

    “งั้นเดี๋ยวพี่ลงไปเลยแล้วกัน เพราะอีกไม่ถึงห้านาทีก็จะเที่ยงคืนแล้วล่ะ จะกินอะไรอ่ะ มาม่าพอจะกระเทือนท้องมั่งมั้ย?” กลั้วหัวเราะอีกแล้วนะ!

    “เอามาเหอะอะไรก็ได้ มาม่าก็ได้ ตอนนี้หิว รู้อย่างเดียวว่าหิว!” ฉันเริ่มฟาดงวงฟาดงา พี่แกลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ยื่นมือไปเปิดไฟห้องแล้วเดินไปที่ประตูก่อนจะหันกลับมาอีกครั้ง

    “กินจุมั้ยเนี่ยหมูป่า?”

    “สองซองไม่ต้องพูดมากเงียบปากไปเลย = =”

    “ฮ่าๆๆ”

    ปัง

    พี่บริงค์ออกไปแล้ว เหลือแต่ฉันที่นั่งพิงหัวเตียงอย่างทรมาน หิวง่ะ T^T

    ผ่านไปสิบนาที...

    แกร๊ก แอ๊ดดดดด

    “ฮึ? ฟุดฟิดๆ U..U” ฉันหลับตายื่นหน้าสาวกลิ่นอย่างโหยหา กลิ่นมาม่ารสโปรดที่ฉันไม่ได้กินมานานมากแล้ว เพราะพวกแม่ค้าพ่อค้าที่ขายของพวกนี้บอกว่าเขาเลิกทำมาม่ารสนี้ไปแล้ว พอฉันได้กลิ่นนี้...ถึงได้โหยหากระเพาะร้องแทบระเบิด

    “มาแล้วครับมาม่าฝีมือกุ๊กบริงค์ ^^” ฉันลืมตา พอเห็นพี่บริงค์เข้ามาพร้อมชามกลมๆ ในนั้นมีมาม่าอยู่เต็มชามก็ร้องว้าวว น่ากินๆๆ >_<

    “อ่ะ มานั่งกินตรงนี้สิ” เขาพยักหน้าเรียกให้ไปนั่งตรงโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆ ฉันก็ถลาไปหาอย่างว่าง่าย กระแทกก้นนั่งตึงกับพื้น จ้องมองมาม่าน่ากินตรงหน้าอย่างหิวโหย ฮ้า~ >O<

    ฉันคว้าตะเกียบขึ้นคีบเส้นแล้วเอาเข้าใส่ปาก

    “ระวัง มันร้อน!”

    “แค่กๆๆ >_< ไม่บอกซะชาติหน้าเลยล่ะ” ฉันคว้าน้ำขึ้นดื่มอึกๆ โอย ลิ้นพองแน่เลย แต่ก็ไม่เข็ด...พอหายร้อนแล้วฉันก็จัดการกับมันต่อโดยไม่ลืมเป่าปู้ดๆ ก่อนอ้ำ ^^ ซู้ดดดด >3< อาหย่อย!

    พี่บริงค์นั่งเท้าคางมองฉันกินพลางยิ้มแก้มปริจนเห็นเขี้ยวเล็กๆ ถึงตอนนี้ฉันถึงได้รู้สึกตัวว่ากินมูมมามไปแล้ว -///- เอ่อ...แล้วก็แสดงอาการมากไปหน่อยด้วย คือมันอร่อยจริงๆ นะ พี่บริงค์ใส่เครื่องเพิ่มตั้งหลายอย่างแน่ะ ไม่ว่าจะหมูสับ ถั่วงอก ผักกาดขาว และนี่คงใส่น้ำตาลลงไปอีกหน่อยด้วยสิท่า แหม...รู้ใจฉันจัง อิอิ

    “อิ๊มอะไออั๊กอ๋า (ยิ้มอะไรนักหนา)” ว่าแล้วยังไม่เลิกยิ้มอีก = =

    “อร่อยมากขนาดนั้นเลยเหรอ?” นอกจากจะตอบไม่ตรงประเด็นแล้วพี่แกยังย้อนถามแถมกลั้วหัวเราะอีก ฉันค้าง เคี้ยวมาม่าในปากหงับๆ ก่อนจะชำเลืองมองเขาทางหางตา

    “ไอ้เอยอักอิ๊ด! (ไม่เลยสักนิด!)”

    “ว้า เสียใจจัง T^T” พี่บริงค์ทำหน้าละห้อย น่าสงสารอ่ะ แหวะ!

    “รู้มั้ย ว่านี่เป็นมาม่าชามแรกเลยนะ ที่พี่ทำให้คนอื่นกินนอกจากตัวเองน่ะ” พี่บริงค์ที่หันหน้าไปทางอื่น นั่งเหยียดขาตรง ไม่ยอมหันมาทางฉันอีก เลยทำให้เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังชะงัก และหน้าแดงมากๆ ด้วย o///o ชามแรก?

    “แต่ช่างมันเถอะ คิดอยู่แล้วล่ะว่าจะต้องไม่ถูกปาก” เสียงอ่อนพูดเหมือนน้อยใจสุดๆ ฉันรีบแก้ต่างให้เมื่อกี้ทันที แต่...เคี้ยวก่อนๆ >_< เอื๊อก กลืน

    “ไม่จริงนะ มันอร่อยมากๆ เลยล่ะ! นิกิมชอบมาม่ารสนี้มาก ชอบกินมาตั้งแต่เด็กแล้ว และนี่ก็เป็นมาม่าชามแรกและชามเดียวในโลกที่นิกิมคิดว่าอร่อยที่สุดด้วย!” ฉันร่ายยาวเป็นพรืดเพราะกลัวเขาจะไม่เชื่อ แต่ผลที่ได้กลับมาคือเขาขำพรืด มองฉันแล้วยิ้มกว้าง อา...น่ารักจัง *0* หน้าแดงนิดๆ ด้วย

    “หึๆ เชื่อแล้วจ้า” พี่แกทำหน้าแซว ทำเอาฉันถึงกับอายหน้าแดง ไม่น่าชมขนาดนั้นยัยนิกิม >///< แค่บอกว่าอร่อยก็น่าจะพอแล่ว โอ๊ย!

    ฉันก้มลงกินต่อให้หมดแล้วซดน้ำจนเกลี้ยงก่อนจะกระแทกชามดังตึง!

    “เอาไปเก็บซะบ๋อย เดี๊ยนอิ่มแล้ว” ฉันบอกเชิดๆ

    “โหย ยัยคุณนายหมูป่า อิ่มแล้วไม่คิดขอบคุณซักคำอ่ะ” ฉันสะบัดหน้าพรืด เหลือบตามองเขาอย่างเอาเรื่อง

    “เราไม่ได้อ้วนซะหน่อย!”

    “อย่าลืมสิ ‘นิกิม’ ไม่ได้อ้วนซะหน่อย ^^” พี่บริงค์เน้นชื่อฉันหนักๆ แล้วประโยคหลังก็ดัดเสียงแหลมเลียนแบบฉันตอนโมโห

    “ก็อยากทำให้โกรธทำไมล่ะ! - -*”

    “อ่ะๆๆ ผมขอโทษคร้าบบบบ” พี่บริงค์แกล้งไหว้ ฉันลอบยิ้มก่อนจะเชิดหน้ารับไหว้ซะงั้น

    “ไหว้พระเถอะ”

    “โหๆๆ นี่แน่ะ ยัยคุณนายหมู”

    “ง่า~ >O<” ขยี้ผมเล่นอีกแล้วนะ ฉันแกะมือเขาให้หลุดออกจากหัวก่อนจะดันให้เก็บๆ มือไปซะ เล่นอยู่ได้ ผมยิ่งเรียบยากอยู่ด้วย = =lll

    “ฮะๆ เดี๋ยวค่อยเก็บละกัน อิ่มแล้วก็ไปนอนไปนิกิม”

    “ไล่อีกแล้วนะ - -*”

    “เปล่าๆ ไม่ได้ไล่ >_< แค่ไม่อยากให้เรานอนดึกมากก็เท่านั้นเอง”

    “นอนไม่หลับ = =”

    “อ้าว ทำไมอ่ะ?”

    “อยากหนุนตักพี่บริงค์อีก” กล้าพูดเนอะแกยัยนิกิม =///=
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่