โ-ค-ต-ร เห็นแก่ตัว

คนในตึกคงชม รปภ. ฝ่ายอาคารกันถ้วน
คนนอกตึก ที่รอไฟแดงจะไฟเขียว คงด่ากันทั้งเส้น

ปิดเลนเดียวยังพอรับได้ ในตึกออกมาแล้วอยากกลับรถ เข้าเลนขวา ก็ควรต้องมีมารยาท
ไปหาจุดกลับรถเอาข้างหน้าโน้น ไม่ใช่เห็นแก่ตัวแบบนี้
คันอื่นๆ เค้าจอดรอไฟแดงกันตั้งนาน แต่พอไฟเขียว กลับไปไม่ได้อีก
เพราะติดการเห็นแก่ตัวแบบนี้น่ะ

ไอ้พวกที่มากั้นนี่ ถ้าไม่มีคนสั่ง มันไม่กล้าทำหรอกครับ

ลำพังไม่ต้องกั้นรถ ถนนนราธิวาส ก็ติดท้ายแถว เกือบถึงแม๊คโครอยู่แล้ว

เคยบีบแตร ไม่ยอมให้มันกั้น พยายามจะเบียดรถไป ยามมันชี้หน้าด่าเลย ถ้าเรายังจะไปเถียงมัน มันถึงขั้นมาเอาเรื่องเลยนะ (อันนี้ ตึกอื่น)

ผมชื่นชม ตึกจามจุรีฯ (ไม่รู้ตอนนี้ ยังเป็นอย่างที่ผมพูดอยู่รึเปล่า)

ฝั่งถนน ตรงแยกสามย่านฝั่ง ฝั่งถนนพญาไท แม้ว่ายามจะออกมากันรถ ก็จริง ทั้ง 4 เลนให้รถที่ออกจากตึก จะไปกลับรถหรือเลี้ยงขวาที่สี่แยก

แต่ยาม จะปิดเลนเฉพาะตอนที่ไฟแดงท่านั้น คือ พอเห็นไฟแดงปั๊บ ยามจะไปเดินปิดไม่ให้รถมาจนเต็มสี่แยก แล้วให้รถที่ออกจากตึก วิ่งไปจนเต็มแค่พื้นที่ที่เขาปิด พอเต็มแล้ว ยามก็จะหยุดรถ จากตึก ไม่ให้ออกมาขวางทาง แล้วปล่อยให้รถที่จะเลี้ยงซ้ายผ่านตลอด ได้ไป พอไฟเขียว ยามก็จะไปอำนวยความสะดวกในถนน รอจน ไฟแดง จึงจะให้รถจากตึกออกมาอีกครั้ง

การกั้นถนนจำเป็นไหมสำหรับตึกที่ใหญ่ขนาดนี้? ถ้าประกอบกับน้ำใจในใช้รถ ใช้ถนนของคนไทยด้วย ผมคิดว่าจำเป็นในรูปแบบหนึ่งครับ
ผมทำงานในตึกที่อยู่ในแยกนั้น ใกล้ทางแยกเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ Empire นะครับ เล็กกว่าเอ็มไพร์ประมาณหนึ่งในเชิงพื้นที่เช่า ในวันแย่ๆ ถ้าผมขับเข้าออกตอนช่วงเวลาเร่งด่วนมากๆ มีรถติดในตึกเป็นชั่วโมงครับ

ที่บางความคิดเห็นบอกว่าการกั้นหมดทุกเลน ในภาพรวมแล้วจะดีกว่าการกั้นเลนเดียว ผมว่าอันนี้แล้วแต่มุมมองที่เรามองเลย ส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าวิธีนี้ทำให้ทางหลักได้ไปเร็วกว่ากั้นเลนเดียว รถทางหลักน่าจะช้าลง แต่ถ้าคุณเลือกมองอีกมุมหนึ่งว่า traffic บนตึกอีกสองพันเป็นส่วนหนึ่งของ Traffic ทั้งหมด แบบนั้นผมเชื่อว่าจริงนะครับ ( ผมไม่รู้ว่าการมุมมองว่านาย A อยู่ถนนหลัก นาย B อยู่ในตึกที่เป็นที่ส่วนตัว ไม่ใช่ทางหลวง ก็ไม่ควรจะมีสิทธิ์ก่อนคนบนถนนหลวงจะถูกหรือผิด หรือควรจะมองว่านาย A ก็หนึ่งคน นาย B ก็หนึ่งคน ซึ่งควรจะมีได้กลับบ้านไปหาครอบครัวในสิทธิที่เท่าๆกันก็ไม่รู้ ผมตอบไม่ได้จริงๆครับ

ในมุมมองของอุบัติเหตุ การกั้นทุกเลนช่วยได้เยอะมากแน่นอนครับ เพราะพวกเราก็รู้นิสัยกันเองดี ทางตรงเห็นไฟเขียว รถติดมา 15 นาที 20 นาทีแล้ว เป็นใครๆก็อยากรีบไป รีบเบียดให้พ้นแยก การจะทำใจให้รถกลับรถที่ไหลมาเป็นสายมาแทรกข้างหน้า ทำใจลำบากมาก ซึ่งเอ็มไพร์ ิยู่ใกล้ที่กลับรถมากครับ ใกล้ในที่นี้ลักษณะว่า ถ้าไม่ใช่เวลาเร่งด่วนที่รถเยอะ ก็จะสามารถชิดเพื่อกลับรถทัน แต่เวลาที่รถเยอะมากๆ ถ้าจะกลับรถตรงนั้น ต้องขัดใจทางหลักหลายคนแน่นอน ส่วนตัวผมเชื่อว่า ปริมาณความหงุดหงิดของคนในตึกกับคนทางหลักบวกกัน ถ้าไม่กั้น มีอุบัติเหตุเฉี่ยวชนวันเว้นวันแน่ๆ

สุดท้ายส่วนตัวผมเชื่อว่า การกั้นรถ จำเป็นครับสำหรับ Empire ส่วนการกั้น 1 เลนหรือสามเลนเป็นเรื่องที่จะต้องหาคำตอบ อย่างไรก็ดี การกั้นลักษณะนี้ต้องมีการ Balance ซึ่งส่วนตัวผมเห็นว่าคำว่า Balance ในที่นี้ไม่ใช่การ Balance แบบ 50/50 ด้วยครับ ควรจะต้องเป็นทางหลัก 70 รถในตึก 30 เพราะอย่างไร ทางหลักก็คือทางหลัก

ผมเชื่อว่าทางอาคารคงมีหลักการณ์ในวิธีการว่า จะกั้นตอนไหน ทุกกี่ไฟเขียว กั้นไปกี่วินาทีแล้วจึงจะคืนทางให้ทางหลัก ฯลฯ ถ้าเราใช้เวลามองนานขึ้นจนเห็นทั้งรอบ อาจพบว่าสัดส่วนการระบายรถในปัจจุบันนี้เป็น 70/30 อยู่แล้วก็ได้ (หรืออาจจะเป็นในทางตรงกันข้ามก็ได้)

ผมยังอยากให้เรามองกลับไปถึงวิธีคิดในการ share สังคมที่เราอยู่ ผมไม่ได้บอกว่าการกั้นถนนนี้ถูกหรือผิด แต่ก็อยากให้มองในมุมมองที่คิดถึงหัวอกและสิทธิของทั้งสองฝ่ายก่อนที่จะทะเลาะกัน ผมเชื่อว่าถ้าพวกเราขับรถกันมีน้ำใจ  เราเห็นรถออกจากตึก เราผลัดกันไปทีละคัน ถ้าเราไม่จอดทับเส้นเหลือง รถทางตรงจอดในเลนกลับรถเพื่อรอเบียด จนรถที่ออกจากตึกระบายไม่ได้ในช่วงไฟแดง ฯลฯ เราจะไม่ต้องมานั่งเถียงกันเลยครับว่าจะกั้นหรือไม่กั้น

สรุปว่ากั้นแบบนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้พวกออกจากตึกกลับรถได้โดยไม่ต้องเสียเวลา สะดวกสำหรับทุกคนในตึก

เกินไปค่ะ เซ็นทรัลพระรามสาม สีลมคอมเพล็กส์ ห้างใหญ่ๆเวลารถติดๆเต็มตึก เค้ากั้นกันก็แค่ครึ่งถนน

เท่าที่อ่าน ทุกคนที่เห็นด้วย มีเหตุผลสวยหรู หลักการแน่นเป๊ะมาซัพพอร์ทว่าทางตึกทำถูกต้องทุกประการ คนที่มาติดบนถนนก่อนก็รอไป เพราะระบบระบายรถตึกนี้ดี ระบายออกจากตึกยิ่งเร็ว ยิ่งดี ลดมลพิษ พลังงานในตึกด้วย คนอื่นรอไป อย่าได้บ่น

โชคดีมากที่ไม่ต้องผ่านตึกที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ เพื้อนๆที่ผ่านประจำ ถือว่าทำทานไปเถอะคะ แบบนี้คงเรียกแบ่งทางไม่ได้แล้ว