รบกวนถามความเห็นนิดนึงค่ะ พอดีตอนนั้นที่ตั้งกระทู้ เป็นช่วงที่เพิ่งเริ่มศึกษาหาข้อมูล เลยตั้งถามทุกคนเป็นไอเดียอ่ะค่ะ แต่ตอนนี้พอทราบแล้วค่ะ ต้องขอโทษหลายๆคนด้วยค่ะ

จบสถาปัตย์ จุฬา มา  GPA 3.18 เกรดไม่ค่อยดี เพราะว่าไม่ค่อยถนัดวิชาออกแบบเท่าไหร่ค่ะ เกรดมาดึงหนักๆเพราะธีสิส มีประสบการณ์ทำงาน ด้าน Sales Real estate agent มา สองปีนิดๆค่ะ
อยากเรียน MBA ตอนนี้กำลังลังเลอยู่ค่ะ ว่าควรจะไปเรียนต่อที่อเมริกา หรือ อังกฤษดี  ส่วนตัวเคยไป Work and Travel มา ค่อนข้างชอบที่ อเมริกาค่ะ แต่ว่าดูเข้ายูดีๆหน่อยยากกว่าอังกฤษมากก

พอดีตอนแรกยังไม่ได้คิดจะเข้า MBA อ่ะค่ะ เพราะจากที่คุยหลายๆที่ MBA เค้ารับที่ 3 ปีเท่านั้น เท่าที่คุยกับยู ตอนมีงานที่พารากอน หลายยูที่ยังไม่ทันพูดอะไร พอประสบการณ์ไม่ครบ 3 ปี หรือ เกรดไม่ถึงเกณฑ์ เค้าก็จะไม่คุยแล้วค่ะ แต่พอดีมีโอกาสได้ลองไปสัมภาษณ์เองเลยกับหลายๆยู ปรากฎว่า เค้าค่อนข้างเปิดรับอยู่อ่ะค่ะ  ตอนนี้ได้ที่ Aberdeen กับ southampton MBA แล้ว แต่จะลองสมัครยูดีขึ้นไปเรื่อยๆค่ะ

ไม่ทราบว่า ถ้าระหว่าง ไปปีหน้า สมัคร Imperial , manchester , Warwick หรือว่าจะรอไปอเมริกาปี 2017 ดีคะ ถ้าลองสมัคร อเมริกา น่าจะสมัคร UCLA , UC Berkeley , Ua Davis ค่ะ  ยังไงรบกวนขอความเห็นและขอคำแนะนำด้วยค่ะ

เรื่องที่ลังเลก็คือ ชอบ อเมริกาเพราะมันค่อนข้างอิสระกว่า เรียนสองปี ซึ่งน่าจะได้อะไรเยอะกว่า มีการฝึกงานซึ่งอาจจะทำให้มีโอกาสได้ทำงานต่อที่อเมริกา แต่ก็ไม่แน่ใจว่ากลับมาจะเป็นยังไงถ้าหากไปสมัครงานถ้าเทียบกับคนที่จบอังกฤษ อย่างพวก Imperial แล้วค่าเทอมก็ค่อนข้างแพงอ่ะค่ะ T^T

แต่ถ้าอังกฤษก็เรียนปีเดียว ค่าใช้จ่ายก็จะถูกกว่า ไม่มีฝึกงานแต่ก็มีไปดูงานต่างประเทศ แต่อังกฤษจะดูค่อนข้างอยู๋ในกรอบ ดูแต่เกรดเป็นหลักหรืออะไรทำนองนี้ เลยไม่แน่ใจว่าตัวเองจะเหมาะกับอังกฤษรึเปล่า  

เรียงลำดับยังไงดีคะ ว่าเข้าอันไหนดีไม่ดี  ขอบคุณค่ะ