เราไปเกาหลีแบบแบคแพค ไปกันเองกับเพื่อนอีก 2 คน 19-23 มี.ค.58 เพิ่งจะกลับมาถึงบ้านตอนตี 1 นี่เอง
ก่อนไป ด้วยความที่อ่านมาเยอะ เราก็จิตตกกับการผ่าน ตม. เกาหลีเหมือนกัน ก่อนไปก็เตรียมเอกสารเป็นปึก เพื่อที่หาก ตม.สงสัยอะไร เราก็จะสามารถยืนยันตัวเอง สิ่งของที่เราเตรียมไว้คือ
- จดหมายเช็ญจากคนเกาหลี (เราบอกให้เขาเขียนแล้วส่งมาให้)
- หนังสือรับรองการทำงาน
- แพลนเที่ยว+วิธีเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ประมาณ 4-5 หน้ากระดาษ A4
- หนังสือเที่ยวเกาหลี + สนทนาภาษาเกาหลี
พอลงเครื่องได้ เราก็แวะเข้าห้องน้ำกันก่อน ด้วยความที่อัดอั้นมากว่า 5 ชม กว่าจะเดินไปขึ้นรถไฟ ผู้โดยสารคนอื่นเขาก็หายไปกันหมดแล้ว รถไฟขบวนนั้นมีแค่เรา 3 คนกับหนุ่มเกาหลีอีก 4 คนเท่านั้นที่มัวเอ้อระเหยลอยชายอยู่
พอเดินไปถึง ตม. เพื่อนๆ ไม่ได้กรอกเอกสารมาจากบนเครื่องเราก็แวะกรอก แล้วก็ไปต่อแถว คนเยอะมากกก เราก็ยืนเป็นคนแรก เพื่อนคนที่ไม่ได้ภาษาอยู่กลาง เพื่อนอีกคนที่ภาษาอังกฤษโอเค รั้งท้าย
เราก็ยืนใจเต้นนึกว่าจะโดนเข้าห้องเย็นไหมว้า...พอถึงคิว มัวแต่คุยกับเพื่อน ได้ยินเสียง ตม.ตะโกน Hello เลยรีบวิ่งเข้าช่องไป เราก็ยื่น Passport แล้วก็มองหน้า ตม. (ก็ ตม.หน้าตาดีอ่ะ) ตม.ก็มองหน้าเรา เราก็ลุ้นว่าจะถามอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่ถามสักคำ ให้เราสแกนนิ้ว แล้วก็พลิกดูพาสเราทุกหน้า แล้วก็ปั๊มโป้ง เราก็นึกในใจ เฮ้ย..ผ่านแล้วเหรอ หน้าเราคงไม่เหมือนแรงงานหลบหนีเข้าเมืองละมั้ง (ลืมบอกไปว่าพาสเราขาวจั๊วะ เพราะเพิ่งเปลี่ยนเล่มใหม่) ตม. ก็โบกมือให้เราออกไป แต่เราก็ห่วงกลัวเพื่อนจะมีปัญหา ก็เลยพ่นภาษาเกาหลีใส่ ตม. บอกว่าเรามีเพื่อนมาด้วย เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ถ้ามีอะไรให้ถามเรา ตม. ก็เรียกเพื่อนเราอีก 2 คนเข้ามาพร้อมกันเลย สรุปปั๊มผ่านทุกคน สรุปว่าเอกสารที่เตรียมไปไม่ได้ใช้เลย อยากบอกว่าหากตั้งใจจะไปเที่ยวไม่ต้องกลัวค่ะ ทำตัวสบายๆ เอกสารก็เตรียมเอาไว้ให้พร้อมก็พอ
แชร์ประสบการณ์ ตม.เกาหลีที่ว่ากันว่าน่ากลัว
ก่อนไป ด้วยความที่อ่านมาเยอะ เราก็จิตตกกับการผ่าน ตม. เกาหลีเหมือนกัน ก่อนไปก็เตรียมเอกสารเป็นปึก เพื่อที่หาก ตม.สงสัยอะไร เราก็จะสามารถยืนยันตัวเอง สิ่งของที่เราเตรียมไว้คือ
- จดหมายเช็ญจากคนเกาหลี (เราบอกให้เขาเขียนแล้วส่งมาให้)
- หนังสือรับรองการทำงาน
- แพลนเที่ยว+วิธีเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ประมาณ 4-5 หน้ากระดาษ A4
- หนังสือเที่ยวเกาหลี + สนทนาภาษาเกาหลี
พอลงเครื่องได้ เราก็แวะเข้าห้องน้ำกันก่อน ด้วยความที่อัดอั้นมากว่า 5 ชม กว่าจะเดินไปขึ้นรถไฟ ผู้โดยสารคนอื่นเขาก็หายไปกันหมดแล้ว รถไฟขบวนนั้นมีแค่เรา 3 คนกับหนุ่มเกาหลีอีก 4 คนเท่านั้นที่มัวเอ้อระเหยลอยชายอยู่
พอเดินไปถึง ตม. เพื่อนๆ ไม่ได้กรอกเอกสารมาจากบนเครื่องเราก็แวะกรอก แล้วก็ไปต่อแถว คนเยอะมากกก เราก็ยืนเป็นคนแรก เพื่อนคนที่ไม่ได้ภาษาอยู่กลาง เพื่อนอีกคนที่ภาษาอังกฤษโอเค รั้งท้าย
เราก็ยืนใจเต้นนึกว่าจะโดนเข้าห้องเย็นไหมว้า...พอถึงคิว มัวแต่คุยกับเพื่อน ได้ยินเสียง ตม.ตะโกน Hello เลยรีบวิ่งเข้าช่องไป เราก็ยื่น Passport แล้วก็มองหน้า ตม. (ก็ ตม.หน้าตาดีอ่ะ) ตม.ก็มองหน้าเรา เราก็ลุ้นว่าจะถามอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่ถามสักคำ ให้เราสแกนนิ้ว แล้วก็พลิกดูพาสเราทุกหน้า แล้วก็ปั๊มโป้ง เราก็นึกในใจ เฮ้ย..ผ่านแล้วเหรอ หน้าเราคงไม่เหมือนแรงงานหลบหนีเข้าเมืองละมั้ง (ลืมบอกไปว่าพาสเราขาวจั๊วะ เพราะเพิ่งเปลี่ยนเล่มใหม่) ตม. ก็โบกมือให้เราออกไป แต่เราก็ห่วงกลัวเพื่อนจะมีปัญหา ก็เลยพ่นภาษาเกาหลีใส่ ตม. บอกว่าเรามีเพื่อนมาด้วย เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ถ้ามีอะไรให้ถามเรา ตม. ก็เรียกเพื่อนเราอีก 2 คนเข้ามาพร้อมกันเลย สรุปปั๊มผ่านทุกคน สรุปว่าเอกสารที่เตรียมไปไม่ได้ใช้เลย อยากบอกว่าหากตั้งใจจะไปเที่ยวไม่ต้องกลัวค่ะ ทำตัวสบายๆ เอกสารก็เตรียมเอาไว้ให้พร้อมก็พอ