พอดีเล่นเฟส ละมาเห็นพี่คนหนึ่งที่ไปดู พระนเรศวร ภาคใหม่มา ละพี่เขาเอามาวิจารย์ให้เห็นมุมมอง ความเป็นไปเป็นมาของแต่ละฉากแต่ละตอน อ่านแล้วก็เข้าใจตรงดี แต่คนมาวิจารย์น้อย เลยลองเอามาแชร์ในนี้ดู มาอ่านกันเลย
\/\/\/\/\/
ขี้เกียจรีวิวเนื้อเรื่อง เอาเป็นว่าตามตัวอย่างเป๊ะ ๆ แล้วจบที่การสวรรคตอย่างกษัตริย์ชาตินักรบ
.
ภาคนี้เหมือนมาต่อเติมความแหว่งวิ่นของภาค 5 ให้สมบูรณ์ สิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องคือการนำเสนอความสัมพันธ์พ่อลูก ระหว่างนันทบุเรงกับพระมหาอุปราชา ... คือทำได้ดีมาก ภาคนี้มีบทพระมหาอุปราชาด้วย กลับมาแบบมีพลังสุด ๆ เลย
.
ภาคนี้สนุก และถือว่าดีที่สุดตั้งแต่ภาค 3 เป็นต้นมา
ครึ่งแรกนี่มันส์มาก ลุ้นด้วย จับใจเลยล่ะ
(ภาค 3 เนิบมาก, ภาค 4 ก็ใช้เวลาครึ่งนึงไปกับเรื่องผัวเมียของไอ้ทิ้ง, ภาค 5 ก็เขียนบทเอ๋อ ๆ เหมือนหนังตลก)
.
อีกอย่างดีที่สุดคือ ภาคนี้ไม่มีเพลงประกอบโหยหวนทำลายประสาทแบบตอนภาค 5 แล้ว ขอบคุณท่านมุ้ย!!
.
อาหนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา เล่นดีมาก ... ดีที่สุดในเรื่องเลย เป็นเจ้าเมืองตองอู คือฉลาด เจ้าเล่ห์ มีมาด แต่สุดท้ายก็หายไปดื้อ ๆ ... ผู้พันเบิร์ดยัง "แข็ง" เสมอต้นเสมอปลาย แทบจะหน้าเดียวตลอดเรื่อง
.
มีตัวละครใหม่ชื่อ 'เม้ยมะนิก' นางเป็นนักรบ เป็นธิดาเจ้าเมืองเมาะตะมะ นางเก่งมาก นางบู๊แหลก นางดราม่าเยี่ยม นางได้ขึ้นโปสเตอร์ .... แต่นางไม่มีความสำคัญห่าาาาาาอะไรกับเนื้อเรื่องเลย!! ออกมา 3 ฉากเองมั้ง มีบทนี้ขึ้นมาเพื่อจะโปรโมทดาราแท้ ๆ
อีโมติคอน squint
.
อันที่จริง ตัวละครหลาย ๆ ตัวที่ปรากฏบนโปสเตอร์ ไม่มีบทบาทเลย ไม่มีบทพูดด้วยซ้ำ ดูจบแล้วยังไม่เห็นเลยว่าโผล่มาในฉากไหนและทำอะไร
.
ความ
ของภาคนี้คือ บ้า CG มาก ใส่มาเยอะเว่อร์ทั้งเรื่อง บางอันไม่ต้องใส่ก็ใส่จั๊งงงงง!! ... แม่น้ำ ภูเขา ไฟ ต้นไม้ใบหญ้า ผู้คน พระพุทธรูปใหญ่ ๆ เจดีย์ผุ ๆ พระอาทิตย์ แม้กระทั่งก้อนเมฆที่ลอยไปมาก็ยังเป็น CG ... แล้วคือไม่เนียนอย่างแรงไง ถ้าเนียนจะไม่ว่าเลย ... คนทำคงมั่นมากว่าฝีมือตัวเองดี เหอะ ๆ ๆ
.
มี Climax ในภาคนี้หลายตอน แต่พอจะถึงจุดที่ว่าก็ตัดฉับซะงั้น แล้วมาใช้วิธีให้ตัวละครเล่าเรื่องทีหลังแทน ... คืออารมณ์ค้างมาก ๆ
.
ช่วงหลังเขียนบทไม่ดีเลย นึกจะให้พระนเรศวรประชวร ก็เอาฉากที่บรรทมบนเตียงขึ้นมาเลยซะงั้น ไม่มีที่มาที่ไปว่าประชวรเป็นอะไร แล้วยังไงต่อ จากนี้ยังไง ตัวละครที่โผล่มาตอนแรก ๆ หายหัวไปไหน ... คือใช้เวลาช่วงสุดท้ายของหนังเพื่อเชิดชูแล้วเชิดชูอีกให้คนดูตระหนักในความเป็นกษัตริย์ชาตินักรบของสมเด็จพระนเรศวร แต่ลืมรายละเอียดอื่น ๆ ไปหมดสิ้น
.
ดีใจแทนท่านมุ้ย ดีใจแทนนักดูหนังหลาย ๆ คน ที่ในที่สุดเรื่องนี้ก็จบซะที
นเรศวร มหาราช อวสานหงสา จากปลายปากกานักวิจารย์ชั่นนำของเมืองไทย
\/\/\/\/\/
ขี้เกียจรีวิวเนื้อเรื่อง เอาเป็นว่าตามตัวอย่างเป๊ะ ๆ แล้วจบที่การสวรรคตอย่างกษัตริย์ชาตินักรบ
.
ภาคนี้เหมือนมาต่อเติมความแหว่งวิ่นของภาค 5 ให้สมบูรณ์ สิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องคือการนำเสนอความสัมพันธ์พ่อลูก ระหว่างนันทบุเรงกับพระมหาอุปราชา ... คือทำได้ดีมาก ภาคนี้มีบทพระมหาอุปราชาด้วย กลับมาแบบมีพลังสุด ๆ เลย
.
ภาคนี้สนุก และถือว่าดีที่สุดตั้งแต่ภาค 3 เป็นต้นมา
ครึ่งแรกนี่มันส์มาก ลุ้นด้วย จับใจเลยล่ะ
(ภาค 3 เนิบมาก, ภาค 4 ก็ใช้เวลาครึ่งนึงไปกับเรื่องผัวเมียของไอ้ทิ้ง, ภาค 5 ก็เขียนบทเอ๋อ ๆ เหมือนหนังตลก)
.
อีกอย่างดีที่สุดคือ ภาคนี้ไม่มีเพลงประกอบโหยหวนทำลายประสาทแบบตอนภาค 5 แล้ว ขอบคุณท่านมุ้ย!!
.
อาหนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา เล่นดีมาก ... ดีที่สุดในเรื่องเลย เป็นเจ้าเมืองตองอู คือฉลาด เจ้าเล่ห์ มีมาด แต่สุดท้ายก็หายไปดื้อ ๆ ... ผู้พันเบิร์ดยัง "แข็ง" เสมอต้นเสมอปลาย แทบจะหน้าเดียวตลอดเรื่อง
.
มีตัวละครใหม่ชื่อ 'เม้ยมะนิก' นางเป็นนักรบ เป็นธิดาเจ้าเมืองเมาะตะมะ นางเก่งมาก นางบู๊แหลก นางดราม่าเยี่ยม นางได้ขึ้นโปสเตอร์ .... แต่นางไม่มีความสำคัญห่าาาาาาอะไรกับเนื้อเรื่องเลย!! ออกมา 3 ฉากเองมั้ง มีบทนี้ขึ้นมาเพื่อจะโปรโมทดาราแท้ ๆ
อีโมติคอน squint
.
อันที่จริง ตัวละครหลาย ๆ ตัวที่ปรากฏบนโปสเตอร์ ไม่มีบทบาทเลย ไม่มีบทพูดด้วยซ้ำ ดูจบแล้วยังไม่เห็นเลยว่าโผล่มาในฉากไหนและทำอะไร
.
ความ
.
มี Climax ในภาคนี้หลายตอน แต่พอจะถึงจุดที่ว่าก็ตัดฉับซะงั้น แล้วมาใช้วิธีให้ตัวละครเล่าเรื่องทีหลังแทน ... คืออารมณ์ค้างมาก ๆ
.
ช่วงหลังเขียนบทไม่ดีเลย นึกจะให้พระนเรศวรประชวร ก็เอาฉากที่บรรทมบนเตียงขึ้นมาเลยซะงั้น ไม่มีที่มาที่ไปว่าประชวรเป็นอะไร แล้วยังไงต่อ จากนี้ยังไง ตัวละครที่โผล่มาตอนแรก ๆ หายหัวไปไหน ... คือใช้เวลาช่วงสุดท้ายของหนังเพื่อเชิดชูแล้วเชิดชูอีกให้คนดูตระหนักในความเป็นกษัตริย์ชาตินักรบของสมเด็จพระนเรศวร แต่ลืมรายละเอียดอื่น ๆ ไปหมดสิ้น
.
ดีใจแทนท่านมุ้ย ดีใจแทนนักดูหนังหลาย ๆ คน ที่ในที่สุดเรื่องนี้ก็จบซะที