[CR] เมื่อสองศรี แบคแพคเที่ยวเวียงจันทร์ หลวงพระบางและวังเวียง เจ็ดวันห้าพัน


รีวิวนี้เหมาะสำหรับคนที่งบน้อยแต่อยากเก็บทุกที่ เหมาะกับคนที่อยู่ง่ายกินง่าย สมบุกสมบัน
ที่พักและอาหารการกินไม่เน้นหรู ไม่เน้นบรรยากาศ เน้นให้อยู่รอดไปวันวัน


ทริปนี้เกิดขึ้นจากการที่เห็นคนนั้นแชร์ คนนู่นโพสต์แต่เรื่องไปเที่ยววังเวียง
ไอ้นี่ก็เข้าไปอ่านมันทุกวัน บอกตัวเองทุกวัน เห้ยยย อยากไป น่าไปอ่ะ ตอนนั้นแค่พูดเล่นๆลอยๆเฉยๆ
ดูมันทุกวัน พูดมันทุกวัน สุดท้ายมันเข้าไปฝั่งอยู่ในความอยาก
อยากไปก็ไปสิ้ รออะไรอยู่หล่ะ
.
.
.
เดี๋ยวมันไม่ง่ายขนาดนั้น
มองดูเงินเก็บแปบพอถูถูไถไถไปได้
เนื่องจากเราทำงานหาเงินเที่ยวเอง
เงินจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรามาก
.
.
เงินพร้อมเวลาหล่ะ
เช็ควันแปบ เห้ยจันทร์ที่ 6 เมษามันวันหยุดนิ
ส่วนวันพุธที่ 8 มันวันวิสาขบูชานิ ปฏิทินในไอแพดเค้าบอกแบบนั้น
เอ้า!! พอไปเช็คในปฏิทินจริง แป๋ว วันที่ 8 เมษามันไม่ใช่วันหยุดนี่หว่า แต่ไม่เป็นไรหยุดเองก็ได้ ฮ่าๆ
.
.
เงินพร้อม เวลาได้ เหลือเพื่อนร่วมทาง จะให้ไปคนเดียวมันก็ยังกลัวๆอยู่
ปกติถ้ากรุงเทพและปริมณฑลไปคนเดียวได้สบายมาก

ชวนคนโน้นก็แล้วคนนี้ก็แล้ว
"เดี๋ยวใกล้ๆบอกอีกทีนะ"
ม่ายยยฉันไม่ต้องการคำตอบแบบนี้
ต้องการแค่ไปหรือไม่ไป จะได้แพลนถูก
คือถ้าเพื่อนตอบกลับมาแบบนี้ให้คิดซะว่า ไม่ไป!!!
.
.
เอาว่ะลองถามอีกสักคน
เรา: ไปวังเวียงกันมั้ย วันนี้วันนี้นะ
เพื่อน: เห้ย ไปๆ
เรา: นั่งรถไฟชั้นสามได้มั้ย
เพื่อน: ได้ๆ ถึงไหนถึงกัน

..เห้ยชอบบบบบบ คนแบบนี้ ฮ่าๆ..
ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าเพื่อนจะไปจริง

เรา: ไปทำพาสปอร์ตด้วยนะ มันต้องใช้เข้าประเทศ
...สองสามวันต่อมา..
เพื่อน: เราไปทำพาสปอร์ตมาแล้ว
เห้ยไอนี้ไปแน่ๆ โล่งมีเพื่อนไปแล้วเย่!!!
...นับวันรอ...



เย็นวันศุกร์ ที่ 3 เมษา 2558
ตอนนั้นมันก็นานแสนนาน รอแล้วรออีก
มาวันนี้เรามายืนรอรถไฟอยู่ที่สถานีแล้ว

เราตั้งใจจะไปรถไฟฟรี เพราะอยากประหยัดตัง ฮ่าๆ
รถไฟฟรีมีแค่เที่ยว กรุงเทพ-หนองคาย ออกจากหัวลำโพง 20.45
รับตั๋วก็แค่เอาบัตร ปชช ของทุกคนที่ไปด้วยไปยื่น
แต่เราใกล้สถานีบางซื่อมากกว่าเราเลยไปขึ้นที่นั่น

เราไปรับตั๋วตอนหกโมงครึ่ง เพื่อนเราตามมาทีหลัง
เพราะเพื่อนมีเรียนเลิกหนึ่งทุ่ม เอาไงดีหล่ะไม่มีบัตร ปชช ของเพื่อน
แล้วตอนนี้ตั๋วว่างอยู่แค่สี่สิบกว่าที่นั่ง
เลยทำหน้าตาอ้อนวอนพี่คนขายตั๋วสุดๆ
พี่เค้าก็เลยปริ้นตั๋วออกมาให้ก่อน เพื่อนมาเมื่อไรค่อยเอามายื่นตอนนั้น

เพื่อนเรามาถึงน่าจะสามทุ่มมั้ง เพราะรถติดมากเพื่อนต้องเดินจากมอเกษตรไปเมเจอร์ ต่อรถเม ต่อเอมอาร์ที และต่อวิน
ลุ้นกันใจหายใจคว่ำ
รู้สึกทรมานเพื่อนเบาๆ เพราะตอนแรกเรากะจะไปวันเสาร์ที่ 4 เมษา
โชคดีมากที่วันนั้นรถไฟเลทประมาณ 10 นาที
และถ้าไม่ได้พี่คนขายตั๋วใจดี เราคงได้ตั๋วยืนไปถึงหนองคายเพราะคนเยอะมากกก
.
.
.
แนะนำใครจะไปรถไฟฟรีให้ไปรับตั๋วล่วงหน้าก่อนเลยวันต่อวันนะ ไม่ก็ไปล่วงหน้าก่อนเวลาสักสองชั่วโมง


รถไฟเลทไปนิดเดียวเวลาออก 21.06 แต่พี่แกออก 21.15 น.
อยู่ในเวลาที่ยังคงรับได้

นั่งไปสักพักก็ถึงอยุธยา
ถ่ายรูปได้เรื่อยๆยังไม่ง่วง


ชุมทางภาชี
ตรงนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟสายเหนือและสายอีสาน

.
.
.
จบไปแล้วกับเสี้ยวของวัน
good night

เช้าวันเสาร์ ที่ 4 เมษา 2558
ตื่นมาก็หิว ฟงฟันไม่แปรง หาของกินก่อนเลย
ไก่ยางที่เห็นไม้ละ 60 บาท แต่เราไม่กิน ประหยัดตัง ฮ่าๆ

เราซื้อข้าวเหนียวหมูฝผอยและหมูแดดเดียวแทน ตามด้วยผลไม้ มะม่วงถุงนึง
หารกันกับเพื่อนเหลือคนละ 35 บาท
.
.
คนที่นั่งมาด้วยกับเราเมื่อคืน ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
ก็มีลุงคนนี้มานั่งแทน
ลุงขอตังเรา 40 บาท
เราบอกลุงไปว่าหนูก็ไม่มีเหมือนกันค่ะ
อย่าว่าเรางกเลย ใครก็ไม่รู้เนอะ เราไม่ชอบให้เงินใครมั่วๆ

.
.
.
หลับไปร้อยตื่นก็ยังไม่ถึง
อันนี้อุดรคนจะลงเยอะมาก

ที่นั่งก็จะว่างเยอะมาก ให้เราเอนกายลงนอน แต่นอนไม่ลงแล้วจ้า
หายง่วง

.
.
.
นั่งไปไม่นานก็ถึงหนองคาย
เมื่อยตูดกันไปตามระเบียบ

.
ที่แล้วเราไปเราไปเวียดนาม
แล้วนั่งรถมาออกหนองคาย
เลยคิดถึงเป็นธรรมดา

.
.
.
ที่เก่า
แต่บางสิ่งยังใหม่เสมอ
เพื่อนร่วมทาง
จุดหมายปลายทาง
ความรู้สึก
.
.
จัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็หารถไปด่านไทย
ก็ไปถามราคาตุ๊กตุ๊กตกลงกับป้าว่าคนละ 30
คือมันไม่ไกลอ่ะ เราก็เลยต่อคนละ 25
ป้าเหมือนไม่ยอมแต่ก็ต้องยอมเพราะเราให้คนละ 25


.
.
ทำเรื่องด่านไทยไม่ต้องเสียเงิน
แค่กรอกแบบฟอร์มและโชว์พาสปอร์ต
แบบฟอร์มที่กรอกอีกส่วนหนึ่งเก็บไว้ตอนทำเรื่องเข้าประเทศอีกรอบ
.
.
พอไปโผล่อีกฝั่งหนึ่ง
ก็ซื้อตั๋วไปด่านลาว ที่ขายตั๋วจะอยู่ทางขวามือของเราเลย
คนละ 20 บาทจะเป็นรถเมธรรมดา
นั่งไปไม่ไกลมาก


.
.
ถึงด่านลาวก็ทำเรื่องกันต่อ
1. ซื้อตั๋วที่เป็นการ์ดรูด 45 บาท

2. ต่อคิวโชว์พาสปอร์ต รับแต๊ม

3. รูดบัตรเหมือนเอมอาร์ที บีทีเอสเลย
4. จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง
เรางงมากวันนั้นเลยไม่ได้ปั้มแสตมป์ในพาสปอร์ตเค้าก็เลยให้กลับไปแต๊มอีกรอบหนึ่ง ฮ่าๆ
ตรงด่านลาวจะมีให้แลกเงินนะ เราแลกมาคนละ 3000 บาท
ในลาวเราสามารถจ่ายเงินไทยได้ เงินลาวก็ได้ แต่เราว่าเงินลาวสะดวกกว่า
.
.
เสร็จจากด่านลาวออกมา
จะเจอกับพี่ตุ๊กๆ แท๊กซี่ รถตู้เยอะมาก

เราไม่ไป เราไปรถเมแทน คนละ 30 บาทถึงขนส่งในเวียงจันทร์เลย รถสุดสายที่นั้น
ออกจากด่านลาวให้เดินตรงๆมา หาป้ายรถเมแบบนี้ให้เจอ แล้วก็รอรถตรงนี้ รถเมสีเขียว
ถ้าไม่แน่ใจก็ถามคนแถวนั้นดูนะ



.
.
.
ขนส่งเวียงจันทร์ จะเป็นคนส่งระหว่างประเทศไทย ลาว
คนที่มาแค่เวียงจันทร์จะต้องมาขึ้นรถกลับไทยที่นี่
.
.
แต่เราจะไปหลวงพระบางต่อเย็นนี้
ก็เลยต้องไปซื้อตั๋วที่ขนส่งสายเหนือ
ซึ่งมันอยู่ไกลต้องเหมารถตุ๊กๆไปอีกราคา 220 บาท
เราจะเที่ยวในเวียงจันทร์ก่อน ก็เลยให้ตุ๊กๆพาไปซื้อตั๋วกับบริษัทยอดดอย


แวะเติมน้ำมัน

.
.
ตั๋วเวียงจันทร์-หลวงพระบาง 700 บาทอันนี้ต่อรองแล้ว
ถ้าซื้อที่ขนส่งประมาณ 520 มั้งนะ
แต่เราคิดแล้วมันไม่คุ้มกับการจ้างตุ๊กๆไปๆมาๆ
.
.
.
ซื้อตั๋วเสร็จเราให้พี่เค้าพาไปเช่าจักรยาน


คันละ 100 เราต่อได้ คันละ 80 บาท เค้ามีแผนที่ให้ด้วย แต่เราดูไม่ออก หลังๆขี้เกียจดู
อยากไปไหนไป แวะไหนแวะ
จากนั้นเราก็ให้เงินพี่สามล้อ ตอนแรกตกลงกันว่า
ถ้าได้ตั๋ว 600 บาท เราให้พี่ 150
อันนี้ได้ตั๋ว 700 บาท เลยต่ออีกเหลือ 130 บาท
.
.
ถึงเวลาตะลุยเวียงจันทร์แล้ว
เราจะไม่บอกนะว่าไปยังไง เพระเราก็มั่วเอา ฮ่าๆ
และที่นี้ขับรถทางขวามือนะ และทางส่วนใหญ่จะเป็น one way
ตอนแรกก็เลี้ยวผิดเลี้ยวถูก ตอนหลังก็เช่นกัน ฮ่าๆ
ธาตุดำ จะเป็นเจดีย์เก่าอยู่กลางถนนเลย เสมือนวงเวียน

.
.
.
วัดศรีสะเกษ จ่ายค่าเข้าราคา 5000 กีบ




.
.
เรากะจะไปหอพระแก้วซึ่งอยู่ตรงข้ามกันแต่เค้าปิดปรับปรุง อด
.
.
.
เริ่มหิว หาข้าวกินกัน
เราเลือกร้านที่มันดูไม่แพงมาก ปรากฏว่าข้าวผัดจานละ 80 บาทจ้า
ราคาอาหารที่นั้นจะอยู่ประมาณนี้


เราปั่นเล่นไปเรื่อยๆ เจอที่ไหนอยากหยุดก็หยุด

ขอเรียกบ้านหลังนี้ว่าบ้านวินเซอร์ เพราะสถาปัตยกรรมคล้ายกับบ้านวินเซอร์แถวกุฏีจีนของไทยมาก
เราจะเข้าไปดู แต่ประตูรั่วมันเขียนว่าระวังหมากัด
ถอยแทบไม่ทัน

.
.
ปั่นไปอีกก็จะเจอกับโบสถ์คริสต์
เหมือนเค้ากำลังจัดสถานที่ไว้ทำอะไรสักอย่าง




แล้วเราก็ปั่นมั่วๆไป อันนี้ไม่ได้อยู่ในแผนเลย
เหนื่อยเลยแวะ เราไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน
ประมาณ 4-5 ชั้น อยู่ใกล้กับประตูชัย





.
.
ต่อด้วยประตูชัย



เราสามารถขึ้นไปบนประตูชัยได้แต่ต้องเสียค่าเข้า 3000 กีบ

เราปั่นตรงไปยังถนนเส้นประตูชับเพื่อที่จะไปต่ิพระธาตุหลวง
แวะซื้อน้ำอ้อยก่อน
ที่นี่หาซื้อน้ำใส่น้ำแข็งได้ยากกว่าประเทศไทย
เจอร้านขายน้ำอ้อยต้องถามก่อนว่ามีน้ำแข็งบ่


ชื่นใจจจจจจจ น้ำอ้อยถุงละประมาณ 20 บาท แพงกว่าไทยอีก

ก่อนถึงพระธาตุหลวง เราผ่านรัฐสภาของลาวด้วย

แดดที่นี้ไม่แรงเท่าที่ไทยแต่สีส้มมาก


ถึงแล้วพระธาตุหลวง



แต่เราไปไม่ทันมันปิดแล้วน่าจะประมาณ สี่โมงหรือสี่โมงครึ่งนี่แหละ
ชื่อสินค้า:   เมื่อสองศรี แบคแพคเที่ยวเวียงจันทร์ หลวงพระบางและวังเวียง เจ็ดวันห้าพัน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่