น้องที่รู้จักกันส่งมาให้ดูเป็นกล้องจากหมวกเขาเอง ก็จะเห็นได้ว่ามันขึ้นไฟเหลืองให้เห็นมาก่อนหน้านั้นสักพักแล้วนะครับ ก่อนจะไฟแดง แล้วก็มีรถที่ผ่านไปตอนไฟเหลืองแผงนึง และมีรถที่ฝ่าไฟแดงไปเลยคันนึง

คือจังหวะไฟเหลืองกว่าจะเป็นไฟแดงเนี่ย มันก็ 4 วินาที แล้วอยู่ตั้งไกล แทนที่จะชะลอได้แล้ว แต่ก็เลือกที่จะพุ่งออกไป แล้วถ้ามันต้องไปเพราะเบรกไม่ทันแล้วเนี่ย ก็เป็นผลจากอะไรละครับ ก็เป็นผลจากการที่ขับมาอย่างเร็วมากนั่นแหละ ซึ่งเอาจริงๆนะ ความเร็วที่กำหนดไว้ในเขตเมือง ก็เหยียบเกินกันกระจายสนุกสนาน

พอวิ่งมาเร็ว เจอไฟเหลือง ไฟแดง ก็อ้างว่าหยุดไม่ทัน หยุดแล้วอันตรายคันหลังตามมา บลา บลา บลา

คือถ้าวิ่งกันด้วยความเร็วที่เหมาะสม ที่ปลอดภัย มันไม่ยากที่จะหยุดหรอก

แล้วที่มันน่าสังเวชใจมากๆ ก็คือดูเอาครับ อุตสาห์ฝ่าไฟแดงไปขนาดนั้น สุดท้ายมันไปได้ไกลเท่าไหร่เชียว ก็จอดอยู่ข้างหน้า 300 กว่าเมตรแค่นั้นเอง

มีข้อมูลหนึ่งที่คนใช้รถยนต์ในกรุงเทพฯ ไม่ค่อยรู้กันคือว่าอัตราความเร็วเฉลี่ยของการเดินทางด้วยรถยนต์ในกรุงเทพฯ นั้นมีค่าน้อยมากๆ นั่นหมายความว่า ไอ้ที่คุณเหยียบกันได้ 60 70 80 นั้นมันเป็นระยะทางที่สั้นมากๆ ก่อนที่จะไปจอดติดขยับได้ทีละนิด หรือหยุดนิ่งสนิท  

ข้อมูลจากสำนักจราจรย้อนหลังพบว่าหลายปีที่ผ่านมาในช่วงเช้า ถนนหลายสายในกรุงเทพฯทำความเร็วเฉลี่ยที่ว่าได้ต่ำกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเสียอีก บางเส้นต่ำกว่า 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยซ้ำ แล้วจะเร่งเหยียบกันไปทำไมในเขตเมือง

ถ้าแม่ลูกคู่นั้นข้ามทางม้าลายมาตอนสัญญาณไฟเขียวที่ให้คนข้ามได้ อะไรจะเกิดขึ้น .. สองชีวิตแลกกับการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของรถยนต์คันนึงได้ 300 กว่าเมตร

ชีวิตคนไทยนี่มีราคาที่ต้องจ่ายแค่การเคลื่อนที่ไปข้างหน้า 300 เมตรของรถยนต์คันนึงแค่นั้นเอง...

เฮ่อ