ก่อนซื้อ-ผ่าน ระหว่างซื้อ-ฉลุย...ดันมาเจอตอ หลังซื้อ เมื่อโอนและเข้าอยู่เรียบร้อย
ปลายปี 55 ผมซื้อบ้านจัดสรร จัดสวย ราคาดี มาหลังนึงครับ...เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงจริง ๆ ครับ ขนาดคิดว่า ก่อนซื้อ หาข้อมูล เตรียมตัวอย่างดี ดูทำเล ที่ตั้ง ราคา เงื่อนไข...จนแน่ใจ ระหว่างซื้อ...เกณฑ์เพื่อนฝูงเด็กวิศวะ สถาปนิก โปรเจกต์ เมเนเจอร์โครงการบ้านใหญ่ๆ มาช่วยตรวจ...จนชัวร์ป้าบบ...แม้มีเรื่องติดขัด ไม่ถูกใจอยู่บ้าง แต่ก็ปล่อยผ่าน จนสามารถเข้ามาอยู่บ้านของตัวเองได้สมใจ...จนผ่านไปเป็นปี ๆ มามีปัญหาเอาอีตอนจะจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลครับ...ซึ่งต้องเจอฤทธิ์เดชสารพัดจากโครงการ....จริง ๆ ต้องบอกว่า 100 หลังในโครงการ โดนกันถ้วนหน้า...ดีกว่าครับ
...ขอย้อนนิด เพื่อความเข้าใจ โครงการนี้(ตามคำโฆษณา ณ ขณะนั้น ปี พ.ศ. 2555) เป็นหมู่บ้านจัดสรรที่มีแบบบ้านเป็นบ้านแฝด สไตล์บ้านเดี่ยว(ดูเผิน ๆ บ้านเดี่ยวแน่ ๆ ) คุณภาพดี ราคาโดน เป็นหมู่บ้านปิด รั้วรอบ ขอบชิด เข้าออกทางเดียว มีป้อม มี รปภ. รักษาการณ์ 24 ช.ม. ใกล้สาธารณูปโภค ใกล้เมืองใหญ่ ไฉไล สุด ๆ ซึ่งนี่แหละคือ ปัจจัยหลัก ที่ลูกบ้านตัดสินใจเลือกที่นี่ ผมก็เช่นกัน ตอนนั้น เพิ่งมีลูกชายตัวเล็ก ๆ มีบ้านส่วนตัว ลูกมีที่วิ่งเล่น ปลอดภัย ไม่มั่วสุม เพื่อนบ้านเป็นกันเอง ถ้อยทีถ้อยอาศัย ....ผมถือว่า ถ้าได้เช่นนี้ มันคุ้มมาก
อยู่ ๆ ไปมีปัญหามากมายผุดขึ้น ...ทั้งเรื่องทั่วๆ ไป เช่น การเคลมประกันที่ล่าช้า ไม่มีคุณภาพ การดูแลบำรุงโครงการที่ไม่เรียบร้อย สาธารณูปโภคที่เสร็จบ้างไม่เสร็จบ้าง ฯลฯ จนเจอตอใหญ่ ๆ คือ รั้วรอบหมู่บ้าน ยังเหลือบางจุดที่โครงการไม่ยอมปิดให้ แต่จะดันทุรัง ให้ลูกบ้านเซ็นต์ยินยอม เพื่อจัดตั้งนิติบุคคลของหมู่บ้าน เพื่อทิ้งปัญหาให้ นิติบุคคล แก้ไขแทน ส่วนโครงการปัดปัญหาเพื่อไปหากินกับโครงการใหม่ต่อไป....
....กลับมาที่ตอนเจอตอ ตะนี้ พอโครงการไม่ยอมปิดรั้วที่โบ๋อยู่ (กว้างประมาณ 10 เมตร) แต่ดึงดันให้ยินยอมจัดตั้ง นิติฯ ลูกบ้านทั้งหมดจึงปฏิเสธไป หลังจากนั้นบรรดาลูกบ้านบางรั้วโบ๋ ก็มีการร่วมกันติดตามและแก้ไขปัญหานี้กัน จนความจริงและเงื่อนงำดำ ๆ เริ่มเผยออกมา หลังจากที่ลูกบ้านท่านนึงซึ่งอยู่ใกล้รั้วดังกล่าว ทำหนังสือร้องเรียน ไปยังหน่วยงานในท้องที่ขอความเป็นธรรมแต่เรื่องกลับเงียบฉี่ ที่แปลกก็คือ กลายเป็นตัวแทนโครงการเข้ามาเจรจา มาไกล่เกลี่ยแทน ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้ควรเป็นความลับระหว่างหน่วยงานกับผู้ร้องเรียนเท่านั้น...
...นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิด นักสืบหมู่บ้านครับ...ที่ต่างช่วยกัน วิ่งเต้น ค้นหา ค้นคว้าและสืบเสาะ จนได้เบาะแสและนำไปสู่ข้อเท็จจริงที่ว่า...ถนนตลอดเส้นแนวรั้ว จากรั้วโบ๋ จนไปถึงป้อมยาม ไม่ใช่ที่ดินของโครงการ (ซื้อขายยังไม่แล้วเสร็จ บางส่วนเป็นที่สาธารณะด้วย แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อนุมัติจัดสรรได้ไง) ทำให้ไม่สามารถปิดรั้วได้ ที่สำคัญยังที่ดินดังกล่าวยังรวมถึงพื้นที่บางส่วนของลูกบ้านที่ตั้งในแนวถนนด้วย...(ตายละวา ลูกบ้านกลุ่มนี้โดนเก็บค่าพื้นที่เพิ่มไปอีกโข) มีทั้งหลอกลวง สร้างทับที่หลวง ...นอกจากนั้น มติในที่ประชุมที่คัดค้านการจัดตั้งนิติฯ กลับกลายโดนปลอมแปลงเป็นการเซ็นต์ยอมรับเอกสารเพื่อยื่นขอจัดตั้งนิติบุคคลเฉยเลย...
ดังนั้น...ลูกบ้านมืออาชีพในฐานะตัวแทนหมู่บ้าน จึง ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงต่อ จนพบเรื่องใหม่ใหญ่กว่า ก็คือ ที่ดังกล่าว เจ้าของที่ดินได้ยกให้เป็นที่สาธารณะไปซะแล้ว และอาจมีการเปิดเป็นถนนสาธารณะ นั่นหมายความว่า หมู่บ้านปิดจะไม่มีอีกต่อไป ใครต่อใครจะเข้าออก ได้ตามอำเภอใจ ความปลอดภัยที่คิดฝัน หมู่บ้านอันแสนสงบที่คิดถึง...ไม่มีอีกแล้ว...ทางกลุ่มจึงทำเรื่องร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง แต่เรื่องยังไม่ไปถึงไหน โครงการก็ใจดีครับ ส่งช่างมาปิดรั้วแบบชั่วคราวให้แบบปัจจุบันทันด่วน...(เหมือนร้อนตัว) ทีมลูกบ้านอาสาจึงรามือไปพักหนึ่ง...
...ระหว่างนั้น ผลการร้องเรียน ข้อสอบถาม และการแสดงความรับผิดชอบจากโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็นิ่งเงียบเช่นเดิม จนวันนึงครับ กลุ่มช่างชายฉกรรจ์ ก็กรูกันเข้าทุบรื้อรั้วโบ๋ออกอีกครั้ง ในเวลากลางวัน (ซึ่งลูกบ้านส่วนใหญ่ไปทำงาน มีแต่เด็กและคนแก่ ) และปิดแทนด้วยรั้วเหล็กที่กั้นแมวหมายังไม่ได้ไว้แทน อย่างอุกอาจ...
....การประชุมจากลูกบ้านจึงเริ่มขึ้นอีกครั้งครับ คราวนี้มาแนวใหม่และใหญ่กว่าเดิม หลังจากที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า การเรียกร้องจากหน่วยงานในพื้นที่ ไม่มีผลใด ๆ ต้องนำเสนอเรื่องนี้เข้าส่วนกลาง ต้องเป็นการประกาศให้เป็นปัญหาสาธารณะ รับรู้ทั่วกันทั่วไทยไปเลย....ระหว่างนี้ มีการลอบกัดจากโครงอยู่ร่ำไปครับ มีการแอบเข้ามาให้ลูกบ้านเซ็นต์เอกสารแปลกๆ มีข้อเสนอและการเจรจากับแกนนำของหมู่บ้านเพื่อยุติปัญหา รวมทั้งการเสนอเงินสดเพื่อแลกกับการร่วมมือของลูกบ้านแต่ละหลัง โชคดีเหลือเกินครับ ที่ลูกบ้านทุกคนที่นี่ เข้มแข็งและสามัคคีกันมาก แม้ทุก ๆ หลัง อาจได้รับผลกระทบแตกต่าง มากน้อย แต่ทุกคนยึดเอาประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักครับ...
...ขณะนี้ หมู่บ้านได้จัดตั้ง คณะบุคคลที่รวมเอากลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถหลาย ๆด้าน มาเป็นตัวแทน ในการต่อสู้ครั้งนี้ครับ เพราะเล็งเห็นแล้วว่า ปัญหานี้แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมากมาย แต่แสดงให้เห็นถึง การขาดความรับผิดชอบของโครงการอย่างร้ายแรงมากครับ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สนง. ที่ดิน อบต. ในพื้นที่ที่ปล่อยผ่านเรื่องแบบนี้มาได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ควรจะตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนการก่อสร้างด้วยซ้ำไป...(ปล่อยไม่ได้เด็ดขาด)
...ทั้งนี้ เชื่อเหลือเกินว่า เรื่องนี้ ทางโครงการและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติจัดสรร ต้องรู้เงื่อนไขและข้อกำหนดดีอยู่แล้ว แต่ยังปล่อยผ่านและสร้างปัญหาแก่ผู้บริโภคอย่างเปิดเผย เพราะเล็งเห็นและเชื่อว่า กลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคอย่างพวกเราคงพิจารณาแต่เฉพาะเรื่องของตัวเอง จัดการ เตรียมพร้อม เฉพาะตอนก่อนซื้อเพียงเท่านั้น ระหว่างซื้อก็แค่ตรวจสอบดี ๆ รับโอนเสร็จ ก็เข้ามาอาศัย เป็นเสร็จพิธี และคงเชื่ออีกว่า การรวมตัวเป็นปึกแผ่นหลังจากนั้น คงเป็นเรื่องยาก เพราะต่างคน คงต่างอยู่ ต่างอาศัย ต่างหากิน เลยมีช่องว่างช่องใหญ่ ให้ พวกเขารังแก เอารัดเอาเปรียบได้...
...เรื่องนี้ มีประเด็นหลัก ๆ อยู่ไม่กี่มากน้อย...ที่ต้องตะลุยให้ถึงที่สุดครับ
1 ลูกบ้านเลือกที่นี่ เพราะเชื่อมั่น ว่า จะได้ทุกอย่าง ตามที่โครงการโฆษณาชวนเชื่อ แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามที่ตกลง การเรียกร้อง เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิอันชอบธรรม ต้องเกิดขึ้น
2 เหตุแห่งปัญหาคือโครงการจัดสรร ไม่มีความรับผิดชอบ ฉ้อฉล กลโกง ฯลฯ เช่นนี้ ต้องรับโทษจากการกระทำที่ไม่มีความรับผิดชอบนั้น ๆ
3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การปล่อยผ่าน ละเลย หรือแม้แต่ร่วมมือให้มีการทำผิด เอารัดเอาเปรียบประชาชน อย่างไรเสีย ควรต้องได้รับบทเรียนจากการกระทำนั้น
4 ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ให้เกิดแรงจูงใจ แรงบันดาลใจ แก่ผู้บริโภคทั้งหลาย ให้ลุกขึ้นมาสู้ รักษาสิทธิอันชอบธรรมของตน ที่สำคัญ เพื่อเตือนสติ กลุ่มนายทุนและข้าราชการที่ประพฤติมิชอบทั้งหลาย ได้ตระหนัก ว่าอย่า รังแก เอารัดเอาเปรียบประชาชน
ดังนั้น...ลูกบ้านรั้วโบ๋อย่างพวกผมนี่แหละครับ ที่จะเปลี่ยนทัศนคติของนายทุนและกลุ่มคนเหล่านั้นซะใหม่ เราจะสู้และเรียกร้องจนถึงที่สุด เพื่อนำเอาความยุติธรรม ความสุขใจ ความฝัน และความรู้สึกดี ๆ ที่เลือกอยู่ที่นี่...กลับคืนมา...
เตือนภัยคนซื้อบ้านจัดสรร...จับไต๋โครงการไม่พอ...ต้องรู้ไส้หน่วยงานที่เอี่ยวด้วย....
ปลายปี 55 ผมซื้อบ้านจัดสรร จัดสวย ราคาดี มาหลังนึงครับ...เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงจริง ๆ ครับ ขนาดคิดว่า ก่อนซื้อ หาข้อมูล เตรียมตัวอย่างดี ดูทำเล ที่ตั้ง ราคา เงื่อนไข...จนแน่ใจ ระหว่างซื้อ...เกณฑ์เพื่อนฝูงเด็กวิศวะ สถาปนิก โปรเจกต์ เมเนเจอร์โครงการบ้านใหญ่ๆ มาช่วยตรวจ...จนชัวร์ป้าบบ...แม้มีเรื่องติดขัด ไม่ถูกใจอยู่บ้าง แต่ก็ปล่อยผ่าน จนสามารถเข้ามาอยู่บ้านของตัวเองได้สมใจ...จนผ่านไปเป็นปี ๆ มามีปัญหาเอาอีตอนจะจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลครับ...ซึ่งต้องเจอฤทธิ์เดชสารพัดจากโครงการ....จริง ๆ ต้องบอกว่า 100 หลังในโครงการ โดนกันถ้วนหน้า...ดีกว่าครับ
...ขอย้อนนิด เพื่อความเข้าใจ โครงการนี้(ตามคำโฆษณา ณ ขณะนั้น ปี พ.ศ. 2555) เป็นหมู่บ้านจัดสรรที่มีแบบบ้านเป็นบ้านแฝด สไตล์บ้านเดี่ยว(ดูเผิน ๆ บ้านเดี่ยวแน่ ๆ ) คุณภาพดี ราคาโดน เป็นหมู่บ้านปิด รั้วรอบ ขอบชิด เข้าออกทางเดียว มีป้อม มี รปภ. รักษาการณ์ 24 ช.ม. ใกล้สาธารณูปโภค ใกล้เมืองใหญ่ ไฉไล สุด ๆ ซึ่งนี่แหละคือ ปัจจัยหลัก ที่ลูกบ้านตัดสินใจเลือกที่นี่ ผมก็เช่นกัน ตอนนั้น เพิ่งมีลูกชายตัวเล็ก ๆ มีบ้านส่วนตัว ลูกมีที่วิ่งเล่น ปลอดภัย ไม่มั่วสุม เพื่อนบ้านเป็นกันเอง ถ้อยทีถ้อยอาศัย ....ผมถือว่า ถ้าได้เช่นนี้ มันคุ้มมาก
อยู่ ๆ ไปมีปัญหามากมายผุดขึ้น ...ทั้งเรื่องทั่วๆ ไป เช่น การเคลมประกันที่ล่าช้า ไม่มีคุณภาพ การดูแลบำรุงโครงการที่ไม่เรียบร้อย สาธารณูปโภคที่เสร็จบ้างไม่เสร็จบ้าง ฯลฯ จนเจอตอใหญ่ ๆ คือ รั้วรอบหมู่บ้าน ยังเหลือบางจุดที่โครงการไม่ยอมปิดให้ แต่จะดันทุรัง ให้ลูกบ้านเซ็นต์ยินยอม เพื่อจัดตั้งนิติบุคคลของหมู่บ้าน เพื่อทิ้งปัญหาให้ นิติบุคคล แก้ไขแทน ส่วนโครงการปัดปัญหาเพื่อไปหากินกับโครงการใหม่ต่อไป....
....กลับมาที่ตอนเจอตอ ตะนี้ พอโครงการไม่ยอมปิดรั้วที่โบ๋อยู่ (กว้างประมาณ 10 เมตร) แต่ดึงดันให้ยินยอมจัดตั้ง นิติฯ ลูกบ้านทั้งหมดจึงปฏิเสธไป หลังจากนั้นบรรดาลูกบ้านบางรั้วโบ๋ ก็มีการร่วมกันติดตามและแก้ไขปัญหานี้กัน จนความจริงและเงื่อนงำดำ ๆ เริ่มเผยออกมา หลังจากที่ลูกบ้านท่านนึงซึ่งอยู่ใกล้รั้วดังกล่าว ทำหนังสือร้องเรียน ไปยังหน่วยงานในท้องที่ขอความเป็นธรรมแต่เรื่องกลับเงียบฉี่ ที่แปลกก็คือ กลายเป็นตัวแทนโครงการเข้ามาเจรจา มาไกล่เกลี่ยแทน ทั้ง ๆ ที่เรื่องนี้ควรเป็นความลับระหว่างหน่วยงานกับผู้ร้องเรียนเท่านั้น...
...นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิด นักสืบหมู่บ้านครับ...ที่ต่างช่วยกัน วิ่งเต้น ค้นหา ค้นคว้าและสืบเสาะ จนได้เบาะแสและนำไปสู่ข้อเท็จจริงที่ว่า...ถนนตลอดเส้นแนวรั้ว จากรั้วโบ๋ จนไปถึงป้อมยาม ไม่ใช่ที่ดินของโครงการ (ซื้อขายยังไม่แล้วเสร็จ บางส่วนเป็นที่สาธารณะด้วย แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อนุมัติจัดสรรได้ไง) ทำให้ไม่สามารถปิดรั้วได้ ที่สำคัญยังที่ดินดังกล่าวยังรวมถึงพื้นที่บางส่วนของลูกบ้านที่ตั้งในแนวถนนด้วย...(ตายละวา ลูกบ้านกลุ่มนี้โดนเก็บค่าพื้นที่เพิ่มไปอีกโข) มีทั้งหลอกลวง สร้างทับที่หลวง ...นอกจากนั้น มติในที่ประชุมที่คัดค้านการจัดตั้งนิติฯ กลับกลายโดนปลอมแปลงเป็นการเซ็นต์ยอมรับเอกสารเพื่อยื่นขอจัดตั้งนิติบุคคลเฉยเลย...
ดังนั้น...ลูกบ้านมืออาชีพในฐานะตัวแทนหมู่บ้าน จึง ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงต่อ จนพบเรื่องใหม่ใหญ่กว่า ก็คือ ที่ดังกล่าว เจ้าของที่ดินได้ยกให้เป็นที่สาธารณะไปซะแล้ว และอาจมีการเปิดเป็นถนนสาธารณะ นั่นหมายความว่า หมู่บ้านปิดจะไม่มีอีกต่อไป ใครต่อใครจะเข้าออก ได้ตามอำเภอใจ ความปลอดภัยที่คิดฝัน หมู่บ้านอันแสนสงบที่คิดถึง...ไม่มีอีกแล้ว...ทางกลุ่มจึงทำเรื่องร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง แต่เรื่องยังไม่ไปถึงไหน โครงการก็ใจดีครับ ส่งช่างมาปิดรั้วแบบชั่วคราวให้แบบปัจจุบันทันด่วน...(เหมือนร้อนตัว) ทีมลูกบ้านอาสาจึงรามือไปพักหนึ่ง...
...ระหว่างนั้น ผลการร้องเรียน ข้อสอบถาม และการแสดงความรับผิดชอบจากโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็นิ่งเงียบเช่นเดิม จนวันนึงครับ กลุ่มช่างชายฉกรรจ์ ก็กรูกันเข้าทุบรื้อรั้วโบ๋ออกอีกครั้ง ในเวลากลางวัน (ซึ่งลูกบ้านส่วนใหญ่ไปทำงาน มีแต่เด็กและคนแก่ ) และปิดแทนด้วยรั้วเหล็กที่กั้นแมวหมายังไม่ได้ไว้แทน อย่างอุกอาจ...
....การประชุมจากลูกบ้านจึงเริ่มขึ้นอีกครั้งครับ คราวนี้มาแนวใหม่และใหญ่กว่าเดิม หลังจากที่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า การเรียกร้องจากหน่วยงานในพื้นที่ ไม่มีผลใด ๆ ต้องนำเสนอเรื่องนี้เข้าส่วนกลาง ต้องเป็นการประกาศให้เป็นปัญหาสาธารณะ รับรู้ทั่วกันทั่วไทยไปเลย....ระหว่างนี้ มีการลอบกัดจากโครงอยู่ร่ำไปครับ มีการแอบเข้ามาให้ลูกบ้านเซ็นต์เอกสารแปลกๆ มีข้อเสนอและการเจรจากับแกนนำของหมู่บ้านเพื่อยุติปัญหา รวมทั้งการเสนอเงินสดเพื่อแลกกับการร่วมมือของลูกบ้านแต่ละหลัง โชคดีเหลือเกินครับ ที่ลูกบ้านทุกคนที่นี่ เข้มแข็งและสามัคคีกันมาก แม้ทุก ๆ หลัง อาจได้รับผลกระทบแตกต่าง มากน้อย แต่ทุกคนยึดเอาประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักครับ...
...ขณะนี้ หมู่บ้านได้จัดตั้ง คณะบุคคลที่รวมเอากลุ่มคนที่มีความรู้ความสามารถหลาย ๆด้าน มาเป็นตัวแทน ในการต่อสู้ครั้งนี้ครับ เพราะเล็งเห็นแล้วว่า ปัญหานี้แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตมากมาย แต่แสดงให้เห็นถึง การขาดความรับผิดชอบของโครงการอย่างร้ายแรงมากครับ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สนง. ที่ดิน อบต. ในพื้นที่ที่ปล่อยผ่านเรื่องแบบนี้มาได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ควรจะตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนการก่อสร้างด้วยซ้ำไป...(ปล่อยไม่ได้เด็ดขาด)
...ทั้งนี้ เชื่อเหลือเกินว่า เรื่องนี้ ทางโครงการและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติจัดสรร ต้องรู้เงื่อนไขและข้อกำหนดดีอยู่แล้ว แต่ยังปล่อยผ่านและสร้างปัญหาแก่ผู้บริโภคอย่างเปิดเผย เพราะเล็งเห็นและเชื่อว่า กลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคอย่างพวกเราคงพิจารณาแต่เฉพาะเรื่องของตัวเอง จัดการ เตรียมพร้อม เฉพาะตอนก่อนซื้อเพียงเท่านั้น ระหว่างซื้อก็แค่ตรวจสอบดี ๆ รับโอนเสร็จ ก็เข้ามาอาศัย เป็นเสร็จพิธี และคงเชื่ออีกว่า การรวมตัวเป็นปึกแผ่นหลังจากนั้น คงเป็นเรื่องยาก เพราะต่างคน คงต่างอยู่ ต่างอาศัย ต่างหากิน เลยมีช่องว่างช่องใหญ่ ให้ พวกเขารังแก เอารัดเอาเปรียบได้...
...เรื่องนี้ มีประเด็นหลัก ๆ อยู่ไม่กี่มากน้อย...ที่ต้องตะลุยให้ถึงที่สุดครับ
1 ลูกบ้านเลือกที่นี่ เพราะเชื่อมั่น ว่า จะได้ทุกอย่าง ตามที่โครงการโฆษณาชวนเชื่อ แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นตามที่ตกลง การเรียกร้อง เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิอันชอบธรรม ต้องเกิดขึ้น
2 เหตุแห่งปัญหาคือโครงการจัดสรร ไม่มีความรับผิดชอบ ฉ้อฉล กลโกง ฯลฯ เช่นนี้ ต้องรับโทษจากการกระทำที่ไม่มีความรับผิดชอบนั้น ๆ
3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การปล่อยผ่าน ละเลย หรือแม้แต่ร่วมมือให้มีการทำผิด เอารัดเอาเปรียบประชาชน อย่างไรเสีย ควรต้องได้รับบทเรียนจากการกระทำนั้น
4 ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ให้เกิดแรงจูงใจ แรงบันดาลใจ แก่ผู้บริโภคทั้งหลาย ให้ลุกขึ้นมาสู้ รักษาสิทธิอันชอบธรรมของตน ที่สำคัญ เพื่อเตือนสติ กลุ่มนายทุนและข้าราชการที่ประพฤติมิชอบทั้งหลาย ได้ตระหนัก ว่าอย่า รังแก เอารัดเอาเปรียบประชาชน
ดังนั้น...ลูกบ้านรั้วโบ๋อย่างพวกผมนี่แหละครับ ที่จะเปลี่ยนทัศนคติของนายทุนและกลุ่มคนเหล่านั้นซะใหม่ เราจะสู้และเรียกร้องจนถึงที่สุด เพื่อนำเอาความยุติธรรม ความสุขใจ ความฝัน และความรู้สึกดี ๆ ที่เลือกอยู่ที่นี่...กลับคืนมา...