LEGO Harry Potter : Years 1 - 4 กับความห่วงใยของผู้ใหญ่ในเมืองนอกเกี่ยวกับอิทธิพลจากสื่อต่อเยาวชน

เนื่งอจากผมเองก็สนใจ Harry Potter ในระดับหนึ่ง แล้วก็สะสม LEGO ด้วย (แม้ตอนนี้จะไม่ได้ซ์้อบ่อยแบบแต่ก่อนและ theme ที่สะสมก็มีแต่ CITY) ก็เลยไปลองคุ้ยข้อมูลเกมนี้ดู

http://harrypotter.wikia.com/wiki/LEGO_Harry_Potter%3A_Years_1-4

และในส่วนข้อมูลของเนื้อเรื่งอในส่วนปี4ของเกมนี้ ก็ไปเจอข้อความที่ชวนสะดุดตาเข้า

To make the game more suitable for younger players, Harry takes a bath wearing his underpants while in the book and movie he is completely nude.

แปลไทยก็...เพื่อให้เกมมีเนื้อหาเหมาะสมกับผู้เล่นที่อายุยังน้อย แฮร์รี่อาบน้ำโดยยังคงใส่กางเกงใน ในขณะที่ในหนังสือและภาพยนตร์นั้นเปลือยหมดตัว

ตอนแรกมันก็ไม่รู้สึกแปลกอะไรหรอกนะ แบะมันก็ดูสมเหตุสมผลดี แต่..เฮ๊ย นั่นมันตัว LEGO นะ เหลี่ยมๆเรียบๆสีเหลืองอ๋อยซะขนาดนั้น

สงสัยผู้หลักผู้ใหญ่ในเมืองนอก(ที่ conservative น้อยกว่าบ้านเรา)และผู้สร้างเกม กลัวว่าเด็กเห็นแฮร์รี่ที่เป็นตัวLEGOในสภาพแก้ผ้า แล้วจะเกิดความกระสัน จนผู้ชายอาจจะอยาก fly a kite และผู้หญิงก็อาจจะอยาก fishing กันในทันที หรือไม่ก็อาจจะไปก่อคดีข่มขืนก็เป็นได้ โดยเฉพาะกับคนที่ตัวเหลี่ยมๆตันๆเหมือนตัวLEGO ประหลาดใจ

ที่เอาเรืง่อนี้มากล่าวก็..บังเอิญนึกถึงเหตุการเมื่อปีที่แล้วในไทย ที่ช่องการ์ตูนช่องหนึง่ดันขึ้นเรท18+ด้วยความผิดพลาดให้กับการ์ตูนเรื่อง จี้ การ์ตูนที่เกี่ยวกับแมวน่ะ ซึ่งเพราะการ์ตูนช่องนี้มันจะตั้งการขึ้นเรทติ้งไว้อัตโนมัติ และหลังเที่ยงคืนการ์ตูนที่ฉายมักจะเป็นพวกที่มีความรุนแรงและตัวละครแต่งตัววาบหวิวจนติดเรท18+ แล้วตอนนั้นดันเปลี่ยนพังการฉายยังไงไม่รู้ จี้ดันไปฉายเวลานั้น(คงแบบฉายรีรัน) แล้วมีมือดีแคปภาพในจุดนี้ไว้ เอาไปลงdrama-addictจนดังระเบิด เหล่าชาวเน็ตก็ออกมาแขวะ แซว ด่า ประดุจว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับลิขสิทธิ์การ์ตูนเรื่องนี้ หรือเป็นญาติทงาสายเลือดกับคนที่วาดการ์ตูนเรื่องนี้หรือบริษัทที่ผลิตการ์ตูนเรื่งอนี้ในญ่ปุ่น...อย่างว่านะ LEGO Harry Potter มันไม่น่ารักและดังในไทยแบบแมวที่ชื่อ จี้ นี่หน่า

พูดถึวเรื่องนี้ ในต่งาประเทศฮย่างอเมริกาก็เคยมี moment ประเภท โทษสื่ออย่างภาพยนตร์c]tgd,ว่า ส่งผลต่อการแสดงออกที่รุนแรงของเด็กและเยาวชน ที่ดังเป็นประเด็นมากก็ตอนช่วงหลังจากที่หนังเรื่อง Scream ออกมาใหม่ๆ (อายุอานามของใครหลายคนน่าจะทันรู้จักแน่ๆ) โดยหลังจากนั้น2ปี ก็มีเหตุทีว่าเด็กอายุ16ปีชื่อ  Mario Padilla และลูกพี่ลูกน้งออายุ 14 ปี ชื่อ Samuel Ramirez ก่อเหตุแทงแม่ตัวเองตายแบบกระหน่ำแทง โดยบอกว่าได้แรงบัลดาลใจจากหนังเรื่อง Scream และ Scream 2 (ในปีที่เกิดเหตุ Scream 2 ออกฉายพอดี) แถมตัวเด็กที่ก่อเหตุยังยังใช้หน้ากาก Ghostface กับเครื่องเปลี่ยนเสียงแบบฆาตรกรในหนังด้วย...และถัดจากนั้น1ปี ก็มีเหตุการณ์เด็กอายุ13ปี ชื่อ Ashley Murray ถูกกระหน่ำแทงที่หัวและหลัง โดยเพื่อนของเขาที่ชื่อ Daniel Gill อายุ 14 ปี และ Robert Fuller อายุ 15 ปี โดยถูกปล่อยทิ้งไว้ให้ตายหลังจากถูกแทง แต่โชคดีมีคนมาเจอเข้า โดยในรายงานบอกว่าเด็ก2คนที่ก่อเหตุดูหนังเรื่อง Scream ก่อนที่จะก่อเหตุในช่วงสั้นๆและพบหน้ากาก Ghostface เป็นส่วนหนึ่งของสิง่ทีใ่ช้ในการก่อเหตุ...และในปีเดียวกันของเหตุการณ์นี้ ก็มีเหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียนมัธยม Columbine ซึ่งไปจุดประกายความสนใจของสื่อลแะสังคมที่นั่นเกี่ยวกับความรุนแรงจากภาพยนตร์ เกม และสื่ออื่นๆในสังคม โดยเฉพาะอิทธิพลของภาพยนตร์Hollywoodต่อยเาวชน โดยเรื่อง Scream ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นอีกครั้ง โดยเฉพาะฉากการฆาตรกรรมช่วงต้นเรื่องที่สยองพอสมควร

ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Scream_(1996_film)#Controversies

และในสหราชอาณาจักร ภาพยนตร์เรื่อง Child's Play 3 ถูกกล่าวหาว่าเป็น แรงบัลดาลใจ ในการก่อเหตุฆาตรกรรม2ราย ในเดือนธันวาคม ค.ศ.1992 และ กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 และหนึ่งในเหยื่อของการฆาตรกรรมนั้น ถูกบังตับให้ฟังประโยคหนึง่ที่ถูกอัดเสียงมาจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ประโยคที่ว่าคือ "I'm Chucky, wanna play?"

ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Child%27s_Play_(1988_film)#Controversy
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่