สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
เยเมนนั้นเป็นประเทศอยู่ทางใต้ของซาอุดิอาระเบีย อยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรอาระเบีย แต่เดิมนั้นเยเมนปกครองโดยมุสลิมกลุ่มอิสลามสุหนี่แบบเดียวกับซาอุดิอาระเบียจึงไม่มีปัญหาอะไรกัน แต่ช่วงหลังมีการต่อต้านและก่อกบฎของกลุ่มนิยมอิสลามชีอะห์ (ซึ่งซาอุดิอาระเบียเชื่อเอาเองว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลัง) และกลุ่มต่อต้านนี้ก็มีทีท่าว่าจะได้รับชัยชนะยึดครองเยเมนได้ ทำให้ซาอุดิอาระเบียไม่ไว้วางใจต่อสถานการณ์ เนื่องจากลัทธิวะฮาบีย์ที่ครอบครองอำนาจในซาอุดิอาระเบียนั้นเชื่อมั่นว่าชีอะห์ไม่ใช่อิสลาม และมีความต้องการที่จะทำลายอิสลาม-สุหนี่ไปจากโลกนี้
ดังนั้นเมื่อเยเมนทำท่าว่าจะถูกกลุ่มชีอะห์ยึดครองไป ซาอุดอิาระเบียจึงเดือดร้อนอย่างมากๆ เพราะแต่เดิมนั้นซาอุดิอาระเบียไม่เคยไว้วางใจอิหร่าน พยายามร่วมมือกับปากีสถานสร้างวงล้อมอิหร่านเอาไว้ตลอด แต่ช่วงหลังปากีสถานเริ่มไม่เอาด้วย วงล้อมต่ออิหร่านจึงคลายลง และหากเยเมนถูกชีอะห์ปกครองได้สถานการณ์ก็จะพลิกกลับ กลายสภาพเป็นชีอะห์ตีวงล้อมซาอุดิอาระเบียเอาไว้ได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อซาอุดิอาระเบียแน่นอน
อีกทั้งวงล้อมนี้ยังส่งผลที่ร้ายแรงต่อซาอุดิอาระเบียในด้านเศรษฐกิจ-การขนส่งทางทะเลด้วย เพราะหากดูแผนที่กันดีๆ เราจะเห็นว่าซาอุดิอาระเบียนั้นมีทะเลอยู่สองฝั่งของประเทศ แต่ก็เป็นชายฝั่งด้านในไม่ได้มาถึงทะเลเปิด ไม่ว่าจะเป็นทั้งทะเลแดงรึว่าอ่าวเปอร์เซีย เวลาซาอุดิอาระเบียจะขนส่งสินค้ารึเดินเรือออกสู่มหาสมุทรอินเดียนั้น จำต้องผ่านน่านน้ำของประเทศที่อยู่ติดกันออกไป หากว่าชีอะห์ครอบครองเยเมนได้ เท่ากับว่าเส้นทางสู่ทะเลเปิดของซาอุดิอาระเบียจะอยู่ในอันตรายอย่างมาก ทางอ่าวเปอร์เซียนั้นมีอิหร่านคุมอ่าวเปอร์เซียซีกเหนือมาถึงช่องแคบ Hormuz อยู่ และต่อยาวไปที่ซีกเหนือของอ่าวโอมาน ส่วนทางทะเลแดงนั้นเยเมนก็คุมทะเลแดงช่วงล่าง ช่องแคบ Bab-el-Mandeb และต่อที่อ่าวอาเดนยาวไปเลย หากวิชีอะห์คุมทะเลทั้งสองด้านนี้ไว้ได้ ซาอุดิอาระเบียก็มีสภาพถูกปอดประตูเอาไว้ แต่มีทะเลแต่ก็แทบไม่ต่างไปจาก Land Locked
อีกทั้งหากกลุ่มชีอะห์ครองอำนาจในเยเมนได้ก็จะค่อยๆแทรกซึมเข้าสู่ซาอุดิอาระเบียเพื่อพย่ฃายามก่อการเปลี่ยนซาอุดิอาระเบียเป็นเป็นชีอะห์ ปกครองโดยกลุ่มชีอะห์ต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ราชวงศ์ซาอูดยอมไม่ได้เด็ดขาด เสียอะไรเสียได้แต่ราชวงศ์ซาอูดจะไม่ยอมสูญเสียอำนาจเด็ดขาด ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ซาอุดิอาระเบียจะยอมให้กลุ่มชีอะห์ครองอำนาจในเยเมนไม่ได้เด็ดขาด ซาอุดิอาระเบียต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้สุหนี่ครองอำนาจในเยเมนไปตราบนานเท่านาน ชาวเยเมนจะเดือดร้อนล้มตายเท่าไหร่ช่างมัน
http://www.lib.utexas.edu/maps/middle_east_and_asia/middle_east_graphic_2003.jpg
ดังนั้นเมื่อเยเมนทำท่าว่าจะถูกกลุ่มชีอะห์ยึดครองไป ซาอุดอิาระเบียจึงเดือดร้อนอย่างมากๆ เพราะแต่เดิมนั้นซาอุดิอาระเบียไม่เคยไว้วางใจอิหร่าน พยายามร่วมมือกับปากีสถานสร้างวงล้อมอิหร่านเอาไว้ตลอด แต่ช่วงหลังปากีสถานเริ่มไม่เอาด้วย วงล้อมต่ออิหร่านจึงคลายลง และหากเยเมนถูกชีอะห์ปกครองได้สถานการณ์ก็จะพลิกกลับ กลายสภาพเป็นชีอะห์ตีวงล้อมซาอุดิอาระเบียเอาไว้ได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อซาอุดิอาระเบียแน่นอน
อีกทั้งวงล้อมนี้ยังส่งผลที่ร้ายแรงต่อซาอุดิอาระเบียในด้านเศรษฐกิจ-การขนส่งทางทะเลด้วย เพราะหากดูแผนที่กันดีๆ เราจะเห็นว่าซาอุดิอาระเบียนั้นมีทะเลอยู่สองฝั่งของประเทศ แต่ก็เป็นชายฝั่งด้านในไม่ได้มาถึงทะเลเปิด ไม่ว่าจะเป็นทั้งทะเลแดงรึว่าอ่าวเปอร์เซีย เวลาซาอุดิอาระเบียจะขนส่งสินค้ารึเดินเรือออกสู่มหาสมุทรอินเดียนั้น จำต้องผ่านน่านน้ำของประเทศที่อยู่ติดกันออกไป หากว่าชีอะห์ครอบครองเยเมนได้ เท่ากับว่าเส้นทางสู่ทะเลเปิดของซาอุดิอาระเบียจะอยู่ในอันตรายอย่างมาก ทางอ่าวเปอร์เซียนั้นมีอิหร่านคุมอ่าวเปอร์เซียซีกเหนือมาถึงช่องแคบ Hormuz อยู่ และต่อยาวไปที่ซีกเหนือของอ่าวโอมาน ส่วนทางทะเลแดงนั้นเยเมนก็คุมทะเลแดงช่วงล่าง ช่องแคบ Bab-el-Mandeb และต่อที่อ่าวอาเดนยาวไปเลย หากวิชีอะห์คุมทะเลทั้งสองด้านนี้ไว้ได้ ซาอุดิอาระเบียก็มีสภาพถูกปอดประตูเอาไว้ แต่มีทะเลแต่ก็แทบไม่ต่างไปจาก Land Locked
อีกทั้งหากกลุ่มชีอะห์ครองอำนาจในเยเมนได้ก็จะค่อยๆแทรกซึมเข้าสู่ซาอุดิอาระเบียเพื่อพย่ฃายามก่อการเปลี่ยนซาอุดิอาระเบียเป็นเป็นชีอะห์ ปกครองโดยกลุ่มชีอะห์ต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ราชวงศ์ซาอูดยอมไม่ได้เด็ดขาด เสียอะไรเสียได้แต่ราชวงศ์ซาอูดจะไม่ยอมสูญเสียอำนาจเด็ดขาด ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ซาอุดิอาระเบียจะยอมให้กลุ่มชีอะห์ครองอำนาจในเยเมนไม่ได้เด็ดขาด ซาอุดิอาระเบียต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะให้สุหนี่ครองอำนาจในเยเมนไปตราบนานเท่านาน ชาวเยเมนจะเดือดร้อนล้มตายเท่าไหร่ช่างมัน
http://www.lib.utexas.edu/maps/middle_east_and_asia/middle_east_graphic_2003.jpg
ความคิดเห็นที่ 5
สาเหตุที่ซาอุดิอาระเบียต้องเข้ามาจัดการกบฏฮูษี่พร้อมด้วยประเทศอาหรับซุนนีย์อีก 10 ประเทศ ไล่ตั้งแต่ โมร๊อคโค ซูดาน อิยิปต์ จอร์แดน บาห์เรน คูเวต เอมิเรสต์ กาต้าร์ และปากีสถาน เพราะเกิดจากการเรียกร้องมาจากประธานาธิบดีอับดุลร๊อบบู มัลซู้ร ฮาดี้ ที่ได้เรียกร้องไปยังประเทศอาหรับ โดยเฉพาะซาอุดี้ ที่สนับสนุนประธานธิบดีฮาดี้ ให้มีการโจมตีต่อกลุ่มกบฎฮูซี่ ซึ่งถือว่าเป็นความชอบธรรมไม่ใช่การแทรกแซงต่อการปฎิบัติการโจมตีกลุ่มกบฎฮูซี่ของซาอุครั้งนี้ ที่เข้ามายึดอำนาจยึดเมืองหลวงจากรัฐบาล จนรัฐบาลเยเมนต้องย้ายไปรักษาอำนาจที่เมืองเอเดน ซึ่งอยู่ทางใต้ของประเทศ และต่อต้านการขยายอิทธิพลโดยเฉพาะอิหร่าน ที่เป็นหัวหอกใหญ่สนับสนุนกลุ่มกบฏ ให้เข้ามาในคาบสมุทรอาหรับ
หลังจากที่ทางการซาอุดิอาระเบีย พร้อมกลุ่มประเทศอาหรับ มีมติเสียงเดียวกันว่า จะเข้าถล่มกบฎฮูษี่และช่วยประเทศเยเมน ปธน อับดุลร๊อบบู มัลซูร ฮาดี้ ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าและหารือเกี่ยวกับการโจมตีกลุ่มกบฏฮูษี่ กับ เจ้าชายมุฮัมมัด บินซัลมาล อัลซาอู๊ต ที่นครริยาด ซึ่งเป็นพระโอรสของกษัตริย์ซัลมาล และดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมปัจจุบันที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งในรัฐบาลชุดใหม่ หลังจากกษัตริย์อับดุลลอฮ์สวรรคต เจ้าชายมุฮัมมัด บินซัลมาน ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมแล้ว พระองค์ยังเป็นผู้บัญชาการนำประเทศมุสลิมโจมตีการปฎิบัติการในครั้งนี้ด้วย การปฎิบัติการโจมตีกลุ่มกบฎฮูซี่ครั้งนี้เรียกว่า อาศิฟะตุลฮัซม์" พายุแกร่ง
หลังจากที่ซาอุฯเปิดฉากถล่มกลุ่มกบฏฮูษี่ในเยเมน อาทิตย์ก่อน มีการจัดประชุมสันนิบาตอาหรับขึ้น โดยมีอิยิปต์เป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ที่กรุงไคโร มีสมาชิกประเทศอาหรับเข้าร่วมกัน รวมทั้ง ปธน ฮาดี้ ของเยเมน โดยมีการถกพูดคุยประเด็นสำคัญในเรื่องนี้ โดยเฉพาะวิกฤติการณ์ในเยเมน โดยกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับมีมติเป็นเอกฉันต์พร้อมสนับสนุนเยเมนและกำจัดกลุ่มกบฎชีอะฮ์ฮูษี่และอิทธิพลของอิหร่านให้หมดไปจากตะวันออกกลาง มีประเทศสนับสนุนมากมาย แต่บางประเทศอาจจะส่งการช่วยเหลือแบบลับๆ ไม่เปิดเผยตัวตนแบบประเทศอ่าวอาหรับ แต่มีประเทศที่ประกาศไม่เข้าร่วมการโจมตีในครั้งนี้คือ โอมาน เพราะโอมานเป็นประเทศที่ติดกับเยเมน อีกทั้งชนเผ่าที่อพยพอาศัยอยู่ในโอมานบางเผ่า ก็มาจากเยเมน อีกทั้งหากเกิดสงครามบานปลาย มีการอพยพลี้ภัย โอมานสามารถรองรับและช่วยเหลือเรื่องดังกล่าวได้
ทางด้านตุรกี ประธานาธิบดี เรเซป ฎอยยิบ เออ์ดูฆอน ได้ออกมาพูดถึงเรื่องการโจมตีกลุ่มกบฏในเยมน ของซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ ที่กรุงอังการ่า ว่า ตุรกีสนับสนุนและเห็นด้วยต่อประเทศซาอุดิอาระเบียที่ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มกบฏฮูษี่ ปธน ตุรกียังกล่าวอีกว่า อิหร่านถือเป็นภัยคุกคามในตะวันออกกลาง และประกาศกร้าวให้อิหร่านควรถอนทหารร่างทรงออกจาก เยเมน ซีเรียและอิรัค ไม่ใช่นั้นประเทศที่จะโดนถล่มเป็นรายต่อไปกลับเป็นอิหร่านเอง
ทางสภาอูลามาฮ์(ปราชญ์)ศาสนาของซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งประเทศมุสลิมซุนนีย์หลายประเทศ ต่างออกมาสนับสนุนและเห็นด้วยต่อการโจมตีเยเมน ของซาอุในครั้งนี้ เพราะถือว่า กลุ่มฮูซี่ ซึ่งเป็นกบฏได้ปรปักษ์ต่อผู้นำ อีกทั้งฮูษี่เป็นชีอะฮ์ สายซัยดียะฮ์(5 อิหม่าม) ถือได้ว่าหากกลุ่มนี้มีอำนาจในเยเมน จะภัยคุกคามใหม่ของโลกมุสลิมซุนนีย์ โดยเฉพาะต่อชาวซุนนีย์ในเยเมน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ชีอะฮ์ฮูษี่ มีแบล็กใหญ่คือประเทศอิหร่าน หรือ ชีอะฮ์ อิมามียะฮ์(12 อิหม่าม) ให้การสนับสนุนในการสู้รบ
ฮูษี่ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเยเมน อาศัยอยู่ทางเหนือของประเทศ จริงอยู่ฮูษี่เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศ แต่ถึงอย่างไร กลุ่มฮูษี่เป็นกลุ่มกองกำลังที่มีความแข็งแกร่งพอสมควร เหตุผลนี้ซาอุดิอาระเบียจึงปล่อยไว้ไม่ได้ ถ้าหากปล่อยไว้ปัญหาจะยิ่งบานปลายแก้ไขได้ยากเหมือนในกรณีสงครามในซีเรียปัจจุบัน เป็นปัญหาที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบ
บางคนถามว่า ทำไมมุสลิมต้องฆ่ามุสลิมกันเอง
สาเหตุการโจมตีครั้งนี้ สาเหตุ ไม่ใช่เพราะความต่างศรัทธาหรือความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน แต่เป็นเพราะเกิดจากกบฏบุกยึดอำนาจ ยึดเมืองหลวง จนผู้นำประเทศต้องหนีย้ายไปต่างเมือง เรียกได้ว่าเป็นการช่วยเหลือผู้นำเยเมน ต่อกลุ่มกบฏ แต่ผลพลอยได้ทีนี้คือ กบฏฮูซี่ เป็นชีอะฮ์ ซัยยิดะฮ์ ถึงแม้จะต่างความเชื่อกับ ชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ ของอิหร่าน แต่สายเลือดชีอะฮ์ยังมีความผูกพัน มองชีอะฮ์ด้วยกัน เป็นญาติมากกว่าซุนนีย์อยู่แล้ว ทำให้คนนอกมองว่าเป็นสงคามระหว่างนิกายหรือสงครามศาสนา แต่ผมกลับมองว่าครั้งนี้ เป็นสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดิอาระเบียกับอิหร่าน โดยอาศัยเยเมนเป็นสนามรบกันมากกว่า เพราะประเทศซาอุดี้ พยายามยับยั้งการเข้ามามีอิทธิพลของอิหร่าน ตั้งแต่ในบาห์เรน เมื่อ4ปีก่อน จนทางบาห์เรนขอกำลังทหารซาอุมาช่วยปราบ เรื่องเลยซาลง ตอนนี้มาเยเมนต่อ ลองคิดดู ถ้าเยเมนเป็นประเทศชีอะฮ์ มีผู้นำชีอะฮ์ ซึ่งเยเมน เป็นประเทศติดกับซาอุดิอาระเบีย และอยู่ไม่ไกลจากนครเมกกะ สถานที่สำคัญของชาวมุสลิม อะไรจะเกิดขึ้นกับซาอุดิอาระเบียต่อไป ซาอุดิอาระเบียถือเป็นประเทศหัวหอกใหญ่ของซุนนีย์ จึงยอมไม่ได้ที่ให้ครัตรูเข้าพิชิตนครศักดิ์สิทธิ์และพยายามจะสร้างความปั่นป่วนในประเทศซาอุดิอาระเบียเอง โดยเฉพาะความมั่นคงของประเทศ
หลังจากที่ทางการซาอุดิอาระเบีย พร้อมกลุ่มประเทศอาหรับ มีมติเสียงเดียวกันว่า จะเข้าถล่มกบฎฮูษี่และช่วยประเทศเยเมน ปธน อับดุลร๊อบบู มัลซูร ฮาดี้ ได้เดินทางไปเข้าเฝ้าและหารือเกี่ยวกับการโจมตีกลุ่มกบฏฮูษี่ กับ เจ้าชายมุฮัมมัด บินซัลมาล อัลซาอู๊ต ที่นครริยาด ซึ่งเป็นพระโอรสของกษัตริย์ซัลมาล และดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมปัจจุบันที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งในรัฐบาลชุดใหม่ หลังจากกษัตริย์อับดุลลอฮ์สวรรคต เจ้าชายมุฮัมมัด บินซัลมาน ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมแล้ว พระองค์ยังเป็นผู้บัญชาการนำประเทศมุสลิมโจมตีการปฎิบัติการในครั้งนี้ด้วย การปฎิบัติการโจมตีกลุ่มกบฎฮูซี่ครั้งนี้เรียกว่า อาศิฟะตุลฮัซม์" พายุแกร่ง
หลังจากที่ซาอุฯเปิดฉากถล่มกลุ่มกบฏฮูษี่ในเยเมน อาทิตย์ก่อน มีการจัดประชุมสันนิบาตอาหรับขึ้น โดยมีอิยิปต์เป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ที่กรุงไคโร มีสมาชิกประเทศอาหรับเข้าร่วมกัน รวมทั้ง ปธน ฮาดี้ ของเยเมน โดยมีการถกพูดคุยประเด็นสำคัญในเรื่องนี้ โดยเฉพาะวิกฤติการณ์ในเยเมน โดยกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับมีมติเป็นเอกฉันต์พร้อมสนับสนุนเยเมนและกำจัดกลุ่มกบฎชีอะฮ์ฮูษี่และอิทธิพลของอิหร่านให้หมดไปจากตะวันออกกลาง มีประเทศสนับสนุนมากมาย แต่บางประเทศอาจจะส่งการช่วยเหลือแบบลับๆ ไม่เปิดเผยตัวตนแบบประเทศอ่าวอาหรับ แต่มีประเทศที่ประกาศไม่เข้าร่วมการโจมตีในครั้งนี้คือ โอมาน เพราะโอมานเป็นประเทศที่ติดกับเยเมน อีกทั้งชนเผ่าที่อพยพอาศัยอยู่ในโอมานบางเผ่า ก็มาจากเยเมน อีกทั้งหากเกิดสงครามบานปลาย มีการอพยพลี้ภัย โอมานสามารถรองรับและช่วยเหลือเรื่องดังกล่าวได้
ทางด้านตุรกี ประธานาธิบดี เรเซป ฎอยยิบ เออ์ดูฆอน ได้ออกมาพูดถึงเรื่องการโจมตีกลุ่มกบฏในเยมน ของซาอุดิอาระเบียครั้งนี้ ที่กรุงอังการ่า ว่า ตุรกีสนับสนุนและเห็นด้วยต่อประเทศซาอุดิอาระเบียที่ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มกบฏฮูษี่ ปธน ตุรกียังกล่าวอีกว่า อิหร่านถือเป็นภัยคุกคามในตะวันออกกลาง และประกาศกร้าวให้อิหร่านควรถอนทหารร่างทรงออกจาก เยเมน ซีเรียและอิรัค ไม่ใช่นั้นประเทศที่จะโดนถล่มเป็นรายต่อไปกลับเป็นอิหร่านเอง
ทางสภาอูลามาฮ์(ปราชญ์)ศาสนาของซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งประเทศมุสลิมซุนนีย์หลายประเทศ ต่างออกมาสนับสนุนและเห็นด้วยต่อการโจมตีเยเมน ของซาอุในครั้งนี้ เพราะถือว่า กลุ่มฮูซี่ ซึ่งเป็นกบฏได้ปรปักษ์ต่อผู้นำ อีกทั้งฮูษี่เป็นชีอะฮ์ สายซัยดียะฮ์(5 อิหม่าม) ถือได้ว่าหากกลุ่มนี้มีอำนาจในเยเมน จะภัยคุกคามใหม่ของโลกมุสลิมซุนนีย์ โดยเฉพาะต่อชาวซุนนีย์ในเยเมน ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ชีอะฮ์ฮูษี่ มีแบล็กใหญ่คือประเทศอิหร่าน หรือ ชีอะฮ์ อิมามียะฮ์(12 อิหม่าม) ให้การสนับสนุนในการสู้รบ
ฮูษี่ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเยเมน อาศัยอยู่ทางเหนือของประเทศ จริงอยู่ฮูษี่เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศ แต่ถึงอย่างไร กลุ่มฮูษี่เป็นกลุ่มกองกำลังที่มีความแข็งแกร่งพอสมควร เหตุผลนี้ซาอุดิอาระเบียจึงปล่อยไว้ไม่ได้ ถ้าหากปล่อยไว้ปัญหาจะยิ่งบานปลายแก้ไขได้ยากเหมือนในกรณีสงครามในซีเรียปัจจุบัน เป็นปัญหาที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบ
บางคนถามว่า ทำไมมุสลิมต้องฆ่ามุสลิมกันเอง
สาเหตุการโจมตีครั้งนี้ สาเหตุ ไม่ใช่เพราะความต่างศรัทธาหรือความเชื่อที่ไม่เหมือนกัน แต่เป็นเพราะเกิดจากกบฏบุกยึดอำนาจ ยึดเมืองหลวง จนผู้นำประเทศต้องหนีย้ายไปต่างเมือง เรียกได้ว่าเป็นการช่วยเหลือผู้นำเยเมน ต่อกลุ่มกบฏ แต่ผลพลอยได้ทีนี้คือ กบฏฮูซี่ เป็นชีอะฮ์ ซัยยิดะฮ์ ถึงแม้จะต่างความเชื่อกับ ชีอะฮ์ อิมามียะฮ์ ของอิหร่าน แต่สายเลือดชีอะฮ์ยังมีความผูกพัน มองชีอะฮ์ด้วยกัน เป็นญาติมากกว่าซุนนีย์อยู่แล้ว ทำให้คนนอกมองว่าเป็นสงคามระหว่างนิกายหรือสงครามศาสนา แต่ผมกลับมองว่าครั้งนี้ เป็นสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดิอาระเบียกับอิหร่าน โดยอาศัยเยเมนเป็นสนามรบกันมากกว่า เพราะประเทศซาอุดี้ พยายามยับยั้งการเข้ามามีอิทธิพลของอิหร่าน ตั้งแต่ในบาห์เรน เมื่อ4ปีก่อน จนทางบาห์เรนขอกำลังทหารซาอุมาช่วยปราบ เรื่องเลยซาลง ตอนนี้มาเยเมนต่อ ลองคิดดู ถ้าเยเมนเป็นประเทศชีอะฮ์ มีผู้นำชีอะฮ์ ซึ่งเยเมน เป็นประเทศติดกับซาอุดิอาระเบีย และอยู่ไม่ไกลจากนครเมกกะ สถานที่สำคัญของชาวมุสลิม อะไรจะเกิดขึ้นกับซาอุดิอาระเบียต่อไป ซาอุดิอาระเบียถือเป็นประเทศหัวหอกใหญ่ของซุนนีย์ จึงยอมไม่ได้ที่ให้ครัตรูเข้าพิชิตนครศักดิ์สิทธิ์และพยายามจะสร้างความปั่นป่วนในประเทศซาอุดิอาระเบียเอง โดยเฉพาะความมั่นคงของประเทศ
แสดงความคิดเห็น
สงครามในเยเมนมีสาเหตุจากอะไรแล้วทำไมซาอุต้องไปรบไปฆ่าชาวเยเมนทั้งที่เป็นมุสลิมเหมือนกัน
ปล.ไม่ดราม่านะครับ