วีธีสังเกต “งานจริง” หรือ “หลอกลวง”
เคยไหมครับที่คุณเห็นโฆษณาตามหน้าเว็บไซต์ ตามป้ายรถเมย์ หรือตามเสาไฟฟ้าที่ประกาศตำแหน่งงานว่าง ซึ่งมักจะบอกว่าเป็นงานสบายๆ งานที่คุณไม่ต้องตอกบัตร ใช้อินเตอร์เน็ตทำงาน แค่วันละ 2-3 ชั่วโมง คุณก็จะได้เงินเดือนแสนดี โอนเข้าบัญชีคุณตรงๆ โดยที่คุณไม่ต้องก้าวออกจากบ้านผ่ารถติดไปยังที่ทำงานก็สามารถมีเงินใช้สบายๆทุกเดือน แต่ถ้าคุณอ่านดีๆแล้วคิดให้ดี คุณน่าจะเข้าใจว่าโฆษณานั้นมันแปลกๆ ไม่ว่าจะวีธีการโฆษณาที่ใช้ภาษาหรือวิธีการทำงานที่มันออกจะดูสบายไปหน่อยเทียบกับเงินเดือนที่จะได้ หรือชื่อบริษัทที่ประกาศตำแหน่งงานว่างนั้นมีจริงหรือไม่ น่าชื่อถืออย่างไร แต่ทั้งหมดนี่ ผมไม่ได้หมายความว่าทุกงานที่ประกาศตามป้ายรถเมย์หรือตามเสาไฟฟ้าจะเป็นงานที่แปลกและไม่มีอยู่จริงนะครับ แต่อยากจะแนะนำให้คุณใช้วิจารณญาณในการเลือกว่างานไหนมีความน่าเชื่อถือและงานไหนเป็นงานหลอกกันสักหน่อยครับ
1. ไม่ขอดูประวัติการทำงาน
Experience is not necessary
มันผิดปรกติมากครับถ้าคุณไปสมัครงานแล้วผู้สัมภาษณ์งานไม่ขอประวัติการทำงานของคุณเลย ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กจบใหม่ คุณก็ควรจะใส่ประวัติการทำงานเล็กๆน้อยๆของคุณ เช่น ประวัติการฝึกงาน, รับงานพิเศษ เป็นต้น คุณควรจะระวังโฆษณาที่ประกาศว่าใครๆก็สามารถทำได้โดยไม่มีประสบการทำงาน เพราะโฆษณาแบบนี้ส่วนมากจะเป็นงานที่ไม่ค่อยโอเคนักหรือไม่ก็ไม่ได้มีงานจริงๆเลย
2. เสนอเงินเดือนสูงเกินความความเป็นจริง
The salary is too high.
ที่ผมพบเจอคือ การประกาศตำแหน่งงานว่าง โดยเสนอเงินเดือนที่สูงกว่าความเป็นจริงมากๆ ซึ่งผมแนะนำว่าคุณควรจะสำรวจก่อนที่จะสมัครงานนั้นๆว่าเงินเดือนทั่วไปของตำแหน่งงานนั้นๆควรจะเป็นเท่าไหร่ อย่าเพิ่งฝันไปว่าคุณจะได้งานสบายเงินเดือนสูงๆ โดยที่ผู้ว่าจ้างจะไม่หวังอะไรจากคุณ เพราะงานที่โฆษณาเกินความเป็นจริงเหล่านี้ส่วนมากจะเป็นงานหลอกครับ
3. กำหนดให้ผู้สมัครงานต้องโอนเงินก่อน
You need to wire money.
ไม่มีการสมัครงานไหนๆที่กำหนดให้ผู้สมัครงานจะต้องทำการชำระเงินก่อน ถ้าคุณได้รับข้อเสนอในการเข้าสัมภาษณ์งาน/เข้าทำงาน โดยมีข้อแม้ว่าคุณจะต้องทำการโอนเงินให้กับผู้สัมภาษณ์ก่อน ให้คุณเข้าใจได้เลยครับว่างานนั้นไม่มีอยู่จริงและคุณเจอพวกต้มตุ๋นเข้าแล้วครับ
4. ตกลงรับคุณเข้าทำงานทันที
You’re offered the job on the spot.
คุณย่อมรู้ตัวเองว่าคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมกับงานนั้นๆหรือไม่ แต่คุณคิดว่าผู้สัมภาษณ์งานจะสามารถทราบได้อย่างไรว่าคุณเหมาะสมกับงาน ถ้าตกลงรับคุณเข้าทำงานทันทีโดยไม่มีการเรียกคุณเข้าสัมภาษณ์งานอย่างจริงจังเพื่อเห็นหน้าคุณ และรู้จักตัวตนของคุณก่อนการรับคุณเข้าทำงาน ซึ่งปกติแล้ว งานดีๆเงินเดือนสูงๆมักจะมีการสัมภาษณ์งานหลายรอบเสียด้วยครับ
5. ใช้อีเมล์ที่ดูไม่เหมาะสมกับการทำธุรกิจในการติดต่อกับคุณ
You’re receiving email from a non-business address.
ปกติแล้วองค์กรหรือบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือจะใช้อีเมล์แอดเดรสที่เป็นนามสกุลของบริษัท ถ้าอยู่ๆคุณได้รับการติดต่อจากนายจ้างหรือคนสัมภาษณืงานด้วยอีเมล์ที่บุคคลธรรมดาใช้ เช่น Gmail, Hotmail, Yahoo หรือเมล์อื่นๆที่ไม่ใช่เมล์ของบริษัทแล้วล่ะก่อน ให้พึงระวังไว้ก่อนครับว่า ผู้ติดต่อนั้นอาจจะเป็นหนึ่งในนักต้มตุ๋นและงานนั้นอาจจะไม่มีอยู่จริงเลยครับ
6. สัมภาษณ์งานผ่าน IM
You’re asked to do an IM interview.
แม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากแล้วก็ตาม แต่ในเรื่องขั้นตอนการสัมภาษณ์งานนั้นก็ยังคงเหมือนเดิมครับ คือ ผู้สัมภาษณ/นายจ้างย่อมต้องการที่จะเจอและพูดคุยกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการพบเจอกันจริงๆ หรือพูดคุยกันผ่าน skype ครับ ถ้าผู้สัมภาษณ์ขอให้คุณสัมภาษณ์งานผ่าน IM หรือแย่ไปกว่านั้นสัมภาษณ์คุณด้วยการพิมพ์ผ่าน sms, LINE ผมขอให้คุณตั้งสติแล้วคิดก่อนว่า นี่หรือคือการสัมภาษณ์งานที่เหมาะและควร ถ้าคุณคิดได้แล้วล่ะก็ อย่ามัวเสียเวลาแชตอยู่ครับ ให้เลิกคุยและไปหางานจริงๆที่ดูน่าเชื่อถือกว่านี้ดีกว่าครับ
7. ขอข้อมูลส่วนตัว
You’re asked for personal info.
ถ้าคุณเชื่อมั่นว่าขั้นตอนการสัมภาษณ์งานที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นความจริงและดูน่าเชื่อถือ ซึ่งคุณกำลังจะได้รับการเสนอเข้าทำงานแล้ว แต่จู่ๆทางบริษัทผู้ว่าจ้างขอข้อมูลส่วนตัวที่เกี่ยวกับการเงินของคุณก่อนการรับเข้าทำงาน เช่น หมายเลขประกันสังคม, หมายเลขบัญชีธนาคาร ฯลฯ ให้คุณพึงระวังไว้ครับว่างานนั้นน่าจะไม่ได้มีอยู่จริงและคุณอาจจะถูกหลอกเอาหมายเลขบัญชีไปเพื่อทำธุรกรรมอย่างอื่น เพราะไม่มีนายจ้างคนไหนที่จะขอข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับการเงินของคุณก่อนที่จะรับคุณเข้าทำงานจริงๆ
8. ตัวโฆษณาใช้ภาษาและไวยกรณ์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
The ad is written poorly.
คุณจะสามารถสังเกตุได้ง่ายว่างานที่ประกาศนั้นอาจจะเป็นงานที่ไม่มีอยู่จริงได้ตั้งแต่แวบแรกที่คุณเห็นโฆษณาก็ได้เช่นกันครับ ถ้างานนั้นเขียนข้อมูลแปลกๆ ใช้ภาษาและไวยกรณ์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นการบอกข้อมูลที่ไม่ครบ คือ บอกน้อยมากไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นงานอะไรที่แน่นอน ทำงานที่ไหน อาจจะใช้ศัพท์ที่ดูวัยรุ่นเกินไป หรือการใช้ไวยกรณ์ที่ผิดๆถูกๆ จำไว้เลยครับว่าไม่มีองค์กรหรือบริษัทไหนที่จะปล่อยโฆษณาแบบที่ทำให้ตัวเองดูไม่น่าเชื่อถือออกมาสู่ภายนอกองค์กรครับ
9. ติดต่อคุณนอกเวลางาน
They contact you at odd hours.
ผมยอมรับว่าปัจุบัน เทคโนโลยีก้าวไกลมากและการติดต่อประสานงานก็สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงและตลอด 7 วัน (จันทร์ – อาทิตย์) แต่ทว่าผู้สัมภาษณ์งานปกติแล้วจะไม่ส่งอีเมล์หรือโทรหาคุณในเวลา ตี2 อย่างแน่นอนครับ ถ้าอยู่ๆคุณได้รับอีเมล์ประสานงานเรื่อยๆจากผู้เรียกเข้าสัมภาษณ์งานในเวลาตี2 ให้ระวังไว้ก่อนว่านายจ้างคนนั้นๆอาจจะไม่มีอยู่จริงและงานที่คุณจะเข้าสัมภาษณ์อาจจะไม่เคยมีอยู่เลยครับ เพราะเวลาปกติของการติดต่อเพื่อเรียกเข้าสัมภาษณ์งานคือเวลาทำงานปกติของประเทศที่คุณอยู่ครับ เช่น 8 โมงเช้า – 6 โมงเย็น (วันจันทร์ – วันเสาร์) เป็นต้น
10. เรียกชำระเงินค่างานจากคุณ
You have to pay for the job.
พวกนักต้มตุ๋นสมัยนี้ฉลาดกว่าเดิมมาก ซึ่งการเรียกเงินจากคุณมีหลายวิธีมากนะครับ ในปัจจุบันคนพวกนี้จะไม่ขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าทำงานตรงๆ แต่จะขอให้คุณเสียเงิน อย่างที่คุณจะรู้สึกว่าคุณควรจะต้องชำระ เช่นบอกคุณว่าทางบริษัทเตรียมคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ไว้ให้แต่คุณจะต้องจ่ายค่า software ของคุณเอง หรือคุณจะต้องรับผิดชอบค่าประกันความเสียหายในการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่คุณจะได้ใช้เมื่อคุณเข้ามาทำงาน และขอให้คุณโอนเงินก่อนเพื่อการเตรียมความพร้อมก่อนวันทำงานจริง อย่าไปหลงเชื่อนะครับ เพราะคุณอาจจะเสียเงินไปโดยที่ไม่ได้มีการรับเข้าทำงานและคุณก็อาจจะไม่ได้เงินที่คุณโอนไปนั้นคือเลยเพราะบริษัทเหล่านั้นไม่ได้มีอยู่จริง
10 ข้อข้างต้นที่ผมเขียนนี้ น่าจะช่วยให้พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่กำลังมองหางานและอาจจะเจอคำโฆษณาหลากหลายรูปแบบในการพินิจพิเคราะห์ก่อนการตัดสินใจสมัครงานนะครับ ทางที่ดีเลือกสมัครงานจากแหล่งประกาศตำแหน่งงานว่างที่น่าเชื่อถือ มีรูปแบบบริษัทจริง และมีการคัดกรองบริษัทที่ประกาศตำแหน่งงานว่างจริงนะดีกว่านะครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอฝากเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งข้อมุลดีๆ สำหรับคนหางานและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (SMEs ++, Foreign-SMEs, Startups) ที่อัพเดททุกวัน และน่าเชื่อถือ ก็คือ AEC job Listing โดยคลิกเข้าไปที่ www.aecenlist.com ขอบคุณครับ
AEC Job Listing Team
วีธีสังเกต “งานจริง” หรือ “หลอกลวง”
เคยไหมครับที่คุณเห็นโฆษณาตามหน้าเว็บไซต์ ตามป้ายรถเมย์ หรือตามเสาไฟฟ้าที่ประกาศตำแหน่งงานว่าง ซึ่งมักจะบอกว่าเป็นงานสบายๆ งานที่คุณไม่ต้องตอกบัตร ใช้อินเตอร์เน็ตทำงาน แค่วันละ 2-3 ชั่วโมง คุณก็จะได้เงินเดือนแสนดี โอนเข้าบัญชีคุณตรงๆ โดยที่คุณไม่ต้องก้าวออกจากบ้านผ่ารถติดไปยังที่ทำงานก็สามารถมีเงินใช้สบายๆทุกเดือน แต่ถ้าคุณอ่านดีๆแล้วคิดให้ดี คุณน่าจะเข้าใจว่าโฆษณานั้นมันแปลกๆ ไม่ว่าจะวีธีการโฆษณาที่ใช้ภาษาหรือวิธีการทำงานที่มันออกจะดูสบายไปหน่อยเทียบกับเงินเดือนที่จะได้ หรือชื่อบริษัทที่ประกาศตำแหน่งงานว่างนั้นมีจริงหรือไม่ น่าชื่อถืออย่างไร แต่ทั้งหมดนี่ ผมไม่ได้หมายความว่าทุกงานที่ประกาศตามป้ายรถเมย์หรือตามเสาไฟฟ้าจะเป็นงานที่แปลกและไม่มีอยู่จริงนะครับ แต่อยากจะแนะนำให้คุณใช้วิจารณญาณในการเลือกว่างานไหนมีความน่าเชื่อถือและงานไหนเป็นงานหลอกกันสักหน่อยครับ
1. ไม่ขอดูประวัติการทำงาน
Experience is not necessary
มันผิดปรกติมากครับถ้าคุณไปสมัครงานแล้วผู้สัมภาษณ์งานไม่ขอประวัติการทำงานของคุณเลย ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กจบใหม่ คุณก็ควรจะใส่ประวัติการทำงานเล็กๆน้อยๆของคุณ เช่น ประวัติการฝึกงาน, รับงานพิเศษ เป็นต้น คุณควรจะระวังโฆษณาที่ประกาศว่าใครๆก็สามารถทำได้โดยไม่มีประสบการทำงาน เพราะโฆษณาแบบนี้ส่วนมากจะเป็นงานที่ไม่ค่อยโอเคนักหรือไม่ก็ไม่ได้มีงานจริงๆเลย
2. เสนอเงินเดือนสูงเกินความความเป็นจริง
The salary is too high.
ที่ผมพบเจอคือ การประกาศตำแหน่งงานว่าง โดยเสนอเงินเดือนที่สูงกว่าความเป็นจริงมากๆ ซึ่งผมแนะนำว่าคุณควรจะสำรวจก่อนที่จะสมัครงานนั้นๆว่าเงินเดือนทั่วไปของตำแหน่งงานนั้นๆควรจะเป็นเท่าไหร่ อย่าเพิ่งฝันไปว่าคุณจะได้งานสบายเงินเดือนสูงๆ โดยที่ผู้ว่าจ้างจะไม่หวังอะไรจากคุณ เพราะงานที่โฆษณาเกินความเป็นจริงเหล่านี้ส่วนมากจะเป็นงานหลอกครับ
3. กำหนดให้ผู้สมัครงานต้องโอนเงินก่อน
You need to wire money.
ไม่มีการสมัครงานไหนๆที่กำหนดให้ผู้สมัครงานจะต้องทำการชำระเงินก่อน ถ้าคุณได้รับข้อเสนอในการเข้าสัมภาษณ์งาน/เข้าทำงาน โดยมีข้อแม้ว่าคุณจะต้องทำการโอนเงินให้กับผู้สัมภาษณ์ก่อน ให้คุณเข้าใจได้เลยครับว่างานนั้นไม่มีอยู่จริงและคุณเจอพวกต้มตุ๋นเข้าแล้วครับ
4. ตกลงรับคุณเข้าทำงานทันที
You’re offered the job on the spot.
คุณย่อมรู้ตัวเองว่าคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมกับงานนั้นๆหรือไม่ แต่คุณคิดว่าผู้สัมภาษณ์งานจะสามารถทราบได้อย่างไรว่าคุณเหมาะสมกับงาน ถ้าตกลงรับคุณเข้าทำงานทันทีโดยไม่มีการเรียกคุณเข้าสัมภาษณ์งานอย่างจริงจังเพื่อเห็นหน้าคุณ และรู้จักตัวตนของคุณก่อนการรับคุณเข้าทำงาน ซึ่งปกติแล้ว งานดีๆเงินเดือนสูงๆมักจะมีการสัมภาษณ์งานหลายรอบเสียด้วยครับ
5. ใช้อีเมล์ที่ดูไม่เหมาะสมกับการทำธุรกิจในการติดต่อกับคุณ
You’re receiving email from a non-business address.
ปกติแล้วองค์กรหรือบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือจะใช้อีเมล์แอดเดรสที่เป็นนามสกุลของบริษัท ถ้าอยู่ๆคุณได้รับการติดต่อจากนายจ้างหรือคนสัมภาษณืงานด้วยอีเมล์ที่บุคคลธรรมดาใช้ เช่น Gmail, Hotmail, Yahoo หรือเมล์อื่นๆที่ไม่ใช่เมล์ของบริษัทแล้วล่ะก่อน ให้พึงระวังไว้ก่อนครับว่า ผู้ติดต่อนั้นอาจจะเป็นหนึ่งในนักต้มตุ๋นและงานนั้นอาจจะไม่มีอยู่จริงเลยครับ
6. สัมภาษณ์งานผ่าน IM
You’re asked to do an IM interview.
แม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากแล้วก็ตาม แต่ในเรื่องขั้นตอนการสัมภาษณ์งานนั้นก็ยังคงเหมือนเดิมครับ คือ ผู้สัมภาษณ/นายจ้างย่อมต้องการที่จะเจอและพูดคุยกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการพบเจอกันจริงๆ หรือพูดคุยกันผ่าน skype ครับ ถ้าผู้สัมภาษณ์ขอให้คุณสัมภาษณ์งานผ่าน IM หรือแย่ไปกว่านั้นสัมภาษณ์คุณด้วยการพิมพ์ผ่าน sms, LINE ผมขอให้คุณตั้งสติแล้วคิดก่อนว่า นี่หรือคือการสัมภาษณ์งานที่เหมาะและควร ถ้าคุณคิดได้แล้วล่ะก็ อย่ามัวเสียเวลาแชตอยู่ครับ ให้เลิกคุยและไปหางานจริงๆที่ดูน่าเชื่อถือกว่านี้ดีกว่าครับ
7. ขอข้อมูลส่วนตัว
You’re asked for personal info.
ถ้าคุณเชื่อมั่นว่าขั้นตอนการสัมภาษณ์งานที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นความจริงและดูน่าเชื่อถือ ซึ่งคุณกำลังจะได้รับการเสนอเข้าทำงานแล้ว แต่จู่ๆทางบริษัทผู้ว่าจ้างขอข้อมูลส่วนตัวที่เกี่ยวกับการเงินของคุณก่อนการรับเข้าทำงาน เช่น หมายเลขประกันสังคม, หมายเลขบัญชีธนาคาร ฯลฯ ให้คุณพึงระวังไว้ครับว่างานนั้นน่าจะไม่ได้มีอยู่จริงและคุณอาจจะถูกหลอกเอาหมายเลขบัญชีไปเพื่อทำธุรกรรมอย่างอื่น เพราะไม่มีนายจ้างคนไหนที่จะขอข้อมูลส่วนตัวเกี่ยวกับการเงินของคุณก่อนที่จะรับคุณเข้าทำงานจริงๆ
8. ตัวโฆษณาใช้ภาษาและไวยกรณ์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
The ad is written poorly.
คุณจะสามารถสังเกตุได้ง่ายว่างานที่ประกาศนั้นอาจจะเป็นงานที่ไม่มีอยู่จริงได้ตั้งแต่แวบแรกที่คุณเห็นโฆษณาก็ได้เช่นกันครับ ถ้างานนั้นเขียนข้อมูลแปลกๆ ใช้ภาษาและไวยกรณ์ที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นการบอกข้อมูลที่ไม่ครบ คือ บอกน้อยมากไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นงานอะไรที่แน่นอน ทำงานที่ไหน อาจจะใช้ศัพท์ที่ดูวัยรุ่นเกินไป หรือการใช้ไวยกรณ์ที่ผิดๆถูกๆ จำไว้เลยครับว่าไม่มีองค์กรหรือบริษัทไหนที่จะปล่อยโฆษณาแบบที่ทำให้ตัวเองดูไม่น่าเชื่อถือออกมาสู่ภายนอกองค์กรครับ
9. ติดต่อคุณนอกเวลางาน
They contact you at odd hours.
ผมยอมรับว่าปัจุบัน เทคโนโลยีก้าวไกลมากและการติดต่อประสานงานก็สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงและตลอด 7 วัน (จันทร์ – อาทิตย์) แต่ทว่าผู้สัมภาษณ์งานปกติแล้วจะไม่ส่งอีเมล์หรือโทรหาคุณในเวลา ตี2 อย่างแน่นอนครับ ถ้าอยู่ๆคุณได้รับอีเมล์ประสานงานเรื่อยๆจากผู้เรียกเข้าสัมภาษณ์งานในเวลาตี2 ให้ระวังไว้ก่อนว่านายจ้างคนนั้นๆอาจจะไม่มีอยู่จริงและงานที่คุณจะเข้าสัมภาษณ์อาจจะไม่เคยมีอยู่เลยครับ เพราะเวลาปกติของการติดต่อเพื่อเรียกเข้าสัมภาษณ์งานคือเวลาทำงานปกติของประเทศที่คุณอยู่ครับ เช่น 8 โมงเช้า – 6 โมงเย็น (วันจันทร์ – วันเสาร์) เป็นต้น
10. เรียกชำระเงินค่างานจากคุณ
You have to pay for the job.
พวกนักต้มตุ๋นสมัยนี้ฉลาดกว่าเดิมมาก ซึ่งการเรียกเงินจากคุณมีหลายวิธีมากนะครับ ในปัจจุบันคนพวกนี้จะไม่ขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าทำงานตรงๆ แต่จะขอให้คุณเสียเงิน อย่างที่คุณจะรู้สึกว่าคุณควรจะต้องชำระ เช่นบอกคุณว่าทางบริษัทเตรียมคอมพิวเตอร์ตัวใหม่ไว้ให้แต่คุณจะต้องจ่ายค่า software ของคุณเอง หรือคุณจะต้องรับผิดชอบค่าประกันความเสียหายในการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่คุณจะได้ใช้เมื่อคุณเข้ามาทำงาน และขอให้คุณโอนเงินก่อนเพื่อการเตรียมความพร้อมก่อนวันทำงานจริง อย่าไปหลงเชื่อนะครับ เพราะคุณอาจจะเสียเงินไปโดยที่ไม่ได้มีการรับเข้าทำงานและคุณก็อาจจะไม่ได้เงินที่คุณโอนไปนั้นคือเลยเพราะบริษัทเหล่านั้นไม่ได้มีอยู่จริง
10 ข้อข้างต้นที่ผมเขียนนี้ น่าจะช่วยให้พี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่กำลังมองหางานและอาจจะเจอคำโฆษณาหลากหลายรูปแบบในการพินิจพิเคราะห์ก่อนการตัดสินใจสมัครงานนะครับ ทางที่ดีเลือกสมัครงานจากแหล่งประกาศตำแหน่งงานว่างที่น่าเชื่อถือ มีรูปแบบบริษัทจริง และมีการคัดกรองบริษัทที่ประกาศตำแหน่งงานว่างจริงนะดีกว่านะครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอฝากเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งข้อมุลดีๆ สำหรับคนหางานและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (SMEs ++, Foreign-SMEs, Startups) ที่อัพเดททุกวัน และน่าเชื่อถือ ก็คือ AEC job Listing โดยคลิกเข้าไปที่ www.aecenlist.com ขอบคุณครับ
AEC Job Listing Team