[CR] ✱ สามสาวแบกเป้ ตะลุยเที่ยวรอบโครงการหลวงตีนตก จ.เชียงใหม่ ✱

สวัสดีค่ะทุกกกคนนนนน ♡
ใครว่าผู้หญิงเที่ยวกันเองไม่ได้ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ได้มีโอกาสไปเที่ยวเราเลยอยากมาเล่าประสบการณ์และบอกต่อสถานที่สวยๆในเชียงใหม่ที่เราไปสัมผัสมา ที่สำคัญเดินทางไม่ยากแต่สวยมากกกกกกกผู้หญิงอย่างเราๆไปเที่ยวเองกันสบายยยย ไปดูกันเลยค่ะ

วันแรก!
6โมงเช้าเป็นเวลาที่เรานัดกันที่สนามบินดอนเมือง ช่วงนั้นราคาเครื่องบินกับรถทัวร์พอๆกัน เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและความสบายที่มากกว่าเราเลยเลือกเดินทางกันโดยเครื่องบิน พอลงเครื่องปุ๊ปเราก็รีบไปเอารถที่เช่าไว้ทันทีแล้วเริ่มออกเดินทางไปที่ถนนสันกำแพง


ถนนสันกำแพงเป็นถนนที่ไม่ไกลจากสนามบินมากเราใช้เวลาไม่นานก็ถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่แรกคือ โจลี่ฟาร์ม โจลี่ฟาร์มเป็นแหล่งรวมผ้าไหมทอมือที่มีคุณภาพและความละเอียดสูง ราคาก็จะตามความละเอียดของงาน ที่นี่เราสามารถเข้าชมในส่วนการผลิตของเขาได้ซึ่งเขาก็จะมีวิทยากรอธิบายในแต่ละขั้นตอนให้เราฟัง เราจะได้เห็นวิธีการปลูกไหม ทอไหม







อย่าคิดว่าน่าเบื่อนะคะเพราะตอนแรกก็คิดอย่างนั้นแต่พอเข้าไปจริงเราประทับใจมากทั้งลายผ้าไหมที่สวยมากจริงๆสวยแบบอยากได้เลยกับคนในนั้นน่ารักมากไปยืนไปจ้องถามนู่นถามนี่เค้าก็ตอบแบบยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเองสุดๆ






หลังจากเก็บรูปจนพอใจเราก็เดินทางกันต่อ นั่งรถยังไม่ทันหายเมื่อยก็ถึงแล้ว บ้านศิลาดล ที่นี่เป็นที่ผลิตเครื่องเคลือบที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่นคือลวดลายและการแตกลายงาของศิลาดล เราสามาถเดินดูรอบๆได้ตั้งแต่วิธีการปั้น แกะลวดลาย ลงสี เคลือบ เอาเข้าเตาอบ คนที่นี่เขาจะไม่ค่อยคุยกับเรานะคือยิ้มแย้มถามก็ตอบ แต่เค้าจะมีสมาธิในการทำงานของเขามากๆ













ไปเที่ยวมา2ที่ละเริ่มหิวขับรถไปตามทางเจอร้านข้าวซอยรีบเลี้ยวจอดทันทีเลย



พักจนหายเหนื่อยเราก็มาต่อกันที่ ศูนย์หัตถกรรมกระดาษสาและร่ม พอถึงก็ได้เดินดูรอบๆรู้สึกชอบนะที่ได้เห็นอะไรที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนพึ่งจะรู้ว่างานฝีมือต้องใส่ใจทุกรายละเอียดมากๆ ต้องมีความชำนาญ ผลงานที่ได้ออกมาก็สวยกว่าการใช้เครื่องจักรและของชิ้นนั้นก็มีชิ้นเดียวในโลก







นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ จริงๆแนะนำอยากให้คนไทยไปนะเพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เราจะได้เห็นงานฝีมือภูมิปัญญาชาวบ้านเยอะมากที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน เราจะได้เห็นและสัมผัสความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ที่อยู่กันอย่างเรียบง่ายก็มีความสุขได้




เดินทางกันไปต่อที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตกเป็นที่สุดท้ายของเราในวันนี้และเป็นที่พักของเรา ที่นี่เป็นที่ที่เราอยากมากันมากเพราะเห็นรีวิวห้องพักและบรรยากาศที่นี่จากในพันทิพนี่แหละ บรรยากาศมีความร่มรื่นมากเหมาะแก่การพักผ่อนที่เงียบสงบและได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดเลย หน้าห้องพักแต่ละห้องจะมีน้ำตกไหลผ่าน อากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี ที่นี่มีร้านอาหารด้วยนะคะคือไม่ได้เข้าพักก็สามารถแวะทานอาหารได้ วัตถุดิบที่ใช้ก็จะเป็ของโครงการหลวง ผักสดกรอบมากกกกก






ห้องพักของเรา






หลังจากเก็บของเข้าห้องพักแล้วเราก็มาเดินเล่นรอบๆโครงการหลวงซึ่งจะมีที่เพาะปลูกกล้วยไม้ ดอกไม้ต่างๆ และ มีโรงตากเมล็ดกาแฟที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์












วันที่2!
หลังจากเรารับประทานอาหารเช้าเสร็จเราก็เดินทางไปต่อกันที่ร้านกาแฟชื่อดังในแถบนี้คือร้าน the giant ที่นี่จะมีจุดเด่นคือเป็นร้านกาแฟที่สร้างบนต้นไม้ขนาดใหญ่บรรยากาศล้อมรอบไปด้วยต้นไม้และวิวทิวทัศน์ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา กาแฟภายในร้านจะเป็นกาแฟที่ชาวบ้านปลูกขึ้นเองเพราะจุดประสงค์หลักของเจ้าของร้านคือต้องการส่งเสริมอาชีพให้กับคนในท้องถิ่น แต่ด้วยความที่เป็นร้านกาแฟบนต้นไม้ทำให้มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวก่อนจะไปที่ร้านจะต้องมีการโทรไปจองก่อนนะคะ






เดินทางต่อกันไปที่หมู่บ้านแม่กำปอง ก่อนที่เราจะมาที่หมู่บ้านนี้เราได้ศึกษาข้อมูลมาว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมากและมีอากาศดีคือไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไร แต่พอเราไปถึงเราสามารถใช้คำว่าหลงไหล ประทับใจ หรืออยากจะมาอยู่ที่นี่ได้เลย เพราะ อากาศที่ดีมากๆหนีร้อน หนีรัก หนีความวุ่นวายมาอยู่ที่นี่ได้ และ คนในหมู่บ้านที่ใจดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก(อยากให้รู้ว่ามากจริงๆ) ทุกคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือกัน และอยู่ด้วยกันเหมือนเป็นครอบครัว



คืนนี้เราจะพักกันที่นี่ซึ่งได้มีการติดต่อกับผู้ใหญ่บ้านเพื่อจองที่พักแบบเกสเฮ้าคือเราจะเข้าไปอยู่ในบ้านกับคนในพื้นที่และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเลย หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อยเราก็ได้ไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน














หลังจากเดินทั่วหมู่บ้านแล้วก็มานั่งจิบกาแฟยามเย็นที่ร้านชมนกชมไม้ วิวจากร้านชมนกชมไม้จะมองเห็นหมู่บ้านแม่กำปองอยู่ด้านล่าง ในช่วงพระอาทิตย์ตกดินนี่สวยมากกกกกกกกกกก




6โมงตรงเป็นเวลาที่เรานัดผู้ใหญ่ให้มาทำพิธีบายศรีเพื่อเป็นสิริมงคลและเหมือนเป็นการต้อนรับเราด้วย


หลังจากพิธีบายศรีเราก็ทานอาหารเย็นของเราฝีมือป้าอี๊ดเป็นอาหารธรรมดาเหมือนอยู่บ้านเรานี่แหละค่ะ


พอดีในช่วงที่ไปมีคนในหมู่บ้านเสียป้าอี๊ดจึงชวนเราไปที่วัดไปช่วยกันจัดพิธีงานศพเราก็ไปช่วยเขา คือเวลามีงานศพหรืองานบุญต่างๆคนทั้งหมู่บ้านจะมารวมตัวกันที่วัดเพื่อช่วยงานกันเช่นทำอาหารและญาติของผู้เสียชีวิตจะนอนที่วัดเลยพลัดกันมาเพื่อไม่ให้ศพเหงาแต่บรรยากาศไม่ค่อยน่ากลัวนะคะ คนในครัวผู้หญิงก็เอาข้าวเหนียวใส่ห่อ ผู้ชายก็ทำข้าวต้มอยู่หน้าครัว และด้วยอากาศที่ค่อนข้างหนาวคนจึงมานั่งผิงไฟรอบๆเตาทำอาหารกัน


ชื่อสินค้า:   เชียงใหม่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่