สวัสดีค่ะ รีวิววันนี้มีที่มาแปลกกว่ารีวิวอื่น เพราะเป็นการช้อปโดยไม่ได้คาดคิดมาก่อน (ซึ่งปกติ ก็ขาดสติอยู่ร่ำไป ตลอดเวลา) น้ำหอมกล่องนี้ได้มาอย่างบังเอิญน่ะค่ะ เดินผ่านเฉยๆ ดูราคา ดมๆๆๆ แล้วก็ซื้อ
ว่ากันคร่าวๆ หลายๆคนน่าจะรู้จักแบรนด์ซาร่า เสื้อผ้า Hi-street ชื่อดัง สัญชาติสเปน ซึ่งเค้าขยายไลน์การผลิตจากเสื้อผ้า มาเป็น Accessories ของประดับตกแต่งบ้าน หลังจากนั้น ก็ขยายธุรกิจมาที่น้ำหอม ในปี 1998 ด้วยความร่วมมือของ Spanish perfume house Puig ,Alberto Morillas, Rosendo Mateu and Carlos Benaim.และวางจำหน่ายกลิ่นแรกในปี 1999 มาจนถึงปัจจุบันค่ะ
ในรีวิวนี้ เราหยิบเอากลิ่นที่เป็น Special Edition ขึ้นมารีวิว เนื่องจากเป็นกลิ่นที่เราชอบ ราคาไม่แรง ใช้ง่าย ซึ่งตอบโจทย์ของน้องๆนักศึกษา ไปจนถึงวัยเริ่มทำงานได้ดีค่ะ
กล่องสวยนะ
แล้วราคาล่ะ
โอ้โห คุณผู้ชม สองขวดนี้ มาในราคา 890 บาท ปริมาณ 100 มิลลิลิตร สองขวดก็ 200 มิลลิลิตร เราว่าคุ้มกว่าน้ำหอมซีซีนะเออ เราซื้อจากสาขาเมกาบางนา ไม่แน่ใจว่าสาขาอื่นมีของมั้ยนะคะ
มาที่สีขาวก่อนดีกว่าค่ะ
Zara Femme EDT
Note : Bergamot, Vanilla, Caramel, Musk and Sandalwood
โน้ตกลิ่นจากเวปซาร่า ประเทศสเปน แจ้งไว้แค่นี้นะคะ
จากที่ลองใช้มา กลิ่นวานิลลากับคาราเมลค่อนข้างเด่นชัด มีมะกรูดเจือน้อยๆพอแก้เลี่ยน และมัสก์กับไม้หอมก็ตามมาปิดกลิ่นให้หวานกลมกล่อมมากขึ้น
บนผิวเรา อยู่ได้ 3-5 ชั่วโมงค่ะ ยิ่งอากาศร้อน กลิ่นจะจางไวมากกว่านั้นอีก อยากให้กลิ่นแน่น ต้องหนักมือ และเติมเรื่อยๆ แต่ต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะกลิ่นนี้สามารถชวนให้มึนหัวได้ สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนคลับขนมหวาน
กลิ่นนี้ได้ทั้งน้องนักศึกษาไปจนถึงวัยทำงาน ใช้กลางวันจะดีกว่ากลางคืน เพราะกลิ่นไม่ได้กระจายมากมาย อาจจะโดนกลิ่นอื่นๆกลบได้ค่ะ
ว่ากันว่า ขวดนี้กลิ่นเหมือน Dior Poison Hypnotic จริงหรือไม่ ไม่แน่ใจนะคะ เรายังไม่มีตัว Dior ที่พูดถึง
หลังเปิดใช้งาน อยู่ได้อีก 36 เดือนนะจ๊ะ
สายขาวผ่านไป มาที่สายดำกันบ้างดีกว่าค่ะ
Zara Black Amber EDT
กลิ่นตามเวป Fragrantica ให้ไว้ก็ตามนี้เลย
Top note is Passion Fruit
Middle notes are tiare flower and Cherry
Base notes are vanila and Amber
ถ้าเทียบทั้งสองขวด เราชอบ Black Amber มากกว่า เราว่าเนื้อกลิ่นดูซับซ้อน แล้วก็หอม ไม่เลี่ยนเหมือนขวดสีขาว (อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะคะ) ครั้งแรกที่ดม เรานึกถึง Dolce and Gabbana The One ซึ่งเป็นตัวโปรดของเราอีกเช่นกัน พอไปอ่านรีวิวของหลายๆคน ก็เห็นไปในทางเดียวกัน เพียงแต่ว่า กลิ่นนี้ จะสดใสกว่าหน่อย และจางไวกว่า เนื่องจากเป็น EDT ค่ะ
กลิ่นนี้เหมาะสำหรับสาววัยทำงานหน่อยนะคะ ถ้าวัยเรียนอาจจะดูไม่ค่อยเหมาะ (แต่ก็แล้วแต่คนชอบอีกนั่นแหละนะคะ) ใส่ได้ทั้งยามกลางวัน และยามหัวค่ำ ดินเนอร์สวยๆเก๋ๆก็ยังได้อยู่ค่ะ อาศัยเติมกลิ่นหน่อยนะคะ
โดยรวมแล้ว น้ำหอมสองขวดนี้ ลักษณะขวด มาในแนว Minimalism ซึ่งน่าจะโดนใจใครหลายๆคนนะคะ พูดง่ายๆ ดูแพงเกินราคา เพราะสองขวดนี้ ไม่ถึงพัน ตกขวดละสี่ร้อยกว่าบาท ราคาไม่ค่อยเป็นภาระกระเป๋าเงินเท่าไหร่นะคะ
สำหรับรีวิวนี้ เราขอลาไปก่อนนะคะ ยังมีอีกหลายตัวที่รอทำรีวิวอีกเพียบเลยค่ะ ขอบคุณที่ติดตามชมนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก fragrantica.com
ขอแทรกทางไปบล็อกหน่อยนะคะ เผื่อเพื่อนๆอยากอ่านรีวิวตัวอื่นๆเพิ่มเติมค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://gift1801.blogspot.com/
[CR] เมื่อ Gift1801 แกะกล่องน้ำหอม Zara Femme & Black Amber Special Edition ใครว่า Zara ขายเสื้อผ้าอย่างเดียว
ว่ากันคร่าวๆ หลายๆคนน่าจะรู้จักแบรนด์ซาร่า เสื้อผ้า Hi-street ชื่อดัง สัญชาติสเปน ซึ่งเค้าขยายไลน์การผลิตจากเสื้อผ้า มาเป็น Accessories ของประดับตกแต่งบ้าน หลังจากนั้น ก็ขยายธุรกิจมาที่น้ำหอม ในปี 1998 ด้วยความร่วมมือของ Spanish perfume house Puig ,Alberto Morillas, Rosendo Mateu and Carlos Benaim.และวางจำหน่ายกลิ่นแรกในปี 1999 มาจนถึงปัจจุบันค่ะ
ในรีวิวนี้ เราหยิบเอากลิ่นที่เป็น Special Edition ขึ้นมารีวิว เนื่องจากเป็นกลิ่นที่เราชอบ ราคาไม่แรง ใช้ง่าย ซึ่งตอบโจทย์ของน้องๆนักศึกษา ไปจนถึงวัยเริ่มทำงานได้ดีค่ะ
กล่องสวยนะ
แล้วราคาล่ะ
โอ้โห คุณผู้ชม สองขวดนี้ มาในราคา 890 บาท ปริมาณ 100 มิลลิลิตร สองขวดก็ 200 มิลลิลิตร เราว่าคุ้มกว่าน้ำหอมซีซีนะเออ เราซื้อจากสาขาเมกาบางนา ไม่แน่ใจว่าสาขาอื่นมีของมั้ยนะคะ
มาที่สีขาวก่อนดีกว่าค่ะ
Zara Femme EDT
Note : Bergamot, Vanilla, Caramel, Musk and Sandalwood
โน้ตกลิ่นจากเวปซาร่า ประเทศสเปน แจ้งไว้แค่นี้นะคะ
จากที่ลองใช้มา กลิ่นวานิลลากับคาราเมลค่อนข้างเด่นชัด มีมะกรูดเจือน้อยๆพอแก้เลี่ยน และมัสก์กับไม้หอมก็ตามมาปิดกลิ่นให้หวานกลมกล่อมมากขึ้น
บนผิวเรา อยู่ได้ 3-5 ชั่วโมงค่ะ ยิ่งอากาศร้อน กลิ่นจะจางไวมากกว่านั้นอีก อยากให้กลิ่นแน่น ต้องหนักมือ และเติมเรื่อยๆ แต่ต้องระวังนิดนึงนะคะ เพราะกลิ่นนี้สามารถชวนให้มึนหัวได้ สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟนคลับขนมหวาน
กลิ่นนี้ได้ทั้งน้องนักศึกษาไปจนถึงวัยทำงาน ใช้กลางวันจะดีกว่ากลางคืน เพราะกลิ่นไม่ได้กระจายมากมาย อาจจะโดนกลิ่นอื่นๆกลบได้ค่ะ
ว่ากันว่า ขวดนี้กลิ่นเหมือน Dior Poison Hypnotic จริงหรือไม่ ไม่แน่ใจนะคะ เรายังไม่มีตัว Dior ที่พูดถึง
หลังเปิดใช้งาน อยู่ได้อีก 36 เดือนนะจ๊ะ
สายขาวผ่านไป มาที่สายดำกันบ้างดีกว่าค่ะ
Zara Black Amber EDT
กลิ่นตามเวป Fragrantica ให้ไว้ก็ตามนี้เลย
Top note is Passion Fruit
Middle notes are tiare flower and Cherry
Base notes are vanila and Amber
ถ้าเทียบทั้งสองขวด เราชอบ Black Amber มากกว่า เราว่าเนื้อกลิ่นดูซับซ้อน แล้วก็หอม ไม่เลี่ยนเหมือนขวดสีขาว (อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะคะ) ครั้งแรกที่ดม เรานึกถึง Dolce and Gabbana The One ซึ่งเป็นตัวโปรดของเราอีกเช่นกัน พอไปอ่านรีวิวของหลายๆคน ก็เห็นไปในทางเดียวกัน เพียงแต่ว่า กลิ่นนี้ จะสดใสกว่าหน่อย และจางไวกว่า เนื่องจากเป็น EDT ค่ะ
กลิ่นนี้เหมาะสำหรับสาววัยทำงานหน่อยนะคะ ถ้าวัยเรียนอาจจะดูไม่ค่อยเหมาะ (แต่ก็แล้วแต่คนชอบอีกนั่นแหละนะคะ) ใส่ได้ทั้งยามกลางวัน และยามหัวค่ำ ดินเนอร์สวยๆเก๋ๆก็ยังได้อยู่ค่ะ อาศัยเติมกลิ่นหน่อยนะคะ
โดยรวมแล้ว น้ำหอมสองขวดนี้ ลักษณะขวด มาในแนว Minimalism ซึ่งน่าจะโดนใจใครหลายๆคนนะคะ พูดง่ายๆ ดูแพงเกินราคา เพราะสองขวดนี้ ไม่ถึงพัน ตกขวดละสี่ร้อยกว่าบาท ราคาไม่ค่อยเป็นภาระกระเป๋าเงินเท่าไหร่นะคะ
สำหรับรีวิวนี้ เราขอลาไปก่อนนะคะ ยังมีอีกหลายตัวที่รอทำรีวิวอีกเพียบเลยค่ะ ขอบคุณที่ติดตามชมนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก fragrantica.com
ขอแทรกทางไปบล็อกหน่อยนะคะ เผื่อเพื่อนๆอยากอ่านรีวิวตัวอื่นๆเพิ่มเติมค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้