(รีวิวตอน 2  โซรัคซาน   http://ppantip.com/topic/33424896 )

ออกตัวก่อนค่ะว่าเป็นการรีวิวครั้งแรกจริงๆ อาจจะตกๆหล่นๆ หรือข้อความดูโก๊ะๆ  รูปก็ถ่ายจากกล้องธรรมดา ฝีมือห่วยขั้นเทพ และกล้องโทรศัพท์นะคะ

...จริงๆแล้ว ก็ไปเกาหลีมารอบนี้รอบที่ 4 มีหลายคนถามว่าเบื่อมั้ย ก็ไม่นะ เพิ่งไปทริปล่าสุดใบไม้เปลี่ยนสีปลายเดือนตุลาคม  ทริปนี้จึงไม่ไได้ตั้งใจ...บังเอิญเจอโปรด่วนๆ ราคา 9,999 บาท เลยต้องจัดไปค่ะ กำลังเบื่ออากาศร้อนเมืองไทย และเครียดๆกับงานด้วย...หลังจากโอนเงินเรียบร้อย เรามีเวลาเตรียมตัว 2 วันเพราะเดินทางคืนวันพฤหัส
...เช้าวันเดินทาง กระเป๋ายังไม่ได้จัด เพราะของอยู่บ้านกทม. ทั้งหมด  อันดับแรกที่ต้องทำคือต้องแลกเงิน ก่อนถึงบ้านจึงแวะสุวรรรภูมิเพื่อแลกเงินที่ซุปเปอร์ริช สุวรรณภูมิก่อนค่ะ (โชคดีที่ปัจจุบันซุปเปอร์ริชมีสาขาที่สถานีแอร์พอร์ตลิงค์สุวรรณภูมิ และพญาไทแล้วค่ะ  สะดวกจริงๆ...แต่ใครที่ต้องการแลกเงินสกุลที่นิยม กรุณาโทรเช็คที่สาขาก่อนนะคะว่ามีพอแลกหรือไม่  และสาขานี้ปิด 20.00 น. ค่ะ  เราจึงแวะไปก่อนที่จะเดินทางมาอีกครั้งในตอนค่ำ)

...ระหว่างจัดกระเป๋า ได้รับโทรศัพท์จากคุณโทนี่หัวหน้าทัวร์คอนเฟิร์มการเดินทาง (เย!!! ทัวร์ถูกคงไม่หลอกเราแล้ว...มั้ง) พร้อมชี้แจงรายละเอียดต่างๆ สอบถามการแลกเงินว่าเรียบร้อยหรือไม่ พร้อมกับย้ำเรื่องหัวแปลงปลั๊กไฟหรือ adapter (เรื่องนี้เราไม่ห่วงเพราะเตรียมไว้เรียบร้อย) คุณโทนี่แจ้งว่าอุณหภูมิที่นั่นเลขตัวเดียวอย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าให้พร้อม

...เราไปถึงสุวรรณภูมิก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย มองไปจะเห็นป้ายทัวร์หลายที่มารอส่งลูกทัวร์...อ้าว แล้วทัวร์ฉันล่ะ ยังหาไม่เจอ...โทรติดต่อไปที่ จนท.ส่งทัวร์ตามเบอร์ที่ได้รับในใบนัดหมาย..ปิดเครื่องค่ะ...เอาไงดี ...รอไปพักใหญ่ๆ ลองโทรไปเบอร์สายด่วนอีกเบอร์หนึ่ง ได้รับคำตอบว่าเจ้าหน้าที่กำลังไปถึงค่ะ...โล่งอก

...ประมาณตี 1 นิดๆ เราก็เหิรฟ้า โดยสายการบิน Jet Asia ซึ่งเพิ่งมาเปิดตลาดเช่าเหมาลำสู่อินชอนแบบสดๆร้อนๆ  (เคยใช้บริการ Jet Asia Japan ยังนึกถึงแอร์สาวร่างอวบท่านนึง บริการดีมากๆค่ะ  ประทับใจการบริการและใส่ใจผู้โดยสารของเขามาก  แต่เราก็แอบคิดในใจนะว่า ถ้าแอร์โฮสเตสอวบได้แบบนี้ทำไมสาวๆเราไม่มาลองสมัครเป็นแอร์บ้างนะ..อิอิอิ)
...ระหว่างการบิน 5 ชั่วโมง ไม่มีค่ะที่จะหลับได้  แม้จะไม่ตื่นเต้นแบบครั้งแรกที่มาเยือนเกาหลี  แต่ก็ยังมีความตื่นเต้นนะ ประกอบกับเป็นคนหลับยากค่ะ  งั้นก็ยาวไปๆ ทนเป็นนกเค้าแมวได้ 1 วันค่ะ...ก่อนจะถึงอินชอนสัก 2 ชั่วโมง พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็นำอาหารมาเสริฟค่ะ  อาหารก็พอทานได้  แต่มันตรงกับเวลาไทยประมาณ ตี 3 นี่สิ กระเพาะเลยไม่คุ้นสักเท่าไร


ดวงอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นเมฆ เพียงชั่วเวลาแป๊บเดียวก็สาดแสงแรงกล้าจนต้องรีบปิดหน้าต่าง  (ถ้านั่งด้านขวาจะเจอแดด  มาเกาหลี 4 รอบโดนนั่งด้านขวาทุกครั้งเลย 555)


...เห็นแผ่นดินเกาหลีแล้วค่ะ  วันนี้หมอกลงหนามาก ถ่ายภาพแทบมองไม่เห็นอะไรเลย  อุณภูมิภาคพื้น 12 องศาเซลเซียส (ว๊า ไม่หนาวเลย)


...เรามาถึงเกาหลีเช้าวันศุกร์ เวลาท้องถิ่น 8.30น  ครอบครัวเราผ่าน ตม.อย่างง่ายดาย เพราะมาหลายครั้งแล้ว  เมื่อรับกระเป๋าแล้วเรามีเวลาทำธุระส่วนตัว ก่อนขึ้นบัสเดินทางต่อตามโปรแกรมค่ะ

...เมื่อขึ้นรถ คุณโทนี่ หัวหน้าทัวร์ที่พาเรามาจาก กทม. และทำหน้าที่ไกด์ในทริปนี้ กล่าวแนะนำตัว และแนะนำคุณคิม ช่างภาพ


...เราออกจากอินชอน 10.30 น คุณโทนี่จึงชี้แจงการปรับเปลี่ยนโปรแกรมใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับเวลา โดยเดิมวันนี้เราต้องไปนามิกับโซรัคซาน  เปลี่ยนเป็นเก็บโปรแกรมในโซลแทน  โปรแกรมเดินทางเป็นดังนี้ค่ะ
วันแรก...อินชอน-ผ่านบลูเฮาส์-พระราชวังเคียงบ็อค-โซลทาวเวอร์-เกาะนามิ-เข้าพักโรงแรมที่โซรัคซาน
วันที่ 2...โซรัคซาน-วันซินอึนซา-เทดดี้แบร์ฟาร์ม-ไร่สตรอเบอร์รี่-เอเวอร์แลนด์
วันที่ 3...ศูนย์โสม-ฮอกเกตนามู-โรงงานสาหร่าย ทำคิมบับ/ถ่ายรูปชุดฮันบก-ดิวตี้ฟรี / คลองซองเกชอน-เมียงดง-ทงแดมุน
วันที่4..น้ำมันสนเข็มแดง-ละลายเงินวอน

สถานที่แรกที่เราลงไปเยือนวันนี้คือพระราชวังเคียงบ็อคหรือเคียงบกกุง ซึ่งเป็นพระราชวังไม้โบราณที่เก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้น ค.ศ. 1394  ภายในพระราชวังแห่งนี้มีหมู่พระที่นั่งมากกว่า 200 หลัง แต่ถูกทำลายไปในสมัยที่ญี่ปุ่นเข้ามายึดครองค่ะ ปัจจุบันได้มีการก่อสร้างหมู่พระที่นั่งที่เคยถูกำลายไปขึ้นมาใหม่ในตำแหน่งเดิม


พระราชวังนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางกรุงโซล  เราจึงมองเห็นตึกใหญ่ของเมืองหลวงควบคู่ไปด้วย สวยงามไปอีกอารมณ์หนึ่งค่ะ








นักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ แต่วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนและแดดจัดค่ะ




ภายในท้องพระโรงค่ะ  หลายๆท่านคงคุ้นๆเพราะคงเคยปรากฎในซีรีย์หลายเรื่อง


คุณไกด์ชี้ให้ชม มังกร 5 เล็บค่ะ (เอ๊ะ หรือ 7 เล็บ..จำไม่ได้แล้ว...ขอโทษทีค่ะ)


ต้นไม้บางต้นยังไร้ใบเพราะเพิ่งผ่านพ้นการผจญอากาศอันหนาวเหน็บกับหิมะที่ปกคลุมไป รอวันฟื้นชีวิตใหม่ขึ้นมาอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิ มีเพียงต้นสนเท่านั้นที่ผ่านร้อนผ่านหนาวอย่างไรก็ยังคงทน เปรียบเหมือนความรักอันคงทนของหญิงสาว

เคียงเฮวรู..พลับพลากลางน้ำที่เคยเป็นท้องพระโรงสำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง


ชื่นชมความงามของศิลปะเกาหลี




ดอกพตกด...หรือซากุระเกาหลี เริ่มผลิกลีบออกมาให้ยลโฉมแล้ว