ตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ เพื่อเป็นวิทยาทาน นะครับ ไม่ว่าจะมี 1 คน 2 คนหรือ 10 คนที่ได้อ่านแล้ว ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนพวกนี้ ผมจะถือว่า ผมได้สร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว
แน่นอนครับ หลายท่าน รู้ดีอยู่แล้ว สำหรับท่านที่รู้แล้ว ถือว่าผม เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน แล้วกัน
ธุรกิจ ขายตรง คอนเฟิร์ม order หรืออะไรก็ตามแล้วแต่จะเรียก เอาง่ายๆว่าถ้าบอกว่า ทำงานผ่านเนท ขอให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน ว่ามัน อาจจะเป็น แชร์ลูกโซ่
ข้อแตกต่าง ของ ขายตรง กับ แชร์ลูกโซ่ คืออะไร
ดูง่ายๆครับ ถ้าขายตรง คุณขายสินค้า รับส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์ เป็นหลัก เงินที่ได้มาจาก เม็ดเงินที่สินค้าตัวนี้ ไม่ต้องลงทุนในเรื่องของการทำตลาดสินค้า
ส่วนแชร์ลูกโซ่ เน้นหาสมาชิก หาดาวไลน์ สายอ่อนสายแข็ง อะไรต่อมิอะไร เอาง่ายๆว่า เน้นหาสมาชิกนี่หละ
ธุรกิจแบบนี้ ทำให้รวยได้มั๊ย บอกให้ตรงนี้เลยว่า ได้แน่นอน ยิ่งเข้าคนแรกๆ จะยิ่งรวยมาก
แต่เป็นความรวย ที่ได้มาจากคราบน้ำตา และความทุกข์ ของคนรอบข้าง อย่าก้มไปมองใต้เท้านะ ศพใคร ต่อศพใครเต็มไปหมด
เพราะมันเป็นธุรกิจที่คุณต้องเอาเพื่อน ทั้งชีวิตของคุณ มาขาย
สมมุติว่า ทั้งชีวิตคุณมีเพื่อน 200 คน คุณสามารถ ชวนมาทำงานได้ 100 คน ใน 100 คนนี้ สมมุติว่าเสียค่าสมาชิก จะระดับไหนก็แล้วแต่ สมมุติเฉลี่ย คนละ 3000 พัน เท่ากับว่า คุณหาเงิน เข้า บริษัท ได้ 300000 เงินเหล่านี้ จะถูกนำกลับมาตอบแทนคุณ เป็นค่าเปอร์เซ็นต์ หรือค่าอะไรก็ตามแต่ บริษัทพวกนี้ จะมีตั้งเป้า ว่า ยอดเท่าไหร่ได้ตำแหน่งไหน ระดับไหนได้ไปเที่ยวที่ไหน ชีวิตดี้ดีนั่นหละ
คนพวกนี้ จะได้ไปพักโรงแรมหรู กินของดีๆ เที่ยวต่างประเทศ ก็ต่อเมื่อ ตำแหน่งถึง ซึ่งตำแหน่งก็ได้มาจาก เงินของคนในทีมนี่แหละ
ทีนี้ คนในทีมทำยังไง หาเครือข่ายกันตาหูแหกเลย จะได้ไปใช้ชีวิต ดี้ดี แบบตัวบนๆบ้าง แต่ทำยังไงหละ เพื่อนเราก็เพื่อนไอ้หัวหน้าทีมเหมือนกัน ก็ต้องไปหาญาติพี่น้อง เพื่อนนอกสายของหัวหน้าทีมละ ถ้าเพื่อนมาแบบสมัครเฉยๆ แล้วไม่ไปสานต่อ ก็ยิ่งหนักเลย ทีนี้ ต้องทำยอดทำตำแหน่งละ อยากจะได้ชีวิตดี้ดีทำไง ก็ต้องไป หยิบยืมเงิน กู้เงินมา ซื้อสินค้า ให้ ตำแหน่งตัวเองขยับ พอตำแหน่งถึงก็ได้ไปใช้ชีวิตดี้ดีบ้าง แล้วก็มาออกสื่อว่า ได้กินฟรี เที่ยวฟรี (จริงๆเงินแกนั่นหละ) เพราะสินค้าพวกนี้ ต้นทุน 10 บาท ขายไป 4 พัน เจ้าของบริษัทหัวเราะฟันโยกเลย
(ขนาด เคยมีเคสในอดีต ที่บริษัทขายตรงเอา สินค้าชื่อเสียง ระดับโลกเข้ามาขาย แต่มาทำ ออกแนวแชร์ลูกโซ่ ยังพังไม่เป็นท่ามาแล้ว จะมานับอะไรกับอกฟูรูฟิต แบบไทยๆ )
ธุรกิจแบบนี้ จะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อ พวก ตัวล่างๆ ยังขยันหาคนมาเข้าระบบ ตัวบนๆ ก็ยังจะได้รับส่วนแบ่งอยู่ คือทำนาบนหลังลูกข่ายนี่หละ สูบเลือดสูบเนื้อกันไป ตัวบนบางตัวหมดเงินเป็นแสนเป็นล้าน อัพตำแหน่ง ถ้าธุรกิจอยู่ได้ยาว จนสูบเลือดสูบเนื้อจากตัวล่างๆได้ ทัน ก็คุ้มอยู่ บางคนอาจจะรวยไปเลยก็ได้ แต่ถ้าตัวล่างเริ่มหาคนไม่ได้ ธุรกิจจะฝืดละ สุดท้าย ทุกย่างก็ล่มสลายเหลือไว้เป็นฝัน ตื่นนึง พร้อมหนี้ก้อนโต ของลูกข่าย ที่น่าเจ็บใจคือ ประเทศไทยพบเจอเรื่องราวแบบนี้มาหลายครั้ง พวกตัวหัวๆ บางตัว ปิดบริษัทเก่า ไปเปิดบริษัท ใหม่ ทำแบบนี้วนไปวนมา
แต่ประเทศไทยนับถือคนมีเงิน ไม่ว่าเงินนั้น จะหามาอย่างไร ถ้ามีเงินคนก็นับหน้าถือตา ดังนั้น เราจะเห็นคนรอบข้าง ตกเป็นเหยื่อ ของธุรกิจพวกนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ธุรกิจขายตรง หรือ แชร์ลูกโซ่ ชีวิตดี้ดี หรือ การเหยียบซากศพ
แน่นอนครับ หลายท่าน รู้ดีอยู่แล้ว สำหรับท่านที่รู้แล้ว ถือว่าผม เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน แล้วกัน
ธุรกิจ ขายตรง คอนเฟิร์ม order หรืออะไรก็ตามแล้วแต่จะเรียก เอาง่ายๆว่าถ้าบอกว่า ทำงานผ่านเนท ขอให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน ว่ามัน อาจจะเป็น แชร์ลูกโซ่
ข้อแตกต่าง ของ ขายตรง กับ แชร์ลูกโซ่ คืออะไร
ดูง่ายๆครับ ถ้าขายตรง คุณขายสินค้า รับส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์ เป็นหลัก เงินที่ได้มาจาก เม็ดเงินที่สินค้าตัวนี้ ไม่ต้องลงทุนในเรื่องของการทำตลาดสินค้า
ส่วนแชร์ลูกโซ่ เน้นหาสมาชิก หาดาวไลน์ สายอ่อนสายแข็ง อะไรต่อมิอะไร เอาง่ายๆว่า เน้นหาสมาชิกนี่หละ
ธุรกิจแบบนี้ ทำให้รวยได้มั๊ย บอกให้ตรงนี้เลยว่า ได้แน่นอน ยิ่งเข้าคนแรกๆ จะยิ่งรวยมาก
แต่เป็นความรวย ที่ได้มาจากคราบน้ำตา และความทุกข์ ของคนรอบข้าง อย่าก้มไปมองใต้เท้านะ ศพใคร ต่อศพใครเต็มไปหมด
เพราะมันเป็นธุรกิจที่คุณต้องเอาเพื่อน ทั้งชีวิตของคุณ มาขาย
สมมุติว่า ทั้งชีวิตคุณมีเพื่อน 200 คน คุณสามารถ ชวนมาทำงานได้ 100 คน ใน 100 คนนี้ สมมุติว่าเสียค่าสมาชิก จะระดับไหนก็แล้วแต่ สมมุติเฉลี่ย คนละ 3000 พัน เท่ากับว่า คุณหาเงิน เข้า บริษัท ได้ 300000 เงินเหล่านี้ จะถูกนำกลับมาตอบแทนคุณ เป็นค่าเปอร์เซ็นต์ หรือค่าอะไรก็ตามแต่ บริษัทพวกนี้ จะมีตั้งเป้า ว่า ยอดเท่าไหร่ได้ตำแหน่งไหน ระดับไหนได้ไปเที่ยวที่ไหน ชีวิตดี้ดีนั่นหละ
คนพวกนี้ จะได้ไปพักโรงแรมหรู กินของดีๆ เที่ยวต่างประเทศ ก็ต่อเมื่อ ตำแหน่งถึง ซึ่งตำแหน่งก็ได้มาจาก เงินของคนในทีมนี่แหละ
ทีนี้ คนในทีมทำยังไง หาเครือข่ายกันตาหูแหกเลย จะได้ไปใช้ชีวิต ดี้ดี แบบตัวบนๆบ้าง แต่ทำยังไงหละ เพื่อนเราก็เพื่อนไอ้หัวหน้าทีมเหมือนกัน ก็ต้องไปหาญาติพี่น้อง เพื่อนนอกสายของหัวหน้าทีมละ ถ้าเพื่อนมาแบบสมัครเฉยๆ แล้วไม่ไปสานต่อ ก็ยิ่งหนักเลย ทีนี้ ต้องทำยอดทำตำแหน่งละ อยากจะได้ชีวิตดี้ดีทำไง ก็ต้องไป หยิบยืมเงิน กู้เงินมา ซื้อสินค้า ให้ ตำแหน่งตัวเองขยับ พอตำแหน่งถึงก็ได้ไปใช้ชีวิตดี้ดีบ้าง แล้วก็มาออกสื่อว่า ได้กินฟรี เที่ยวฟรี (จริงๆเงินแกนั่นหละ) เพราะสินค้าพวกนี้ ต้นทุน 10 บาท ขายไป 4 พัน เจ้าของบริษัทหัวเราะฟันโยกเลย
(ขนาด เคยมีเคสในอดีต ที่บริษัทขายตรงเอา สินค้าชื่อเสียง ระดับโลกเข้ามาขาย แต่มาทำ ออกแนวแชร์ลูกโซ่ ยังพังไม่เป็นท่ามาแล้ว จะมานับอะไรกับอกฟูรูฟิต แบบไทยๆ )
ธุรกิจแบบนี้ จะอยู่ได้ก็ต่อเมื่อ พวก ตัวล่างๆ ยังขยันหาคนมาเข้าระบบ ตัวบนๆ ก็ยังจะได้รับส่วนแบ่งอยู่ คือทำนาบนหลังลูกข่ายนี่หละ สูบเลือดสูบเนื้อกันไป ตัวบนบางตัวหมดเงินเป็นแสนเป็นล้าน อัพตำแหน่ง ถ้าธุรกิจอยู่ได้ยาว จนสูบเลือดสูบเนื้อจากตัวล่างๆได้ ทัน ก็คุ้มอยู่ บางคนอาจจะรวยไปเลยก็ได้ แต่ถ้าตัวล่างเริ่มหาคนไม่ได้ ธุรกิจจะฝืดละ สุดท้าย ทุกย่างก็ล่มสลายเหลือไว้เป็นฝัน ตื่นนึง พร้อมหนี้ก้อนโต ของลูกข่าย ที่น่าเจ็บใจคือ ประเทศไทยพบเจอเรื่องราวแบบนี้มาหลายครั้ง พวกตัวหัวๆ บางตัว ปิดบริษัทเก่า ไปเปิดบริษัท ใหม่ ทำแบบนี้วนไปวนมา
แต่ประเทศไทยนับถือคนมีเงิน ไม่ว่าเงินนั้น จะหามาอย่างไร ถ้ามีเงินคนก็นับหน้าถือตา ดังนั้น เราจะเห็นคนรอบข้าง ตกเป็นเหยื่อ ของธุรกิจพวกนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า