ปัจจุบันเนี่ยถนนหนทางในกรุงเทพฯ รวมถึงเมืองใหญ่ๆอีกหลายจังหวัด สภาพแทบไม่ต่างกัน คือมีการจราจรที่หนาแน่น หลายคนไม่รู้ตัวเลยว่าไอ้ที่พยายามจะขับกันเร็วๆนั้น เราเดินทางด้วยความเร็วเฉลี่ยจากจุดเริ่มต้น จนถึงจุดหมายด้วยความเร็วแทบจะไม่ต่างจากจักรยานเลยด้วยซ้ำ (20-30km/hr)
ถึงอย่างนั้นเราก็ยังชอบที่จะขับเร็วๆ เมื่อเห็นข้างหน้ามีทางโล่งแม้แต่นิดเดียว เพียงเพื่อให้ไปต่อท้ายคันหน้าได้ก่อนคนอื่น (บางคนอาจจะคิดว่าเดี๋ยวจะไปแซงก้อนข้างหน้ายังไงอีกต่างหาก) ทั้งๆที่มันไปแล้วก็ไปได้แค่ไม่กี่เมตรหรอก เดี๋ยวก็ชะลอตัว เดี๋ยวก็ติด เดี๋ยวก็จอด แล้วพอมันติดเป็นนิสัยการขับขี่แล้วมันเลิกยาก เปลี่ยนยากนะครับ
ตัวอย่างตามคลิปสองคลิปนี้ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับรถยนต์หรือขี่มอเตอร์ไซค์ คือรีบฝ่าแดง หรือรีบขับให้พ้นทางข้ามโดยไม่ระมัดระวัง (จริงๆก่อนถึงทางข้ามไม่ว่าจะโล่งหรือไม่ยังไงมันควรชะลอดูให้แน่ใจก่อน) แล้วยังไงครับ มันก็ไปไหนต่อได้แค่ไม่กี่เมตรหรอกครับ ถ้าไม่เกิดเหตุก็ดีไป แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา เวลาที่ท่านพยายามจะแลกแค่ไม่กี่วินาที ระยะทางที่ท่านพยายามจะแลกแค่ไม่กี่เมตร มันไม่คุ้มกับความเสียหาย ความสูญเสียที่เกิดขึ้นหรอกครับ
ดูสิครับ ว่าที่พยายามจะเร่งจะแซงเพื่อให้ไปได้เร็วขึ้นแค่ไม่เท่าไหร่นั้น มันไปได้ไกลแค่ไหน ถนนในเขตเมืองมันก็สภาพนี้ทั้งนั้น แทนที่จะเร่งเหยียบๆ ซึ่งทำให้เกิดความสิ้นเปลือง สู้ค่อยๆไปกันตามจังหวะ ตามสภาพการจราจรไม่ดีกว่าหรือครับ มีเหตุไม่คาดคิดขึ้นมาก็ช่วยบรรเทาความรุนแรงได้ด้วย
เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่รถยนต์ รถกระบะ มอเตอร์ไซค์ก็เช่นกันครับ ถึงแม้ท่านจะคล่องตัวกว่า วิ่งไปแล้วไปได้ไม่ติดเหมือนรถยนต์ แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา มันไม่คุ้มกับหรอกครับกับเวลาไม่กี่นาทีไม่กี่วินาทีที่มันได้มา
ที่ตั้งกระทู้นี้ก็จะชวนคิดครับ เผื่อว่ามีคนที่ขับลักษณะนี้อยู่ ตอนอยู่หลังพวงมาลัยอาจจะนึกไม่ได้เพราะกำลังเพลิดเพลินกับการขับขี่ ผมเอาภาพจากข้างนอกมองเข้าไปให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วไอ้ที่ทำนั้นมันได้อะไรขึ้นมา ได้ระยะทางมากี่เมตร ได้เวลาเร็วขึ้นกี่นาทีมาให้ดู เผื่อว่าจะมีใครตระหนักแล้วเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่สักคนหรือครึ่งคนผมก็รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้วหากจะโดนตำหนิว่าเรื่องแค่นี้จะมาตั้งกระทู้ทำไม
ขอบคุณครับ
ขับรถในเมืองเราจะรีบไปไหนกันครับ ? เคยนึกบ้างมั๊ยว่ารีบแล้วไปได้กี่เมตร เคยมองรึเปล่าว่าข้างหน้าก็หางแถวเหมือนกัน
ถึงอย่างนั้นเราก็ยังชอบที่จะขับเร็วๆ เมื่อเห็นข้างหน้ามีทางโล่งแม้แต่นิดเดียว เพียงเพื่อให้ไปต่อท้ายคันหน้าได้ก่อนคนอื่น (บางคนอาจจะคิดว่าเดี๋ยวจะไปแซงก้อนข้างหน้ายังไงอีกต่างหาก) ทั้งๆที่มันไปแล้วก็ไปได้แค่ไม่กี่เมตรหรอก เดี๋ยวก็ชะลอตัว เดี๋ยวก็ติด เดี๋ยวก็จอด แล้วพอมันติดเป็นนิสัยการขับขี่แล้วมันเลิกยาก เปลี่ยนยากนะครับ
ตัวอย่างตามคลิปสองคลิปนี้ เป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับรถยนต์หรือขี่มอเตอร์ไซค์ คือรีบฝ่าแดง หรือรีบขับให้พ้นทางข้ามโดยไม่ระมัดระวัง (จริงๆก่อนถึงทางข้ามไม่ว่าจะโล่งหรือไม่ยังไงมันควรชะลอดูให้แน่ใจก่อน) แล้วยังไงครับ มันก็ไปไหนต่อได้แค่ไม่กี่เมตรหรอกครับ ถ้าไม่เกิดเหตุก็ดีไป แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา เวลาที่ท่านพยายามจะแลกแค่ไม่กี่วินาที ระยะทางที่ท่านพยายามจะแลกแค่ไม่กี่เมตร มันไม่คุ้มกับความเสียหาย ความสูญเสียที่เกิดขึ้นหรอกครับ
ดูสิครับ ว่าที่พยายามจะเร่งจะแซงเพื่อให้ไปได้เร็วขึ้นแค่ไม่เท่าไหร่นั้น มันไปได้ไกลแค่ไหน ถนนในเขตเมืองมันก็สภาพนี้ทั้งนั้น แทนที่จะเร่งเหยียบๆ ซึ่งทำให้เกิดความสิ้นเปลือง สู้ค่อยๆไปกันตามจังหวะ ตามสภาพการจราจรไม่ดีกว่าหรือครับ มีเหตุไม่คาดคิดขึ้นมาก็ช่วยบรรเทาความรุนแรงได้ด้วย
เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่รถยนต์ รถกระบะ มอเตอร์ไซค์ก็เช่นกันครับ ถึงแม้ท่านจะคล่องตัวกว่า วิ่งไปแล้วไปได้ไม่ติดเหมือนรถยนต์ แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา มันไม่คุ้มกับหรอกครับกับเวลาไม่กี่นาทีไม่กี่วินาทีที่มันได้มา
ที่ตั้งกระทู้นี้ก็จะชวนคิดครับ เผื่อว่ามีคนที่ขับลักษณะนี้อยู่ ตอนอยู่หลังพวงมาลัยอาจจะนึกไม่ได้เพราะกำลังเพลิดเพลินกับการขับขี่ ผมเอาภาพจากข้างนอกมองเข้าไปให้เห็นว่าสุดท้ายแล้วไอ้ที่ทำนั้นมันได้อะไรขึ้นมา ได้ระยะทางมากี่เมตร ได้เวลาเร็วขึ้นกี่นาทีมาให้ดู เผื่อว่าจะมีใครตระหนักแล้วเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่สักคนหรือครึ่งคนผมก็รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้วหากจะโดนตำหนิว่าเรื่องแค่นี้จะมาตั้งกระทู้ทำไม
ขอบคุณครับ