สวัสดีครับ
Review ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 ของผม
ซึ่งในการจัดทำ Review ครั้งนี้ผมได้แก้ไขข้อผิดพลาดครั้งที่แล้วคือ เรื่องของคุณภาพของภาพถ่าย
โดยการจัดซื้ออุปกรณ์ถ่ายภาพใหม่ซะเลย ถ้าภาพยังไม่ได้เรื่องอยู่ แสดงว่าผมมันโหลยโท่ยเองครับ
ความเป็นมาของ Review ชิ้นนี้คือคุณพ่อของผมต้องการรถมอเตอร์ไซค์เพื่อออกไปท่องเที่ยวด้วยตนเอง
ซึ่งคุณพ่อได้ตั้งโจทย์ไว้ดังนี้
1.รถมีพละกำลังมากพอและสามารถขับขี่เป็นระยะทางไกลได้โดยที่เครื่องยนต์ไม่ทำงานหนักหรือร้อนเกินไป
2.รถต้องไม่เป็นที่เตะตา หรือเด่นในกลุ่มแว๊นซ์บอย เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
3.รถจะต้องมีน้ำหนักเบา เพื่อให้คุณพ่อเข็นได้โดยสะดวกไม่เปลืองแรง
จึงเป็นที่มาของ Exciter 150 คันนี้
เรามาดูกันเลยครับ
เริ่มจากด้านหน้า
เมื่อบิดกุญแจ แต่ยังไม่ได้ติดเครื่องยนต์ ไฟหรี่จะเรืองแสงออกมาให้เห็น แต่ไฟหน้าจะยังไม่เรืองแสง
เมื่อติดเครื่องยนต์ไฟหน้าจึงจะเรืองแสงตามครับ
มุมมองด้านเฉียงข้างพร้อมไฟเลี้ยว
แผงไมล์แบบมัลติฟังก์ชั่น มีข้อความต้อนรับขณะบิดกุญแจไปตำแหน่งเปิด (งอนรอบที่ 1)
แผงไมล์คันนี้มีวัดรอบ ความเร็ว ตำแหน่งเกียร์ Trip1/2 ODD ที่สำคัญมีบอกอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วย!
คุณพระ...... รถครอบครัวอะไรมีมาให้ถึงขนาดนี้
ประกับแฮนด์ซ้ายมีไฟสูง/ต่ำ ไฟเลี้ยว แตร
ประกับแฮนด์ขวา มีปุ่มติดเครื่องยนต์อย่างเดียว เหมือนมีที่โล่งๆไว้เพื่อลูกเล่นอะไรซักอย่างที่มันน่าจะโดนตัดออก
กระจกข้าง
แผงคอล่าง(ไม่รู้เรียกถูกเปล่า) ดูแล้วน่าจะติดตะขอแขวนถุงแกงได้ ว่าแต่ไอ้กลมๆฝั่งซ้ายนั่นมันมีไว้เพื่ออะไรหรือไว้ย้ายฝั่งรูกุญแจ
เบ้ากุญแจเป็นแบบ Shutter key ทั่วๆไปตามรถตลาดของค่ายแยม ดูดีมีชาติตระกูลกว่าเบ้ากุญแจ R3 อีก (งอนรอบที่ 2)
บั้นท้าย เทียบกับ R3 แบบจะๆ ขอโทษนะครับ ไฟท้าย LED นะครัช!
แล้วทำไมท้ายมันดูบึกบึนกว่า ดูดีมีชาติตระกูลกว่า R3 ล่ะครับ! (งอนรอบที่ 3)
ทีนี้มาเทียบชิ้นส่วนต่างๆกัน
เริ่มจากปั้มเบรคหน้า-หลัง
ของ Exciter 150
ของ R3
มองผ่านๆ R3 ผมดูเรี่ยดินมาก....(งอนรอบที่ 4)
เรือนเครื่องยนต์ด้านขวา มีคันสตาร์ทเท้ามาให้ รูปร่างไม่คุ้นตาซักเท่าไหร่(สงสัยเพราะผมใช้แต่ฮอนด้ามาตลอด)
เรือนเครื่องยนต์ด้านซ้าย น่าสงสัยที่ว่าทำไมกระเดื่องคลัทช์มาอยู่ด้านนี้ได้
และแล้วก็เจอจุดที่ตะหงิดใจ คือ......ที่กั้นพักเท้าขวา ทำไมต้องยื่นมาซะขนาดนั้นฟระ
หรือหาวัสดุดีๆมากั้นให้มันดูดีหน่อยไม่ได้หรือไง
งานส่วนของสวิงอาร์มแล้วบังโคลนดูเรียบร้อยดี เรียบร้อยกว่า R3 (งอนรอบที่ 5)
โช้คหลังเป็นโช้คเดี่ยว ไม่มีกระเดื่องทดแรง รับกับสวิงอาร์มล้วนๆ
มีบังโคลนมาให้ และดูดีกว่า R3 อีกแล้ว! (งอนรอบที่ 6)
เหลือบไปเห็นสเตอร์หลัง
เอ่อ..........สแปลนเตอร์ยึดสเตอร์หลังแบบนี้ มันดูแปลกๆเนอะว่ามั้ย? หรือผมไม่คุ้นตาเอง = =;
เบ้าสเตอร์หน้าถอดออกได้นะครับ ทำความสะอาดได้ง่ายๆเลย แต่เมื่อถอดออกมาก็เจอกับ....การล้างจานด้านเดียว
พ่นสีได้ไม่ครอบคลุมทุกจุด สงสัยจะประหยัดสี
สเตอร์หน้า
เจอสิ่งที่ประทับใจอีกหนึ่งอย่าง คันเกียร์เงาอย่างกับกระจกเลยครับ
ชุดขาตั้ง มีขาตั้งคู่มาให้ด้วยนะ ไม่ต้องใช้สแตนด์(ผั้วะ!! รถครอบครัวไม่มีขาตั้งคู่ได้ไงฟระ!)
การเก็บสายบริเวณสวิงอาร์ม
ใต้ท้องรถและจุดยึดบังโคลนท้าย
ไฟเลี้ยวครับ ครับ! ไฟเลี้ยว Exciter ผมว่าดูสปอร์ตจ๋ากว่า R3 อีกนะครัฟ! (งอนรอบที่7)
Exciter 150
R3
เปิดเบาะพบว่างานเรียบร้อยดี มีชิ้นส่วนประเภทยางหุ้มไว้แทบทุกจุด
ช่างบอกให้ระวังส่วนนี้ อย่าเปิดเบาะรถเวลาล้างรถ เพราะไม่งั้นน้ำอาจจะเข้ากรองอากาศได้
ถุงเก็บเครื่องมือเป็นวัสดุประเภทยางครับ สัมผัสดีกว่าถุงพลาสติกของ H เป็นอย่างมาก
อันนี้อะไร ห่วงคล้องหมวกกันน็อค? ทำไมมันกระจิ๊ดริ๊ดจัง
ใต้เบาะจะมีช่องเก็บเอกสารรถ ซึ่งสามารถเก็บได้อย่างพอดิบพอดี จะเก็บอย่างอื่นเพิ่มก็คงจะยาก
เขามีถุงซิบให้ด้วยนะ (ที R3 ตูไม่เห็นมีให้)
มาดูส่วนของท่อไอเสียกัน มีหักปลายด้วยนะ(อุ๊ย!)
เดี๋ยวจะหาว่ากั๊กของ ไม่ยอมให้ฟังเสียง ผมมีคลิปเสียงมาให้สดับรับฟังกัน
*****มาว่ากันด้วยเรื่องสมรรถนะและความรู้สึกยามขับขี่กัน*****
เนื่องจากเป็นรถประเภทกึ่งครอบครัวกึ่งสปอร์ตผมจึงไม่ได้ทดสอบอะไรไกลมากมายนัก
ไปวิ่งบนเขาถนนโล่งๆไม่มีคนสัญจรมากเพียงรอบเดียวไม่นานก็กลับ
พอจะจับความรู้สึกได้บ้างดังนี้
1.อัตราเร่ง 0-90 km/h ค่อนข้างดีเลยทีเดียว หลังจากนั้นจะเริ่มเหี่ยว โดยเฉพาะ 120km/h ขึ้นไป แรงแทบไม่เหลือแล้ว
ผมทำได้สูงสุดแค่ 123km/h เพราะทางตรงโล่งๆมีไม่มาก
รอบที่ 5,000 rpm ผมวัดได้ 70km/h
รอบที่ 6,000 rpm ผมวัดได้ 82km/h
รอบที่ 7,000 rpm ผมวัดได้ 97km/h
รอบที่ 7,200 rpm ผมวัดได้ 100 km/h
2.คลัทช์นิ่มมากถึงมากที่สุด นุ่มนิ่มประดุจซอฟท์ครีม
3.ลมตีขา ตีลำตัวช่วงบนแรงมาก ไม่มีถังให้เกาะ ไม่มีมุมหลบลมเลย
4.ยางติดรถเหมือนจะดีกว่า R3 (Michelin pilot street) ขนาดขับครั้งแรก ผมยังไม่ชินกับรถยังเผลอล่อไปซะขนาดนี้
อันนี้รุ่นยางติดรถ
แต่ที่แน่ๆยางตัวนี้ไม่เลื้อยเหมือนของ R3 ละกันน่ะ
5.ช่วงล่างรถพอจะเนียนเข้าโค้งเร็วๆได้บ้างครับ แต่ด้วยความที่ช่วงหน้าเบา จะซัดก็ขอให้ประมาณให้ดีครับ
6.ความเร็วที่ไม่ทรมารเครื่องจนเกินไปน่าจะอยู่ที่ 80-90km/h นะครับ
7.คุณพ่อของผมได้ตั้งนิยามรถคันนี้ไว้ว่า "รถคนแก่ออกทัวริ่ง" (พับผ่าสิ = =;)
8.รถยังไม่ผ่านรันอิน และยังไม่ผ่านการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งแรก อาจจะยังไม่ใช่สมรรถนะที่แท้จริงของรถครับ
9.ชิ้นส่วนหลายชิ้นทำมาเรียบร้อยกว่ารถของผมเองดังนั้นมีงอนครัช! (เหมือนงานเวียดนามจะเนียนกว่างานอินโดฯ)
::EDIT::เพิ่มเติม
มีจุดสงสัย 1 จุดคือ
ในคู่มือกล่าวไว้ว่าแนะให้เติมแก๊สโซฮอล์ E10
แต่ในโบรชัวร์กลับบอกว่ารองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20
เหตุฉไนไม่ตรงกัน
ขอบคุณที่อ่าน Review รั่วๆฉบับที่สองของผมนะครับ
อาจมีผิดพลาดบ้าง(มีแน่ล่ะ)ก็ขอน้อมรับข้อติติงไว้ด้วยความยินดีครับ(อีกแล้ว)
ชัวิตนอกจากเวฟ100 110 125 แล้วไม่เคยขับรถครอบครัวรุ่นอื่นเลยครับ
สำหรับ Review ฉบับนี้ก็จบลงด้วยประการละฉะนี้ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ
[CR] CR : Yamaha Exciter 150 เมื่อเจ้าของ R3 มีงอนแยม
Review ครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 2 ของผม
ซึ่งในการจัดทำ Review ครั้งนี้ผมได้แก้ไขข้อผิดพลาดครั้งที่แล้วคือ เรื่องของคุณภาพของภาพถ่าย
โดยการจัดซื้ออุปกรณ์ถ่ายภาพใหม่ซะเลย ถ้าภาพยังไม่ได้เรื่องอยู่ แสดงว่าผมมันโหลยโท่ยเองครับ
ความเป็นมาของ Review ชิ้นนี้คือคุณพ่อของผมต้องการรถมอเตอร์ไซค์เพื่อออกไปท่องเที่ยวด้วยตนเอง
ซึ่งคุณพ่อได้ตั้งโจทย์ไว้ดังนี้
1.รถมีพละกำลังมากพอและสามารถขับขี่เป็นระยะทางไกลได้โดยที่เครื่องยนต์ไม่ทำงานหนักหรือร้อนเกินไป
2.รถต้องไม่เป็นที่เตะตา หรือเด่นในกลุ่มแว๊นซ์บอย เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
3.รถจะต้องมีน้ำหนักเบา เพื่อให้คุณพ่อเข็นได้โดยสะดวกไม่เปลืองแรง
จึงเป็นที่มาของ Exciter 150 คันนี้
เรามาดูกันเลยครับ
เริ่มจากด้านหน้า
เมื่อบิดกุญแจ แต่ยังไม่ได้ติดเครื่องยนต์ ไฟหรี่จะเรืองแสงออกมาให้เห็น แต่ไฟหน้าจะยังไม่เรืองแสง
เมื่อติดเครื่องยนต์ไฟหน้าจึงจะเรืองแสงตามครับ
มุมมองด้านเฉียงข้างพร้อมไฟเลี้ยว
แผงไมล์แบบมัลติฟังก์ชั่น มีข้อความต้อนรับขณะบิดกุญแจไปตำแหน่งเปิด (งอนรอบที่ 1)
แผงไมล์คันนี้มีวัดรอบ ความเร็ว ตำแหน่งเกียร์ Trip1/2 ODD ที่สำคัญมีบอกอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วย!
คุณพระ...... รถครอบครัวอะไรมีมาให้ถึงขนาดนี้
ประกับแฮนด์ซ้ายมีไฟสูง/ต่ำ ไฟเลี้ยว แตร
ประกับแฮนด์ขวา มีปุ่มติดเครื่องยนต์อย่างเดียว เหมือนมีที่โล่งๆไว้เพื่อลูกเล่นอะไรซักอย่างที่มันน่าจะโดนตัดออก
กระจกข้าง
แผงคอล่าง(ไม่รู้เรียกถูกเปล่า) ดูแล้วน่าจะติดตะขอแขวนถุงแกงได้ ว่าแต่ไอ้กลมๆฝั่งซ้ายนั่นมันมีไว้เพื่ออะไรหรือไว้ย้ายฝั่งรูกุญแจ
เบ้ากุญแจเป็นแบบ Shutter key ทั่วๆไปตามรถตลาดของค่ายแยม ดูดีมีชาติตระกูลกว่าเบ้ากุญแจ R3 อีก (งอนรอบที่ 2)
บั้นท้าย เทียบกับ R3 แบบจะๆ ขอโทษนะครับ ไฟท้าย LED นะครัช!
แล้วทำไมท้ายมันดูบึกบึนกว่า ดูดีมีชาติตระกูลกว่า R3 ล่ะครับ! (งอนรอบที่ 3)
ทีนี้มาเทียบชิ้นส่วนต่างๆกัน
เริ่มจากปั้มเบรคหน้า-หลัง
ของ Exciter 150
ของ R3
มองผ่านๆ R3 ผมดูเรี่ยดินมาก....(งอนรอบที่ 4)
เรือนเครื่องยนต์ด้านขวา มีคันสตาร์ทเท้ามาให้ รูปร่างไม่คุ้นตาซักเท่าไหร่(สงสัยเพราะผมใช้แต่ฮอนด้ามาตลอด)
เรือนเครื่องยนต์ด้านซ้าย น่าสงสัยที่ว่าทำไมกระเดื่องคลัทช์มาอยู่ด้านนี้ได้
และแล้วก็เจอจุดที่ตะหงิดใจ คือ......ที่กั้นพักเท้าขวา ทำไมต้องยื่นมาซะขนาดนั้นฟระ
หรือหาวัสดุดีๆมากั้นให้มันดูดีหน่อยไม่ได้หรือไง
งานส่วนของสวิงอาร์มแล้วบังโคลนดูเรียบร้อยดี เรียบร้อยกว่า R3 (งอนรอบที่ 5)
โช้คหลังเป็นโช้คเดี่ยว ไม่มีกระเดื่องทดแรง รับกับสวิงอาร์มล้วนๆ
มีบังโคลนมาให้ และดูดีกว่า R3 อีกแล้ว! (งอนรอบที่ 6)
เหลือบไปเห็นสเตอร์หลัง
เอ่อ..........สแปลนเตอร์ยึดสเตอร์หลังแบบนี้ มันดูแปลกๆเนอะว่ามั้ย? หรือผมไม่คุ้นตาเอง = =;
เบ้าสเตอร์หน้าถอดออกได้นะครับ ทำความสะอาดได้ง่ายๆเลย แต่เมื่อถอดออกมาก็เจอกับ....การล้างจานด้านเดียว
พ่นสีได้ไม่ครอบคลุมทุกจุด สงสัยจะประหยัดสี
สเตอร์หน้า
เจอสิ่งที่ประทับใจอีกหนึ่งอย่าง คันเกียร์เงาอย่างกับกระจกเลยครับ
ชุดขาตั้ง มีขาตั้งคู่มาให้ด้วยนะ ไม่ต้องใช้สแตนด์(ผั้วะ!! รถครอบครัวไม่มีขาตั้งคู่ได้ไงฟระ!)
การเก็บสายบริเวณสวิงอาร์ม
ใต้ท้องรถและจุดยึดบังโคลนท้าย
ไฟเลี้ยวครับ ครับ! ไฟเลี้ยว Exciter ผมว่าดูสปอร์ตจ๋ากว่า R3 อีกนะครัฟ! (งอนรอบที่7)
Exciter 150
R3
เปิดเบาะพบว่างานเรียบร้อยดี มีชิ้นส่วนประเภทยางหุ้มไว้แทบทุกจุด
ช่างบอกให้ระวังส่วนนี้ อย่าเปิดเบาะรถเวลาล้างรถ เพราะไม่งั้นน้ำอาจจะเข้ากรองอากาศได้
ถุงเก็บเครื่องมือเป็นวัสดุประเภทยางครับ สัมผัสดีกว่าถุงพลาสติกของ H เป็นอย่างมาก
อันนี้อะไร ห่วงคล้องหมวกกันน็อค? ทำไมมันกระจิ๊ดริ๊ดจัง
ใต้เบาะจะมีช่องเก็บเอกสารรถ ซึ่งสามารถเก็บได้อย่างพอดิบพอดี จะเก็บอย่างอื่นเพิ่มก็คงจะยาก
เขามีถุงซิบให้ด้วยนะ (ที R3 ตูไม่เห็นมีให้)
มาดูส่วนของท่อไอเสียกัน มีหักปลายด้วยนะ(อุ๊ย!)
เดี๋ยวจะหาว่ากั๊กของ ไม่ยอมให้ฟังเสียง ผมมีคลิปเสียงมาให้สดับรับฟังกัน
*****มาว่ากันด้วยเรื่องสมรรถนะและความรู้สึกยามขับขี่กัน*****
เนื่องจากเป็นรถประเภทกึ่งครอบครัวกึ่งสปอร์ตผมจึงไม่ได้ทดสอบอะไรไกลมากมายนัก
ไปวิ่งบนเขาถนนโล่งๆไม่มีคนสัญจรมากเพียงรอบเดียวไม่นานก็กลับ
พอจะจับความรู้สึกได้บ้างดังนี้
1.อัตราเร่ง 0-90 km/h ค่อนข้างดีเลยทีเดียว หลังจากนั้นจะเริ่มเหี่ยว โดยเฉพาะ 120km/h ขึ้นไป แรงแทบไม่เหลือแล้ว
ผมทำได้สูงสุดแค่ 123km/h เพราะทางตรงโล่งๆมีไม่มาก
รอบที่ 5,000 rpm ผมวัดได้ 70km/h
รอบที่ 6,000 rpm ผมวัดได้ 82km/h
รอบที่ 7,000 rpm ผมวัดได้ 97km/h
รอบที่ 7,200 rpm ผมวัดได้ 100 km/h
2.คลัทช์นิ่มมากถึงมากที่สุด นุ่มนิ่มประดุจซอฟท์ครีม
3.ลมตีขา ตีลำตัวช่วงบนแรงมาก ไม่มีถังให้เกาะ ไม่มีมุมหลบลมเลย
4.ยางติดรถเหมือนจะดีกว่า R3 (Michelin pilot street) ขนาดขับครั้งแรก ผมยังไม่ชินกับรถยังเผลอล่อไปซะขนาดนี้
อันนี้รุ่นยางติดรถ
แต่ที่แน่ๆยางตัวนี้ไม่เลื้อยเหมือนของ R3 ละกันน่ะ
5.ช่วงล่างรถพอจะเนียนเข้าโค้งเร็วๆได้บ้างครับ แต่ด้วยความที่ช่วงหน้าเบา จะซัดก็ขอให้ประมาณให้ดีครับ
6.ความเร็วที่ไม่ทรมารเครื่องจนเกินไปน่าจะอยู่ที่ 80-90km/h นะครับ
7.คุณพ่อของผมได้ตั้งนิยามรถคันนี้ไว้ว่า "รถคนแก่ออกทัวริ่ง" (พับผ่าสิ = =;)
8.รถยังไม่ผ่านรันอิน และยังไม่ผ่านการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งแรก อาจจะยังไม่ใช่สมรรถนะที่แท้จริงของรถครับ
9.ชิ้นส่วนหลายชิ้นทำมาเรียบร้อยกว่ารถของผมเองดังนั้นมีงอนครัช! (เหมือนงานเวียดนามจะเนียนกว่างานอินโดฯ)
::EDIT::เพิ่มเติม
มีจุดสงสัย 1 จุดคือ
ในคู่มือกล่าวไว้ว่าแนะให้เติมแก๊สโซฮอล์ E10
แต่ในโบรชัวร์กลับบอกว่ารองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20
เหตุฉไนไม่ตรงกัน
ขอบคุณที่อ่าน Review รั่วๆฉบับที่สองของผมนะครับ
อาจมีผิดพลาดบ้าง(มีแน่ล่ะ)ก็ขอน้อมรับข้อติติงไว้ด้วยความยินดีครับ(อีกแล้ว)
ชัวิตนอกจากเวฟ100 110 125 แล้วไม่เคยขับรถครอบครัวรุ่นอื่นเลยครับ
สำหรับ Review ฉบับนี้ก็จบลงด้วยประการละฉะนี้ ขอบพระคุณอีกครั้งครับ