Little forest ป่าเล็กๆ ของเราที่เราสร้างขึ้น
ชนบทที่เเสนงดงาม ดูเเล้วรู้สึกว่าธรรมชาติมันสวยจริงๆ
#######ขอเเก้ตัวสักนิด ที่ว่าชวนไปดูนี้อยากขอเตือนเลยว่า มันเป็นหนังที่พล็อตไม่ท้าทายเลย สุดเเสนจะธรรมดา
เมื่อได้ดูเทรลเลอร์เรื่องนี้แล้ว มันไม่ได้ทำให้เราอยากดูสุดๆ แค่เพราะเราอยากปัดฝุ่นสกิลภาษาญี่ปุ่นและดูฉากในเรื่องแล้วทำให้คิดถึงสมัยเคยไปอยู่ที่นั่นมา และรู้จักเพลงประกอบเราก็เลยตัดสินใจว่าถ้าเข้าเมื่อไหร่จะไปดู
วันนี้ก็เลยไปดูมาละค่ะ
ภาษาง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเสียงนางเอกที่เป็นคนดำเนินเรื่องฟังออกได้ไม่ยาก บวกกับภาษาถิ่นบ้าง
นางเอกย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดที่ โคโมริ ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อเรื่องน่าจะมาจากชื่อบ้านเกิดนางเอกค่ะ โคโมริเดาว่าคันจิน่าจะมาจาก เด็ก บวกกับ ป่า เป็น little forest ซึ่งเราว่าไอเดียตั้งชื่อนี้น่ารักมาก เเละหนังสร้างมาจากการ์ตูนค่ะ
เปิดเรื่องมา ถ้าเป็นคนที่เกลียดสารคดีรายการเกษตรหรือรายการทำอาหารคงดูหนังเรื่องนี้ไม่ได้แน่ๆ ถ้าหวังว่าจะได้ไปดูหนังที่มีพล็อตชัดเจน มีพระเอกมีจุดพีค เรื่องนี้คงไม่มีให้ค่ะ ลิตเติ้ลฟอเรสคือส่วนผสมจากสารคดีเกษตรบวกโฟโต้บุ้คภาพธรรมชาติและรายการอาหารเพื่อสุขภาพหรืออาหารโฮมเมดโดยแท้ ลิตเติ้ลฟอเรสคือไดอารี่ชีวิตของ อิชิโกะ หญิงสาวซึ่งกลับมาที่บ้านเกิด และทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นนากว้างๆ หรือสวนเล็กๆ วูดสเตอร์ซอส นูเทลล่า สาเกหวาน หรือเป็ดย่าง ไปจนถึงฟืน ดำเนินเรื่องก็จะได้เห็นความเอาใจใส่ของหญิงสาวต่อทุกอย่างรอบตัว
ตัวหนังจะแบ่งเป็นเป็นสี่ภาคย่อย สองภาคหลัก คือ summer/autumn และ winter/spring และในตแต่ละภาคก็แบ่งย่อยเป็นตอนๆ หั่นเป็น 1st dish 2nd dish 3rd dish etc。。。
SUMMER และ AUTUMN ตัวหนังจะแบ่งเป็นสองภาคในภาคเดียวกันนี่แหละ?โดยแต่ละภาคก็มีเอนดิ้งและโอเพนนิ่งของมันเอง มีเพลงประกอบของตัวเอง ทั้งๆที่ฉายติดกันนี่แหละ และเปิดเรื่องนางเอกจะพูดเหมือนเดิมเปี๊ยบถึงบ้านเกิดโคโฒริที่อยู่กลางหุบเขาของโทโฮขุ และต้องใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองนานแค่ไหน แต่ว่าฤดูเปลี่ยนไป ไดอารี่ของเธอก็เปลี่ยนไปด้วย จากฤดูร้อนที่มีเสียงจักจั่นเป็นแบคกราวน์ และใบไม้ใบหญ้าต้นข้าวเขียวขจ จ้ากผลไม้หน้าร้อน ผลไม้ก็เริ่มเปลี่ยชนิด ใบไม้ก็เปลี่ยนสี จากที่เธอยังนั่งปักต้นข้าวในนาก็กลายเป็นเธอต้องเก็บเกี่ยวข้าว และเริ่มทำของดองของแห้งไว้กินในหน้าหนาว อาหารก็จะเปลี่ยนเมนู วัตถุดิบที่เก็บเกี่ยวได้ก็เปลี่ยนไป เสื้อผ้าก็เปลี่ยน จากที่อิชิโกะใส่เสื้อกล้ามและเปิดระเบียงบ้านกว้างๆ ก็ต้องใส่เสื้อสามชั้นและนั่งกกกับเตา และภาคสองของเรื่องนี้คือภาค WINTER/SPRINGค่ะ
แม้แต่ธาตุอากาศก็มีความสำคัญ มันคือสิ่งที่โอบล้อมเราและผ่านเข้าร่างกายเรายี่สิบสี่ชั่วโมงเจ็ดวันต่อสัปดาห์ อากาศคือสิ่งที่เราสัมผัสอยู่ทุกวัน และที่โคโมริ ในหน้าร้อน ความร้อนพุ่งสูงทะลุเพดาน ทำให้อิชิโกะรู้สึกเหมือนว่าถ้ามีครีบแล้วจะว่ายน้ำในอากาศได้เลยทีเดียว และความชื้นนี้ไม่แค่ทำให้เสื้อที่ใส่เปียกซกไปด้วยเหงื่อเหมือนเอาผ้าเปียกมาห่อตัว แต่มันยังเชื้อเชิญเพื่อนตัวร้ายอย่าง รา มอสมาด้วย แม้แต่ตะหลิวไม้สีน้ำตาลก็กลายเป็นมีสีเขียวจุดๆๆ มาเกาะ อิชิโกะจึงต้องจัดการกับเจ้าความชื้น และอาวุธของเธอก็คือ เตา กรรม ร้อนตับแลบยังต้องเอาเตามาตั้งในบ้าน แต่เพราะเตาจะดูดกินความชื้นและราให้ เธอจึงต้องยอม แต่ว่าไหนๆ จะร้อนแล้ว ก็ขออบขนมปังด้วย ว่าแล้วอิชิโกะก็หยิบเครื่องไม้เครื่องมือมาเพื่อเตรียมขนมปังตั้งแต่ขั้นแรกจนขั้นสุดท้าย
เนื้อเรื่องก็จะดำเนินไปด้วยความรู้สึกประมาณนี้ จริงๆ แล้วหลายคนอาจคิดว่าถ้าแค่ชีวิตของผู้หญิงคนนึงในบ้านนอกไม่ได้มีพระเอกสุดหล่อหรือเหตุการณ์ร้ายอะไร แล้วหนังจะมีประเด็นอะไรมาเล่า แต่ว่าลิตเติ้ลฟอเรสก็นำมาซึ่งชีวิตธรรมดาที่มีอะไรมากมาย รอบตัวเรามีอะไรมากมาย แม้รอบตัวจะมีแค่ป่า กับป่า แม้แต่ซุปเปอร์มาเก็ตก็ไม่มี แต่ถ้าเปิดตาให้กว้างขึ้น และรับฟังและสนใจสิ่งรอบตัว คนเรามีอะไรให้ทำให้สนใจอยู่เสมอค่ะ โดยจะมีเสียงของนางเอกเรานี่แหละคอยอธิบายเป็นขั้นเป็นตอน แต่ว่าวิธีเล่าของเธอมันเหมือนแม่เล่าให้ลูกสาวฟังน่ะค่ะ ฟังแล้วเพลินดี
มีสิ่งหนึ่งที่เราว่าขำดี คืออิชิโกะเป็นเด็กบ้านนอกสุดๆ เลยไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไรมากมาย แม่ของเธอก็ชอบพูดจริงบ่างพูดเล่นบ้างผสมกันไป ทำให้บางครั้งอิชิโกะก็จำอะไรผิดๆ มาจนโต เช่นเธอเคยคิดว่าแม่คือคนคิดสูตร nutella แถมแม่ยังอธิบายว่าชื่อมาจาก นุเทรุ(กิริยาของญี่ปุ่น ที่แปลว่าทาเนบหรือแยมบนขนมปัง)
แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีแค่พืช สัตว์ ลำธารป่า ดิน อากาศ ฝน หรืออาหารอย่างเดียว คนก็ด้วย ในเรื่องก็มีตัวละครก้าวเข้ามาด้วย อย่างเช่น รุ่นน้องของนางเอกที่ก็กลับมาที่บ้านเกิดเหมือนกัน คุณป้า คุณลุงหัวร้าน
รุ่นน้องพูดเอาไว้ ว่า คำพูดของคนเรามาจากประสบการณ์ของชีวิต แต่กับบางคนพูดเหมือนรู้ดี ทั้งๆ ที่ไม่เคยสร้างอะไรด้วยตัวเองสักอย่าง มีแต่ทำลายสิ่งที่เขาสร้างมา ผมก็เลยตัดสินใจแล้วว่าจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่อยากเป็นคนที่แค่ซื้อปลามากจากตลาดแล้วมาวิจารณ์เรื่องการฆ่าหรือจับปลา
ยิ่งดูไป บทบาทของตัวละคร และเนื้อเรื่องเกี่ยวกับคนทั้งหลายก็เริ่มเด่นชัดขึ้น และเราคิดว่าในภาคต่อไป มันคงจะยิ่งมีดราม่าเข้ามาเยอะกว่าภาคนี้แน่นอน เพราะฉะนั้นจะรอดูค่ะ ที่ญปเข้าตั้งแต่กพแล้ว ไม่รู้จะเข้าไทยเมื่อไหร่น่อ
รอบตัวเรามีอะไรให้ทำมากมาย ถ้าเราหัดสนใจมันบ้าง เราคงไม่มานั่งคิดว่าวันนี้น่าเบื่อหรือทำไมไม่มีแฟนสักทีน้า และ สองคือการที่เราสร้างอะไรสักอย่างด้วยตัวเองจะทำให้เราเห็นคุณค่ามันชัดขึ้นหลายเท่าตัว
ปล นางเอก ไอจัง เราชอบเธอมาก ดูธรรมชาติๆ
ปล เพลงของyui ชื่อเพลงตามฤดู อย่างภาคหน้าร้อน ก็ชื่อเพลง 夏น่ารักดี
ปล ดูไปหิวไป อยากเอากลับไปทำบ้าง
ปล มุมกล้องสวยจับใจ
อยากเเทก ท่องเที่ยวญปด้วย เพราะเมืองสวยดี
เห็นหนังเรื่องนี้เเล้วก็อยากจะลองไปใช้ชีวิตที่ชนบทไทบดูเเลรักษาธรรมชาติไทยไว้อะไรประมาณนั้น
psฝากเพจอวยหนังเเละบ่นหนังน้อยๆ นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วย
https://www.facebook.com/ailovemovies
Little forest ・ภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่อยากชวนให้ไปดู・ ・
ชนบทที่เเสนงดงาม ดูเเล้วรู้สึกว่าธรรมชาติมันสวยจริงๆ
#######ขอเเก้ตัวสักนิด ที่ว่าชวนไปดูนี้อยากขอเตือนเลยว่า มันเป็นหนังที่พล็อตไม่ท้าทายเลย สุดเเสนจะธรรมดา
เมื่อได้ดูเทรลเลอร์เรื่องนี้แล้ว มันไม่ได้ทำให้เราอยากดูสุดๆ แค่เพราะเราอยากปัดฝุ่นสกิลภาษาญี่ปุ่นและดูฉากในเรื่องแล้วทำให้คิดถึงสมัยเคยไปอยู่ที่นั่นมา และรู้จักเพลงประกอบเราก็เลยตัดสินใจว่าถ้าเข้าเมื่อไหร่จะไปดู
วันนี้ก็เลยไปดูมาละค่ะ
ภาษาง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเสียงนางเอกที่เป็นคนดำเนินเรื่องฟังออกได้ไม่ยาก บวกกับภาษาถิ่นบ้าง
นางเอกย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดที่ โคโมริ ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อเรื่องน่าจะมาจากชื่อบ้านเกิดนางเอกค่ะ โคโมริเดาว่าคันจิน่าจะมาจาก เด็ก บวกกับ ป่า เป็น little forest ซึ่งเราว่าไอเดียตั้งชื่อนี้น่ารักมาก เเละหนังสร้างมาจากการ์ตูนค่ะ
เปิดเรื่องมา ถ้าเป็นคนที่เกลียดสารคดีรายการเกษตรหรือรายการทำอาหารคงดูหนังเรื่องนี้ไม่ได้แน่ๆ ถ้าหวังว่าจะได้ไปดูหนังที่มีพล็อตชัดเจน มีพระเอกมีจุดพีค เรื่องนี้คงไม่มีให้ค่ะ ลิตเติ้ลฟอเรสคือส่วนผสมจากสารคดีเกษตรบวกโฟโต้บุ้คภาพธรรมชาติและรายการอาหารเพื่อสุขภาพหรืออาหารโฮมเมดโดยแท้ ลิตเติ้ลฟอเรสคือไดอารี่ชีวิตของ อิชิโกะ หญิงสาวซึ่งกลับมาที่บ้านเกิด และทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นนากว้างๆ หรือสวนเล็กๆ วูดสเตอร์ซอส นูเทลล่า สาเกหวาน หรือเป็ดย่าง ไปจนถึงฟืน ดำเนินเรื่องก็จะได้เห็นความเอาใจใส่ของหญิงสาวต่อทุกอย่างรอบตัว
ตัวหนังจะแบ่งเป็นเป็นสี่ภาคย่อย สองภาคหลัก คือ summer/autumn และ winter/spring และในตแต่ละภาคก็แบ่งย่อยเป็นตอนๆ หั่นเป็น 1st dish 2nd dish 3rd dish etc。。。
SUMMER และ AUTUMN ตัวหนังจะแบ่งเป็นสองภาคในภาคเดียวกันนี่แหละ?โดยแต่ละภาคก็มีเอนดิ้งและโอเพนนิ่งของมันเอง มีเพลงประกอบของตัวเอง ทั้งๆที่ฉายติดกันนี่แหละ และเปิดเรื่องนางเอกจะพูดเหมือนเดิมเปี๊ยบถึงบ้านเกิดโคโฒริที่อยู่กลางหุบเขาของโทโฮขุ และต้องใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองนานแค่ไหน แต่ว่าฤดูเปลี่ยนไป ไดอารี่ของเธอก็เปลี่ยนไปด้วย จากฤดูร้อนที่มีเสียงจักจั่นเป็นแบคกราวน์ และใบไม้ใบหญ้าต้นข้าวเขียวขจ จ้ากผลไม้หน้าร้อน ผลไม้ก็เริ่มเปลี่ยชนิด ใบไม้ก็เปลี่ยนสี จากที่เธอยังนั่งปักต้นข้าวในนาก็กลายเป็นเธอต้องเก็บเกี่ยวข้าว และเริ่มทำของดองของแห้งไว้กินในหน้าหนาว อาหารก็จะเปลี่ยนเมนู วัตถุดิบที่เก็บเกี่ยวได้ก็เปลี่ยนไป เสื้อผ้าก็เปลี่ยน จากที่อิชิโกะใส่เสื้อกล้ามและเปิดระเบียงบ้านกว้างๆ ก็ต้องใส่เสื้อสามชั้นและนั่งกกกับเตา และภาคสองของเรื่องนี้คือภาค WINTER/SPRINGค่ะ
แม้แต่ธาตุอากาศก็มีความสำคัญ มันคือสิ่งที่โอบล้อมเราและผ่านเข้าร่างกายเรายี่สิบสี่ชั่วโมงเจ็ดวันต่อสัปดาห์ อากาศคือสิ่งที่เราสัมผัสอยู่ทุกวัน และที่โคโมริ ในหน้าร้อน ความร้อนพุ่งสูงทะลุเพดาน ทำให้อิชิโกะรู้สึกเหมือนว่าถ้ามีครีบแล้วจะว่ายน้ำในอากาศได้เลยทีเดียว และความชื้นนี้ไม่แค่ทำให้เสื้อที่ใส่เปียกซกไปด้วยเหงื่อเหมือนเอาผ้าเปียกมาห่อตัว แต่มันยังเชื้อเชิญเพื่อนตัวร้ายอย่าง รา มอสมาด้วย แม้แต่ตะหลิวไม้สีน้ำตาลก็กลายเป็นมีสีเขียวจุดๆๆ มาเกาะ อิชิโกะจึงต้องจัดการกับเจ้าความชื้น และอาวุธของเธอก็คือ เตา กรรม ร้อนตับแลบยังต้องเอาเตามาตั้งในบ้าน แต่เพราะเตาจะดูดกินความชื้นและราให้ เธอจึงต้องยอม แต่ว่าไหนๆ จะร้อนแล้ว ก็ขออบขนมปังด้วย ว่าแล้วอิชิโกะก็หยิบเครื่องไม้เครื่องมือมาเพื่อเตรียมขนมปังตั้งแต่ขั้นแรกจนขั้นสุดท้าย
เนื้อเรื่องก็จะดำเนินไปด้วยความรู้สึกประมาณนี้ จริงๆ แล้วหลายคนอาจคิดว่าถ้าแค่ชีวิตของผู้หญิงคนนึงในบ้านนอกไม่ได้มีพระเอกสุดหล่อหรือเหตุการณ์ร้ายอะไร แล้วหนังจะมีประเด็นอะไรมาเล่า แต่ว่าลิตเติ้ลฟอเรสก็นำมาซึ่งชีวิตธรรมดาที่มีอะไรมากมาย รอบตัวเรามีอะไรมากมาย แม้รอบตัวจะมีแค่ป่า กับป่า แม้แต่ซุปเปอร์มาเก็ตก็ไม่มี แต่ถ้าเปิดตาให้กว้างขึ้น และรับฟังและสนใจสิ่งรอบตัว คนเรามีอะไรให้ทำให้สนใจอยู่เสมอค่ะ โดยจะมีเสียงของนางเอกเรานี่แหละคอยอธิบายเป็นขั้นเป็นตอน แต่ว่าวิธีเล่าของเธอมันเหมือนแม่เล่าให้ลูกสาวฟังน่ะค่ะ ฟังแล้วเพลินดี
มีสิ่งหนึ่งที่เราว่าขำดี คืออิชิโกะเป็นเด็กบ้านนอกสุดๆ เลยไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไรมากมาย แม่ของเธอก็ชอบพูดจริงบ่างพูดเล่นบ้างผสมกันไป ทำให้บางครั้งอิชิโกะก็จำอะไรผิดๆ มาจนโต เช่นเธอเคยคิดว่าแม่คือคนคิดสูตร nutella แถมแม่ยังอธิบายว่าชื่อมาจาก นุเทรุ(กิริยาของญี่ปุ่น ที่แปลว่าทาเนบหรือแยมบนขนมปัง)
แต่ว่ามันก็ไม่ได้มีแค่พืช สัตว์ ลำธารป่า ดิน อากาศ ฝน หรืออาหารอย่างเดียว คนก็ด้วย ในเรื่องก็มีตัวละครก้าวเข้ามาด้วย อย่างเช่น รุ่นน้องของนางเอกที่ก็กลับมาที่บ้านเกิดเหมือนกัน คุณป้า คุณลุงหัวร้าน
รุ่นน้องพูดเอาไว้ ว่า คำพูดของคนเรามาจากประสบการณ์ของชีวิต แต่กับบางคนพูดเหมือนรู้ดี ทั้งๆ ที่ไม่เคยสร้างอะไรด้วยตัวเองสักอย่าง มีแต่ทำลายสิ่งที่เขาสร้างมา ผมก็เลยตัดสินใจแล้วว่าจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่อยากเป็นคนที่แค่ซื้อปลามากจากตลาดแล้วมาวิจารณ์เรื่องการฆ่าหรือจับปลา
ยิ่งดูไป บทบาทของตัวละคร และเนื้อเรื่องเกี่ยวกับคนทั้งหลายก็เริ่มเด่นชัดขึ้น และเราคิดว่าในภาคต่อไป มันคงจะยิ่งมีดราม่าเข้ามาเยอะกว่าภาคนี้แน่นอน เพราะฉะนั้นจะรอดูค่ะ ที่ญปเข้าตั้งแต่กพแล้ว ไม่รู้จะเข้าไทยเมื่อไหร่น่อ
รอบตัวเรามีอะไรให้ทำมากมาย ถ้าเราหัดสนใจมันบ้าง เราคงไม่มานั่งคิดว่าวันนี้น่าเบื่อหรือทำไมไม่มีแฟนสักทีน้า และ สองคือการที่เราสร้างอะไรสักอย่างด้วยตัวเองจะทำให้เราเห็นคุณค่ามันชัดขึ้นหลายเท่าตัว
ปล นางเอก ไอจัง เราชอบเธอมาก ดูธรรมชาติๆ
ปล เพลงของyui ชื่อเพลงตามฤดู อย่างภาคหน้าร้อน ก็ชื่อเพลง 夏น่ารักดี
ปล ดูไปหิวไป อยากเอากลับไปทำบ้าง
ปล มุมกล้องสวยจับใจ
อยากเเทก ท่องเที่ยวญปด้วย เพราะเมืองสวยดี
เห็นหนังเรื่องนี้เเล้วก็อยากจะลองไปใช้ชีวิตที่ชนบทไทบดูเเลรักษาธรรมชาติไทยไว้อะไรประมาณนั้น
psฝากเพจอวยหนังเเละบ่นหนังน้อยๆ นี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วย
https://www.facebook.com/ailovemovies