จริงแล้วก็ได้อ่านเรื่องราวของการเตือนภัย จากกระทู้ในพันทิพนี้เยอะพอสมควร
แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตนเอง ทั้งที่เดินทางมาพอสมควร(เดินทางภายในประเทศ)
สำหรับการเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ก็ศึกษาการเดินทาง การเตรียมตัว สถานที่ท่องเที่ยว การขอคืนภาษี
และเดินทางครั้งนี้ด้วย "สายการบิน Tigerair" ซึ่งเดินทางจากสุวรรณภูมิปลายทางสิงคโปร์
เลือกเพราะประหยัด และอยากลองสายการบินนี้ดูเหมือนกัน
(เพิ่งมารู้ทีหลังว่าสายการบินนี้เป็นสายการบินชั้นประหยัด ที่เห็นมีแต่ชนชั้นแรงงานชาวต่างชาติที่ทำงานที่สิงคโปร์เป็นส่วนใหญ่ใช้เดินทาง)
กำหนดการเดินทางไปตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา
กลับวันอังคารที่ 31 มี.ค. เวลา 6:00pm (เวลาสิงคโปร์) ถึงสุวรรณภูมิโดยประมาณ 7:25 (เวลาประเทศไทย)
ตอนเดินทางกลับ ซึ่งรีบพอสมควรกลัวจะไม่ทันเพราะต้องมีขอคืนภาษีที่สนามบิน
เห็นมีกระทู้แนะนำให้เผื่อเวลา เพราะคิวจะยาว และเตรียมแสดงของที่ขอคืนภาษี
เมื่อถึงสนามบินที่สิงคโปร์ ไม่มีการตรวจกระเป๋าก่อนเข้าอาคาร
ก็เหมือนกับที่สุวรรณภูมิบ้านเรา เราก็ตรงไปที่เคาท์เตอร์ขอคืนภาษีก่อน
(การขอคืนภาษีใช้เวลาน้อยมาก และไม่ขอดูสินค้าที่ขอคืนภาษี เพราะเป็นตู้กดดำเนินการเอง)
หลังจากขอคืนภาษีเรียบร้อยก็ไปเข้าแถวเพื่อทำการเช็คอิน
การจัดเตรียมกระเป๋าสำหรับโหลด
- ของที่ซื้อฝากใส่กระเป๋าล้อลาก 1 ใบ (มีที่ล๊อค)
- เสื้อผ้าใส่แล้ว กระเป๋าอีก 1 ใบ (ไม่มีล๊อค)
- อุปกรณ์ใช้ส่วนตัวสำหรับห้องน้ำ และสายไฟ รางปลั๊กไฟ อแดปเตอร์ ที่ชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ อีก 1 ใบ (ไม่มีที่ล๊อค)
โดยในกระเป๋าใบนี้ ได้ใส่ "Tablet ยี่ห้อ HP รุ่น Elitepad 1000 g2 ซึ่งเอาไว้ทำงานและใช้ส่วนตัว และแว่นตา Eagle Eye"
คิดไว้แล้วว่า ก่อนจะโหลดจะหยิบออกมาเพื่อถือขึ้นเครื่องด้วยตนเอง
และจะไม่ลืม "เพราะคิดว่า" ต้องแสดงของที่อยู่ในกระเป๋าให้ จนท. ศุลกากรที่นั่นดูอยู่แล้วก็ไม่น่าจะลืม แต่จริงแล้วไม่ได้เปิดกระเป๋าดูเลย
กระเป๋าถือที่เตรียมถือขึ้นเครื่อง
- กระเป๋ากล้อง ใส่กล้องและของมีค่า 1 ใบ ถือขึ้นเครื่อง
เมื่อถึงหน้าเคาท์เตอร์เช็คอิน เราก็หยิบกระเป๋าทั้ง 3 ใบ โหลดไปเลย "โดยลืมนึกไปว่าลืมหยิบของทั้ง 2 อย่างออก"
คิดอยู่แล้ว ว่าต้องหยิบออกนะ อย่าลืมเป็นอันขาด แต่ก็ลืมจนได้ มัวแต่คิดเรื่องอย่างอื่นเพลินเลย
เมื่อเช็คอินโหลดกระเป๋าเรียบร้อย ก็เดินเล่นที่ Duty Fee จนเมื่อจะขึ้นเครื่องก็นึกขึ้นได้ ว่าลืมหยิบของออก ก็ภาวนาอย่าหายนะ
ลงเครื่องเรียบร้อยที่สุวรรณภูมิ ก็ยังชิวเดินเรื่อยๆ แวะเข้าห้องน้ำ ดูป้ายรับกระเป๋าที่ช่องไหน ก็เดินไปรอรับ
เห็นกระเป๋าใบแรกของเราที่ลืม Tablet อยู่ในนั้น โดยกระเป๋าใส่ถาดมา
เมื่อหยิบกระเป๋าออกจากถาด ก็เห็นซองใส่แว่นตาของเราหล่นอยู่ในถาดเดียวกัน "รีบเปิดดูของข้างใน" หายไปแร้ว!!!!!! ทำรัยไม่ถูกเรย
ไปหา จนท.รับเรื่องของหายที่นั่งรวมๆของหลายๆสายการบินต่างๆที่อยู่ตรงนั้น
เขาก็แนะนำให้ไปที่เคาท์เตอร์กระเป๋าหายหรือของหาย ที่ด้านในสุดของช่องโหลดกระเป๋า
ไปถึง จนท. ที่อยู่แผนกนี้ก็รับเรื่องไว้ ซึ่งเขาจะส่งเรื่องไปให้ทางสายการบิน Tigerair ให้
และให้เอกสารมาเพื่อให้เราดำเนินการสแกนและส่งเมลล์ซ้ำไปอีกที เพราะสายการบินนี้ไม่มีเคาท์เตอร์ที่ประเทศไทย
และแนะนำให้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานอีกทาง เผื่อจะขอดูกล้องวงจรปิด เราก็ทำตามคำแนะนำภายในวันนั้น (เมื่อวานที่ 31 มี.ค.)
วันนี้ 1 เม.ย.
ช่วงประมาณ 15.00 น. เราเดินทางไปสถานีตำรวจสุวรรณภูมิ เพื่อปรึกษา จนท.ตร. ตำรวจที่นี่แนะนำให้ติดต่อทางสายการบินก่อน
และถ้าจะดูกล้องวงจรปิดแนะนำให้มาก่อนเที่ยงเพื่อทำเรื่องไปภายในขอดูกล้อง
(แต่ก็ไม่รู้ว่าขั้นตอนการดำเนินการเป็นอย่างไร)
เราก็ไปติดต่อที่เคาท์เตอร์ขายตั๋ว Tigerair ก็เป็นแค่เคาท์เตอร์ที่ขายตั๋วให้กับสายการบินอื่นด้วย (เหมือนเป็นเคาท์เตอร์ฝากขาย)
จนท.เคาท์เตอร์ติดต่อไปที่น่าจะเป็นแอร์กราวหรือหัวหน้าด้านล่างของสายการบินนี้
ก็แนะนำได้เพียงว่าให้ส่งเมลล์ไปประมาณคอมเพลนได้เท่านั้น
เพราะกฎของสายการบิน แจ้งอยู่แล้วว่า ห้ามนำของมีค่าโหลดใต้ท้องเครื่อง.........
*****เราก็ทำได้แค่นี้ ของคงไม่มีวันได้ของคืน
*****ไปตามเรื่องก็คงไม่ได้ความคืบหน้าอะไร เสียเวลา เสียค่าเดินทาง และคงเสียอารมณ์ไปมากกว่านี้
*****คนร้ายที่อยู่ที่สุวรรณภูมิก็คงลอยนวลต่อไป
*****คนที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยผมว่าได้ความทรงจำที่ไม่ลืมกลับไปแน่นอน
*****อุทาหรณ์ไว้ครับ ถือของมีค่าติดตัวตลอดการเดินทาง ดีกว่าฝากไว้ในมือคนอื่น
ผิดตกบกพร่องขออภัย ล่วงเกินใครก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ช่องหน้าใส่ Tablet อยู่ ช่องหลังใส่ซองมีแว่นและอุปกรณ์อื่น
เหลือซองแว่นให้ดูต่างหน้า
แท็กกระเป๋ายืนยัน
เตือนภัย!!!! ของหายในกระเป๋าสัมภาระโหลดจากสิงคโปร์ ถึงสุวรรณภูมิ สายการบิน Tigerair สดๆ ร้อนๆ เมื่อวานนี้
แต่ไม่คิดว่าจะเจอกับตนเอง ทั้งที่เดินทางมาพอสมควร(เดินทางภายในประเทศ)
สำหรับการเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก
ก็ศึกษาการเดินทาง การเตรียมตัว สถานที่ท่องเที่ยว การขอคืนภาษี
และเดินทางครั้งนี้ด้วย "สายการบิน Tigerair" ซึ่งเดินทางจากสุวรรณภูมิปลายทางสิงคโปร์
เลือกเพราะประหยัด และอยากลองสายการบินนี้ดูเหมือนกัน
(เพิ่งมารู้ทีหลังว่าสายการบินนี้เป็นสายการบินชั้นประหยัด ที่เห็นมีแต่ชนชั้นแรงงานชาวต่างชาติที่ทำงานที่สิงคโปร์เป็นส่วนใหญ่ใช้เดินทาง)
กำหนดการเดินทางไปตั้งแต่เช้าวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา
กลับวันอังคารที่ 31 มี.ค. เวลา 6:00pm (เวลาสิงคโปร์) ถึงสุวรรณภูมิโดยประมาณ 7:25 (เวลาประเทศไทย)
ตอนเดินทางกลับ ซึ่งรีบพอสมควรกลัวจะไม่ทันเพราะต้องมีขอคืนภาษีที่สนามบิน
เห็นมีกระทู้แนะนำให้เผื่อเวลา เพราะคิวจะยาว และเตรียมแสดงของที่ขอคืนภาษี
เมื่อถึงสนามบินที่สิงคโปร์ ไม่มีการตรวจกระเป๋าก่อนเข้าอาคาร
ก็เหมือนกับที่สุวรรณภูมิบ้านเรา เราก็ตรงไปที่เคาท์เตอร์ขอคืนภาษีก่อน
(การขอคืนภาษีใช้เวลาน้อยมาก และไม่ขอดูสินค้าที่ขอคืนภาษี เพราะเป็นตู้กดดำเนินการเอง)
หลังจากขอคืนภาษีเรียบร้อยก็ไปเข้าแถวเพื่อทำการเช็คอิน
การจัดเตรียมกระเป๋าสำหรับโหลด
- ของที่ซื้อฝากใส่กระเป๋าล้อลาก 1 ใบ (มีที่ล๊อค)
- เสื้อผ้าใส่แล้ว กระเป๋าอีก 1 ใบ (ไม่มีล๊อค)
- อุปกรณ์ใช้ส่วนตัวสำหรับห้องน้ำ และสายไฟ รางปลั๊กไฟ อแดปเตอร์ ที่ชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ อีก 1 ใบ (ไม่มีที่ล๊อค)
โดยในกระเป๋าใบนี้ ได้ใส่ "Tablet ยี่ห้อ HP รุ่น Elitepad 1000 g2 ซึ่งเอาไว้ทำงานและใช้ส่วนตัว และแว่นตา Eagle Eye"
คิดไว้แล้วว่า ก่อนจะโหลดจะหยิบออกมาเพื่อถือขึ้นเครื่องด้วยตนเอง
และจะไม่ลืม "เพราะคิดว่า" ต้องแสดงของที่อยู่ในกระเป๋าให้ จนท. ศุลกากรที่นั่นดูอยู่แล้วก็ไม่น่าจะลืม แต่จริงแล้วไม่ได้เปิดกระเป๋าดูเลย
กระเป๋าถือที่เตรียมถือขึ้นเครื่อง
- กระเป๋ากล้อง ใส่กล้องและของมีค่า 1 ใบ ถือขึ้นเครื่อง
เมื่อถึงหน้าเคาท์เตอร์เช็คอิน เราก็หยิบกระเป๋าทั้ง 3 ใบ โหลดไปเลย "โดยลืมนึกไปว่าลืมหยิบของทั้ง 2 อย่างออก"
คิดอยู่แล้ว ว่าต้องหยิบออกนะ อย่าลืมเป็นอันขาด แต่ก็ลืมจนได้ มัวแต่คิดเรื่องอย่างอื่นเพลินเลย
เมื่อเช็คอินโหลดกระเป๋าเรียบร้อย ก็เดินเล่นที่ Duty Fee จนเมื่อจะขึ้นเครื่องก็นึกขึ้นได้ ว่าลืมหยิบของออก ก็ภาวนาอย่าหายนะ
ลงเครื่องเรียบร้อยที่สุวรรณภูมิ ก็ยังชิวเดินเรื่อยๆ แวะเข้าห้องน้ำ ดูป้ายรับกระเป๋าที่ช่องไหน ก็เดินไปรอรับ
เห็นกระเป๋าใบแรกของเราที่ลืม Tablet อยู่ในนั้น โดยกระเป๋าใส่ถาดมา
เมื่อหยิบกระเป๋าออกจากถาด ก็เห็นซองใส่แว่นตาของเราหล่นอยู่ในถาดเดียวกัน "รีบเปิดดูของข้างใน" หายไปแร้ว!!!!!! ทำรัยไม่ถูกเรย
ไปหา จนท.รับเรื่องของหายที่นั่งรวมๆของหลายๆสายการบินต่างๆที่อยู่ตรงนั้น
เขาก็แนะนำให้ไปที่เคาท์เตอร์กระเป๋าหายหรือของหาย ที่ด้านในสุดของช่องโหลดกระเป๋า
ไปถึง จนท. ที่อยู่แผนกนี้ก็รับเรื่องไว้ ซึ่งเขาจะส่งเรื่องไปให้ทางสายการบิน Tigerair ให้
และให้เอกสารมาเพื่อให้เราดำเนินการสแกนและส่งเมลล์ซ้ำไปอีกที เพราะสายการบินนี้ไม่มีเคาท์เตอร์ที่ประเทศไทย
และแนะนำให้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานอีกทาง เผื่อจะขอดูกล้องวงจรปิด เราก็ทำตามคำแนะนำภายในวันนั้น (เมื่อวานที่ 31 มี.ค.)
วันนี้ 1 เม.ย.
ช่วงประมาณ 15.00 น. เราเดินทางไปสถานีตำรวจสุวรรณภูมิ เพื่อปรึกษา จนท.ตร. ตำรวจที่นี่แนะนำให้ติดต่อทางสายการบินก่อน
และถ้าจะดูกล้องวงจรปิดแนะนำให้มาก่อนเที่ยงเพื่อทำเรื่องไปภายในขอดูกล้อง
(แต่ก็ไม่รู้ว่าขั้นตอนการดำเนินการเป็นอย่างไร)
เราก็ไปติดต่อที่เคาท์เตอร์ขายตั๋ว Tigerair ก็เป็นแค่เคาท์เตอร์ที่ขายตั๋วให้กับสายการบินอื่นด้วย (เหมือนเป็นเคาท์เตอร์ฝากขาย)
จนท.เคาท์เตอร์ติดต่อไปที่น่าจะเป็นแอร์กราวหรือหัวหน้าด้านล่างของสายการบินนี้
ก็แนะนำได้เพียงว่าให้ส่งเมลล์ไปประมาณคอมเพลนได้เท่านั้น
เพราะกฎของสายการบิน แจ้งอยู่แล้วว่า ห้ามนำของมีค่าโหลดใต้ท้องเครื่อง.........
*****เราก็ทำได้แค่นี้ ของคงไม่มีวันได้ของคืน
*****ไปตามเรื่องก็คงไม่ได้ความคืบหน้าอะไร เสียเวลา เสียค่าเดินทาง และคงเสียอารมณ์ไปมากกว่านี้
*****คนร้ายที่อยู่ที่สุวรรณภูมิก็คงลอยนวลต่อไป
*****คนที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยผมว่าได้ความทรงจำที่ไม่ลืมกลับไปแน่นอน
*****อุทาหรณ์ไว้ครับ ถือของมีค่าติดตัวตลอดการเดินทาง ดีกว่าฝากไว้ในมือคนอื่น
ผิดตกบกพร่องขออภัย ล่วงเกินใครก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ช่องหน้าใส่ Tablet อยู่ ช่องหลังใส่ซองมีแว่นและอุปกรณ์อื่น
เหลือซองแว่นให้ดูต่างหน้า
แท็กกระเป๋ายืนยัน