สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ผมเปิดร้านขายยามาตั้งแต่ 2004 ลูกค้าผมเป็นคนต่างจังหวัดและมีอาชีพเกษตรกรรม โดยเฉพาะชาวนาและชาวสวน ตลอดเวลาตั้งแต่ ปี 2004 - 2014 ต้นปี ผมขายยาดีมาตลอดอาจเนื่องจากผมเป็นเภสัชกรเปิดร้านเองและอยู่เต็มเวลาที่ขาย และเป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนครบ 10 ปี
ปี 2014 เดือนมีนา มีสัญญาณที่ไม่ดีเกิดขึ้น ยอดการขายของผมลดลงอย่างหน้าใจหาย ประมาณ 30% ทั้งทีไม่เคยเป็นมาก่อน และไม่ได้มีคู่แข่งเกิดขึ้นในท้องที่ที่ผมอยู่ และยอดขายผมก็ลดลงเรื่อยจนถึงปลายปี 2014 ตัวเลขผมหายไปเกือบ 40 %
ปี 2015 ตั้งแต่เดือน มกรา - มีนาคม ตัวเลขของรายรับผมก็ยังลดลงเรื่อยๆจนไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดมันอยู่ที่ไหน ทั้งที่ ยาเป็นปัจจัยสี่ที่สำคัญต่อการรักษาโรค และการขายยาของผมก็ไม่เคยแพงด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น
1. ยาแก้อักเสบ Amoxcillin 500 mg. ชนิดแผง ขายราคาแผงละ 30 บาท
2. ยาแก้ปวด Diclofenac 50 mg. ชนิดแผง ราคาขายแผงละ 10 บาท
3. ยาคลายกล้ามเนื้อ สูตร Norgesic ชนิดแผง ขายราคาแผงละ 15 บาท เป็นต้น
จะเห็นว่า ทำไมรายรับหรือยอดขายยาผมถึงลดลง ทั้งที่ผมไม่มีคู่แข่งเพิ่มในท้องที่ ไม่ได้ขายยาแพง และผมเป็นร้านยาเดียวในท้องที่ที่เป็นเภสัชกรด้วย ผมคิดว่าปัจจัยหลักที่ทำให้คนไม่มีอำนาจการจับจ่ายคือ คนมีหนี้เพิ่มขึ้น และ ชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรมีรายได้ลดลง ชาวนาไม่มีน้ำทำนา นี้คือสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อผม
ปี 2014 เดือนมีนา มีสัญญาณที่ไม่ดีเกิดขึ้น ยอดการขายของผมลดลงอย่างหน้าใจหาย ประมาณ 30% ทั้งทีไม่เคยเป็นมาก่อน และไม่ได้มีคู่แข่งเกิดขึ้นในท้องที่ที่ผมอยู่ และยอดขายผมก็ลดลงเรื่อยจนถึงปลายปี 2014 ตัวเลขผมหายไปเกือบ 40 %
ปี 2015 ตั้งแต่เดือน มกรา - มีนาคม ตัวเลขของรายรับผมก็ยังลดลงเรื่อยๆจนไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดมันอยู่ที่ไหน ทั้งที่ ยาเป็นปัจจัยสี่ที่สำคัญต่อการรักษาโรค และการขายยาของผมก็ไม่เคยแพงด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น
1. ยาแก้อักเสบ Amoxcillin 500 mg. ชนิดแผง ขายราคาแผงละ 30 บาท
2. ยาแก้ปวด Diclofenac 50 mg. ชนิดแผง ราคาขายแผงละ 10 บาท
3. ยาคลายกล้ามเนื้อ สูตร Norgesic ชนิดแผง ขายราคาแผงละ 15 บาท เป็นต้น
จะเห็นว่า ทำไมรายรับหรือยอดขายยาผมถึงลดลง ทั้งที่ผมไม่มีคู่แข่งเพิ่มในท้องที่ ไม่ได้ขายยาแพง และผมเป็นร้านยาเดียวในท้องที่ที่เป็นเภสัชกรด้วย ผมคิดว่าปัจจัยหลักที่ทำให้คนไม่มีอำนาจการจับจ่ายคือ คนมีหนี้เพิ่มขึ้น และ ชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรมีรายได้ลดลง ชาวนาไม่มีน้ำทำนา นี้คือสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อผม
ความคิดเห็นที่ 3
ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีจริงๆ ดูง่ายๆห้างบิ๊ค จัดโปรซื้อพันลด120หลังบิลมาสิบกว่าวันติดเลย
โดยรวมแล้วที่ผมเป็นห่วงคือเงินมันจะฝืดในระยะยาวเพราะครั้งนี้ผมเห็นว่าสัญญาณทางเศรษฐกิจมันค่อยๆซึมลง
โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะฟื้น เพราะฐานล่างสุด สดุด ซึ่งต่างกับ ด้านเกษตร เงินหายไปหมด
ซึ่งตอนนี้ คนชั้นขาดสภาพคล่องอย่างหนัก วงจรกู้นอกระบบกลับมา เพราะไม่มีเงินกันจริงๆ ผลของมันจึงเป็นวงกว้าง
(ไม่เกี่ยวกับค่าแรง300 กับรถคันแรกนะมันจบไปนานแล้ว)
หลายๆคน จึงเลือกที่จะไม่ประมาท โดยการ ไม่สร้างหนี้ และ ประหยัดค่าใช้จ่าย สิ่งที่ไม่จำเป็นก็คงต้องงดไปก่อน
มาดูทีมเศรษฐกิจตอนนี้บ้าง อุ๋ยมีผลงานใดๆบ้าง มีใคึรเชื่อใจท่านบ้าง
ค่าเงินแข็ง เราเป็นประเทศส่งออกกับทองเที่ยว ตามหลักควรลดค่าเงิน
แต่นี่กลับไปขึ้นเงินเดือนข้าราชการแทน
โดยรวมแล้วที่ผมเป็นห่วงคือเงินมันจะฝืดในระยะยาวเพราะครั้งนี้ผมเห็นว่าสัญญาณทางเศรษฐกิจมันค่อยๆซึมลง
โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะฟื้น เพราะฐานล่างสุด สดุด ซึ่งต่างกับ ด้านเกษตร เงินหายไปหมด
ซึ่งตอนนี้ คนชั้นขาดสภาพคล่องอย่างหนัก วงจรกู้นอกระบบกลับมา เพราะไม่มีเงินกันจริงๆ ผลของมันจึงเป็นวงกว้าง
(ไม่เกี่ยวกับค่าแรง300 กับรถคันแรกนะมันจบไปนานแล้ว)
หลายๆคน จึงเลือกที่จะไม่ประมาท โดยการ ไม่สร้างหนี้ และ ประหยัดค่าใช้จ่าย สิ่งที่ไม่จำเป็นก็คงต้องงดไปก่อน
มาดูทีมเศรษฐกิจตอนนี้บ้าง อุ๋ยมีผลงานใดๆบ้าง มีใคึรเชื่อใจท่านบ้าง
ค่าเงินแข็ง เราเป็นประเทศส่งออกกับทองเที่ยว ตามหลักควรลดค่าเงิน
แต่นี่กลับไปขึ้นเงินเดือนข้าราชการแทน
แสดงความคิดเห็น
สัมภาษณ์ พ่อค้าแม่ค้าตัวจริง บอกค้าขายไม่ดี เป็นจริงไหมเอ่ย
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1428688901
นักธุรกิจที่มีแฟรนไชส์หลายสาขาเล่าให้ฟังว่า ปกติในร้านจะต้องมีสินค้าขายไม่หมด ต้องทิ้งเพราะหมดอายุ แต่ละวันเฉลี่ยวันละ 200 บาท แต่ทุกวันนี้ต้องทิ้งแต่ละวันเฉลี่ย 700 บาท เพิ่มขึ้น 3 เท่าเพราะขายไม่ดี
พรรคพวกที่ทำร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น เคยขายดี ขยายสาขาปีเดียว 3 สาขา บอกว่าตอนนี้ลูกค้าหายไป 20-30% ส่วนอีกรายขายอาหารไทยบอกว่า เมื่อก่อนลูกค้ามา 4 คนต้องสั่ง 4-5 อย่าง เดี๋ยวนี้สั่งแค่ 3 อย่าง เคยสั่งห่อกลับบ้านแต่ทุกวันนี้ไม่สั่งแล้ว
แวะเข้าไปดู ดัชนีตลาดสดแถวๆ บ้าน ตลาดสดขนาดใหญ่พ่อค้าแม่ค้าบ่นกันอุบ แต่ก่อนเคยคึกคักปัจจุบันแผงขายของหายไปหลายราย หายทั้งคนซื้อคนขาย พ่อค้าเป็ดพะโล้เคยขายอย่างต่ำๆ 60 ตัวทุกวันเดี๋ยวนี้เหลือ 30 กว่าตัว ถามร้านอื่นๆ ก็เหมือนๆ กัน
กระทั่งตลาดสด อ.ต.ก. ที่เป็นตลาดคนรวย ตอนนี้ลูกค้าหายไปเกือบๆ 30% แม่ค้าที่มีแผงขายผลไม้ประกาศหาคนเช่าต่อ แค่วันละ 500 บาท เพราะขายเองไม่คุ้ม ลูกค้าที่ยังเหลืออยู่ก็จะเป็นขาประจำที่พอมีกำลังซื้ออยู่บ้างเท่านั้น
อาการอย่างนี้เป็นมา 2 ปีแล้วแต่ตอนนี้หนักขึ้นเรื่อยๆ