วันนี้ได้มีโอกาสไปดูหนัง อวสานหงสา ต้องบอกก่อนว่าเป็นแฟนหนังเรื่องนี้ ดูมาตั้งแต่ภาค1 เอาล่ะ เข้าเรื่องมาถึงภาค6 ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายแล้ว ..(เวลาวิจารณ์ขอเปรียบเทียบกับภาค1,2เป็นหลักครับ เพราะภาคนั้นทำไว้ได้ดีมากๆ)
เริ่มแรกมา ถือว่าดี เป็นฉากพระมหาอุปราชสิ้นพระชนม์ อะไรก็ว่าไป มาต่อที่เมืองหงสาวดี ขอพูดถึงฉากก่อน รู้สึกตัวเมืองจะเล็กลง ผิดกับสมัยภาค1,2 ที่หน้าท้องพระโรงเมืองหงสาจะยิ่งใหญ่มากๆ (อาจเป็นเพราะคนเยอะด้วยหรือป่าว) พื้นหลังอาทิตย์จะตกดูไม่ค่อยเนียนเท่าไร มาถึงนักแสดง คุณจักรกฤษณ์ (นันทบุเรง) แสดงได้ดีมากๆ ขนาดใส่หน้ากากอยู่ เรารู้เลยว่าเขารู้สึก นึกคิด อย่างไร รู้สึกกลัวมากๆ การเข้าไปสังหารพระพี่นาง ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจ และสงสารทั้งสองฝ่ายนะ คือ อีกฝ่ายก็เสียลูก ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลยเป็นแค่องค์ประกัน จุดนี้ ที่ผมว่ามันดีมากๆ
ต่อมาที่กรุงอโยธยา ม้าเร็วนำสารมา ก็ยังสะดุดตากับ CGนิดหน่อย อุปนิกขิตก็กล่าวรายงานถวายอะไรกันไป เป็นอีกฉากหนึ่งที่ นักแสดงเข้าถึงบทบาท พระนเรศวรพิโรธ ผู้พันเบิร์ดแสดงเก่งมากๆ แต่แล้ว เมื่อถึงฉากที่มหาเถรฯขอบิณฑบาตรเมืองหงสาวดีก็รู้เลยว่า อ๋อ! ภาพมันใหม่ขึ้น สดขึ้น CGเลยดูออกง่ายขึ้น ถ้าลองปรับโทนสีให้ดูเก่าๆเหมือนสมัยภาค1,2ผมว่า เรื่องCGอาจเนียนขึ้นนะครับ ต่อมาถึงฉากหงสาตอนนันทบุเรงไล่เตะก้นพวกอำมาตย์ไป นั่นแหล่ะ! โอโห ชอบมากๆ นักแสดงทุกคนเก่ง พวกอำมาตย์ก็กลัวกันจริงๆ สนมอะไรก็หนีไปตะโกนโวยวาย เป็นธรรมชาติมากๆครับ วิญญาณพระมหาอุปราชาออกมา นั้นเป็นจุดพีคที่ทำให้ผมเกิดสงสารพระเจ้านันทบุเรงอีกครั้ง พระองค์แค่ทรง อยากเป็นจักรพรรดิที่เก่งเหมือนบิดา ทรงทำทุกอย่างให้อาณาจักรของตัวเองรุ่งเรือง ฉากนั้นแหล่ะน้ำตาผมแทบซึม พระเจ้านันทบุเรงทรงรักพระอุปราชมากๆ ตอนบอกว่า "อย่าไป.." โอ้โห แบบสงสาร
มาถึงฉากตองอูครับ ไม่ต้องพูดถึง ครอบครัวเมืองตองอูแสดงได้ดีมากๆ อยากให้มีบทบาทของครอบครัวนี้เยอะๆด้วยซ้ำไป55555 แต่ขอตินิดหนึ่ง ถึงพระราชวังมยุรปางซองของตองอูจะอลังการ แต่การที่CGออกมาไม่เนียน ทำให้เมืองตองอูอันยิ่งใหญ่ กลายเป็นเมืองการ์ตูน ซึ่งจุดCGนี้เองที่ผมผิดหวังมากๆ นึกถึงตอนเมืองคัง กับตองอู มันเมืองในหุบเขาเหมือนกัน แต่ภาพเมืองต่างกันราวฟ้ากับดิน
ฉากตีเมาะตะมะเป็นฉากที่ผมตะลึงในความไม่เนียนของCGอีกครั้ง ถึงกับ งง เลยว่า "เห้ย มันบริษัทเดียวกับที่ทำภาค1,2แน่หรอ!!" เม้ยมะนิกเปิดตัวได้ดีครับ แต่ไม่น่าจะโล่งโจ้งขนาดนั้น ทัพเป็นเรือนแสน ผู้หญิงคนเดียว ถึงกับให้พระราชมนูกับพระเอกาฯ แค่2คนออกไป พระราชมนูสู้กับเม้ยมะนิกแบบ ห้ะ! พระราชมนูปกติต้องเก่งนิ แถมเป็นผู้หญิงด้วย น่าจะจับหอมแก้มซัก2-3ฟอดเหมือนภาค2นะครับ(น่าคิด ถ้าเอาเม้ยมะนิกกับเลอขิ่นมารบด้วยกัน) อันนี้โดนแม่เม้ยมะนิกคนเก่งไล่เตะอย่างเดียวเลย5555555 ส่วนการเผาเมืองหงสาวดี อยากจะให้มีฉากเผาเมืองจริงๆนะครับ รู้สึกจะข้ามไปเลย เมืองหงสาวดีที่เหลือแต่ซากไม่มีเค้าโครงของความเป็นเมืองหงสาวดีอยู่เลย จุดนี้ผมแอบผิดหวังเล็กน้อย เหมือนเอาไม้ เศษซากมาวางต่อๆกันเฉยๆ อย่างน้อยน่าจะมีซากรูปปั้น เค้าโครงเมืองเดิมให้เห็นบ้าง
มาต่อถึงการตีเมืองตองอู ซึ่งผมอยากให้มีฉากที่แบบว่า ขุดคลองระบายลงแม่น้ำสะโตง มีการยิงปืนใหญ่อย่างบ้าบิ่นเหมือนสมัยภาค2 ซึ่งถ้าจำกันได้ ตอนสุรกรรมมายกทัพตามมาก็เจอด่านต่างๆสกัดไว้ตลอด บ้าบิ่น มันส์ สุดๆเลยครับ มาภาคนี้ระเบิดลงเมืองตองอู นับว่าดีเลยทีเดียว สมจริงดีครับ พอมาถึงฉากพีคอีกฉากที่พระนเรศวรจะเข้าไปฆ่าพระเจ้านันทบุเรง ผมว่าเป็นจุดที่CGเนียนนะ 555 ความมืดกับแสงไฟ มันทำให้ เออเนียนกว่าตะกี้ ขอติกำแพงเมืองนิดหนึ่งครับ คือกำแพงเมืองตองอู ใครๆดูก็รู้ว่าเห้ยนี่มันกำแพงเมืองหงสาใช่ป่าวเนี่ย5555
ฉากปล้นเสบียง คนไม่ตาย! เอ็กซ์ตราไม่ได้เรื่องครับ ผมเห็นท้องยังขยับอยู่เลย ผมก็นั่งขำกับเพื่อน เห้ยคนตายท้องขยับ สงสัยยังไม่ตายดีนะ5555 และเป็นอีกครั้งที่ผมได้เห็นพระเจ้าแปร(จากสุริโยไท)และคุณดามพ์ ดัสกร(คนแสดงหนังจักรๆวงษ์ๆอย่างเก่งมาก)แอบนึกว่าจะมีฉากคุยกันหรือเปล่าปรากฎออกมาฉากเดียวซึ่งผมเสียดายที่บทเขาน้อย (ก็เวลามันจำกัด ดีไม่ดี อยากให้2คนนี้มีฉากเผาเมืองหงสาวดี)เหมือนเม้ยมะนิก ที่นึกว่าจะมีบทพอๆกับเลอขิ่น ที่ไหนได้ ออกมา2-3ฉาก ดราม่าน้ำตาตก สุดท้ายหายไปไหน? เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่า ท่ายมุ้ยยัดเยียดตัวละครเยอะๆมากเกินไปสุดท้ายก็ไม่มีที่ไปต้องจบแบบ ห้ะมันหายไปไหนวะ?! เหมือนรัตนาวดีกับแม่ทอมตอนภาค3
ฉากพีคอีกฉากครับ คือพระนเรศเข้าไปในพระราชวังของนันทบุเรง รู้สึกจะง่ายไปไหม ที่อยู่ดีๆแค่ข้ามคูคลองไป ทหารไม่ยิงธนูใส่หน่อยหรือ นี่มันศึกสงครามนะ! ควรจะเหมือนสมัยแอบเข้าปล้นเมืองแครงตอนภาค2 แอบเข้าไปหลังเมือง ฆ่าทหารเฝ้าประตู หรือไม่ก็ให้นัดจินหน่องแอบโยนเชือกลงมาให้พระนเรศกับพวก ปืนขึ้นไปเหมือนสมัยภาค1พระยาจักรี มาต่อเมื่อเข้าเมืองได้แล้ว ก็โอเคหมดทุกอย่างครับ คุณจักรกฤษณ์แสดงได้ดี จนมาสะดุดตรง อยู่ดีๆก็ตัดฉากมาที่วัดเลยหรือ?ไม่มีบรรยายหรือฉากถอนทัพ คนที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ก็จะงง ว่าอ่าว สรุปตีตองอูได้ไหม?
พูดคุยกับหลวงตาพอหอมปากหอมคอ ก็มาถึงฉากพีคอีกแล้ว ซึ่งดูเหมือนฉากนี้ผมก็น้ำตาไหลเหมือนกันนะ แต่มันก็ดำเนินเรื่องเร็วไป แบบ อยู่ดีๆมานอนบนเตียงเลยหรือ จะไม่ท้าวความก่อนหรือว่าเป็นอะไร เป็นได้ยังไง พระนเรศวรพูดยืดยาวมากๆครับ แต่แทนที่จะรำคาญผมกลับน้ำตาซึม ตอนบุญทิ้งมาจับมือพระนเรศวรไว้ ทำให้ผมคิดไปว่า เห้ยเมื่อก่อน 2คนนี้ไงที่เคยเจอกันในตลาด 2คนนี้ไงที่เคยแอบเอาไก่ไปชน 2คนนี้ไงที่เคยโดนหลวงตาตีก้นสมัยเด็กๆ มาคราวนี้ต้องแยกจากกันเพราะคนใดคนหนึ่งจะมีอันเป็นไปหรือ? พระชัยบุรีเอง ผมก็นึกถึงตอนเขาเป่ายิงฉุบกับพระศรีถมอรัตน์เพื่อเข้าเฝ้าพระนเรศวร พระชัยมีชื่อผู้นี้ไงที่เคยบุกตีเมืองคังจนตาต้องบอด พระชัยคนนี้ไงที่นำกองไฟสกัดทัพสุรกรรมาอย่างบ้าบิ่น ตอนนี้ถึงจุดที่ทุกคนจะหายไปแล้วหรือ เมื่อมาถึงฉากพระเอกาทศรถ ผมก็หลั่งน้ำตาไว้ไม่อยู่เลย ผู้พันต๊อดแสดงได้จนผมร้องไห้ แกร้องผมก็ร้องด้วย ผมมองว่าผู้พันต๊อดแสดงฉากนี้ได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ที่ผู้พันต๊อดแสดงมา
ฉากสุดท้ายผมแอบเสียดาย ตามประวัติศาสตร์แล้ว หลังจากสมเด็จพระนเรศสิ้นพระชมน์ไป เราก็ไม่ได้บุกต่อถึงอังวะ แต่กลับมาสร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมืองแทน ปนิธาน ของสมเด็จพระนเรศวรไม่ได้สำเร็จตามที่ทรงคิดไว้ แต่เชื่อเถอะหากพระองค์ทรงรับรู้ พระองค์ต้องพอพระทัยในการตัดสินพระทัยของพระอนุชาผู้นี้ ลองวิเคราะห์ดูเล่นๆว่าหากพระเอกานำทัพสยามบุกต่อ ถึงชนะแต่ไพร่พลทรัพย์สินก็จะพังพินาศไปกับสงคราม สมัยต่อมาอาจรักษาเมืองไว้ไม่อยู่เหมือน พระเจ้านันทบุเรงก็เป็นได้
เอาละกลับมาต่อ ผมน้ำตาไหลพรากๆจนฉากที่พระองค์ทรงสวมชุดเกราะ แสดงถึงความเป็น The best warrior of thailand จนกระทั่งสวรรคต บางคนบอกว่าเลียนแบบเอลซิด ผมบอกเลยไม่ เพราะถึงสเปนจะติดต่อค้าขายกับอโยธยา แต่พวกพ่อค้ามันก็มาเพื่อเผยแพร่ศาสนา ไม่ใช่มาเผยแพร่ประวัติศาสตร์ อีกทั้งหลักฐานในประวัติศาสตร์ที่ดร.สุเนตรเคยบอกไว้ ก็เป็นแบบนี้ ผมมองว่าเราไม่ได้เลียนแบบเอลซิด แต่มันเหมือนกันเฉยๆ เพียงแต่เราไม่รู้ เพราะประวัติศาสตร์สอนไว้ถึงแค่ทำศึกยุทธหัตถี ไม่ได้สอนเจาะลึกถึงอื่นๆ ทำให้เรามองว่าไทยลอกของชาติอื่นมา
โดยรวมนะครับ
ข้อดี : นักแสดง การแสดง ส่วนใหญ่แสดงได้เก่งมากๆ ขอชื่นชมทุกๆคนเลย ไม่แข็งไม่สะดุด โดยเฉพาะครอบครัวตองอู พระนเรศ พระเจ้านันทบุเรง พระเอกาทศรถ เม้ยมะนิก ทุกคนเล่นกันเต็มที่ รบก็รบกันมันส์(ถ้าไม่ติดCG) ดำเนินเรื่องรวดเร็วผิดกับภาค3,4,5 ที่อืดๆยืดยาด อยากให้เวลาเปลี่ยนฉากมีซาวด์เหมือนภาค1 (ที่แบบ สมมุติพระมหาธรรมราชาพูดจบก็จะ ฟู้มมม เปลี่ยนฉากไปเมืองหงสา แล้วก็ฟู้มมเปลี่ยนฉากอีก ใครนึกไม่ออกไปดูภาค1นะครับ เวลาเปลี่ยนฉากจะมีเสียงเอฟเฟคซึ่งมันดูอลังการ) ถ้าเอาภาค3+4, 5+6ตัดส่วนไม่จำเป็น อาทิรัตนาวดี ทอม และฉากเลิฟซีน ดราม่าของเลอขิ่น หาญฟ้า บลาๆออกไป ปรับโทนสีให้ดูเก่าๆอย่าให้สดใสมาก CGจะดูออกง่าย จะดีมากๆครับ)
ข้อเสีย : CG คอมพิวเตอร์กราฟิคไม่เนียน และใส่มาพร่ำเพรื่อ ใส่มาเยอะเกิน จนบางฉากผมก็คิดว่า เห้ยถ่ายแถวๆภูเขาเมืองกาญจน์ก็ได้มั้ง เหมือนที่ละครจักรๆวงษ์ๆไปถ่ายทำกัน แทนที่จะใช้CGพร่ำเพรื่อ ฉากป่าดง ภูเขาไม่เห็นต้องใช้CGทำเลย งบCGน่าจะเอาไปใช้ในจุดที่มันต้องทำจริงๆอย่างเมืองเมาะตะมะ เมืองตองอู พระนอน ควรเนียนกว่านี้ และความยาวของหนัง ที่สั้นเกินไป การเอาตัวละครจับมาใส่ยัดๆไว้โดยไม่มีที่ไป ทำให้เรา เซ็ง! ว่าอ่าว สรุป มาแค่นี้เหรอ ยังไงก็รอดูเวอร์ชั่นเต็มจาก DVD นะครับ
วิจารณ์หนัง อวสานหงสา (มีสปอย)
เริ่มแรกมา ถือว่าดี เป็นฉากพระมหาอุปราชสิ้นพระชนม์ อะไรก็ว่าไป มาต่อที่เมืองหงสาวดี ขอพูดถึงฉากก่อน รู้สึกตัวเมืองจะเล็กลง ผิดกับสมัยภาค1,2 ที่หน้าท้องพระโรงเมืองหงสาจะยิ่งใหญ่มากๆ (อาจเป็นเพราะคนเยอะด้วยหรือป่าว) พื้นหลังอาทิตย์จะตกดูไม่ค่อยเนียนเท่าไร มาถึงนักแสดง คุณจักรกฤษณ์ (นันทบุเรง) แสดงได้ดีมากๆ ขนาดใส่หน้ากากอยู่ เรารู้เลยว่าเขารู้สึก นึกคิด อย่างไร รู้สึกกลัวมากๆ การเข้าไปสังหารพระพี่นาง ทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจ และสงสารทั้งสองฝ่ายนะ คือ อีกฝ่ายก็เสียลูก ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลยเป็นแค่องค์ประกัน จุดนี้ ที่ผมว่ามันดีมากๆ
ต่อมาที่กรุงอโยธยา ม้าเร็วนำสารมา ก็ยังสะดุดตากับ CGนิดหน่อย อุปนิกขิตก็กล่าวรายงานถวายอะไรกันไป เป็นอีกฉากหนึ่งที่ นักแสดงเข้าถึงบทบาท พระนเรศวรพิโรธ ผู้พันเบิร์ดแสดงเก่งมากๆ แต่แล้ว เมื่อถึงฉากที่มหาเถรฯขอบิณฑบาตรเมืองหงสาวดีก็รู้เลยว่า อ๋อ! ภาพมันใหม่ขึ้น สดขึ้น CGเลยดูออกง่ายขึ้น ถ้าลองปรับโทนสีให้ดูเก่าๆเหมือนสมัยภาค1,2ผมว่า เรื่องCGอาจเนียนขึ้นนะครับ ต่อมาถึงฉากหงสาตอนนันทบุเรงไล่เตะก้นพวกอำมาตย์ไป นั่นแหล่ะ! โอโห ชอบมากๆ นักแสดงทุกคนเก่ง พวกอำมาตย์ก็กลัวกันจริงๆ สนมอะไรก็หนีไปตะโกนโวยวาย เป็นธรรมชาติมากๆครับ วิญญาณพระมหาอุปราชาออกมา นั้นเป็นจุดพีคที่ทำให้ผมเกิดสงสารพระเจ้านันทบุเรงอีกครั้ง พระองค์แค่ทรง อยากเป็นจักรพรรดิที่เก่งเหมือนบิดา ทรงทำทุกอย่างให้อาณาจักรของตัวเองรุ่งเรือง ฉากนั้นแหล่ะน้ำตาผมแทบซึม พระเจ้านันทบุเรงทรงรักพระอุปราชมากๆ ตอนบอกว่า "อย่าไป.." โอ้โห แบบสงสาร
มาถึงฉากตองอูครับ ไม่ต้องพูดถึง ครอบครัวเมืองตองอูแสดงได้ดีมากๆ อยากให้มีบทบาทของครอบครัวนี้เยอะๆด้วยซ้ำไป55555 แต่ขอตินิดหนึ่ง ถึงพระราชวังมยุรปางซองของตองอูจะอลังการ แต่การที่CGออกมาไม่เนียน ทำให้เมืองตองอูอันยิ่งใหญ่ กลายเป็นเมืองการ์ตูน ซึ่งจุดCGนี้เองที่ผมผิดหวังมากๆ นึกถึงตอนเมืองคัง กับตองอู มันเมืองในหุบเขาเหมือนกัน แต่ภาพเมืองต่างกันราวฟ้ากับดิน
ฉากตีเมาะตะมะเป็นฉากที่ผมตะลึงในความไม่เนียนของCGอีกครั้ง ถึงกับ งง เลยว่า "เห้ย มันบริษัทเดียวกับที่ทำภาค1,2แน่หรอ!!" เม้ยมะนิกเปิดตัวได้ดีครับ แต่ไม่น่าจะโล่งโจ้งขนาดนั้น ทัพเป็นเรือนแสน ผู้หญิงคนเดียว ถึงกับให้พระราชมนูกับพระเอกาฯ แค่2คนออกไป พระราชมนูสู้กับเม้ยมะนิกแบบ ห้ะ! พระราชมนูปกติต้องเก่งนิ แถมเป็นผู้หญิงด้วย น่าจะจับหอมแก้มซัก2-3ฟอดเหมือนภาค2นะครับ(น่าคิด ถ้าเอาเม้ยมะนิกกับเลอขิ่นมารบด้วยกัน) อันนี้โดนแม่เม้ยมะนิกคนเก่งไล่เตะอย่างเดียวเลย5555555 ส่วนการเผาเมืองหงสาวดี อยากจะให้มีฉากเผาเมืองจริงๆนะครับ รู้สึกจะข้ามไปเลย เมืองหงสาวดีที่เหลือแต่ซากไม่มีเค้าโครงของความเป็นเมืองหงสาวดีอยู่เลย จุดนี้ผมแอบผิดหวังเล็กน้อย เหมือนเอาไม้ เศษซากมาวางต่อๆกันเฉยๆ อย่างน้อยน่าจะมีซากรูปปั้น เค้าโครงเมืองเดิมให้เห็นบ้าง
มาต่อถึงการตีเมืองตองอู ซึ่งผมอยากให้มีฉากที่แบบว่า ขุดคลองระบายลงแม่น้ำสะโตง มีการยิงปืนใหญ่อย่างบ้าบิ่นเหมือนสมัยภาค2 ซึ่งถ้าจำกันได้ ตอนสุรกรรมมายกทัพตามมาก็เจอด่านต่างๆสกัดไว้ตลอด บ้าบิ่น มันส์ สุดๆเลยครับ มาภาคนี้ระเบิดลงเมืองตองอู นับว่าดีเลยทีเดียว สมจริงดีครับ พอมาถึงฉากพีคอีกฉากที่พระนเรศวรจะเข้าไปฆ่าพระเจ้านันทบุเรง ผมว่าเป็นจุดที่CGเนียนนะ 555 ความมืดกับแสงไฟ มันทำให้ เออเนียนกว่าตะกี้ ขอติกำแพงเมืองนิดหนึ่งครับ คือกำแพงเมืองตองอู ใครๆดูก็รู้ว่าเห้ยนี่มันกำแพงเมืองหงสาใช่ป่าวเนี่ย5555
ฉากปล้นเสบียง คนไม่ตาย! เอ็กซ์ตราไม่ได้เรื่องครับ ผมเห็นท้องยังขยับอยู่เลย ผมก็นั่งขำกับเพื่อน เห้ยคนตายท้องขยับ สงสัยยังไม่ตายดีนะ5555 และเป็นอีกครั้งที่ผมได้เห็นพระเจ้าแปร(จากสุริโยไท)และคุณดามพ์ ดัสกร(คนแสดงหนังจักรๆวงษ์ๆอย่างเก่งมาก)แอบนึกว่าจะมีฉากคุยกันหรือเปล่าปรากฎออกมาฉากเดียวซึ่งผมเสียดายที่บทเขาน้อย (ก็เวลามันจำกัด ดีไม่ดี อยากให้2คนนี้มีฉากเผาเมืองหงสาวดี)เหมือนเม้ยมะนิก ที่นึกว่าจะมีบทพอๆกับเลอขิ่น ที่ไหนได้ ออกมา2-3ฉาก ดราม่าน้ำตาตก สุดท้ายหายไปไหน? เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่า ท่ายมุ้ยยัดเยียดตัวละครเยอะๆมากเกินไปสุดท้ายก็ไม่มีที่ไปต้องจบแบบ ห้ะมันหายไปไหนวะ?! เหมือนรัตนาวดีกับแม่ทอมตอนภาค3
ฉากพีคอีกฉากครับ คือพระนเรศเข้าไปในพระราชวังของนันทบุเรง รู้สึกจะง่ายไปไหม ที่อยู่ดีๆแค่ข้ามคูคลองไป ทหารไม่ยิงธนูใส่หน่อยหรือ นี่มันศึกสงครามนะ! ควรจะเหมือนสมัยแอบเข้าปล้นเมืองแครงตอนภาค2 แอบเข้าไปหลังเมือง ฆ่าทหารเฝ้าประตู หรือไม่ก็ให้นัดจินหน่องแอบโยนเชือกลงมาให้พระนเรศกับพวก ปืนขึ้นไปเหมือนสมัยภาค1พระยาจักรี มาต่อเมื่อเข้าเมืองได้แล้ว ก็โอเคหมดทุกอย่างครับ คุณจักรกฤษณ์แสดงได้ดี จนมาสะดุดตรง อยู่ดีๆก็ตัดฉากมาที่วัดเลยหรือ?ไม่มีบรรยายหรือฉากถอนทัพ คนที่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ก็จะงง ว่าอ่าว สรุปตีตองอูได้ไหม?
พูดคุยกับหลวงตาพอหอมปากหอมคอ ก็มาถึงฉากพีคอีกแล้ว ซึ่งดูเหมือนฉากนี้ผมก็น้ำตาไหลเหมือนกันนะ แต่มันก็ดำเนินเรื่องเร็วไป แบบ อยู่ดีๆมานอนบนเตียงเลยหรือ จะไม่ท้าวความก่อนหรือว่าเป็นอะไร เป็นได้ยังไง พระนเรศวรพูดยืดยาวมากๆครับ แต่แทนที่จะรำคาญผมกลับน้ำตาซึม ตอนบุญทิ้งมาจับมือพระนเรศวรไว้ ทำให้ผมคิดไปว่า เห้ยเมื่อก่อน 2คนนี้ไงที่เคยเจอกันในตลาด 2คนนี้ไงที่เคยแอบเอาไก่ไปชน 2คนนี้ไงที่เคยโดนหลวงตาตีก้นสมัยเด็กๆ มาคราวนี้ต้องแยกจากกันเพราะคนใดคนหนึ่งจะมีอันเป็นไปหรือ? พระชัยบุรีเอง ผมก็นึกถึงตอนเขาเป่ายิงฉุบกับพระศรีถมอรัตน์เพื่อเข้าเฝ้าพระนเรศวร พระชัยมีชื่อผู้นี้ไงที่เคยบุกตีเมืองคังจนตาต้องบอด พระชัยคนนี้ไงที่นำกองไฟสกัดทัพสุรกรรมาอย่างบ้าบิ่น ตอนนี้ถึงจุดที่ทุกคนจะหายไปแล้วหรือ เมื่อมาถึงฉากพระเอกาทศรถ ผมก็หลั่งน้ำตาไว้ไม่อยู่เลย ผู้พันต๊อดแสดงได้จนผมร้องไห้ แกร้องผมก็ร้องด้วย ผมมองว่าผู้พันต๊อดแสดงฉากนี้ได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ที่ผู้พันต๊อดแสดงมา
ฉากสุดท้ายผมแอบเสียดาย ตามประวัติศาสตร์แล้ว หลังจากสมเด็จพระนเรศสิ้นพระชมน์ไป เราก็ไม่ได้บุกต่อถึงอังวะ แต่กลับมาสร้างสรรค์พัฒนาบ้านเมืองแทน ปนิธาน ของสมเด็จพระนเรศวรไม่ได้สำเร็จตามที่ทรงคิดไว้ แต่เชื่อเถอะหากพระองค์ทรงรับรู้ พระองค์ต้องพอพระทัยในการตัดสินพระทัยของพระอนุชาผู้นี้ ลองวิเคราะห์ดูเล่นๆว่าหากพระเอกานำทัพสยามบุกต่อ ถึงชนะแต่ไพร่พลทรัพย์สินก็จะพังพินาศไปกับสงคราม สมัยต่อมาอาจรักษาเมืองไว้ไม่อยู่เหมือน พระเจ้านันทบุเรงก็เป็นได้
เอาละกลับมาต่อ ผมน้ำตาไหลพรากๆจนฉากที่พระองค์ทรงสวมชุดเกราะ แสดงถึงความเป็น The best warrior of thailand จนกระทั่งสวรรคต บางคนบอกว่าเลียนแบบเอลซิด ผมบอกเลยไม่ เพราะถึงสเปนจะติดต่อค้าขายกับอโยธยา แต่พวกพ่อค้ามันก็มาเพื่อเผยแพร่ศาสนา ไม่ใช่มาเผยแพร่ประวัติศาสตร์ อีกทั้งหลักฐานในประวัติศาสตร์ที่ดร.สุเนตรเคยบอกไว้ ก็เป็นแบบนี้ ผมมองว่าเราไม่ได้เลียนแบบเอลซิด แต่มันเหมือนกันเฉยๆ เพียงแต่เราไม่รู้ เพราะประวัติศาสตร์สอนไว้ถึงแค่ทำศึกยุทธหัตถี ไม่ได้สอนเจาะลึกถึงอื่นๆ ทำให้เรามองว่าไทยลอกของชาติอื่นมา
โดยรวมนะครับ
ข้อดี : นักแสดง การแสดง ส่วนใหญ่แสดงได้เก่งมากๆ ขอชื่นชมทุกๆคนเลย ไม่แข็งไม่สะดุด โดยเฉพาะครอบครัวตองอู พระนเรศ พระเจ้านันทบุเรง พระเอกาทศรถ เม้ยมะนิก ทุกคนเล่นกันเต็มที่ รบก็รบกันมันส์(ถ้าไม่ติดCG) ดำเนินเรื่องรวดเร็วผิดกับภาค3,4,5 ที่อืดๆยืดยาด อยากให้เวลาเปลี่ยนฉากมีซาวด์เหมือนภาค1 (ที่แบบ สมมุติพระมหาธรรมราชาพูดจบก็จะ ฟู้มมม เปลี่ยนฉากไปเมืองหงสา แล้วก็ฟู้มมเปลี่ยนฉากอีก ใครนึกไม่ออกไปดูภาค1นะครับ เวลาเปลี่ยนฉากจะมีเสียงเอฟเฟคซึ่งมันดูอลังการ) ถ้าเอาภาค3+4, 5+6ตัดส่วนไม่จำเป็น อาทิรัตนาวดี ทอม และฉากเลิฟซีน ดราม่าของเลอขิ่น หาญฟ้า บลาๆออกไป ปรับโทนสีให้ดูเก่าๆอย่าให้สดใสมาก CGจะดูออกง่าย จะดีมากๆครับ)
ข้อเสีย : CG คอมพิวเตอร์กราฟิคไม่เนียน และใส่มาพร่ำเพรื่อ ใส่มาเยอะเกิน จนบางฉากผมก็คิดว่า เห้ยถ่ายแถวๆภูเขาเมืองกาญจน์ก็ได้มั้ง เหมือนที่ละครจักรๆวงษ์ๆไปถ่ายทำกัน แทนที่จะใช้CGพร่ำเพรื่อ ฉากป่าดง ภูเขาไม่เห็นต้องใช้CGทำเลย งบCGน่าจะเอาไปใช้ในจุดที่มันต้องทำจริงๆอย่างเมืองเมาะตะมะ เมืองตองอู พระนอน ควรเนียนกว่านี้ และความยาวของหนัง ที่สั้นเกินไป การเอาตัวละครจับมาใส่ยัดๆไว้โดยไม่มีที่ไป ทำให้เรา เซ็ง! ว่าอ่าว สรุป มาแค่นี้เหรอ ยังไงก็รอดูเวอร์ชั่นเต็มจาก DVD นะครับ