วันนี้ผมมีธุระตอน 15.15 น. โดยหลังจากนั้นผมจะคอยอ่านผ่าน tablet และแสดงความรู้สึก/ตอบกลับเป็นระยะๆ ครับ
0. โดยรวม ผ่าน 15 นาทีแรก ซันเดอร์แลนด์หันไปแพ็คหลังแน่น จนแมนฯยูเจาะไม่เข้า ครึ่งหลัง LVG เปลี่ยนยานาไซจ์แทนดิมาเรีย ทำความปั่นป่วนให้กองหลังซันเดอร์แลนด์มาก จนฟัลเกาถูกทำฟาลว์ในกรอบเขตโทษ รูนีย์สังหารไม่พลาด และยังซ้ำลูกยิงของยานาไซจ์เป็นประตูปิดกล่อง 2-0
นัดนี้ LVG จัดตำแหน่ง และ ตัว ได้ถูกใจแฟนบอล (แต่ไม่รู้จะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ เพราะเฮียแกให้สัมภาษณ์ว่า จะเปลี่ยนได้ตามคู่แข่ง) ระบบ 4-4-2 (บ้างก็ว่า 4-4-1-1) อีกครั้ง และแก้เกมได้เร็วมาก ให้ยานาไซจ์ลงมาแทนดิมาเรียในเริ่มครึ่งหลัง (แต่ที่พอจะทำประตูไม่ได้ ก็จะเปลี่ยนเฟไลนี่มาเล่นแผน 2 ให้ปีก 2 ข้าง cross บอล ต้องบอกว่า น่าอนาถครับ แต่การที่ยอมเปลี่ยนดิมาเรียโดยไม่คำนึงถึงค่าตัวนี่ก็ต้องขม
แมทช์นี้ ผมให้ ดิมาเรียเป็น Worst of the Match แม้ว่าเขาจะถูกนำไปเล่นในตำแหน่งปีกขวาที่ไม่ถนัด แต่ก็ทำอะไรซันเดอร์แลนด์แทบไม่ได้เลย
ส่วน Man of the Match มี 2 คน 1 คือ ยานาไซจ์ที่ทำความปั่นป่วนให้แผงหลังซันเดอร์แลนด์ทางขวาได้มาก จ่ายและยิงได้ดีจนรูนีย์ซ้ำลูกยิงของเขาเข้าไปได้ แถมช่วงต่อเวลายังกึ่งยิงกึ่งผ่านให้เออร์ไรร่ายิงเข้าประตูไปแต่ผู้ตัดสินบอกว่าเป็นลูกล้ำหน้า
อีกคนคือรูนีย์ ที่มีส่วนร่วมในเกมรุกได้มาก ลูกโทษของเขา สามารถเรียกได้ว่า ‘เยอรมันสไตล์’ ที่เข้าประตูเฉียดเสาเข้าไป ชนิดที่ต่อให้โกลซันเดอร์แลนด์ไปถูกทางก็ปัดไม่ถูก และยังซ้ำลูกยิงของยานาไซจ์เข้าไป
1. ครึ่งแรก LVG ใช้ระบบ 4-4-2 เดเกอาเป็นประตู ซ้ายเป็นโรโฮ ขวาเป็นวาเลนเซีย เซ็นเตอร์เป็นสมอลลิ่งและอีแวนส์ กลางรับให้เออร์ไรร่าจับคู่กับบลิ้นท์ ฮาล์ฟซ้ายเป็นยัง (แต่ออกกราบอยู่บ่อยๆ) และฮาล์ฟขวาเป็นดิมาเรีย โดยมีรูนีย์เป็นหน้าต่ำ และฟัลเกาเป็นศูนย์หน้า
2. อย่างที่กล่าวไป ครึ่งแรก ซันเดอร์แลนด์หลังผ่าน 15 นาทีก็ลงไปตั้งรับ มีจังหวะยิงเพียง 2-3 ครั้ง ส่วนแมนฯยูพอเจอรถบัส 2 ชั้นก็ทำเกมแทบไม่ได้ แม้ได้ฟรีคิกส์ 2 ครั้ง ดิมเรียกับรูนีย์ก็ผลัดกันเบิร์ด ลุกเตะมุมก็ทำอะไรไม่ได้ (การเตะมุมซีซั่นนี้ของปีศาจแดงแทบจะไม่ประสบผลสำเร็จเลย LVG น่าจะซ้อมลูกเตะมุมให้บ่อยขึ้นนะ)
3. อีแวนส์แมทช์นี้ไม่มีช็อคเหวอ ยกเว้นที่จ่ายบอลกลับให้เดเกอา 2 ครั้ง ที่โดนแฟนบอลใน OTF โห่ จนไม่กล้าทำอีก
4. ครึ่งหลัง LVG ส่งยานาไซจ์ที่เขาซุบซิบบอกแท็คติกตั้งแต่จบครึ่งแรกลงแทนดิมาเรียที่โชว์ฟอร์มไม่ออก ซึ่งก็ได้ผลเมื่อยานาไซจ์สร้างความปั่นป่วนให้ซันเดอร์แลนด์โดยเฉพาะทางกราบซ้ายได้มาก
5. จุดเปลี่ยนแท้จริงอยู่ที่นาที 65 ที่เออร์ไรร่าจ่ายให้ฟัลเกาพลิกในกรอบเขตโทษ โดนโอเชียเหนี่ยวเอาไว้ (แต่คนโดนไล่ออกกลับเป็นบราวน์ กรรมการคงเห็นว่าเป็นเด็กผีเก่าเหมือนกันมั้ง) รูนีย์สังหารเข้ามุมประตูด้านซ้าย ในแบบ ‘เยอรมันสไตล์’ ที่ต่อให้ประตูไปถูกทางก็ปัดไม่ทัน และซันเดอร์แลนด์เหลือเพียง 10 คน
6. นาทีที่ 85 ยานาไซจ์ยิงจากมุมซ้ายโดนเซฟเข้าทางรูนีย์แปเน้นๆ เข้าประตูไป
7. จากนั้น ก็เป็นประตูล้ำหน้าของเออร์ร่าที่ได้ยิงจากลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านของยานาไซจ์
8. สรุปว่า ถึงแมทช์นี้จะวัดอะไรไม่ได้ เมื่อเจอกับซันเดอร์แลนด์ที่อยู่ในโซนหนีตกชั้น แต่ก็เป็นพัฒนาการที่ดีของระบบและการจัดตัวผู้เล่นของ LVG ได้แต่หวังว่า จะทำได้ดีอย่างนี้ตลอด จนทีมมีทีมเวิร์ค ซึ่งจะทำให้ลุ้นพื้นที่ไป UCL เมื่อจบฤดูกาลได้ไม่ยาก
[กระทู้สนทนาผีแดง 2015-03-01] มาสนทนาหลังแมทช์แมนฯยู 2-0 ซันเดอร์แลนด์กัน
0. โดยรวม ผ่าน 15 นาทีแรก ซันเดอร์แลนด์หันไปแพ็คหลังแน่น จนแมนฯยูเจาะไม่เข้า ครึ่งหลัง LVG เปลี่ยนยานาไซจ์แทนดิมาเรีย ทำความปั่นป่วนให้กองหลังซันเดอร์แลนด์มาก จนฟัลเกาถูกทำฟาลว์ในกรอบเขตโทษ รูนีย์สังหารไม่พลาด และยังซ้ำลูกยิงของยานาไซจ์เป็นประตูปิดกล่อง 2-0
นัดนี้ LVG จัดตำแหน่ง และ ตัว ได้ถูกใจแฟนบอล (แต่ไม่รู้จะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ เพราะเฮียแกให้สัมภาษณ์ว่า จะเปลี่ยนได้ตามคู่แข่ง) ระบบ 4-4-2 (บ้างก็ว่า 4-4-1-1) อีกครั้ง และแก้เกมได้เร็วมาก ให้ยานาไซจ์ลงมาแทนดิมาเรียในเริ่มครึ่งหลัง (แต่ที่พอจะทำประตูไม่ได้ ก็จะเปลี่ยนเฟไลนี่มาเล่นแผน 2 ให้ปีก 2 ข้าง cross บอล ต้องบอกว่า น่าอนาถครับ แต่การที่ยอมเปลี่ยนดิมาเรียโดยไม่คำนึงถึงค่าตัวนี่ก็ต้องขม
แมทช์นี้ ผมให้ ดิมาเรียเป็น Worst of the Match แม้ว่าเขาจะถูกนำไปเล่นในตำแหน่งปีกขวาที่ไม่ถนัด แต่ก็ทำอะไรซันเดอร์แลนด์แทบไม่ได้เลย
ส่วน Man of the Match มี 2 คน 1 คือ ยานาไซจ์ที่ทำความปั่นป่วนให้แผงหลังซันเดอร์แลนด์ทางขวาได้มาก จ่ายและยิงได้ดีจนรูนีย์ซ้ำลูกยิงของเขาเข้าไปได้ แถมช่วงต่อเวลายังกึ่งยิงกึ่งผ่านให้เออร์ไรร่ายิงเข้าประตูไปแต่ผู้ตัดสินบอกว่าเป็นลูกล้ำหน้า
อีกคนคือรูนีย์ ที่มีส่วนร่วมในเกมรุกได้มาก ลูกโทษของเขา สามารถเรียกได้ว่า ‘เยอรมันสไตล์’ ที่เข้าประตูเฉียดเสาเข้าไป ชนิดที่ต่อให้โกลซันเดอร์แลนด์ไปถูกทางก็ปัดไม่ถูก และยังซ้ำลูกยิงของยานาไซจ์เข้าไป
1. ครึ่งแรก LVG ใช้ระบบ 4-4-2 เดเกอาเป็นประตู ซ้ายเป็นโรโฮ ขวาเป็นวาเลนเซีย เซ็นเตอร์เป็นสมอลลิ่งและอีแวนส์ กลางรับให้เออร์ไรร่าจับคู่กับบลิ้นท์ ฮาล์ฟซ้ายเป็นยัง (แต่ออกกราบอยู่บ่อยๆ) และฮาล์ฟขวาเป็นดิมาเรีย โดยมีรูนีย์เป็นหน้าต่ำ และฟัลเกาเป็นศูนย์หน้า
2. อย่างที่กล่าวไป ครึ่งแรก ซันเดอร์แลนด์หลังผ่าน 15 นาทีก็ลงไปตั้งรับ มีจังหวะยิงเพียง 2-3 ครั้ง ส่วนแมนฯยูพอเจอรถบัส 2 ชั้นก็ทำเกมแทบไม่ได้ แม้ได้ฟรีคิกส์ 2 ครั้ง ดิมเรียกับรูนีย์ก็ผลัดกันเบิร์ด ลุกเตะมุมก็ทำอะไรไม่ได้ (การเตะมุมซีซั่นนี้ของปีศาจแดงแทบจะไม่ประสบผลสำเร็จเลย LVG น่าจะซ้อมลูกเตะมุมให้บ่อยขึ้นนะ)
3. อีแวนส์แมทช์นี้ไม่มีช็อคเหวอ ยกเว้นที่จ่ายบอลกลับให้เดเกอา 2 ครั้ง ที่โดนแฟนบอลใน OTF โห่ จนไม่กล้าทำอีก
4. ครึ่งหลัง LVG ส่งยานาไซจ์ที่เขาซุบซิบบอกแท็คติกตั้งแต่จบครึ่งแรกลงแทนดิมาเรียที่โชว์ฟอร์มไม่ออก ซึ่งก็ได้ผลเมื่อยานาไซจ์สร้างความปั่นป่วนให้ซันเดอร์แลนด์โดยเฉพาะทางกราบซ้ายได้มาก
5. จุดเปลี่ยนแท้จริงอยู่ที่นาที 65 ที่เออร์ไรร่าจ่ายให้ฟัลเกาพลิกในกรอบเขตโทษ โดนโอเชียเหนี่ยวเอาไว้ (แต่คนโดนไล่ออกกลับเป็นบราวน์ กรรมการคงเห็นว่าเป็นเด็กผีเก่าเหมือนกันมั้ง) รูนีย์สังหารเข้ามุมประตูด้านซ้าย ในแบบ ‘เยอรมันสไตล์’ ที่ต่อให้ประตูไปถูกทางก็ปัดไม่ทัน และซันเดอร์แลนด์เหลือเพียง 10 คน
6. นาทีที่ 85 ยานาไซจ์ยิงจากมุมซ้ายโดนเซฟเข้าทางรูนีย์แปเน้นๆ เข้าประตูไป
7. จากนั้น ก็เป็นประตูล้ำหน้าของเออร์ร่าที่ได้ยิงจากลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านของยานาไซจ์
8. สรุปว่า ถึงแมทช์นี้จะวัดอะไรไม่ได้ เมื่อเจอกับซันเดอร์แลนด์ที่อยู่ในโซนหนีตกชั้น แต่ก็เป็นพัฒนาการที่ดีของระบบและการจัดตัวผู้เล่นของ LVG ได้แต่หวังว่า จะทำได้ดีอย่างนี้ตลอด จนทีมมีทีมเวิร์ค ซึ่งจะทำให้ลุ้นพื้นที่ไป UCL เมื่อจบฤดูกาลได้ไม่ยาก