ผมได้จอง 10,000 กับโครงการหมู่บ้านสุขุมวิท (มอเตอร์เวย์) จากนั้นก็ไปทำสัญญาเพื่อยื่นกู้โดยทางโครงการเป็นธุระยื่นกู้ให้กับธนาคารกรุงไทย สาขาโรงไฟฟ้าบางปะกง หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ธนาคารกรุงไทยสาขาโรงไฟฟ้าบางปะกงโทรมาแจ้งว่ากู้ผ่าน บ้านราคา 1.89 ล้านบาท วงเงินให้กู้ 2.30 ล้านบาท แต่เงินที่ผมจะได้รับจริงๆคือ 2.1 ล้านบาท (หายไป 2 แสน) ทางธนาคารชี้แจงว่าจะต้องทำประกันชีวิตด้วยจำนวน 100,000+ บาท ซึ่งผมไม่มีความต้องการทำประกันชีวิตดังกล่าวเพราะเป็นหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ส่วนหากเกิดอะไรขึ้นกับผมคนที่อยู่เบื้องหลังสามารถรับผิดชอบได้ หรือ ไม่ก็มายึดเอาไปขายทอดตลาดได้ และจริงๆแล้วผมก็มีประกันอย่างอื่นอยู่แล้วที่ได้วงเงิน 3 ล้าน หากเสียชีวิต จึงไม่มีความจำเป็นใดๆต้องทำประกันเพิ่มอีก
ทางธนาคารเลยถามว่าจะกู้ไหม หากกู้ก็ต้องทำประกัน หากไม่ทำก็กู้ไม่ได้(ไหนบอกว่าอนุมัติแล้ว??) จากนั้นผมจึงบอกไปว่าจะไปกู้ที่ธนาคารอื่น โดยทางธนาคารจะไม่คืนเอกสารใดๆและธนาคารก็ได้โทรไปแจ้งทางโครงการว่าผมขอยกเลิกการกู้ครั้งนี้
จากนั้นผมก็ติดต่อมาที่โครงการเพื่อขอสำนำโฉนดเพื่อนำไปยื่นกู้ที่ธนาคารอื่นด้วยตัวเอง และได้คำตอบมาว่าให้ไม่ได้เพราะมันเป็นกฎ โครงการสามารถถ่ายสำเนาให้ลูกค้าได้เพียงครั้งเดียว และบอกให้ผมไปขอคืนเอกสารเองกับธนาคารกรุงไทยสาขาบางปะกง(ซึ่งธนาคารปฏิเสธที่จะให้คืน)
สุดท้ายแล้วผมจึงตัดสินใจว่าจะไม่ซื้อบ้านกับโครงการนี้แล้ว เพราะมันมีข้อพิรุจน์หลายอย่าง
1. โครงการสามารถถ่ายเอกสารสำเนาให้โฉนดให้ลูกค้าได้เพียงครั้งเดียว เหมือนว่าเจาะจงต้องกู้จากธนาคารกรุงไทยสาขาโรงไฟฟ้าบางปะกงเท่านั้น
2. เอกสารที่ยืนกู้เป็นของเรา แต่กลับขอคืนไม่ได้
3. ตอนแรกบอกว่าจะยื่นให้ที่ธนาคารสาขาใกล้บ้าน แต่กลับไปยื่นธนาคารกรุงไทยสาขาโรงไฟฟ้าบางปะกงแทน
4. ธนาคารบอกว่าอนุมัติผ่านแล้วเหลือแค่ทำสัญญา แต่ต้องทำประกันด้วยเท่านั้นจึงจะอนุมัติ
อยากถามผู้รู้ว่ากรณีเราจะได้เงินจอง 10,000 บาท คืนไหม มันมีข้อความดังนี้ในสัญญา
"ผู้จองได้ตกลงและได้สัญญาว่าจะมาทำสัญญาซื้อขายบ้านและที่ดินภานใน 15 วัน (นับจากวันที่จอง) หากเกินกำหนดเวลาหรือติดต่อมิได้ภายใน 7 วัน ผู้จองยินยอมตกลงให้ผู้รับจองริบเงินมัดจำหรือยินยอมให้ปรับราคาเป็นราคาปัจจุบันตามช่วงเวลานั้นๆหรือให้ยกเลิกใบจองฉบับนี้โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าได้ทันที ในการจองครั้งนี้ผู้จองจะรับโอนกรรมสิทธิ์ในการจองในนามตนเองเท่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงในการโอนกรรมสิทธิ์หลังจากทำสัญญาซื้อขายแล้ว ผู้จองยินยอมชำระเงินค่าปรับเป็นเงิน 15,000 บาท"
ซึ่งผมจะร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปที่
1. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
2. ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
โดยผมได้บันทึกเสียงการสนทนากับธนาคารและโครงการดังกล่าวซึ่งน่าจะเป็นหลักฐานได้
และจะอัพเดทกันให้ทราบเพื่อพิสูจน์ว่าหน่วยงานราชการไทยพึ่งพาได้จริงหรือไม่ มีท่านไหนพอจะมีคำแนะนำบ้างไหมครับหากท่านเจอสถานการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร
หากเราไม่เริ่มที่จะทำอะไรเลย อ้างแต่ว่ามันเป็นแบบนี้มานานแล้ว และมันก็จะเป็นปัญหาต่อๆไป และก็จะมีผู้รับกรรมแบบนี้ไปเรื่อยๆ
Updated 21/3/2015 17.30 => หลังจากที่โครงการเห็นโพสน์ใน pantip ตอนนี้ได้สำเนาโฉนดแล้วครับ pantip พึ่งพาได้มากจริงๆ แต่ก็อึดอัดใจเพราะมองหน้ากันไม่ติดแล้ว รู้สึกไม่อยากกู้ ไม่อยากได้ไปแล้วเพราะมันเสียความรู้สึกไปมาก แต่ก็เสียดายตังค่าจอง 10,000 บาท ไม่รู้จะมีสิทธิ์ได้คืนไหม
Updated 23/3/2015 21.40 => วันนี้ผู้จัดการธนาคารกรุงไทยสาขาโรงไฟฟ้าบางประกงโทรมาชี้แจง และขอโทษเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยบอกว่ามันเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยระบุว่าผมสามารถกู้ได้โดยที่ไม่ต้องทำประกัน แต่ ณ ตอนนี้ความไว้วางใจ ความมั่นใจทั้งกับธนาคารและโครงการมันไม่มีเหลืออยู่แล้ว แต่หากผิดแล้วสำนึกและออกมาขอโทษผมก็พร้อมที่จะให้อภัย และหวังว่ากรณีนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกกับคนอื่นๆ ในตอนแรกที่ผมไม่สามารถกู้ได้เพราะไม่ยอมทำตามเงื่อนไขของธนาคารที่บังคับให้ทำประกัน แต่ในภายหลังธนาคารบอกว่าให้กู้ได้โดยที่ไม่ต้องทำประกัน
จากกรณีดังกล่าวผมจะสามารถรับเงินค่าจองบ้านคืนจากทางโครงการได้หรือไม่ ??
ในสัญญาจะซื้อจะขายระบุว่า "เมื่อผู้จะซื้อบอกเลิกสัญญาแล้ว ผู้จะขายยินยอมให้ผู้ซื้อเรียกเงินที่ผู้ซื่อได้ชำระไปแล้วทั้งหมดคืนจากผู้ขาย"
รู้สึกเหมือนโดนโกงเรื่องซื้อบ้าน ทั้งโครงการและธนาคารรวมหัวกัน
ทางธนาคารเลยถามว่าจะกู้ไหม หากกู้ก็ต้องทำประกัน หากไม่ทำก็กู้ไม่ได้(ไหนบอกว่าอนุมัติแล้ว??) จากนั้นผมจึงบอกไปว่าจะไปกู้ที่ธนาคารอื่น โดยทางธนาคารจะไม่คืนเอกสารใดๆและธนาคารก็ได้โทรไปแจ้งทางโครงการว่าผมขอยกเลิกการกู้ครั้งนี้
จากนั้นผมก็ติดต่อมาที่โครงการเพื่อขอสำนำโฉนดเพื่อนำไปยื่นกู้ที่ธนาคารอื่นด้วยตัวเอง และได้คำตอบมาว่าให้ไม่ได้เพราะมันเป็นกฎ โครงการสามารถถ่ายสำเนาให้ลูกค้าได้เพียงครั้งเดียว และบอกให้ผมไปขอคืนเอกสารเองกับธนาคารกรุงไทยสาขาบางปะกง(ซึ่งธนาคารปฏิเสธที่จะให้คืน)
สุดท้ายแล้วผมจึงตัดสินใจว่าจะไม่ซื้อบ้านกับโครงการนี้แล้ว เพราะมันมีข้อพิรุจน์หลายอย่าง
1. โครงการสามารถถ่ายเอกสารสำเนาให้โฉนดให้ลูกค้าได้เพียงครั้งเดียว เหมือนว่าเจาะจงต้องกู้จากธนาคารกรุงไทยสาขาโรงไฟฟ้าบางปะกงเท่านั้น
2. เอกสารที่ยืนกู้เป็นของเรา แต่กลับขอคืนไม่ได้
3. ตอนแรกบอกว่าจะยื่นให้ที่ธนาคารสาขาใกล้บ้าน แต่กลับไปยื่นธนาคารกรุงไทยสาขาโรงไฟฟ้าบางปะกงแทน
4. ธนาคารบอกว่าอนุมัติผ่านแล้วเหลือแค่ทำสัญญา แต่ต้องทำประกันด้วยเท่านั้นจึงจะอนุมัติ
อยากถามผู้รู้ว่ากรณีเราจะได้เงินจอง 10,000 บาท คืนไหม มันมีข้อความดังนี้ในสัญญา
"ผู้จองได้ตกลงและได้สัญญาว่าจะมาทำสัญญาซื้อขายบ้านและที่ดินภานใน 15 วัน (นับจากวันที่จอง) หากเกินกำหนดเวลาหรือติดต่อมิได้ภายใน 7 วัน ผู้จองยินยอมตกลงให้ผู้รับจองริบเงินมัดจำหรือยินยอมให้ปรับราคาเป็นราคาปัจจุบันตามช่วงเวลานั้นๆหรือให้ยกเลิกใบจองฉบับนี้โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าได้ทันที ในการจองครั้งนี้ผู้จองจะรับโอนกรรมสิทธิ์ในการจองในนามตนเองเท่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงในการโอนกรรมสิทธิ์หลังจากทำสัญญาซื้อขายแล้ว ผู้จองยินยอมชำระเงินค่าปรับเป็นเงิน 15,000 บาท"
ซึ่งผมจะร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปที่
1. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
2. ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน
โดยผมได้บันทึกเสียงการสนทนากับธนาคารและโครงการดังกล่าวซึ่งน่าจะเป็นหลักฐานได้
และจะอัพเดทกันให้ทราบเพื่อพิสูจน์ว่าหน่วยงานราชการไทยพึ่งพาได้จริงหรือไม่ มีท่านไหนพอจะมีคำแนะนำบ้างไหมครับหากท่านเจอสถานการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร
หากเราไม่เริ่มที่จะทำอะไรเลย อ้างแต่ว่ามันเป็นแบบนี้มานานแล้ว และมันก็จะเป็นปัญหาต่อๆไป และก็จะมีผู้รับกรรมแบบนี้ไปเรื่อยๆ
Updated 21/3/2015 17.30 => หลังจากที่โครงการเห็นโพสน์ใน pantip ตอนนี้ได้สำเนาโฉนดแล้วครับ pantip พึ่งพาได้มากจริงๆ แต่ก็อึดอัดใจเพราะมองหน้ากันไม่ติดแล้ว รู้สึกไม่อยากกู้ ไม่อยากได้ไปแล้วเพราะมันเสียความรู้สึกไปมาก แต่ก็เสียดายตังค่าจอง 10,000 บาท ไม่รู้จะมีสิทธิ์ได้คืนไหม
Updated 23/3/2015 21.40 => วันนี้ผู้จัดการธนาคารกรุงไทยสาขาโรงไฟฟ้าบางประกงโทรมาชี้แจง และขอโทษเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยบอกว่ามันเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยระบุว่าผมสามารถกู้ได้โดยที่ไม่ต้องทำประกัน แต่ ณ ตอนนี้ความไว้วางใจ ความมั่นใจทั้งกับธนาคารและโครงการมันไม่มีเหลืออยู่แล้ว แต่หากผิดแล้วสำนึกและออกมาขอโทษผมก็พร้อมที่จะให้อภัย และหวังว่ากรณีนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกกับคนอื่นๆ ในตอนแรกที่ผมไม่สามารถกู้ได้เพราะไม่ยอมทำตามเงื่อนไขของธนาคารที่บังคับให้ทำประกัน แต่ในภายหลังธนาคารบอกว่าให้กู้ได้โดยที่ไม่ต้องทำประกัน
จากกรณีดังกล่าวผมจะสามารถรับเงินค่าจองบ้านคืนจากทางโครงการได้หรือไม่ ??
ในสัญญาจะซื้อจะขายระบุว่า "เมื่อผู้จะซื้อบอกเลิกสัญญาแล้ว ผู้จะขายยินยอมให้ผู้ซื้อเรียกเงินที่ผู้ซื่อได้ชำระไปแล้วทั้งหมดคืนจากผู้ขาย"