สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิพทุกคน
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร อยู่ดอยู่ดีๆมันก็รู้สึกคิดถึงแฟนเก่า มันเหมือนว่ามันมีอะไรค้างคาในใจยังไงก็บอกไม่ถูก มันโหยหาแบบคนที่ลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไปแต่ดันนึกไม่ออกว่าเรื่องอะไรน่ะครับ
ต้องบอกก่อนนะครับว่าผมกับแฟนเก่าเราเลิกกันไปหลายปีแล้ว คบกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว และก็รักกันดีแต่ตอนนีเธอไปทำงานต่างประเทศครับ
เรื่องราวมันเริ่มต้นตอนผมอยู่มัธยม เธอเป็นฝ่ายเข้ามาหาผมและบอกชอบผมเอง ซึ่งตอนแรกผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริงเพราะผมไม่หล่อเลย อ้วนด้วย สมัยนั้นจะดีแค่เรียนเก่งกับเวลาทำอะไรแล้วเพื่อนๆชอบให้เป็นหัวหน้า แต่พอถามไปถามมาเธอบอกว่าพูดจริงๆและร้องไห้เพราะผมมาหลายครั้งแล้ว เพราะผมเคยแอบชอบเพื่อนเธอและขอให้เธอช่วยเหลือในการจีบบ่อยๆ แต่สุดท้ายก็แห้วเพราะเธอย้ายโรงเรียนไปครับ
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ชอบใครอีกเลย จนแฟนเก่าคนนี้เธอมาถามผมว่าเราจะลองคบกันได้ไหม เพราะถ้าจบ ม 3 แล้ว อาจไม่ได้เจอกันอีกก็ได้ (เธออาจย้ายโรงเรียน) ผมจึงตัดสินใจคบกับเธอ ช่วงนั้นผมบอกตรงๆ อึดอัดมากครับ เพราะเธอตามติดผมมาก (ช่วงนั้นติดเพื่อน ชอบเล่นบอล เล่นดนตรีครับ) แต่เธอบังคับให้ผมเดินกลับบ้านกับเธอทุกวัน อดเล่นบอลกับเพื่อนครับ เวลาพักเที่ยงก็ต้องแยกไปกินข้าวกันสองคน ซึ่งปกติผมจะนั่งกินกับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่ ส่วนตอนเช้าเธอจะนั่งรถมารอที่หน้าบ้านผมทุกวันเพราะผมชอบตื่นสายเข้าแถวไม่เคยทัน และหลังจากผมกลับถึงบ้านก็ต้องให้โทรหา บางครั้งไม่ยอมวางจนหลับก็มี หรือบางทีโทรมาแล้วบอกให้โทรกลับถามว่ามีอะไรพูดเลยได้ไหม ก็ไม่ยอมบอก พอไม่โทรกลับก็โกรธ เป็นอย่างนี้หลายเดือนครับ จนสุดท้ายวันสอบวันสุดท้าย ผมไปขอเลิกกับเธอด้วยเหตุผลว่าผมเบื่อทนไม่ไหวที่ต้องทำตามความต้องการของเธอซึ่งบางอย่างมันไม่มีเหตุผล วันนั้นครั้งแรกเลยครับที่เห็นผู้หญิงร้องไห้ต่อหน้าโดยสาเหตุมาจากตัวผม บอกตรงๆรู้สึกแย่มากแต่ก็ทำอะไรไม่ถูก
แต่วันนั้นตอนเย็นผมก็ไปห้องซ้อมกับเพื่อนผมเพราะสอบเสร็จแล้ว ปรากฎว่าเธอตามหาผมจนเจอแล้วเอาของทั้งหมดที่ผมให้ระหว่างคบกันมาปาใส่หน้าผม ผมก็ถามว่าจะเอายังไง เทอก็พูดว่าทำไม มันผิดอะไรมากหรอกับสิ่งที่ร้องขอ เรื่องแค่นี้แฟนที่ดีน่าจะให้กันได้ ผมเลยปากพล่อยไปบอกเธอว่าผมไม่ใช่คนดี คนดีคือไอ้...(ชื่อเพื่อนในวง) ไปคบกับมันเหอะ และอยู่ๆเปิดเทอมเธอกับเพื่อนผมก็ไปคบกันจริงๆ ผมก็รู้สึกเคืองๆนิดๆนะ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากเพราะเลิกกันไปแล้ว จนวันสอบกลางภาค(ตอนสอบอีกแล้ว) เธอโทรมาหาผม ถามผมว่ารู้สึกอย่างไรที่เธอคบกับเพื่อนผม ผมก็พูดตรงๆ ว่าหมั่นไส้เล็กตอนเห็นสวีทกันนอกนั้นก็โอเค เธอกลับบอกผมว่าทั่ทำไปเพราะต้องการประชดผม ตั้งใจว่าถ้าคบเพื่อนผมแล้วผมต้องหึงต้องกลับไปง้อ (นี่คือสาเหตุที้เธอชอบทำสวีทให้ผมเห็น) แต่เรื่องกลับแย่ลงไปอีกเพราะผมมัน
มีต่อมรับความรู้สึกเท่าช้อนชา ตอนนี้เธอทนหลอกเพื่อนผมไม่ไหวเพราะสงวารเพื่อนผมด้วย และเธอเองก็อึดอัดใจ ผมเลยบอกว่าผมไม่เกี่ยวแล้ว มันไม่ใช่เรื่องของผม ทำตามที่ใจต้องการเหอะ ถ้าจะคุยเรื่องนี้ผมขอไม่คุย (เพราะผมรู้สึกผิดกับเพื่อนผม) เธอเลยถามผมว่าถ้าเธอเลิกกับเพื่อนผม ผมจะกลับมาคบกับเธอมั้ย ผมก็อึ้งไปครับ พอรวบรวมสติได้ผมก็บอกว่าเอางี้ถ้าจะโทรมาคุยเรื่องทั่วไป อ่านหนังสือตรงไหน เรียนต่อโรงเรียนอะไรดี หรือหมาคนข้างบ้านไปเยี่ยวใส่ล้อใคร ผมจะคุยด้วย แต่ถ้าถามว่าจะคบหรือเลิกอะไรพวกนั้นผมไม่คุย จะเลิกก็เลิกอย่าให้ผมมีส่วนในการตัดสินใจ ส่วนว่าจบคบกันอีกไหมให้มันเป็นเรื่องอนาคตผมไม่รู้
ปรากฎว่าวันรุ่งขึ้นเธอไปบอกเลิกเพื่อนผม ทำเอาเพื่อนผมเสียผู้เสียคนไปพักใหญ่ ในระหว่างนั้นเธอก็โทรหาผมเรื่อยๆคุยไปสัพเพเหระ บอกว่าถ้ากลับมาคบกันอีกทีจะไม่งี่เง่าแล้ว จนสุดท้ายผมตัดสินใจลองคบอีกครั้ง ครั้งนี้ทุกอย่างดีขึ้นมาก เรามีโมเม้นต์ที่เป็นความรักใสๆของเด็กวัยรุ่นทั่วไป จนเธอย้ายโรงเรียนตอนขึ้น ม 4 เราก็ยังคบกันต่อ เธอไปอยู่ รร ประจำแถวปทุม ผมยังเรียนที่เดิมใน กทม เรามีโทรคุยกันบ้างเพราะที่ รร เธอห้ามใช้โทรศัพท์ (สมัยนั้นมือถือยังแพงและ โซเชี่ยลยังไม่บูม) ส่วนใหญ่จะโทรคุยกันเย็นๆ และเสาร์อาทิตย์จะนัดเจอกันถ้าช่วงสอบก็จะใช้วิธีส่งจดหมาย (ผมชอบนะผมว่ามันโรแมนติกดี) วันสำคัญก็จะส่งของขวัญให้กัน จนวันเกิดตอนเธอ 17 เธอบอกว่าจะได้กลับบ้านพอดี ผมเลยโทรไปหาเธอที่บ้านเพื่อจะแฮปปี้เบิร์ทเดย์และเอาของขวัญไปให้ แต่เจอป้าเธอรับและบอกว่าไม่อยู่บ้าน อาทิตย์นี้เธออยู่ รร
ผมเลยถามว่าผมขอฝากของขวัญให้เธอได้ไหม เพราะปกติลุงกับป้าเธอจะไปหาถ้าเธอไม่กลับบ้าน ป้าเธอก็บอกได้ๆรีบๆมาจะออกไปแล้วไม่อยากสาย ผมก็รีบเอาไปฝาก เจอลุงกับป้าเธอผมรู้เลยว่าเขาคงไม่ค่อยชอบผม เพราะวันนั้นใส่เสื้อยืดขาดๆสีขาว บางคนเห็นหัวนมชี้ กางเกงบอลเอวย้วยๆ รองเท้าหูหนีบ กับรถป๊อปสีชมพูที่เรัยกว่าซากก็คงไม่แปลก
ที่แปลกคือหลังจากวันนั้นเธอไม่ติดต่อผมมาอีกเลย โทรไปก็เจอแต่ป้ากับลุงเธอรับ ส่งจดหมายไปก็ไม่ตอบ จนฉบับสุดท้ายตีกลับ (เพิ่งมารู้ทีหลังว่าพอจบเลื่อนชั้นปีก็จะย้ายหอไปจากหอชมพู ไปหอฟ้าครับ)
ตอนนั้นผมเองก็ไม่รู้นะว่าเลิกกันหรืออะไร ผมมีไปดักรอแถวหน้าบ้านเธอบ้างแต่ไม่กล้าเข้าไปในบ้านเธอครับ ก็ไม่ได้เจอเธอจนคิดว่าเธอคงมีคนใหม่แล้วจึงทำใจครับ ครั้งนี้เศร้าครับ อึนๆโหวงๆเหมือนเรื่องมันค้างๆคาๆ แต่พักนึงผมก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ
แต่แล้วเมื่อผมกำลังจะลืมเธอไปแล้ว (ระหว่างนั้นผมก็มีคุยๆกับคนอื่นบ้างแต่ยังไม่ใีใครที่คบกันจนเป็นแฟนเลย) เธอก็โทรมาหาผมครับ ตอนแรกก็คุยกันเรื่อยเปื่อยอารมณ์เหมือนเพื่อนเก่าไม่เจอกันนาน เธอก็บอกตามตรงครับว่าคบกับนักเรียนเตนียมทหารอยู่ ผมก็เฟลล์นะเพราะไม่มีไรสู้ได้เลย คุยกันได้หลายครั้งครับจนผมทนไม่ไหวถามเธอว่าทำไมถึงไม่ติดตาอมาจู่ๆก็หายไป เธอก็บอกว่าผมต่างหากที่ลืมเธอไม่โทรหาตอนวันเกิดของขวัญบอกจะให้ก็ไม่ให้ เธอเลยงอนและคิดว่าเดี๋ยวผมคงโทรหาและยกคำแก้ตัวมาอ้างแต่ก็เงียบ และเธอเห็นมีผู้หญิงซ้อนท้ายผมไปตลาด เลยคิดว่าผมมีคนใหม่ไปแล้ว (จริงๆผู้หญิงที่ซ้อนผมเป็นเพื่อนที่เพิ่งย้ายเข้ามาตอน ม 4 เธอเลยไม่รู้จัก และผมไปส่งเพราะเธอบ้านอยู่หน้าตลาดส่วนผมจะไปห้องซ้อมดนตรีที่อยู่หลังตลาด เลยให้ติดรถมา) ผมก็บอกว่าโทรไปหลายครั้งนะเจอแต่ป้าเธอรับ ของขวัญก็ฝากป้าเธอไป จดหมายก็ส่งไป แต่ก็เงียบ เธอบอกว่าป้าเธอไม่เคยบอกเลยว่าผมโทรไป ของขวัญก็ไม่เคยพูดถึง (ป้าเธอคงไม่อยากให้เราคบกันมั้ง) ส่วนจดหมายก็บอกว่าเธอย้ายไปหออื่น ที่หอเดิมจึงไม่มีชื่อเธอ จดหมายถึงตีกลับ
ในตอนนั้นผมรู้สึกว่าดีใจก็ไม่ใช่ เสียใจก็ไม่เชิง เพราะที่เราห่างไปเพราะคนอื่นไม่ใช่เพราะเราทั้งคู่ แต่ผมเข้าใจดีว่าเธอมีคนอื่นไปแล้วก็ไม่ได้คิดแย่งคืนหรืออะไรก็คุยกันเรื่อยแบบเพื่อน แต่เราเหมือนสร้างสถานะพิเศษให้กัน มีไปเที่ยวกันบ้างกับกลุ่มเพื่อนๆ จนพักหลังเพื่อนๆที รร ผมเห็นก็มาเตือนประมานว่าเฮ้ยกลับคบกันอยู่หรอ? เขามีแฟนแล้วนะโดนผู้หญิงหลอก-ป่าว (ช่วงนั้นผมมีจ๊อบพิเศษ หาเงินได้เองอาทิตละสองสามพัน เลยแอบเป็นเสี่ยเล็กๆ ชอบเลี้ยงเพื่อน) แรกๆผมก็ปฏิเสธนะ แต่ไม่มีใครเชื่อ ช่วงหลังผมเลยหายจากกลุ่มบ่อยๆ เพราะมาเที่ยวกับเธอนี่แหละ แต่ไม่อยากชวนเพื่อนมาเพราะพอกลับมาก็โดนรุมถามเรื่องเดิมๆ เลยมักไปเที่ยวกับเธอแค่สองต่อสอง ผมคุยกับเธอลักษณะนี้ประมาณ 3-4เดือน จนปิดเทอมและสอบทุกอย่างเรียบร้อยรอผลเอ็นทรานซ์ออก ผมรู้สึกได้ชัดเจนว่าผมไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนแล้ว จึงนัดเจอเธอและบอกความรู้สึก ตอนนั้นผมแค่ไม่แยากปิดบังอีกแล้วผลลัพธ์ออกมาอย่างไรไม่สนใจ จึงโทรนัดเธอออกมา หลังจากบอกเธอผมก็จะกลับเลย เพราะไม่อยากฟังคำตอบ แต่เธอขอให้เลี้ยงน้ำแข็งใสก่อน ผมก็งงนะ แต่ก็ไปกินเพราะใจก็อยากอยู่ให้นานที่สุด ระหว่างกินเธอบอกว่าถ้าเธอไม่มีแฟนอยู่ เธอจะตอบตกลงผมอย่างไม่ลังเลเลย ผมก็บอกว่าผมไม่ได้มาถามเลยไม่ได้ต้องการคำตอบ ผมแค่มาบอกสิ่งที่ผมรู้สึกเท่านั้น แล้วผมก็ลุกมาโดยไม่ได้หันไปมองเธออีกเลย (เธอบอกว่าเดินตามผมมาถึงที่จอดมอเตอร์ไซต์เลย แต่ผมก็ไม่ได้มอง)
คืนนั้นผมไปเมายับอยู่บ้านเพื่อน จำได้ว่าอ้วกรดบอนไซของพ่อมันด้วย ตีสามจึงค่อยๆประคองตัวกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นบ่ายกว่าๆผมก็ไปหาเหล้ากินอีก แต่พอเย็นเธอก็โทรมาหาผม(ตอนนั้นมีมือถือแล้ว) บอกสิ่งที่ผมประหลาดใจมากคือบอกว่าเลิกกับแฟนแล้ว ผมถามว่าทำไม เธอก็บอกว่าเธอเลือกสิ่งที่ทำแล้วจะเสียใจน้อยที่สุดแค่นั้นเอง ผมดีใจมากที่สุดท้ายเธอเลือกผม หลังจากนั้นผลสอบเอนฯออกผมก็เสียใจเล็กๆเพราะต้องไกลกันอีกแล้ว เธอติดมหาลัยในโคราช ส่วนผมได้ที่ศรีราชา
แต่เราก็สามารถติดต่อกันง่ายขึ้นเพราะมีมือถือกันแล้ว และขึ้นมหาลัยก็มีอิสระมากขึ้น ตอนปี1นั้นผมจะไปหาเธอประทานเดือนละครั้ง ซึ่งเราเพิ่งมีอะไรกันตอนขึ้นมหาลัยแล้ว ผมเคยคิดไกลถึงขั้นแต่งงานกันเลยทีเดียว (ผมก็เคยคบกับคนอื่นสองสามคนแต่ไม่มีใครที่ผมจริงจังมาถึงขั้นนี้)
แต่แล้วก็เป็นตัวผมเองที่โง่ ทำตัวเอง ในช่วงปี1นั้นผมคะนองหรือไม่รู้จะเรียกว่าโง่ก็ได้ ผมคบกับคนอื่นด้วยในขณะที่คบเธอ ตอนนั้นผมคบกับผู้หญิงทั้งหมดถึง 7คน รวมเธอด้วย และมี 5 คนที่ผมมีอะไรด้วย (ผมเป็นคนอ้วนที่คารมดี อารมณ์ดี ดูเป็นผู้ใหญ่ครับ เวลาคุยกับผู้หญิงจึงมักไว้ใจว่าผมไม่ได้หลอกลวง) ผมคิดว่าถึงยังไงเธอก็ไม่มีทางรู้เพราะเธอไม่เคยมามหาลัยผม และถึงรู้ก็คงให้อภัยเพราะเธอคือคนที่ผมจริงจังที่สุด (คิดเองเออเองเสร็จ)
ก่อนเจอกันทุกครั้งผมก็จะลบข้อความหรือรายการโทรออกทั้งหมดเหลือแต่พวกเพื่อนผู้ชายไว้ในรายการ แต่ความก็แตกเพราะโนเกียร์มันมีฟังก์ชั่นที่จดจำทุกเบอร์โทรเข้าและออก ที่เวลาลบแล้วมันจะหายไปหมดเลือกลบทีละเบอร์ไม่ได้ (ตอนแรกไม่รู้ว่ามี เพิ่งรู้วันนั้นเองว่ามันมีฟังก์ชันนี้ด้วย ตอนซื้อเซล
ไม่บอก สัสเอ้ย) โดยเธอแอบเข้าไปเช็คและจดเบอร์ที่ผมคุยนานๆไว้และคงโทรไปหาและก็รู้ความจริงทั้งหมด แล้วเธอก็ถามผมว่ามีอะไรที่เธอควรต้องรู้มั้ย ผมก็บอกถามไรตรงๆเลยเราไม่มีอะไรปิดบัง เธอก็ถามว่าคนชื่อ...คือใครพูดความจริงมาจะยกโทษให้ ผมก็บอกเป็นเพื่อนกันเรียนวิชาเดียวกันเลยแลกเบอร์ไว้เผื่อเวลาทำรายงานไรประมานนั้น แล้วเธอก็ถามอีกสามชื่อและถามผมว่ามีใครอีกไหม และพูดความจริงหมดแล้วใช่ไหม ผมก็หน้าด้านโกหกไปว่าไม่มีแล้วบางคนก็ไม่ได้ขอเองรุ่นพี่ให้ขอให้
เธอก็สวนมาว่า
โทรไปถามมาหมดแล้วมันบอกว่าคบกันกับผมทุกคน ผมก็หน้าชาครับ ได้แต่ขอโทษและสัญญาว่าจะไม่ทำอีกและลบเบอร์ทั้งหมดไป (ผมจดทั้งหมดไว้ในสมุดโทรศัพท์อีกเล่มด้วย ลืมบอก) ก็เคลียร์กับเธอได้โดยเธอทิ้งท้ายไว้ว่าจำไว้นะว่าทำไรไว้ เธอก็ทำได้เหมือนกัน ตอนนั้นผมก็ไม่สนใจมากคิดว่าเธอคงโกรธเลยขู่ไปงั้นๆ
พอกลับมาผมก็ยังไม่เลิกกับทุกคนตามที่สัญญากับเธอครับ แต่ไม่ได้คุยไปมั่วเหมือนแต่ก่อนเหลือแค่สองคนที่รู้สึกดีด้วยจริงๆ ส่วนกับแฟนผมนั้นทุกอย่างก็ปกติ เพียงแต่ช่วงหลังมักได้แต่คุยกันสั้นๆ เพราะผมเองก็เรียนหนักและกิจกรรมเยอะ เธอก็เหมือนกัน เด็กปี1 คงพอนึกออก
จนผมขึ้นปีสองผมเลิกกับคนอื่นหมดเหลือเธอเพียงคนเดียวและผมกินเหล้ากับพวกเพื่อนน้อยลงมากๆ เพื่อจะให้ได้ตามที่เธอขอไว้ จนเพื่อนผมสมัยมัธยมโทรมาบอกว่ามีไรจะบอก "ลองเข้าไปดู hi5 ชื่อ.... มันลงรูปคู่กับแฟนบอกว่าคบกันด้วย" ผมรู้สึกเลยว่าเหมือนทุกอย่างมันรวดเร็วสับสนไปหมด ทุกอย่างพังครืนลงมาหมดเลย ผมโทรถามเธอว่าเรื่องจริงหรือเปล่ารู้จักไอนั่นและคบกันจริงหรือเปล่า เธอตอบกลับมาสั้น ว่าจริง ผมนี่แทรบทรุดตรงนั้นเลย ผมถามทำไมทำอย่างนี้ เธอว่าตอนแรกเธอคิดว่าผมจะดีกับเธอรักเธอคนเดียว เพราะกว่าจะได้คบกันมันลำบากขนาดไหน แต่ผมทำลายความเชืาอมั่นนั้นหมดสิ้น แถมพอเธอขอให้พูดความจริงผมกลับเลือกโกหกซ้ำอีก มันทำให้เธอหมดความเชื่อใจ และความรักมันก็ค่อยๆลดลงตาม เธอบอกไม่อยากร้องไห้ให้ผู้ชายอย่างผมอีก
มีต่อครับ ใกล้จะจบแล้ว
อยู่ดีๆ ก็คิดถึงแฟนเก่าขึ้นมา
ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร อยู่ดอยู่ดีๆมันก็รู้สึกคิดถึงแฟนเก่า มันเหมือนว่ามันมีอะไรค้างคาในใจยังไงก็บอกไม่ถูก มันโหยหาแบบคนที่ลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไปแต่ดันนึกไม่ออกว่าเรื่องอะไรน่ะครับ
ต้องบอกก่อนนะครับว่าผมกับแฟนเก่าเราเลิกกันไปหลายปีแล้ว คบกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว และก็รักกันดีแต่ตอนนีเธอไปทำงานต่างประเทศครับ
เรื่องราวมันเริ่มต้นตอนผมอยู่มัธยม เธอเป็นฝ่ายเข้ามาหาผมและบอกชอบผมเอง ซึ่งตอนแรกผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องจริงเพราะผมไม่หล่อเลย อ้วนด้วย สมัยนั้นจะดีแค่เรียนเก่งกับเวลาทำอะไรแล้วเพื่อนๆชอบให้เป็นหัวหน้า แต่พอถามไปถามมาเธอบอกว่าพูดจริงๆและร้องไห้เพราะผมมาหลายครั้งแล้ว เพราะผมเคยแอบชอบเพื่อนเธอและขอให้เธอช่วยเหลือในการจีบบ่อยๆ แต่สุดท้ายก็แห้วเพราะเธอย้ายโรงเรียนไปครับ
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ชอบใครอีกเลย จนแฟนเก่าคนนี้เธอมาถามผมว่าเราจะลองคบกันได้ไหม เพราะถ้าจบ ม 3 แล้ว อาจไม่ได้เจอกันอีกก็ได้ (เธออาจย้ายโรงเรียน) ผมจึงตัดสินใจคบกับเธอ ช่วงนั้นผมบอกตรงๆ อึดอัดมากครับ เพราะเธอตามติดผมมาก (ช่วงนั้นติดเพื่อน ชอบเล่นบอล เล่นดนตรีครับ) แต่เธอบังคับให้ผมเดินกลับบ้านกับเธอทุกวัน อดเล่นบอลกับเพื่อนครับ เวลาพักเที่ยงก็ต้องแยกไปกินข้าวกันสองคน ซึ่งปกติผมจะนั่งกินกับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่ ส่วนตอนเช้าเธอจะนั่งรถมารอที่หน้าบ้านผมทุกวันเพราะผมชอบตื่นสายเข้าแถวไม่เคยทัน และหลังจากผมกลับถึงบ้านก็ต้องให้โทรหา บางครั้งไม่ยอมวางจนหลับก็มี หรือบางทีโทรมาแล้วบอกให้โทรกลับถามว่ามีอะไรพูดเลยได้ไหม ก็ไม่ยอมบอก พอไม่โทรกลับก็โกรธ เป็นอย่างนี้หลายเดือนครับ จนสุดท้ายวันสอบวันสุดท้าย ผมไปขอเลิกกับเธอด้วยเหตุผลว่าผมเบื่อทนไม่ไหวที่ต้องทำตามความต้องการของเธอซึ่งบางอย่างมันไม่มีเหตุผล วันนั้นครั้งแรกเลยครับที่เห็นผู้หญิงร้องไห้ต่อหน้าโดยสาเหตุมาจากตัวผม บอกตรงๆรู้สึกแย่มากแต่ก็ทำอะไรไม่ถูก
แต่วันนั้นตอนเย็นผมก็ไปห้องซ้อมกับเพื่อนผมเพราะสอบเสร็จแล้ว ปรากฎว่าเธอตามหาผมจนเจอแล้วเอาของทั้งหมดที่ผมให้ระหว่างคบกันมาปาใส่หน้าผม ผมก็ถามว่าจะเอายังไง เทอก็พูดว่าทำไม มันผิดอะไรมากหรอกับสิ่งที่ร้องขอ เรื่องแค่นี้แฟนที่ดีน่าจะให้กันได้ ผมเลยปากพล่อยไปบอกเธอว่าผมไม่ใช่คนดี คนดีคือไอ้...(ชื่อเพื่อนในวง) ไปคบกับมันเหอะ และอยู่ๆเปิดเทอมเธอกับเพื่อนผมก็ไปคบกันจริงๆ ผมก็รู้สึกเคืองๆนิดๆนะ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากเพราะเลิกกันไปแล้ว จนวันสอบกลางภาค(ตอนสอบอีกแล้ว) เธอโทรมาหาผม ถามผมว่ารู้สึกอย่างไรที่เธอคบกับเพื่อนผม ผมก็พูดตรงๆ ว่าหมั่นไส้เล็กตอนเห็นสวีทกันนอกนั้นก็โอเค เธอกลับบอกผมว่าทั่ทำไปเพราะต้องการประชดผม ตั้งใจว่าถ้าคบเพื่อนผมแล้วผมต้องหึงต้องกลับไปง้อ (นี่คือสาเหตุที้เธอชอบทำสวีทให้ผมเห็น) แต่เรื่องกลับแย่ลงไปอีกเพราะผมมันมีต่อมรับความรู้สึกเท่าช้อนชา ตอนนี้เธอทนหลอกเพื่อนผมไม่ไหวเพราะสงวารเพื่อนผมด้วย และเธอเองก็อึดอัดใจ ผมเลยบอกว่าผมไม่เกี่ยวแล้ว มันไม่ใช่เรื่องของผม ทำตามที่ใจต้องการเหอะ ถ้าจะคุยเรื่องนี้ผมขอไม่คุย (เพราะผมรู้สึกผิดกับเพื่อนผม) เธอเลยถามผมว่าถ้าเธอเลิกกับเพื่อนผม ผมจะกลับมาคบกับเธอมั้ย ผมก็อึ้งไปครับ พอรวบรวมสติได้ผมก็บอกว่าเอางี้ถ้าจะโทรมาคุยเรื่องทั่วไป อ่านหนังสือตรงไหน เรียนต่อโรงเรียนอะไรดี หรือหมาคนข้างบ้านไปเยี่ยวใส่ล้อใคร ผมจะคุยด้วย แต่ถ้าถามว่าจะคบหรือเลิกอะไรพวกนั้นผมไม่คุย จะเลิกก็เลิกอย่าให้ผมมีส่วนในการตัดสินใจ ส่วนว่าจบคบกันอีกไหมให้มันเป็นเรื่องอนาคตผมไม่รู้
ปรากฎว่าวันรุ่งขึ้นเธอไปบอกเลิกเพื่อนผม ทำเอาเพื่อนผมเสียผู้เสียคนไปพักใหญ่ ในระหว่างนั้นเธอก็โทรหาผมเรื่อยๆคุยไปสัพเพเหระ บอกว่าถ้ากลับมาคบกันอีกทีจะไม่งี่เง่าแล้ว จนสุดท้ายผมตัดสินใจลองคบอีกครั้ง ครั้งนี้ทุกอย่างดีขึ้นมาก เรามีโมเม้นต์ที่เป็นความรักใสๆของเด็กวัยรุ่นทั่วไป จนเธอย้ายโรงเรียนตอนขึ้น ม 4 เราก็ยังคบกันต่อ เธอไปอยู่ รร ประจำแถวปทุม ผมยังเรียนที่เดิมใน กทม เรามีโทรคุยกันบ้างเพราะที่ รร เธอห้ามใช้โทรศัพท์ (สมัยนั้นมือถือยังแพงและ โซเชี่ยลยังไม่บูม) ส่วนใหญ่จะโทรคุยกันเย็นๆ และเสาร์อาทิตย์จะนัดเจอกันถ้าช่วงสอบก็จะใช้วิธีส่งจดหมาย (ผมชอบนะผมว่ามันโรแมนติกดี) วันสำคัญก็จะส่งของขวัญให้กัน จนวันเกิดตอนเธอ 17 เธอบอกว่าจะได้กลับบ้านพอดี ผมเลยโทรไปหาเธอที่บ้านเพื่อจะแฮปปี้เบิร์ทเดย์และเอาของขวัญไปให้ แต่เจอป้าเธอรับและบอกว่าไม่อยู่บ้าน อาทิตย์นี้เธออยู่ รร
ผมเลยถามว่าผมขอฝากของขวัญให้เธอได้ไหม เพราะปกติลุงกับป้าเธอจะไปหาถ้าเธอไม่กลับบ้าน ป้าเธอก็บอกได้ๆรีบๆมาจะออกไปแล้วไม่อยากสาย ผมก็รีบเอาไปฝาก เจอลุงกับป้าเธอผมรู้เลยว่าเขาคงไม่ค่อยชอบผม เพราะวันนั้นใส่เสื้อยืดขาดๆสีขาว บางคนเห็นหัวนมชี้ กางเกงบอลเอวย้วยๆ รองเท้าหูหนีบ กับรถป๊อปสีชมพูที่เรัยกว่าซากก็คงไม่แปลก
ที่แปลกคือหลังจากวันนั้นเธอไม่ติดต่อผมมาอีกเลย โทรไปก็เจอแต่ป้ากับลุงเธอรับ ส่งจดหมายไปก็ไม่ตอบ จนฉบับสุดท้ายตีกลับ (เพิ่งมารู้ทีหลังว่าพอจบเลื่อนชั้นปีก็จะย้ายหอไปจากหอชมพู ไปหอฟ้าครับ)
ตอนนั้นผมเองก็ไม่รู้นะว่าเลิกกันหรืออะไร ผมมีไปดักรอแถวหน้าบ้านเธอบ้างแต่ไม่กล้าเข้าไปในบ้านเธอครับ ก็ไม่ได้เจอเธอจนคิดว่าเธอคงมีคนใหม่แล้วจึงทำใจครับ ครั้งนี้เศร้าครับ อึนๆโหวงๆเหมือนเรื่องมันค้างๆคาๆ แต่พักนึงผมก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ
แต่แล้วเมื่อผมกำลังจะลืมเธอไปแล้ว (ระหว่างนั้นผมก็มีคุยๆกับคนอื่นบ้างแต่ยังไม่ใีใครที่คบกันจนเป็นแฟนเลย) เธอก็โทรมาหาผมครับ ตอนแรกก็คุยกันเรื่อยเปื่อยอารมณ์เหมือนเพื่อนเก่าไม่เจอกันนาน เธอก็บอกตามตรงครับว่าคบกับนักเรียนเตนียมทหารอยู่ ผมก็เฟลล์นะเพราะไม่มีไรสู้ได้เลย คุยกันได้หลายครั้งครับจนผมทนไม่ไหวถามเธอว่าทำไมถึงไม่ติดตาอมาจู่ๆก็หายไป เธอก็บอกว่าผมต่างหากที่ลืมเธอไม่โทรหาตอนวันเกิดของขวัญบอกจะให้ก็ไม่ให้ เธอเลยงอนและคิดว่าเดี๋ยวผมคงโทรหาและยกคำแก้ตัวมาอ้างแต่ก็เงียบ และเธอเห็นมีผู้หญิงซ้อนท้ายผมไปตลาด เลยคิดว่าผมมีคนใหม่ไปแล้ว (จริงๆผู้หญิงที่ซ้อนผมเป็นเพื่อนที่เพิ่งย้ายเข้ามาตอน ม 4 เธอเลยไม่รู้จัก และผมไปส่งเพราะเธอบ้านอยู่หน้าตลาดส่วนผมจะไปห้องซ้อมดนตรีที่อยู่หลังตลาด เลยให้ติดรถมา) ผมก็บอกว่าโทรไปหลายครั้งนะเจอแต่ป้าเธอรับ ของขวัญก็ฝากป้าเธอไป จดหมายก็ส่งไป แต่ก็เงียบ เธอบอกว่าป้าเธอไม่เคยบอกเลยว่าผมโทรไป ของขวัญก็ไม่เคยพูดถึง (ป้าเธอคงไม่อยากให้เราคบกันมั้ง) ส่วนจดหมายก็บอกว่าเธอย้ายไปหออื่น ที่หอเดิมจึงไม่มีชื่อเธอ จดหมายถึงตีกลับ
ในตอนนั้นผมรู้สึกว่าดีใจก็ไม่ใช่ เสียใจก็ไม่เชิง เพราะที่เราห่างไปเพราะคนอื่นไม่ใช่เพราะเราทั้งคู่ แต่ผมเข้าใจดีว่าเธอมีคนอื่นไปแล้วก็ไม่ได้คิดแย่งคืนหรืออะไรก็คุยกันเรื่อยแบบเพื่อน แต่เราเหมือนสร้างสถานะพิเศษให้กัน มีไปเที่ยวกันบ้างกับกลุ่มเพื่อนๆ จนพักหลังเพื่อนๆที รร ผมเห็นก็มาเตือนประมานว่าเฮ้ยกลับคบกันอยู่หรอ? เขามีแฟนแล้วนะโดนผู้หญิงหลอก-ป่าว (ช่วงนั้นผมมีจ๊อบพิเศษ หาเงินได้เองอาทิตละสองสามพัน เลยแอบเป็นเสี่ยเล็กๆ ชอบเลี้ยงเพื่อน) แรกๆผมก็ปฏิเสธนะ แต่ไม่มีใครเชื่อ ช่วงหลังผมเลยหายจากกลุ่มบ่อยๆ เพราะมาเที่ยวกับเธอนี่แหละ แต่ไม่อยากชวนเพื่อนมาเพราะพอกลับมาก็โดนรุมถามเรื่องเดิมๆ เลยมักไปเที่ยวกับเธอแค่สองต่อสอง ผมคุยกับเธอลักษณะนี้ประมาณ 3-4เดือน จนปิดเทอมและสอบทุกอย่างเรียบร้อยรอผลเอ็นทรานซ์ออก ผมรู้สึกได้ชัดเจนว่าผมไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนแล้ว จึงนัดเจอเธอและบอกความรู้สึก ตอนนั้นผมแค่ไม่แยากปิดบังอีกแล้วผลลัพธ์ออกมาอย่างไรไม่สนใจ จึงโทรนัดเธอออกมา หลังจากบอกเธอผมก็จะกลับเลย เพราะไม่อยากฟังคำตอบ แต่เธอขอให้เลี้ยงน้ำแข็งใสก่อน ผมก็งงนะ แต่ก็ไปกินเพราะใจก็อยากอยู่ให้นานที่สุด ระหว่างกินเธอบอกว่าถ้าเธอไม่มีแฟนอยู่ เธอจะตอบตกลงผมอย่างไม่ลังเลเลย ผมก็บอกว่าผมไม่ได้มาถามเลยไม่ได้ต้องการคำตอบ ผมแค่มาบอกสิ่งที่ผมรู้สึกเท่านั้น แล้วผมก็ลุกมาโดยไม่ได้หันไปมองเธออีกเลย (เธอบอกว่าเดินตามผมมาถึงที่จอดมอเตอร์ไซต์เลย แต่ผมก็ไม่ได้มอง)
คืนนั้นผมไปเมายับอยู่บ้านเพื่อน จำได้ว่าอ้วกรดบอนไซของพ่อมันด้วย ตีสามจึงค่อยๆประคองตัวกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นบ่ายกว่าๆผมก็ไปหาเหล้ากินอีก แต่พอเย็นเธอก็โทรมาหาผม(ตอนนั้นมีมือถือแล้ว) บอกสิ่งที่ผมประหลาดใจมากคือบอกว่าเลิกกับแฟนแล้ว ผมถามว่าทำไม เธอก็บอกว่าเธอเลือกสิ่งที่ทำแล้วจะเสียใจน้อยที่สุดแค่นั้นเอง ผมดีใจมากที่สุดท้ายเธอเลือกผม หลังจากนั้นผลสอบเอนฯออกผมก็เสียใจเล็กๆเพราะต้องไกลกันอีกแล้ว เธอติดมหาลัยในโคราช ส่วนผมได้ที่ศรีราชา
แต่เราก็สามารถติดต่อกันง่ายขึ้นเพราะมีมือถือกันแล้ว และขึ้นมหาลัยก็มีอิสระมากขึ้น ตอนปี1นั้นผมจะไปหาเธอประทานเดือนละครั้ง ซึ่งเราเพิ่งมีอะไรกันตอนขึ้นมหาลัยแล้ว ผมเคยคิดไกลถึงขั้นแต่งงานกันเลยทีเดียว (ผมก็เคยคบกับคนอื่นสองสามคนแต่ไม่มีใครที่ผมจริงจังมาถึงขั้นนี้)
แต่แล้วก็เป็นตัวผมเองที่โง่ ทำตัวเอง ในช่วงปี1นั้นผมคะนองหรือไม่รู้จะเรียกว่าโง่ก็ได้ ผมคบกับคนอื่นด้วยในขณะที่คบเธอ ตอนนั้นผมคบกับผู้หญิงทั้งหมดถึง 7คน รวมเธอด้วย และมี 5 คนที่ผมมีอะไรด้วย (ผมเป็นคนอ้วนที่คารมดี อารมณ์ดี ดูเป็นผู้ใหญ่ครับ เวลาคุยกับผู้หญิงจึงมักไว้ใจว่าผมไม่ได้หลอกลวง) ผมคิดว่าถึงยังไงเธอก็ไม่มีทางรู้เพราะเธอไม่เคยมามหาลัยผม และถึงรู้ก็คงให้อภัยเพราะเธอคือคนที่ผมจริงจังที่สุด (คิดเองเออเองเสร็จ)
ก่อนเจอกันทุกครั้งผมก็จะลบข้อความหรือรายการโทรออกทั้งหมดเหลือแต่พวกเพื่อนผู้ชายไว้ในรายการ แต่ความก็แตกเพราะโนเกียร์มันมีฟังก์ชั่นที่จดจำทุกเบอร์โทรเข้าและออก ที่เวลาลบแล้วมันจะหายไปหมดเลือกลบทีละเบอร์ไม่ได้ (ตอนแรกไม่รู้ว่ามี เพิ่งรู้วันนั้นเองว่ามันมีฟังก์ชันนี้ด้วย ตอนซื้อเซลไม่บอก สัสเอ้ย) โดยเธอแอบเข้าไปเช็คและจดเบอร์ที่ผมคุยนานๆไว้และคงโทรไปหาและก็รู้ความจริงทั้งหมด แล้วเธอก็ถามผมว่ามีอะไรที่เธอควรต้องรู้มั้ย ผมก็บอกถามไรตรงๆเลยเราไม่มีอะไรปิดบัง เธอก็ถามว่าคนชื่อ...คือใครพูดความจริงมาจะยกโทษให้ ผมก็บอกเป็นเพื่อนกันเรียนวิชาเดียวกันเลยแลกเบอร์ไว้เผื่อเวลาทำรายงานไรประมานนั้น แล้วเธอก็ถามอีกสามชื่อและถามผมว่ามีใครอีกไหม และพูดความจริงหมดแล้วใช่ไหม ผมก็หน้าด้านโกหกไปว่าไม่มีแล้วบางคนก็ไม่ได้ขอเองรุ่นพี่ให้ขอให้
เธอก็สวนมาว่า โทรไปถามมาหมดแล้วมันบอกว่าคบกันกับผมทุกคน ผมก็หน้าชาครับ ได้แต่ขอโทษและสัญญาว่าจะไม่ทำอีกและลบเบอร์ทั้งหมดไป (ผมจดทั้งหมดไว้ในสมุดโทรศัพท์อีกเล่มด้วย ลืมบอก) ก็เคลียร์กับเธอได้โดยเธอทิ้งท้ายไว้ว่าจำไว้นะว่าทำไรไว้ เธอก็ทำได้เหมือนกัน ตอนนั้นผมก็ไม่สนใจมากคิดว่าเธอคงโกรธเลยขู่ไปงั้นๆ
พอกลับมาผมก็ยังไม่เลิกกับทุกคนตามที่สัญญากับเธอครับ แต่ไม่ได้คุยไปมั่วเหมือนแต่ก่อนเหลือแค่สองคนที่รู้สึกดีด้วยจริงๆ ส่วนกับแฟนผมนั้นทุกอย่างก็ปกติ เพียงแต่ช่วงหลังมักได้แต่คุยกันสั้นๆ เพราะผมเองก็เรียนหนักและกิจกรรมเยอะ เธอก็เหมือนกัน เด็กปี1 คงพอนึกออก
จนผมขึ้นปีสองผมเลิกกับคนอื่นหมดเหลือเธอเพียงคนเดียวและผมกินเหล้ากับพวกเพื่อนน้อยลงมากๆ เพื่อจะให้ได้ตามที่เธอขอไว้ จนเพื่อนผมสมัยมัธยมโทรมาบอกว่ามีไรจะบอก "ลองเข้าไปดู hi5 ชื่อ.... มันลงรูปคู่กับแฟนบอกว่าคบกันด้วย" ผมรู้สึกเลยว่าเหมือนทุกอย่างมันรวดเร็วสับสนไปหมด ทุกอย่างพังครืนลงมาหมดเลย ผมโทรถามเธอว่าเรื่องจริงหรือเปล่ารู้จักไอนั่นและคบกันจริงหรือเปล่า เธอตอบกลับมาสั้น ว่าจริง ผมนี่แทรบทรุดตรงนั้นเลย ผมถามทำไมทำอย่างนี้ เธอว่าตอนแรกเธอคิดว่าผมจะดีกับเธอรักเธอคนเดียว เพราะกว่าจะได้คบกันมันลำบากขนาดไหน แต่ผมทำลายความเชืาอมั่นนั้นหมดสิ้น แถมพอเธอขอให้พูดความจริงผมกลับเลือกโกหกซ้ำอีก มันทำให้เธอหมดความเชื่อใจ และความรักมันก็ค่อยๆลดลงตาม เธอบอกไม่อยากร้องไห้ให้ผู้ชายอย่างผมอีก
มีต่อครับ ใกล้จะจบแล้ว