L i t t l e - F o r e s t
+++มีสปอยด์เนื้อหา+++
l i t t l e f o r e s t
แบ่งเป็น 2 ตอน 4 ฤดูกาล นะคะ คือ Summer & autumn , Winter & Spring
((จะดู ภาคไหนก่อนก็ได้ แต่ถ้าเรียงภาคกันไปก็จะทำให้เข้าใจตัวละครมากยิ่งขึ้นค่ะ))
*** เราต้องบอกก่อนว่า หนังมันเนิบ เพราะฉะนั้นถ้าใครที่ไม่ชอบแนวเนิบๆ คือก็ไม่ขอแนะนำนะคะ แต่ถ้าใครเป็นแฟนหนังญี่ปุ่นแนวนี้
เราขอแนะนำมากๆ คือหนังมันเรียบง่าย แต่ดีงาม หนังมันมีศิลปะในการถ่ายทอดอารมณ์ตัวเอกสู่คนดู ผ่านการดำเนินชีวิตกับป่า ผ่านเมนูอาหารแต่ละเมนูที่นางเอกทำ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี แต่เราขอเป็นอีกหนึ่งเสียงรีวิวแล้วกันค่ะ ว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่ง***
ผกก.
จุนอิจิ โมริ
นักแสดงนำ
ไอ ฮาชิโมโตะ (น่ารักมากกก) , มายุ มัตซูโอกะ, โยอิชิ นูกูมิซุ, คาเรน คิริชิม่า, ทาคาฮิโระ มิอูระ
ปีที่เข้าฉาย
2015
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่ได้เน้นรีวิวอะไรที่หนักๆหรือมีสาระจากหนังมาแบ่งปันกันมากมายนะคะ แต่ขอเอามาตั้งกระทู้เขียนถึงเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เพราะไม่อยากให้พ้นปี 2015 ไป อยากบอกว่าเป็นหนังที่เราชอบมาก ขอเขียนถึงเท่าที่นึกออกตอนนี้นะคะ เผื่อใครสนใจหามาดู แล้วชอบเหมือนกันกับเรา
นางเอกเป็นอะไรเท่ห์มากกกก
จะพูดอย่างไรดี คือมีทั้งบุคลิกของผู้หญิงน่ารักและบุคลิกของผู้หญิงที่แข็งแรง รวมไว้ในคนๆเดียวกัน น่ะค่ะ
ชอบที่นางเอกไม่มีการแต่งหน้า (หนังญี่ปุ่นสมจริงตรงนี้) ฉากของนางเอกจะมีแต่ขุดไร่ไถนา ขุดแปลง และทำอาหาร ทุกอย่างมีเหงื่อออก คือสมจริง
หนังเรื่องนี้มีเซอร์ไพรส์เล็กๆตรงที่ นางเอก
ดำนา (อ่านไม่ผิดค่ะ คือนางเอกเรื่องนี้ดำนาเองจริงๆ) แล้วก็ไถนา จนกระทั่งเก็บเกี่ยวข้าว คือทำเองหมด แล้วมันไม่ใช่แค่ฉากเดียวน่ะค่ะ ไม่ใช่แค่การแต่งชุดให้ดูเหมือนชาวนาแล้วมาเข้าฉาก(เหมือนหนังบ้านเรา) แต่นี่คือดำนา ไถนา เกี่ยวข้าว กินเองจริงๆ เกือบตลอดทั้งเรื่อง คือเราประทับใจตรงนี้มากอ่ะค่ะ มันเรียลดี
เป็นหนังที่นั่งดูแล้วหิวววววว ตลอดเวลาค่ะ ดูแล้วนึกอยากจะจัดห้องครัวแบบครัวบ้านของนางเอก(55)
ครัวเล็กๆ ไม่มีอะไรเลย แต่ขอบอกว่า
"เมนู" นางเอกแต่ละเมนูนั้น คือมันพิเศษมาก วัตถุดิบ มาจากธรรมชาติ 100 % เลย
แถมทั้งหมดมาจากสิ่งที่นางเอกปลูกเอง ไม่ก็เข้าป่าไปเก็บมาเอง ผสมแป้งนิด น้ำตาลหน่อย คือออกมาได้เป็นเมนูพิเศษเลยอ่ะ คือดีเลิศศศศ มากๆค่ะ(55)
ดูแล้วหิว ดูแล้วพอเข้าซูเปอร์มาเกตเราก็จะนึกถึงแต่ครัวและสวนผักของนางเอกตลอดเลย (เราอินค่ะ 55)
คือผักในซูเปอร์มาเกตที่เห็นสดๆ ดูจืดไปเลยล่ะค่ะ เพราะเรารู้ว่าใส่สารเคมีแน่นอน (แถมราคาแพงอีกต่างหาก)
ความสนุกของเราหลังดูจบคือ เราจะทำเมนูอะไรได้บ้างนะ? ในเมืองแบบนี้
ถึงอย่างนั้นก็ทำได้ไม่ดีเท่านางเอกทำค่ะ ต้องกลับมาซื้อเค้ากินเหมือนเดิม(เศร้า)
จริงๆแล้ว นางเอกน่ะ เป็นคนที่น่าสงสารทีเดียวค่ะ
หนังมันเป็นเรื่องราวของนางเอกที่กลับไปอยู่ชนบทบ้านเกิดที่จังหวัดโคะโมะริค่ะ บ้านชนบทที่ว่าไม่เพียงแค่อยู่นอกเมืองเท่านั้น
แต่มันเป็นเมืองชนบทเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา เมืองทั้งเมืองมีประชากรอยู่ไม่กี่คน (ยิ่งคนหนุ่มสาวด้วยแล้ว ในเรื่องมี 3 คน ถ้วนค่ะ)(ฮาา)
ภาคแรกหนังจะทิ้งปมเอาไว้ว่านางเอกเคยอาศัยในบ้านเล็กหลังนี้กับแม่ มีความทรงจำร่วมกัน แต่ตอนนี้นางเอกต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว
จริงอยู่ ที่หนังจะแสดงภาพชีวิตประจำวันของนางเอกที่เข้มแข็ง ทำงานเพาะปลูกเอง นำมาประกอบอาหารดำรงชีวิตเอง คือนางเอกทำได้หมดคนเดียว ในขณะที่ครัวเรือนอื่นมีสมาชิกที่ร่วมกันทำ แต่บ้านของนางเอกมีนางเอกที่ทำสิ่งเหล่านี้เพียงคนเดียว
ดูเหมือนนางเอกจะเก่ง และใช้ชีวิตแบบ Slow life จนคนดูนึกอิจฉา แต่จริงๆแล้ว นางก็ไม่ได้เก่งไปหมดทุกเรื่องหรอกค่ะ
ในใจก็ยังมีปมที่ถูกแม่ทิ้งไป(แบบงงๆอยู่)
เหมือนนางเอกพยายามใช้ชีวิตให้อยู่ด้วยตัวเองให้ได้ (ทั้งๆที่จริงๆก็คงเหงามากทีเดียว)
สาเหตุที่แม่ทิ้งไป
คือมันเป็นการทิ้งลูกไปแบบ คนดูงงที่สุดในสามโลกค่ะ (จริงๆ) คือเป็นพลอตสไตล์หนังญี่ปุ่นเลย (พลอตที่ให้คนดูงงๆแล้วคิดต่อเอง)
คือแม่จากไปแบบไม่มีต้นสายปลายเหตุ ตอนจะไปก็คือทำอาหารทิ้งไว้ให้ (ตามที่ลูกขอ) แล้วหายไปเลย...
ไม่มีแม้แต่ร่ำลา เย็นวันนั้นพอนางเอกกลับมาจากโรงเรียนในตอนเย็น แล้วก็ไม่เจอแม่ อีกเลยค่ะ (โหดนะเนี้ยคุณแม่ 55)
หลังจากนั้นมานางเอกก็คงใช้ชีวิตแบบพยายามหาคำตอบอยู่ตลอดเวลาอ่ะค่ะ เห็นใจนางเอกเลย
แต่เราคิดว่า ที่แม่นางเอกจากไป เพราะต้องการให้ลูกสาวได้
เติบโต ล่ะค่ะ
อยากให้ลูกสาวได้เอาตัวรอดด้วยตัวเอง เราคิดว่าแบบนี้นะ (คือถ้าดูในหนังจะมีตอนที่ลูกสาวบอกให้แม่ช่วยทำอาหารให้เมนูหนึ่ง
แล้วแม่พูดขึ้นมาว่า รู้มั้ยว่าผักชนิดนี้มันเก็บมายากนะ ประมาณนี้ ) เหมือนแม่มองว่าลูกสาวยังต้องพึ่งตัวเองตลอดเวลา แบบนี้หรือเปล่า
เลยทิ้งลูกสาวไว้ให้ต่อสู้เอง
ฉันคงจะแพ้ทางผู้ชายตัวสูง ที่พูดอะไรคมๆ
เป็นคำที่นางเอกพูดกับตัวละครชายในเรื่องค่ะ ไม่มีอะไรคือแค่ชอบประโยคนี้ และคิดว่าตอนที่นางเอกนึกประโยคนี้ขึ้นมาเป็นตอนที่นางดูอารมณ์ดีที่สุดในเรื่องละ (แต่ตอนจบก็แอบผิดหวังนะคะ ทำม้ายยยยย
) 555
L i t t l e - F o r e s t เป็นเรื่องที่เราประทับใจ และอยากแนะนำค่ะ
L i t t l e - F o r e s t หนังเล็กๆเกี่ยวกับป่าและอาหาร ที่อาจทำให้คุณตกหลุมรัก
+++มีสปอยด์เนื้อหา+++
l i t t l e f o r e s t
แบ่งเป็น 2 ตอน 4 ฤดูกาล นะคะ คือ Summer & autumn , Winter & Spring
((จะดู ภาคไหนก่อนก็ได้ แต่ถ้าเรียงภาคกันไปก็จะทำให้เข้าใจตัวละครมากยิ่งขึ้นค่ะ))
*** เราต้องบอกก่อนว่า หนังมันเนิบ เพราะฉะนั้นถ้าใครที่ไม่ชอบแนวเนิบๆ คือก็ไม่ขอแนะนำนะคะ แต่ถ้าใครเป็นแฟนหนังญี่ปุ่นแนวนี้
เราขอแนะนำมากๆ คือหนังมันเรียบง่าย แต่ดีงาม หนังมันมีศิลปะในการถ่ายทอดอารมณ์ตัวเอกสู่คนดู ผ่านการดำเนินชีวิตกับป่า ผ่านเมนูอาหารแต่ละเมนูที่นางเอกทำ ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี แต่เราขอเป็นอีกหนึ่งเสียงรีวิวแล้วกันค่ะ ว่าเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่ง***
ผกก.
จุนอิจิ โมริ
นักแสดงนำ
ไอ ฮาชิโมโตะ (น่ารักมากกก) , มายุ มัตซูโอกะ, โยอิชิ นูกูมิซุ, คาเรน คิริชิม่า, ทาคาฮิโระ มิอูระ
ปีที่เข้าฉาย
2015
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นางเอกเป็นอะไรเท่ห์มากกกก
จะพูดอย่างไรดี คือมีทั้งบุคลิกของผู้หญิงน่ารักและบุคลิกของผู้หญิงที่แข็งแรง รวมไว้ในคนๆเดียวกัน น่ะค่ะ
ชอบที่นางเอกไม่มีการแต่งหน้า (หนังญี่ปุ่นสมจริงตรงนี้) ฉากของนางเอกจะมีแต่ขุดไร่ไถนา ขุดแปลง และทำอาหาร ทุกอย่างมีเหงื่อออก คือสมจริง
หนังเรื่องนี้มีเซอร์ไพรส์เล็กๆตรงที่ นางเอก ดำนา (อ่านไม่ผิดค่ะ คือนางเอกเรื่องนี้ดำนาเองจริงๆ) แล้วก็ไถนา จนกระทั่งเก็บเกี่ยวข้าว คือทำเองหมด แล้วมันไม่ใช่แค่ฉากเดียวน่ะค่ะ ไม่ใช่แค่การแต่งชุดให้ดูเหมือนชาวนาแล้วมาเข้าฉาก(เหมือนหนังบ้านเรา) แต่นี่คือดำนา ไถนา เกี่ยวข้าว กินเองจริงๆ เกือบตลอดทั้งเรื่อง คือเราประทับใจตรงนี้มากอ่ะค่ะ มันเรียลดี
เป็นหนังที่นั่งดูแล้วหิวววววว ตลอดเวลาค่ะ ดูแล้วนึกอยากจะจัดห้องครัวแบบครัวบ้านของนางเอก(55)
ครัวเล็กๆ ไม่มีอะไรเลย แต่ขอบอกว่า "เมนู" นางเอกแต่ละเมนูนั้น คือมันพิเศษมาก วัตถุดิบ มาจากธรรมชาติ 100 % เลย
แถมทั้งหมดมาจากสิ่งที่นางเอกปลูกเอง ไม่ก็เข้าป่าไปเก็บมาเอง ผสมแป้งนิด น้ำตาลหน่อย คือออกมาได้เป็นเมนูพิเศษเลยอ่ะ คือดีเลิศศศศ มากๆค่ะ(55)
ดูแล้วหิว ดูแล้วพอเข้าซูเปอร์มาเกตเราก็จะนึกถึงแต่ครัวและสวนผักของนางเอกตลอดเลย (เราอินค่ะ 55)
คือผักในซูเปอร์มาเกตที่เห็นสดๆ ดูจืดไปเลยล่ะค่ะ เพราะเรารู้ว่าใส่สารเคมีแน่นอน (แถมราคาแพงอีกต่างหาก)
ความสนุกของเราหลังดูจบคือ เราจะทำเมนูอะไรได้บ้างนะ? ในเมืองแบบนี้
ถึงอย่างนั้นก็ทำได้ไม่ดีเท่านางเอกทำค่ะ ต้องกลับมาซื้อเค้ากินเหมือนเดิม(เศร้า)
จริงๆแล้ว นางเอกน่ะ เป็นคนที่น่าสงสารทีเดียวค่ะ
หนังมันเป็นเรื่องราวของนางเอกที่กลับไปอยู่ชนบทบ้านเกิดที่จังหวัดโคะโมะริค่ะ บ้านชนบทที่ว่าไม่เพียงแค่อยู่นอกเมืองเท่านั้น
แต่มันเป็นเมืองชนบทเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา เมืองทั้งเมืองมีประชากรอยู่ไม่กี่คน (ยิ่งคนหนุ่มสาวด้วยแล้ว ในเรื่องมี 3 คน ถ้วนค่ะ)(ฮาา)
ภาคแรกหนังจะทิ้งปมเอาไว้ว่านางเอกเคยอาศัยในบ้านเล็กหลังนี้กับแม่ มีความทรงจำร่วมกัน แต่ตอนนี้นางเอกต้องใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว
จริงอยู่ ที่หนังจะแสดงภาพชีวิตประจำวันของนางเอกที่เข้มแข็ง ทำงานเพาะปลูกเอง นำมาประกอบอาหารดำรงชีวิตเอง คือนางเอกทำได้หมดคนเดียว ในขณะที่ครัวเรือนอื่นมีสมาชิกที่ร่วมกันทำ แต่บ้านของนางเอกมีนางเอกที่ทำสิ่งเหล่านี้เพียงคนเดียว
ดูเหมือนนางเอกจะเก่ง และใช้ชีวิตแบบ Slow life จนคนดูนึกอิจฉา แต่จริงๆแล้ว นางก็ไม่ได้เก่งไปหมดทุกเรื่องหรอกค่ะ
ในใจก็ยังมีปมที่ถูกแม่ทิ้งไป(แบบงงๆอยู่)
เหมือนนางเอกพยายามใช้ชีวิตให้อยู่ด้วยตัวเองให้ได้ (ทั้งๆที่จริงๆก็คงเหงามากทีเดียว)
สาเหตุที่แม่ทิ้งไป
คือมันเป็นการทิ้งลูกไปแบบ คนดูงงที่สุดในสามโลกค่ะ (จริงๆ) คือเป็นพลอตสไตล์หนังญี่ปุ่นเลย (พลอตที่ให้คนดูงงๆแล้วคิดต่อเอง)
คือแม่จากไปแบบไม่มีต้นสายปลายเหตุ ตอนจะไปก็คือทำอาหารทิ้งไว้ให้ (ตามที่ลูกขอ) แล้วหายไปเลย...
ไม่มีแม้แต่ร่ำลา เย็นวันนั้นพอนางเอกกลับมาจากโรงเรียนในตอนเย็น แล้วก็ไม่เจอแม่ อีกเลยค่ะ (โหดนะเนี้ยคุณแม่ 55)
หลังจากนั้นมานางเอกก็คงใช้ชีวิตแบบพยายามหาคำตอบอยู่ตลอดเวลาอ่ะค่ะ เห็นใจนางเอกเลย
แต่เราคิดว่า ที่แม่นางเอกจากไป เพราะต้องการให้ลูกสาวได้ เติบโต ล่ะค่ะ
อยากให้ลูกสาวได้เอาตัวรอดด้วยตัวเอง เราคิดว่าแบบนี้นะ (คือถ้าดูในหนังจะมีตอนที่ลูกสาวบอกให้แม่ช่วยทำอาหารให้เมนูหนึ่ง
แล้วแม่พูดขึ้นมาว่า รู้มั้ยว่าผักชนิดนี้มันเก็บมายากนะ ประมาณนี้ ) เหมือนแม่มองว่าลูกสาวยังต้องพึ่งตัวเองตลอดเวลา แบบนี้หรือเปล่า
เลยทิ้งลูกสาวไว้ให้ต่อสู้เอง
ฉันคงจะแพ้ทางผู้ชายตัวสูง ที่พูดอะไรคมๆ
เป็นคำที่นางเอกพูดกับตัวละครชายในเรื่องค่ะ ไม่มีอะไรคือแค่ชอบประโยคนี้ และคิดว่าตอนที่นางเอกนึกประโยคนี้ขึ้นมาเป็นตอนที่นางดูอารมณ์ดีที่สุดในเรื่องละ (แต่ตอนจบก็แอบผิดหวังนะคะ ทำม้ายยยยย) 555
L i t t l e - F o r e s t เป็นเรื่องที่เราประทับใจ และอยากแนะนำค่ะ