ถ้าตอบคำถามนี้ไม่ได้ก็ควรหยุดนะครับท่านเตชะ

คำพูดของท่านเตชะ ///แต่คนรุ่นหลังได้เอาคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้ามาดัดแปลงแก้ไข และเพิ่มเติมคำสอนนอกศาสนา (คือเอาคำสอนของฮินดูหรือพราหมณ์เข้ามาปะปน) เข้ามา แล้วบอกว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมด จนเกิดเป็นพุทธศาสนาขึ้นมา

เห็นชอบอ้างวิทยาศาสตร์จัง งั้นต้องพิสูจน์นะครับ

คนรุ่นหลังคือใครครับที่ดัดแปลงพระไตรปิฎก บุคคลชื่ออะไร หรือคณะบุคคลใด แล้วเพิ่มเติมคำสอนเข้าไปตรงไหน พระสูตรไหนมีการเพิ่มเติมเข้ามา และเพิ่มเติมเข้ามาตั้งแต่วันไหน เมื่อไหร่ ดัดแปลงพระไตรปิฎกในไทย หรือที่อินเดีย ดัดแปลงฉบับสังคายนาของมหานิกายหรือเถรวาท ใครเป็นประธานสังคายนาครั้งที่ถูกดัดแปลง เป็นกษัตริย์หรือเศรษฐีหรือพระภิกษุใดที่เป็นประธานในการดัดแปลง มีพระภิกษุสงฆ์กี่ท่านที่ยินยอมให้มีการดัดแปลงในการสังคายนาครั้งนั้น หรือว่าแอบดัดแปลงหลังทำสังคายนา

เป็นพระภิกษุอย่าพูดมั่วซั่วส่งเดชครับ ควรพูดอะไรที่มีหลักฐาน เชื่อถือได้ มีที่อ้างอิง โดยเฉพาะการใส่ความพระไตรปิฎกมันไม่ดี ไม่เหมาะ ไม่สมควร ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ เปลืองข้าวสุกชาวบ้าน ควรละอายใจ

เอาล่ะ ยังมีประเด็นให้คิดอีก เรื่องพราหมณ์ยัดเข้ามา
1. พราหมณ์ ฮินดูนับถือพระพรหม แต่ยัดพระไตรปิฎกของพุทธศาสนาว่าพระพรหมลงมากราบพระพุทธเจ้า
2. พราหมณ์ เชื่อว่ามนุษย์เกิดจากเท้าพระเจ้า ยัดเข้ามาในพระไตรปิฎกว่ามนุษย์เกิดจากองค์กำเนิดหญิง
3. พราหมณ์ เชื่อว่าพระพรหมสร้างโลก ยัดเข้ามาว่าเป็นอจินไตย
4. นิพพานของพราหมณ์ เป็นแบบหินทับหญ้า แบบที่หลวงพ่อคิดนั่นแหล่ะ เรียกว่าอาตมัน ปรมาตมัน คือนิพพานเสื่อมได้ แต่พอยัดเข้ามาดันแยกเป็นนิพพานโลกียะ กับนิพพานโลกุตตระ โดยนิพพานโลกุตตระไม่มีวันเสื่อม ถอนรากถอนโคน กิเลสไม่กลับมากำเริบอีก
5. พราหมณ์อาบน้ำจากแม่น้ำคงคาชำระความบริสุทธิ์ แต่ยัดเข้ามาบอกว่าจิตไม่สามารถชำระให้บริสุทธิ์ได้ด้วยน้ำ
6. พิธีกรรมพราหมณ์หายไปไหนหมด ไม่เห็นมีเขียนพิธีกรรมในพระไตรปิฎกเลย งานวันเกิด งานแต่ง งานศพ?? ลืมยัดเข้ามา??? หรือไปกับ MH370 ไม่กลับมาเลย
7. มนต์พิธีของพราหมณ์หายไปไหนหมด ถ้าไม่มีมนต์นี่ไม่ใช่พราหมณ์เลยนะครับเอามาสักบทซิ ยัดมนต์ไหนเข้ามาบ้าง?? หรือด้วยกันกับข้อ 6
8. บูชายันต์ของพราหมณ์ล่ะครับ ยัดเข้ามาสิ ไม่มีบูชายันต์ไม่ใช่พราหมณ์นะ

ไปอ่านพระไตรปิฎกเถอะท่าน จะเห็นว่ามีคำสอนพระพุทธเจ้าตรัสแย้งกับความเชื่อพราหมณ์เต็มไปหมด เรียกว่าขวางโลกกันเลย คนละเรื่อง คนละโลก
อ่านพระไตรปิฎกของจริงเสียบ้าง จะได้ไม่เสียทีที่อุตส่าห์ได้บวชมาในพระพุทธศาสนา
จะพบว่าในพระไตรปิฎกไม่มีความขัดแย้งในตัวเองเลย ทุกอย่างเข้ากันได้ทั้งหมด ทั้งความเชื่อหรือความจริงสอนไปในทิศทางเดียวกันไม่มีขัดแย้งกัน
ไม่มีทางที่พราหมณ์จะยัดเข้ามาหรอก เพราะถ้าเอาคำสอนของศาสนาอื่นยัดเข้ามา พระไตรปิฎกต้องขัดแย้งกันแน่นอน
สุตตันตปิฎกพระสูตรแรกเลยมั้ง ทิฏฐิ 62 ของเจ้าลัทธิทุกสำนักในยุคนั้น

หลวงพี่ครับ ท่านคิดค้นอะไรได้ก็เรื่องของท่าน แต่อย่าทำให้ศาสนาแปดเปื้อนมัวหมองด้วยความคิดส่วนตัว

ผมแถมอีกเรื่อง เรื่องเดียรถีย์ เก่งจังแปลบาลีได้ด้วยแต่ไม่ว่าท่านจะแปลว่าอะไรก็ตาม แต่นิมนต์อ่านเพิ่มเติมนะครับ
http://www.baanjomyut.com/library/knowledge_of_encyclopedias/157.html

"นักบวชภายนอกพระพุทธศาสนาในอินเดียสมัยพุทธกาล" เป็นคำกลางที่ทางพุทธศาสนาใช้ เรียกนักบวชอื่น ๆ บางทีตามเดิม อัญญะ ซึ่งแปลว่า อื่น เข้าไปข้างหน้าเป็นอัญญเดียรกีย์ ก็มี

คำว่าเดียรถีย์ แปลว่า ทางน้ำ ฝั่งน้ำ ในทางศาสนาหมายถึงลัทธิ เพราะเป็นที่ข้ามไปสู่สุคติ ในพระวินัยปิฎก มีว่าถ้าเดียรถีย์คนใดต้องการจะบวชในพระพุทธศาสนา ต้องได้รับการฝึกอบรมเพื่อทดสอบดูว่าผู้นั้นมีความเลื่อมใสจริง เสียก่อนจึงอนุญาตให้บวชได้ วิธีดังกล่าวเรียกว่า ติตถิยปริวาส อนึ่ง การภิกษุในพระพุทธศาสนารูปใด ไปเข้ารีตเดียรถีย์ ต่อมาเกิดกลับใจขอบวชในพระพุทธศาสนาอีก ท่านห้ามมิให้บวชเด็ดขาดเพราะถือเป็นอภัพบุคคล คือ ผู้ขาดคุณสมบัติของผู้จะบวชอย่างหนึ่ง

/// ชัดๆนะครับ เมื่อเป็นภิกษุก็ต้องใช้คำนี้อย่างภิกษุนะครับ คงไม่เรียกใครว่าเดียรถีย์ส่งเดชอีกนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่