สัมภาษณ์ พ่อค้าแม่ค้าตัวจริง บอกค้าขายไม่ดี เป็นจริงไหมเอ่ย

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 00:52 น.
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1428688901
นักธุรกิจที่มีแฟรนไชส์หลายสาขาเล่าให้ฟังว่า ปกติในร้านจะต้องมีสินค้าขายไม่หมด ต้องทิ้งเพราะหมดอายุ แต่ละวันเฉลี่ยวันละ 200 บาท แต่ทุกวันนี้ต้องทิ้งแต่ละวันเฉลี่ย 700 บาท เพิ่มขึ้น 3 เท่าเพราะขายไม่ดี



พรรคพวกที่ทำร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น เคยขายดี ขยายสาขาปีเดียว 3 สาขา บอกว่าตอนนี้ลูกค้าหายไป 20-30% ส่วนอีกรายขายอาหารไทยบอกว่า เมื่อก่อนลูกค้ามา 4 คนต้องสั่ง 4-5 อย่าง เดี๋ยวนี้สั่งแค่ 3 อย่าง เคยสั่งห่อกลับบ้านแต่ทุกวันนี้ไม่สั่งแล้ว



แวะเข้าไปดู ดัชนีตลาดสดแถวๆ บ้าน ตลาดสดขนาดใหญ่พ่อค้าแม่ค้าบ่นกันอุบ แต่ก่อนเคยคึกคักปัจจุบันแผงขายของหายไปหลายราย หายทั้งคนซื้อคนขาย พ่อค้าเป็ดพะโล้เคยขายอย่างต่ำๆ 60 ตัวทุกวันเดี๋ยวนี้เหลือ 30 กว่าตัว ถามร้านอื่นๆ ก็เหมือนๆ กัน



กระทั่งตลาดสด อ.ต.ก. ที่เป็นตลาดคนรวย ตอนนี้ลูกค้าหายไปเกือบๆ 30% แม่ค้าที่มีแผงขายผลไม้ประกาศหาคนเช่าต่อ แค่วันละ 500 บาท เพราะขายเองไม่คุ้ม ลูกค้าที่ยังเหลืออยู่ก็จะเป็นขาประจำที่พอมีกำลังซื้ออยู่บ้างเท่านั้น



อาการอย่างนี้เป็นมา 2 ปีแล้วแต่ตอนนี้หนักขึ้นเรื่อยๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ผมเปิดร้านขายยามาตั้งแต่ 2004 ลูกค้าผมเป็นคนต่างจังหวัด​และมีอาชีพ​เกษตรกรรม​ โดยเฉพาะชาวนาและชาวสวน ตลอดเวลาตั้งแต่ ปี 2004 -​ 2014 ต้นปี ผมขายยาดีมาตลอดอาจเนื่องจากผมเป็นเภสัชกรเปิดร้านเองและอยู่เต็มเวลาที่ขาย และเป็นอย่างนี้เรื่อยมาจนครบ 10 ปี
       ปี 2014 เดือนมีนา มีสัญญาณ​ที่ไม่ดีเกิดขึ้น ยอดการขายของผมลดลงอย่างหน้าใจหาย ประมาณ​ 30% ทั้งทีไม่เคยเป็นมาก่อน และไม่ได้มีคู่แข่ง​เกิดขึ้นในท้องที่ที่ผมอยู่ และยอดขายผมก็ลดลงเรื่อยจนถึงปลายปี 2014 ตัวเลขผมหายไปเกือบ 40 %
        ปี 2015 ตั้งแต่เดือน มกรา -​ มีนาคม ตัวเลขของรายรับผมก็ยังลดลงเรื่อยๆจนไม่รู้​ว่าจุดสิ้นสุดมันอยู่​ที่​ไหน ทั้งที่ ยาเป็นปัจจัย​สี่ที่สำคัญต่อการรักษาโรค และการขายยาของผมก็ไม่เคยแพงด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น
     1. ยาแก้อักเสบ Amoxcillin 500 mg. ชนิดแผง ขายราคาแผงละ 30 บาท
     2. ยาแก้ปวด Diclofenac​ 50 mg. ชนิดแผง ราคาขายแผงละ 10 บาท
     3. ยาคลายกล้ามเนื้อ สูตร Norgesic​ ชนิดแผง ขายราคาแผงละ 15 บาท เป็นต้น
       จะเห็นว่า ทำไมรายรับหรือยอดขายยาผมถึงลดลง ทั้งที่ผมไม่มีคู่แข่ง​เพิ่มในท้องที่ ไม่ได้ขายยาแพง และผมเป็นร้านยาเดียวในท้องที่ที่เป็นเภสัชกรด้วย  ผมคิดว่าปัจจัย​หลักที่ทำให้คนไม่มีอำนาจการจับจ่าย​คือ คนมีหนี้เพิ่มขึ้น และ ชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรมีรายได้ลดลง ชาวนาไม่มีน้ำทำนา นี้คือสาเหตุที่ส่งผลกระทบ​ต่อผม
ความคิดเห็นที่ 1
น้ำมันขึ้น 1บาท เจือกขึ่นราคา 5 บาท  สมควรแระ

ความคิดเห็นที่ 3
ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีจริงๆ ดูง่ายๆห้างบิ๊ค จัดโปรซื้อพันลด120หลังบิลมาสิบกว่าวันติดเลย

โดยรวมแล้วที่ผมเป็นห่วงคือเงินมันจะฝืดในระยะยาวเพราะครั้งนี้ผมเห็นว่าสัญญาณทางเศรษฐกิจมันค่อยๆซึมลง
โดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะฟื้น  เพราะฐานล่างสุด สดุด ซึ่งต่างกับ  ด้านเกษตร เงินหายไปหมด
ซึ่งตอนนี้ คนชั้นขาดสภาพคล่องอย่างหนัก  วงจรกู้นอกระบบกลับมา เพราะไม่มีเงินกันจริงๆ ผลของมันจึงเป็นวงกว้าง
(ไม่เกี่ยวกับค่าแรง300 กับรถคันแรกนะมันจบไปนานแล้ว)

หลายๆคน จึงเลือกที่จะไม่ประมาท โดยการ ไม่สร้างหนี้ และ ประหยัดค่าใช้จ่าย สิ่งที่ไม่จำเป็นก็คงต้องงดไปก่อน


มาดูทีมเศรษฐกิจตอนนี้บ้าง อุ๋ยมีผลงานใดๆบ้าง มีใคึรเชื่อใจท่านบ้าง
ค่าเงินแข็ง เราเป็นประเทศส่งออกกับทองเที่ยว ตามหลักควรลดค่าเงิน
แต่นี่กลับไปขึ้นเงินเดือนข้าราชการแทน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่