COke Zero & Perpsi แม๊ก มันไม่ดียังไงครับ ตอบที เอาเหตุผลมาด้วยนะครับ ไม่ใช่สักแต่ว่าพูด รำคาญ

COke Zero & Perpsi แม๊ก มันไม่ดียังไงครับ ตอบที เอาเหตุผลมาด้วยนะครับ ไม่ใช่สักแต่ว่าพูด รำคาญ

ตามนั้นครับ ผมได้ลองเสิรจหาข้อมูลแล้ว ก็จะเจอพวกประเภทว่า มันไม่ดีนะๆๆๆๆๆๆ
น้ำตาลเทียมๆๆๆ มากมาย แต่ก็ไม่มีข้ออ้างยืนยัน
เป็นลิงควิจัยหรืออะไรก็ได้มาก็ได้ครับ ผมไม่ชอบพวกเอาอคติเค้าใช้ แล้วก็สรุปว่ามา ไม่ดีๆๆๆๆ อันตรายๆๆๆๆ

นี่ผมเข้ามาถามอย่าง " ไ ม่ รู้ " จริงๆนะครับ ที่ต้องพิมพให้ชัดเจนเพราะเบื่อพวกกระแนะกระแหน

มันไม่ดียังไงครับ เช่นหมายถึงในบริบทว่า ที่มันไม่มีน้ำตาลเหมือน Coke และ Pepsi ปกติ

ตอบสร้างสรรคนะครับ เอาความรู้
ไม่รู้จริง ไม่ต้องตอบจะช่วยได้มากเลยครับ

// ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ทั้ง 2 ตัวนั้น  ผู้ผลิตอ้างว่าใช้ Aspartame แทนน้ำตาล

ทำให้ไม่เกิด calories กับร่างกาย  ไม่มีพลังงาน  หรือพูดง่าย ๆ คือดื่มเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนสะสม
ซึ่ง หากพิจารณาตามหลักโภชนาการแล้วก็จริง  เพราะมันไม่ก่อ calories ให้ร่างกายเลย
ในขณะที่ Coke ธรรมดา 1 กระป๋องให้พลังงานถึง 140 Kcal   และตัว Aspartame เองก็ปลอดภัยครับ
ไม่ได้มีสารก่อมะเร็งเหมือนที่พูดกัน   Aspartame  นี้ไม่ควรใช้ปรุงอาการบนเตา  เพราะมันจะสลายตัว
ที่อุณหภูมิประมาณ 80 องศา C  โดยสลายตัวเป็น Aspartic acid  และ  Phenylalanine  ซึ่งจะทำให้รสชาติ
อาหารเปลี่ยนไป  แต่นอกนั้นไม่มีปัญหาต่อร่างกายครับ

หมายเหตุ
จากการที่ Aspartame สลายตัวให้สาร Phenylalanine นี้  ทำให้มีข้อระวังในการใช้ว่า
ห้ามมิให้ผู้ป่วยโรค Phenylketoneuria  กิน Aspartame เด็ดขาด  เพราะผู้ป่วยจะไม่สามารถย่อยสลาย
กรดอะมิโน phenylalanine ไปเป็น tyrosine เหมือนคนปกติ  ทำให้เกิดอาการโลหิตเป็นพิษได้

ดังนั้น  การดื่ม Coke zero ในคนปกติที่ปริมาณพอเหมาะจะไม่มีข้อเสียเลย  แค่จะทำให้เรา "ติดหวาน" เท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 32
ผลเสียของน้ำตาลเทียมได้ตีพิมพ์ในวารสารธรรมชาติ (Nature) impact factor ประมาณ 42 มีชื่อเรื่องดังนี้

Artificial sweeteners induce glucose intolerance by altering the gut microbiota

สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเหนี่ยวนำให้เกิดสภาวะ glucose intolerance (สภาวะที่ความสามารถในการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ของอินซูลินลดลง) เนื่องจากการเปลี่ยนแปลระบบจุลินทรีย์ในลำใส้

สรุปเนื้อหาคร่าวๆคือ
1.งานวิจัยนี้ใช้น้ำตาลเทียมสามชนิดคือ saccharin sucralose และ aspartame และใช้ความเข้มข้นตามสูตรของน้ำอัดลม นำน้ำหวานให้หนูทดลองดื่ม

2.ผลที่ได้พบว่าหนูกลุ่มที่ดื่มน้ำหวานดังกล่าวเกิดสภาวะ glucose intolerance (สภาวะหนึ่งของโรคเบาหวาน) อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับหนูกลุ่มที่ดื่มน้ำเปล่า น้ำหวานจากกลูโคส และซูโครส (น้ำตาลจริงๆ สามารถให้พลังงานได้จริง)

3.เมื่อตรวจดูลำใส้ของหนูพบว่าแบคทีเรียจากหนูที่ดื่มน้ำหวานเทียม (ผสมสารทดแทนความหวาน) มีชนิดของแบคทีเรียแตกต่างจากแบคทีเรียที่พบในลำใส้ของหนูที่ดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำหวานจริงๆ

4.วิเคราะห์ได้ว่าน้ำตาลเทียมที่ไม่สามารถย่อยได้ถูกส่งต่อมาที่ลำไส้ ส่งผลให้แบคทีเรียเดิมที่ปกติจะมีอยู่มาก (Major) กลับลดน้อยลงไป แต่มีการเพิ่มปริมาณแบคทีเรียกลุ่มเล็ก (Minor) มาแทนที่

5.ในการทดลองนี้ได้ทำในมนุษย์ โดยใช้ผู้ทดลองที่ชอบดื่มน้ำหวานเทียม

6.ผลที่ได้พบว่ากลุ่มคนที่ดื่มน้ำหวานเทียมมีสภาวะ glucose intolerance อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ดื่ม

7.เมื่อตราวจแบคทีเรียในลำใส้พบว่า แบคทีเรียของคนที่ดื่มน้ำหวานเทียมมีชนิดแตกต่างจากแบคทีเรียในลำไส้ของคนที่ไม่ได้ดื่ม

8.ผู้วิจัยได้ทดลองใช้วิธี fecal therapy โดยนำแบคทีเรียจากลำไส้ของคนปกติ (อุจจาระของคนที่ไม่ดื่มน้ำหวานเทียม) มาให้กับคนที่มีสภาวะ glucose intolerance จากการดื่มน้ำหวานเทียม

9.ผลที่ได้พบว่าผู้ที่ได้รับการบำบัดด้วยวิธี fecal therapy มีสภาวะ glucose intolerance ลงลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับการบำบัด

หมายเหตุ
มีงานวิจัยที่ระบุว่าระบบจุลินทรีย์ในลำไส้เกี่ยวข้องกับระบบเมตาบอลิซึม (ระบบการใช้พลังงานและสารชีวโมเลกุลในร่างกาย) และมีผลต่อโรคที่เกิดจากสภาวะผิดปกติของระบบเมตาบอลิซึม (Metabolic syndrome) เช่น โรคเบาหวาน และโรคอ้วน เป็นต้น

เอกสารอ้างอิง
http://www.nature.com/nature/journal/v514/n7521/full/nature13793.html

Artificial sweeteners induce glucose intolerance by altering the gut microbiota

Jotham Suez,    Tal Korem,    David Zeevi,    Gili Zilberman-Schapira,    Christoph A. Thaiss,    Ori Maza,    David Israeli,    Niv Zmora,    Shlomit Gilad,    Adina Weinberger,    Yael Kuperman,    Alon Harmelin,    Ilana Kolodkin-Gal,    Hagit Shapiro,    Zamir Halpern,    Eran Segal    & Eran Elinav
AffiliationsContributionsCorresponding authors
Nature 514, 181–186 (09 October 2014) doi:10.1038/nature13793
Received 27 March 2014 Accepted 28 August 2014 Published online 17 September 2014
ความคิดเห็นที่ 11
ความเชื่อที่บอกว่า Coke Zero หรือ Pepsi Max ไม่ดี เป็นแค่ Myth ค่ะ
และที่เชื่อกันแบบนั้นก็เพราะเจ้า "แอสปาแตม" นี่แหละ

แอสปาแตมเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ที่พอมันถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารช่วงแรก ๆ
มีคนแพร่ข่าว Hoax โจมตีมันค่ะว่ามันจะทำให้ตาบอด ปวดหัว โรคซึมเศร้า มะเร็ง สมองเสื่อม ลมชัก ตาย
เยอะแยะมากซึ่งเว่อร์จริง ๆ ทำให้หลายคนไม่กล้ากินอาหารหรือเครื่องดื่มที่ผสมสารตัวนี้ไปเลย
พอมีคนเชื่อมันเยอะเลยทำให้มีนักวิทย์ทำวิจัยกันมากค่ะ ปรากฎว่าหลายคนไม่เห็นว่ามันจะมีผลกระทบอะไร
แต่บางคนก็พบว่ามันจะทำให้เป็นมะเร็งได้จริงนะ..

แต่ไอ้การทดลองที่บอกว่ามันทำให้เป็นมะเร็งได้นี่ ต่อมาเค้าพิสูจน์พบว่ามันเป็นการทดลองที่มีช่องโหว่ค่ะ
ขณะเดียวกันการทดลองส่วนใหญ่ก็ไม่พบว่าแอสปาแตมอันตรายต่อร่างกายเหมือนที่มีคนกล่าวอ้างด้วย

ปัจจุบันแอสปาแตมได้รับอนุญาตให้ใช้ได้และได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยในการบริโภค
และมันก็มีการควบคุมการใช้ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมอยู่แล้วค่ะ ดื่มได้ไม่เป็นไร
แต่ Hoax และงานวิจัยเดิม ๆ ที่ว่ามันทำให้เป็นมะเร็งก็ยังคงถูกหยิบมาเผยแพร่ส่งต่อในเน็ตไม่จบไม่สิ้น
แม้มันจะถูกล้มล้างไปแล้ว.. มันเลยเป็นที่มาของความเชื่อที่ว่า "เครื่องดื่มพวกนี้ไม่ดีเพราะมีน้ำตาลเทียม" นี่แหละค่ะ

สรุปแล้ว เครื่องดื่มที่ใช้แอสปาแตมปลอดภัยนะคะ มันไม่ได้ "ไม่ดี" หรือ "ดี" อะไร
แค่ดื่มเข้าไปแล้วไม่ได้ประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้มีโทษ ถ้าเราไม่ได้ดื่มมันแบบเอาเป็นเอาตายน่ะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 9
เป็นเบาหวานมาเกือบสิบปี แต่กินโค๊กไดเอ็ท ต่อด้วยซีโร่มาเกินยี่สิบปีแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ
เวลาไปหาหมอตามนัด หมอระดับมีชื่อเสียงในเรื่องต่อมไร้ท้อด้วย นั่งคุยกันไปกินโค๊กซีโร่ไปทั้งหมอทั้งคนไข้

เรื่องติดหวานเราไม่เชื่อนะ เรากินโค๊กซีโร่ แต่เราก็กินกาแฟไม่ใส่น้ำตาลได้ ปกติจะพกน้ำตาลเทียม ถ้าวันไหนไม่มีลืมพกก็กินกาแฟกับนมจืดแค่นั้นได้ไม่มีปัญหา

อาหารอย่างอื่นหวานกว่าเยอะ เราใช้โค๊กซีโร่แทนอาหารหวานเวลาอยากทานของหวาน มันดีกว่ากินของหวานอย่างอื่นเยอะเลย

ตอบจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง และก็เบื่อมากกับการโพสทีว่าน้ำตาลเทียมทำให้เป็นมะเร็ง หรือเป็นอันตรายกินมาสามสิบปีแล้วยังไม่เจอปัญหา
ความคิดเห็นที่ 1
ผมรู้อย่างเดียว ไม่อร่อยสำหรับผม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่