วันนี้ เนื่องในวันสงกรานต์และวันครอบครัว และ tablet ผมเสียกำลังซ่อมอยู่ จะสนทนากันถึงบ่าย 2 1/2 เท่านั้นนะครับ
0. วันนี้ยากจะบอกว่า LVG เป็น Man หรือ Worst of the Match เมื่อครึ่งหลังเปิดมา เขาก็สั่งให้นักเตะลงมาอยู่ในแดนตัวเอง 10 คน แต่กลับทำให้หมากอุด … เอ๊ย รับแล้วโต้กลับทำงานได้เป็นอย่างดี
Worst of the Match ที่เป็นนักเตะ ได้แก่ แผงหลังในครึ่งแรก ถ้าไม่ได้เดเกอาคงโดนไปหลายประตูกว่านี้และอาจถึงแพ้ก็ได้ เมื่อเสียลูกแรกไม่มีใครประกบกุนไว้เลย ทั้งที่ซิตี้ใช้กองหน้าเพียงตัวเดียว และมีลูกจ่ายคืนหลังกับให้ซิตี้หลุดไปหลายครั้ง
Man of the Match เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อ.ยัง ที่ยิง 1 assist 2 และมีส่วนร่วมสำคัญในการทำเกมรุกที่ดีเยี่ยมทางด้านซ้ายของทีม
1. LVG ใช้นักเตะเดิม 10 คน ตามหลักการ ‘don’t change the winning team’ เมื่อเปลี่ยนเพียงสมอลลิ่งที่ฟิตแทนโรโฮที่ฟอร์มนัดก่อนไม่ดีนัก ระบบก็เป็นระบบเดิม 4-2-3-1 (หรือบ้างก็ว่าเป็น 4-1-4-1) โดยมีเดเกอาเป็นประตู บลินด์เป็นแบ็คซ้าย วาเลนเซียเป็นแบ็คขวา เซ็นเตอร์เป็นโจนส์กับสมอลลิ่ง กลางมีคาริกและเออร์ไรร่ายืนคู่ ยังเป็นฮาล์ฟซ้าย เฟไลนี่เป็นกลางรุก มาต้าเป็นฮาล์ฟขวา มีรูนีย์เป็นหน้าเป้า
2. เริ่มเกมเป็นซิตี้ทำได้ดีกว่า เมื่อทำเกมรุกทางกราบซ้าย จนนาทีที่ 8 สามารถทะลุไปจ่ายให้กุนยิงให้ซิตี้นำไปก่อนเข้าไปโล่งๆ
3. นาทีที่ 14 จากการจ่ายยาวของเดเกอาไปทางซ้าย ฟูเบียดซาบาเล็ตต้าล้มให้เออร์ไรร่า cross ลูกเข้ากลางให้ยังชาร์จติดบล็อค แต่ก็หมุนไปเจอลูกยิงเข้าเป็นประตูตีเสมอ
4. หลังตีเสมอได้ ซิตี้ก็เริ่มเล่นได้ย่ำแย่ลง นาทีที่ 28 ยังทำชิ่งริมเส้นกับบลินท์ สุดท้ายยัง cross บอลไปเสา 2 ให้เฟไลนี่ที่ขึ้นโหม่งสูงกว่ากลิชชี่ทำประตูนำ 2-1
5. ครึ่งหลังเริ่ม เป็นซิตี้เปลี่ยนกอมปานี่ที่โดนเหลืองออก แต่การเอาม๊องโกล่าลงแทนเหมือนเป็นการเพิ่มบ่อให้กองหลังของซิตี้เอง ส่วนแมนฯยูลงไปตั้งรับรอสวนกลับลึกในแดนตัวเอง
6. นาที 67 แมนฯยูแย่งบอลแดนกลางได้ บลิ้นท์จ่ายให้รูนีย์กลางหน้ากรอบเขตโทษซิตี้ และจ่ายให้มาต้าที่ล้ำหน้าเล็กน้อยหลุดไปและรอจังหวะยิงสวนตัวฮาร์ทเข้าไป 3-1
7. นาทีที่ 75 ยังเปิด free kick เข้าไปให้สมอลลิ่งโหม่งกดพื้นทำประตูนำห่าง 4-1
8. นาทีที่ 88 แมนฯยูที่เหลือ 10 ตัวเนื่องจากเปลี่ยนโรโฮ, ดิมาเรีย, ฟัลเกาแทนโจนส์, มาต้าและเฟไลนี่ตามลำดับ และคาริกได้รับบาดเจ็บเดินออกมาจากสนาม ทำให้แลมพ์จ่ายให้ซาบาเล็ตต้าบุกด้านขวา (ด้านที่แมนฯยูบุกจนเพลินไปด้วย) ตบเรียดให้กุนยิงว่างๆ เข้าไป (ไม่มีคนประกบตามเคย)
9. สรุปว่า 40 วันอันตรายผ่านไปแล้วกว่าครึ่ง เหลือแมทช์กับเชลซีและเอฟเวอร์ตันเท่านั้น เป็นการผ่านช่วงเวลาที่ยุ่งยากที่สุดของซีซั่นไปได้อย่างดีกว่าที่คิดไว้ หวังแต่ว่า LVG จะไม่เปลี่ยนเป้าหมายอันดับใน EPL อีก หลังจากที่เปลี่ยนมาเรื่อยๆ สัปดาห์ละครั้ง
[กระทู้สนทนาผีแดง 2015-04-13] มาสนทนาหลังแมทช์แมนฯยูไนเต็ด 4-2 แมนฯ ซิตี้ กัน
0. วันนี้ยากจะบอกว่า LVG เป็น Man หรือ Worst of the Match เมื่อครึ่งหลังเปิดมา เขาก็สั่งให้นักเตะลงมาอยู่ในแดนตัวเอง 10 คน แต่กลับทำให้หมากอุด … เอ๊ย รับแล้วโต้กลับทำงานได้เป็นอย่างดี
Worst of the Match ที่เป็นนักเตะ ได้แก่ แผงหลังในครึ่งแรก ถ้าไม่ได้เดเกอาคงโดนไปหลายประตูกว่านี้และอาจถึงแพ้ก็ได้ เมื่อเสียลูกแรกไม่มีใครประกบกุนไว้เลย ทั้งที่ซิตี้ใช้กองหน้าเพียงตัวเดียว และมีลูกจ่ายคืนหลังกับให้ซิตี้หลุดไปหลายครั้ง
Man of the Match เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อ.ยัง ที่ยิง 1 assist 2 และมีส่วนร่วมสำคัญในการทำเกมรุกที่ดีเยี่ยมทางด้านซ้ายของทีม
1. LVG ใช้นักเตะเดิม 10 คน ตามหลักการ ‘don’t change the winning team’ เมื่อเปลี่ยนเพียงสมอลลิ่งที่ฟิตแทนโรโฮที่ฟอร์มนัดก่อนไม่ดีนัก ระบบก็เป็นระบบเดิม 4-2-3-1 (หรือบ้างก็ว่าเป็น 4-1-4-1) โดยมีเดเกอาเป็นประตู บลินด์เป็นแบ็คซ้าย วาเลนเซียเป็นแบ็คขวา เซ็นเตอร์เป็นโจนส์กับสมอลลิ่ง กลางมีคาริกและเออร์ไรร่ายืนคู่ ยังเป็นฮาล์ฟซ้าย เฟไลนี่เป็นกลางรุก มาต้าเป็นฮาล์ฟขวา มีรูนีย์เป็นหน้าเป้า
2. เริ่มเกมเป็นซิตี้ทำได้ดีกว่า เมื่อทำเกมรุกทางกราบซ้าย จนนาทีที่ 8 สามารถทะลุไปจ่ายให้กุนยิงให้ซิตี้นำไปก่อนเข้าไปโล่งๆ
3. นาทีที่ 14 จากการจ่ายยาวของเดเกอาไปทางซ้าย ฟูเบียดซาบาเล็ตต้าล้มให้เออร์ไรร่า cross ลูกเข้ากลางให้ยังชาร์จติดบล็อค แต่ก็หมุนไปเจอลูกยิงเข้าเป็นประตูตีเสมอ
4. หลังตีเสมอได้ ซิตี้ก็เริ่มเล่นได้ย่ำแย่ลง นาทีที่ 28 ยังทำชิ่งริมเส้นกับบลินท์ สุดท้ายยัง cross บอลไปเสา 2 ให้เฟไลนี่ที่ขึ้นโหม่งสูงกว่ากลิชชี่ทำประตูนำ 2-1
5. ครึ่งหลังเริ่ม เป็นซิตี้เปลี่ยนกอมปานี่ที่โดนเหลืองออก แต่การเอาม๊องโกล่าลงแทนเหมือนเป็นการเพิ่มบ่อให้กองหลังของซิตี้เอง ส่วนแมนฯยูลงไปตั้งรับรอสวนกลับลึกในแดนตัวเอง
6. นาที 67 แมนฯยูแย่งบอลแดนกลางได้ บลิ้นท์จ่ายให้รูนีย์กลางหน้ากรอบเขตโทษซิตี้ และจ่ายให้มาต้าที่ล้ำหน้าเล็กน้อยหลุดไปและรอจังหวะยิงสวนตัวฮาร์ทเข้าไป 3-1
7. นาทีที่ 75 ยังเปิด free kick เข้าไปให้สมอลลิ่งโหม่งกดพื้นทำประตูนำห่าง 4-1
8. นาทีที่ 88 แมนฯยูที่เหลือ 10 ตัวเนื่องจากเปลี่ยนโรโฮ, ดิมาเรีย, ฟัลเกาแทนโจนส์, มาต้าและเฟไลนี่ตามลำดับ และคาริกได้รับบาดเจ็บเดินออกมาจากสนาม ทำให้แลมพ์จ่ายให้ซาบาเล็ตต้าบุกด้านขวา (ด้านที่แมนฯยูบุกจนเพลินไปด้วย) ตบเรียดให้กุนยิงว่างๆ เข้าไป (ไม่มีคนประกบตามเคย)
9. สรุปว่า 40 วันอันตรายผ่านไปแล้วกว่าครึ่ง เหลือแมทช์กับเชลซีและเอฟเวอร์ตันเท่านั้น เป็นการผ่านช่วงเวลาที่ยุ่งยากที่สุดของซีซั่นไปได้อย่างดีกว่าที่คิดไว้ หวังแต่ว่า LVG จะไม่เปลี่ยนเป้าหมายอันดับใน EPL อีก หลังจากที่เปลี่ยนมาเรื่อยๆ สัปดาห์ละครั้ง