กำลังหาซื้อพอดีเลยครับ

แต่งบมีจำกัด ใช้แบบนี้ไปก่อน






cr.google

ต้องใช้ในที่โล่งคะ ไม่งั้น ความชิ้นสะสมจะทำให้ ความเย็นน้อยลง เหนียวตัว อ้าวๆ ถ้าเป็นห้องปิด ต้องมีพัดลมระบายอากาศ ห้องเปิดคือต้องเปิดสองฝั้งทั้งหน้าหลังจะเกิดการเวียนของอากาศใหม่ ทำให้ห้องไม่ชื้น ไม่เหนียวตัว และทำความเย็นได้มาก  เครื่องที่ทำงานสมบูรณื สามารถลด อุณภูมืได้จริง 10องศา แล้วแต่สภาพอากาศ ยิ่งอากาศร้อน ยิ่งลดได้เยอะ เนื่องจากน้ำก็คือน้ำ อากาศ วิ่งผ่านน้ำทำให้เย็นได้แค่ไหนก็แค่นั้น แปลว่า ต่ำสุดที่เครื่องสามารถทำได้คือ 27 องศา แล้วแต่รุ่นนะ แต่พออุณภูมื ห้องต่ำอยู่แล้ว เช่น 30 องศา มันจึงลดได้แต่ 3องศา แต่พอวันไหน ร้อน 41 องศา มันจะทำได้ประมาณ 29 องศา จึงเกิดส่วนต่างมากขึ้น แต่เครื่องเล็กๆ ตัวละ สามสี่พัน เปิดในห้องไม่ต้องกลัวชื้นหรอกคะ เพราะความชิ้นจะถูกความร้อนในอากาศหักล้างไปเอง แต่ถ้าเครื่องใหญ่มากใช้น้ำมาก น้ำที่หายไป ก็คือความชื้นในอากาศที่เพื่มขึ้น แล้ว ห้องเล็ก ความร้อนจึงระเหิดความชิ้นไม่ทัน
จึงไม่ควรใช้เครื่องใหญ่ ในห้องปิดและเล็ก แต่ถ้าเป็นที่โล่ง ยิ่งใหญ่ยิ่งดี ยิ่งเปลื่องน้ำยิ่งเย็น  เทคนิคการเลือกซื้อ คือ เอาตัวที่ลมแรงที่สุด  เพราะแผงใหญ่เล็ก ต่างที่ความชื่น ส่วน แรงลมจะช่วยลดอุณภูมื เพราะฉะนั้น แรงลมสำคัญกว่าขนาด พัดลมแบบ บราวโว่ ให้ความเร็วลมที่มากกว่า แต่ปริมาณน้อย ลดอุณภมืได้มากกว่า แต่เป่าจ่อแล้วมันหน้ารำคาญ พัดลมแบบใบพัด ลมเบากว่า จริง แต่กว้าง โดนทั้งตัว อันนี้ ก็แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล ที่โล่งต้องการเครื่องใหญ่ และกินน้ำมาก เพราะ ในที่โล่ง ถ้ามีลมปนความชิ้น มาปะทะตัว จะรุ้สึกเย็นสบายมาก กว่า ลมเย็นเฉยๆ ถ้าคุณนอนเปิดห้องสองฝั่ง แบบเข้าทางออกทางได้ ตอนซื้อ ยิ่งตัวใหญ่ ยิ่งแรง ยิ้งดีคะ ไม่ต้องกลัวความชิ้นสะสม
แผ่น กรองด้านหลัง เป็นกระดาษ อัดขึ้นรูปแข็ง ทนทาน ทนน้ำ ไม่ได้เปลื่อยยุ่ย ง่าน อย่างที่คืด หรอกคะ ยิ่งใช้ มีแต่จะยิ่งแข็ง บ้านไหนมีเครื่องกรองน้ำ ใช้น้ำกรองได้จะช่วยยืดอายุแผ่นรังผึ้งข้างหลัง โดยมาก 5ปี เสีย เพราะคาบหินปูนในน้ำไปเกาะ ทำให้แผ่นแข็งเป็นก้อนหิน ดูดซับน้ำได้ไม่ดี ทำให้ความเย็นน้อยลง บ้านไหน เป็นน้ำบาดาลไม่ต้องคืดจะซื้อใช้ เย็นได้ไม่กี่เดื่อนหรอก วิธีทำความสะอาด คือ ถอดแผ่นออกมาล้างด้วยน้ำแรงทีสุดเท่าที่จะแรงได้ แต่บานๆ นะ อย่าฉีดเป็นเส้น แผ่นขาด ใช้อัดฉีดก็ได้ แต่ต้ัองปลับหัวบาน ส่วน ใครใส่น้ำแข้งบอกเลยไม่จำเป็น ไม่คุ้มค่าน้ำแข็ง
เพราะถ้าเครื่องทำงานสมบูรณ์ เวลาเปิดไปแล้วประมาณ1 ชัวโมง น้ำในถังจะเย็นเหมือนน้ำแข็งละลายเลย จึงไม่มีประโยชน์ใส่น้ำแข้ง
สว่น เครื่องเสียเร็ว อันนี้ ก็แล้วแต่ดวงนะ แต่สรุป ใช้งานได้จริงแท้แน่นอน เย็นกว่า พัดลมธรรมดาเยอะ ใช่มันจะไม่ต่างกันเลย ถ้าอากาศเย็นอยู่แล้ว
แต่ถ้าหน้าร้อนละก็ เห็นความแตกตา่ง ชัดเจน ลมเย็นๆ กับลมร้อน อ้าวๆ มันคนละเรื่องกันเลยเชียวแหละ
อั้นนี้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด ไม่ต้องใครมาเถึยงนะ ถ้ารู้ไม่จริง แล้วไม่ต้องถามนะว่า เรารู้ได้ไง เห็นใจคนหัวอกเดียวกัน  ร้อน จะติดแอร์ ก็แพง แถมไม่แพงเปล่า เจอค่าไฟรายเดีอน จะเป็นลม ที่สำคัญ มันกินไฟ เหมือนพัดลม เปิดได้24 ชั่วโมง ไม่ต้องกลัวค่าไฟ แต่ถ้าเป็นแอร์ คุถกล้าเปิด 24 ชั่วโมงมั๊ยหละ 9000 บีทียู วันละ 12 ชั่วโมง ก็โดนไป พันกว่าละ แล้วพวกห้องใหญ๋ๆ แบบ 24000บีทียู กินไฟ ประมาณ 2000กว่า วัตต์ต่อชั่วโมง 1000วัตต์ต่อชั่วโมงคือหนึ่งยุนิต ค่าไฟยูนิตละ 4บาทฝ่าๆ คูณเอานะ พัดลมแบบนี้ กินไฟตั้งแต่ 50วัตต์จนถึง 600วัตต์ ต่อชั่วโมง แล้วแต่ขนาด  และใครที่บอกไม่เย็นใช้ไม่ได้ ก็เพราะ คุณซื้อขนาดเล็กกว่า ความต้องการ ขนาดแอร์ ยังมีขนาดใหญ่เล็ก พัดลมก็เช่นกัน พัดลมชนิดนี้ ถูกสร้างมาให้เย็นในระยะ เป่าจ่อ เพราะมันคือพัดลมไงคะ แอร์เราจะยินตรงไหนของห้องก็ได้ แต่พัดลมก็คือพัดลมไงคะ ต้องเป่าจ่อ ต้องอยู่ในระยะลมคะ ถึงจะเย็น อยากอยู่ไกลๆ ก็เย็น ก็ต้องซื้อรุ่นใหญ่คะ ตัวละประมาณ สองหมื่น ยืนไกลสิบเมตร ยังเย็นเลยคะ แล้วถ้าจะบอกว่า ถ้าเสียตังสองหมื่นซิ้อแอร์ดีกว่า ก็ไม่ใช่อีก เพราะถ้าแอร์ เปิด 24ชั่วโมง ค่าไฟคงเพิ่ม เดือนละ 3-4 พันเป็นอย่างน้อย แต่พัดลมตัวละสองหมื่น กินไฟ ไม่เกิน เดือนละพันเศษ ต่อให้เปิด 24 ชั่วโมงไม่ปิดเลย แล้วจะมีประโยชน์อะไร ถ้าซื้อแอร์มาแล้วต้องเปิดเย็นแค่แปด ชั่วโมง ที่เหลือ ทนร้อน เหมือนเดิม............... เข้าใจตรงกันนะ  ...................................................................................จาก ..........คนขี้ร้อน

สำหรับท่านที่กลัวว่าจะมีความชื้น หรือไม่เหมาะกับห้องนอนนั้น อย่าได้กังวลเลย
ผมเปิดเป่านอนมาเกือบ 3 ปีแล้ว (เฉพาะหน้าร้อน) ตั้งเวลาให้ปิดประมาณตี 3 กำลังดี จะไม่หนาวจนเกินไป
ที่สำคัญคือ ต้องเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้ ถ้าห้องปิดมิดชิดก็ต้องมีพัดลมระบายอากาศ น้ำจึงจะระเหยได้
มันไม่ชื้นหรอกครับ (จริงๆชื้นขึ้นนะ เช่นจาก 51% เป็น 52%...เอิ่ม ผมว่าอย่าไปใส่ใจ หรือไปจับผิดมันเลยดีกว่ามั้ง)
คืออากาศร้อนรอบๆบ้านมันมากมายมหาศาลพร้อมที่จะไหลเข้ามาในห้องเราอยู่แล้ว พัดลมตัวนิดเดียวเอง