สวัสดีครับ ผม nonny_nontakyy ห่างหายไปหลายเดือนครับ รอบนี้ผม จะมารีวิว ทริปที่ได้ไปเที่ยวมาเมื่อช่วง ปีใหม่ครับ "เซี่ยงไฮ้" สาธารณรัฐประชาชนจีนครับ
ก่อนจะไปเริ่ม รีวิว ขอขอบคุณ คุณ มิลานน้อย นะครับ ที่คอยให้เครดิตในกระทู้ ทำให้มีแรงกลับมาทำรีวิวอีกเรื่อยๆครับ เพราะหลังๆกระทู้ตกเร็วเกินครับ บางครั้งเลยรู้สึกไม่อยากทำ 555

ใครแวะผ่านเข้ามากด ไลค์ กดบวก เป็นกำลังใจให้หน่อยนะครับ

รวมถึงขอฝากเพจด้วยนะครับ ของเจ้าของกระทู้เอง: https://www.facebook.com/nonnyaroundtheworld
และขอฝากรีวิวก่อนหน้านี้ที่เคยทำมานะครับ
ตุรกี: http://ppantip.com/topic/31960528
เชจู (เกาหลีใต้): http://ppantip.com/topic/32354910
เบลเยียม-ลักเซมเบิร์ก: http://ppantip.com/topic/32763601
การขอวีซ่าเชงเก้น สถานทูต เบลเยียม: http://ppantip.com/topic/32442537

ทำไม "เซี่ยงไฮ้"
ทริปนี้เราตกลงกันกับเพื่อนๆในกลุ่มรวม 6 คนครับ ว่าจะไปที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน เพื่อบางคนเพิ่งกลับจากญี่ปุ่น ไอเราก็เพิ่งไปเกาหลี ร่วมกับมีเวลาแค่ 5 วัน ก็เลยมาลงตัวที่เมืองนี้ครับ "เซี่ยงไฮ้"

มาเริ่มกันเลยนะครับ (ปล. รีวิวนี้จะไม่ค่อยละเอียดนะครับ เพราะจำรายละเอียดได้ไม่มาก และรูปก็ไม่ได้ถ่ายเยอะเท่าไรครับ)
เตรียมตัวอะไรกันบ้าง
1 ตั๋วเครื่องบิน
   มีตั๋วถูกบินไป เซี่ยงไฮ้ มากมายหลายสายการบินนะครับ ลอง search จาก skyscanner expedia ดูครับ เพื่อนผม 4 คน จองตั้งแต่ช่วง สค ได้ราคาไปกลับ 13xxx ของ china eastern airline นะครับ แต่ผมกับเพื่ออีกคน เราบิน TG ไปกัน เพราะ เรา 2 คนไม่แน่ใจเรื่องวันลาจึงมาจองตั๋วช่วงใกล้วันบินแล้วครับ ยอมจ่ายแพงหน่อยนึง ส่วนเรื่องเวลาบิน Flight ไปเซี่ยงไอ้ จะมี Flight กลางดึก ที่ไปถึงที่นู่นเช้านะครับ ใครอยากได้เวลาเที่ยวเพิ่มฏ้เลือกเลยครับ มีทั้ง china eastern และ TG แต่เอาเข้าจริง มันจะแทบไม่ได้พักเลยครับ เพราะ เวลาบินแค่ 4 ชม ไหนจะกินอีก ยังไงก็ลองกะเวลากันดูนะครับ ใครชอบแบบไหน ^^

2 วีซ่า
   การเข้าไปเที่ยวเมืองจีน ต้องทำวีซ่านะครับ แต่ไม่จำเป็นต้องไปแสดงตัว เหมือนวีซ่าเชงเก้น สามารถให้เพื่อนไปยื่นแทนได้ครับ รายละเอียดนะครับ --> http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/qzxk/t1043517.htm --> ดูตรง วีซ่าสำหรับท่องเที่ยวนะครับ จาก เวปของสถานทูตจีน จะเขียนว่าเราต้องมีจดหมายเชิญ กรณีที่ไม่มี ให้ใช้ใบจองตั๋วเครื่องบินระบุวันไปกลับ และ เอกสารการจอง รร ในจีนนะครับ ไม่ต้องทำแผนการท่องเที่ยวนะครับ สำหรับที่ยื่นใน กทม ผมไม่แน่ใจนะครับ เนื่องจากผมยื่นที่สถานกงสุลที่ สงขลา (เพราะบ้านอยู่ หาดใหญ่ครับ) ค่าวีซ่า 1000 บาทต่อคนนะครับ

3 อากาศ
   ช่วงปีใหม่ เป็น ฤดูหนาวของที่นี่นะครับ อุณหภูมิ ไม่เกิน 10 องศาครับ ช่วงกลางคืน คือ เย็นเลยครับ เตรียมอุปกรณ์กันหนาวกันไปให้ดีครับ นอกจากนั้เมืองนี้ ยังค่อนข้างมีลมเยอะพอควร จะทำให้ยิ่งเย็นครับ อาจต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วยครับ ^^

4 ภาษา
   พูดจีนได้ ก็ได้เปรียบมากครับ เพราะ เขายังใช้ภาษาอังกฤษค่อนข้างน้อย แต่ตามสถานที่ท่องเที่ยวหลักก็ยังพอพูดกันได้ เวลาซื้อตั๋วรถ ตั๋วท่องเที่ยวต่างๆ จะมีคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ครับ แต่ในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆก็ไม่ค่อยพูดกันครับ

5 อาหารการกิน
   ไม่ต้องเตรียมตัวมาก คนไทยคุ้นขินกับอาหารจีนอยู่แล้ว คล้ายๆกับอาหารจีนบ้านเรานะครับ แต่มัน มัน มาก และที่ขอเตือน คือ เรื่องความสะอาดของอาหารข้างทาง ซื้อกินได้ครับ แต่ควรระวังนิดนึงครับ

6 ไฟฟ้า
   ที่จีนใช้ 220 V เหมือนบ้านเราครับ แต่จะเป็นแบบ 3 หัว ให้เตรียมหัวแปลงไฟไปด้วยครับ

   อย่างอื่นนึกไม่ออกแล้วครับ ต้องเตรียมตัวอะไรอีก ยังไงก็ไปเริ่มทริปกันเลยดีกว่านะครับ ^^
   ปล. ทริปนี้รูปไม่เยอะนะครับ บางจุดก็ไม่ได้ถ่าย แต่จะเน้นให้ข้อมูลละกันนะครับ ^^


Day 1 : 31 Dec 2014
   ผมเลือกเดินทางด้วยสายการบินแห่งชาตินะครับ ออกเดินทาง 1.10 น ของวันที่ 31/12/57 เดินทางถึง สนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ดง(PVG) เวลา 6.25 น. การเดินทางมาถึงช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาที่คนไม่เยอะครับ เดินกันโล่งๆ ตม แถวไม่ยาวครับ
   เมื่อเดินทางมาถึง ก็ควรไปเอาแผนที่เมืองเซี่ยงไฮ้ จาก tourist information แต่ปรากฏว่า มันยังไม่เปิด !!!!!!!! คุณพระ นังรอมันจน 7.30 ก็ยังไม่เปิด (จริงๆ คือ เข้าห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน หากาแฟกินกันอยู่) ก็เลยไม่แคร์มันแระ เดินไปหาสถานีรถไฟฟ้าเข้าเมืองดีกว่า มั่วๆเอาเด๋วก็ถึง
   การเดินทางภายในเซี่ยงไฮ้ แนะนำให้ใช้บัตร SPTC (Shanghai transportation card) ลักษณะเป็นเหมือนบัตรเติมเงิน octopus card ของฮ่องกงนะครับ ราคา 100 หยวน จะเป็น ค่ามัดจำ 20 หยวน และใช้ได้ 80 หยวน ซื้อเพื่อความสะดวกเวลาเดินทางเราไม่ต้องไปต่อแถวซื้อบัตรเที่ยวเดียวนะครับ และเราซื้อที่สนามบินก็ใช้เดินทางเข้าเมืองได้เลยครับ บัตรสามารถเอามา refund วันที่เดินทางกลับได้นะครับ ที่สนามบิน Pudong มีจุด refund บัตรครับ เราก็จะได้ค่ามัดจำกับเงินที่เหลือในบัตรคืนครับ ^^



การเดินทางจากสนามบินเข้าเมือง เลือกได้หลายรูปแบบครับ
   - Metro: Line 2 สีเขียวอ่อน วิ่งจากสถานี Pudong (ต้นทาง) -> Hongqiao airport (ปลายทาง) โดยผ่านสถานีกลางเมือง อย่าง East Nanjing road, People square ถือเป็นเส้นหลักอีกเส้นหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวครับ รูปแบบนี้ราคาถูก แต่กินเวลานานหน่อยครับ ประมาณ 1 ชม (ผมนั่งจากสนามบิน ลงที่ East Nanjing road (18 สถานีจากสนามบิน) ราคา 7 หยวน ประมาณ 35 บาท)
   - Meglev: หรือรถไฟความเร็วสูงของจีน จะวิ่งจากสนามบิน -> สถานี Longyang road (12 สถานีจากสนามบิน) ใช้เวลา 8 นาที ราคาเที่ยวเดียว 50 หยวน หรือสามารถซื้อตั๋วไปกลับราคา 80 หยวนครับ แล้วหลังจากนั้นจะต่อ Taxi หรือ ต่อ Metro line 2 เข้าเมืองก็ได้ครับ
   - Taxi: Start ที่ 14 หยวน ราคาวิ่งจากสนามบินเข้ากลางเมืองประมาณ 120 หยวน+- เวลาประมาณ 1 ชม +- ขึ้นกับการจราจร



    ผมเดินทางมาถึงเช้าตรู่ และเนื่องจากยังต้องรอเพื่อนอีก 4 ชีวิต ที่จะเดินทางมาถึงช่วงบ่ายๆ วันนี้แผนช่วงเช้าของเราเลยหลวมๆ ผมกับเพื่อนเลือกซื้อตั๋ว Sightseeing bus ราคา 30 หยวน ใช้ได้ 24 ชม ตั๋วสามารถซื้อได้ตอนขึ้นรถเลยครับ สาเหตุที่ซื้อเพื่อจะนั่งรถชมเมืองไปทั่วๆครับ ว่ามีอะไรจุดไหนน่าสนใจมากน้อย สำหรับ Sightseeing bus นั้น จะเป็นรถ 2 ชั้น ชั้นบนจะมีหลังคาอยู่ส่วนหนึ่ง และเปิดประทุนส่วนหนึ่ง แต่บางคันก็เป็นรถทัวร์ 2 ชั้นทั่วไป  โดยหลักๆจะมีวิ่งด้วยกัน 2 สาย คือ
- Puxi (ฝั่งเมืองเก่า)
- Pudong (ฝั่งเมืองใหม่ ฝั่งหอไข่มุก)



   โดยก่อนที่เราจะเดินไปขึ้นรถ Sightseeing bus จาก รร ที่ผมพักเดินไปหารถ ก็จะผ่าน The Bund ก่อนครับ ก็เก็บภาพกันซักนิดซักหน่อยพอเป็นพิธี






   วันแรกนี้จึงไม่ค่อยได้เก็บภาพ เพราะ นั่งดูไปเรื่อยๆครับ เพลินดีครับ จากการนั่งรถ ก็ได้เห็นว่า เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองที่เจริญมากเมืองหนึ่ง มีทั้งเมืองที่ใหม่ทันสมัยไฉไล และส่วนเมืองเก่าที่เหมือนสมัยโบราณก้น่าเดินเล่นมากครับ อยากจะบอกว่าการนั่งในส่วนเปิดประทุนในหน้าหนาวเอาหน้าไปท้าลมเล่นนั้น แสนจะเย็นสะท้านทรวงใช้ได้เลยครับ (แต่เพื่อนผมหลับได้ !!!!) เพราะ รถขับเร็วใช้ได้ ลมมันก็เลยแรง เย็นปากสั่นทีเดียวเชียว --"
   หลังจากนั่งรถเที่ยวเสร็จครับ กลับมาพักผ่อนรอเพื่อนที่ รร แล้วเผลอหลับไป ตื่นมาก็เย็นๆ พอดีกับเพื่อนๆมาถึงพอดี เราทั้ง 6 ก็ออกไปเดินเล่นกันที่ The Bund หรือ หาดไว่ทัน ครับ ก็เป็นช่วงที่มืดๆพอดี เก็บภาพได้นิดหน่อย คนค่อนข้างเยอะเนื่องจากเป็นวันสิ้นปีที่เขาจะมา countdown กัน เดินได้ซักพักก็ไปหาของกินทั้งของคาวของหวาน แล้วก็กลับมารอ countdown กันครับ








    ช่วงเวลารอ countdown พวกผมมาตั้งแต่ 22.30 ยืนรอ 1 ชม.ครึ่ง เพื่อนับ 3 2 1 เย่ ... คนเยอะมากครับ เบียดกันเหมือนจะแย่งของกัน ... เวลาก็เดินผ่านไปเรื่อยๆ ตึกที่อยู่ฝั่งตรงข้าวก็เล่นไฟไปเรื่อยๆ พอใกล้ๆเวลาคนก็นับกับเสียงดังลั่นครับ 9 8 7 6 5 4 3 2 1 ... Happy new year ... คาดหวังว่าพรุต้องมาแบบจัดเต็มแน่นเอี๊ยด อลังการ เตรียมกล้องถ่ายรูปพร้อม .... เงียบฉี่ สิ้นเสียงคนนับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามมาอีกต่อไป นอกจากที่หอไข่มุกมีตัวอีกษรวิ่ง Happy new year 2015 ... ยืนรอประมาณ 10-15 นาทีก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... อารมณ์ผิดหวังพุ่งถึงขั้นสุด ... นี่กูมายืนทำอะไร หนาวก็หนาว เบียดก็เบียด ป้าๆลุงๆ ชาวจีนก็เปิดเหลือเกิน โดนเหยียบตีนบ้าง เอาหัวมาโขกบ้าง โอ้ยยยยยยยยยยยย จิร้อง ... แต่อารมณ์นั้น เงิบบบบบ มาก ร้องไม่ออก .... มนุษย์มั้ง 6 ต้องฝ่าฝูงชนมากมายมหาศาลเพื่อเดินกลับ รร อีก ห่างไป ประมาณ 700-800 ม ใช้เวลาเดินร่วม 20-25 นาที ... กลับไปนอน ไม่คิดมากเพราะเหนื่อยมาทั้งวันครับ ... ช่างมันกูค่อยกลับไปดูพรุที่เมืองไทยก็ได้นะ ชิชิชิชิ

    เด๋วมาต่อกันดานล่างนะครับ ^^