เอาจริงๆ บ้านเขากับบ้านเราไม่ได้อยู่ติดกันหรอก  แต่บ้านเขากับบ้านน้าเราอยู่ติดกัน  เรื่องที่เขาค้ายาก็เป็นเรื่องจริงนะ เราก็ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงกล้าขนาดนี้ ทั้งที่อยู่ในยุค คสช พวกเขาทำกันทั้งครอบครัวเลย แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร ไม่เห็นตำรวจจะมาตรวจอะไรเลย ที่จริงเราก็ไม่อยากยุ่งหรอก

     แต่ เรื่องของเรื่องคือ น้าเราที่บ้านอยู่ติดกับครอบครัวนี้ น้าเป็นคนตรง เป็นคนแรง และมีนิสัยเสียชอบพูดเรื่องคนอื่น แล้วน้าเราชอบไปเล่าให้คนอื่นฟังว่า เนี่ยะบ้านนี้เขาค้ายา หลังจากนั้นน้าเราก็โดนพูดข่มขู่มาตลอด(ไม่เชิงข่มขู่หรอกแบบประมานบ้านใกล้กัน แล้วอีกบ้านทำพูดเสียงดังขึ้นมา) อาทิเช่น  คนเราแปลกมีบ้านให้อยู่ไม่ชอบ ดันชอบไปอยู่วัด   บลาๆ อีกเยอะ

       อ่อแล้วก็บ้านน้าเราติดกล้องวงจรปิด มีตัวหนึ่งติดอยุ่ริมรั้วแล้วบังเอิญมันส่องจากหน้าบ้านน้าเราไปถึงหน้าบ้านเขาพอดี  ไม่กี่วันมานี้กล้องตัวนั้นพังไปละ มีคนทำพัง

      เราโทรไปคุยกับน้าเราบ่อยว่า ใครจะทำอะไรปล่อยเขาไปเถอะ เดี่ยวนี้กรรมมันก็ตามทัน แต่น้าเราตอบกลับมาว่า ก็มันอดใจไม่อยู่ รู้เห็นตลอดว่าเขาทำอะไรกันตอนไหน มีลูกค้ามารับยาตอนไหน รู้เห็นอยุ่คนเดียว ถ้าไม่ได้แฉกับใครบ้าง มันอึดอัด เหมือนอกจะระเบิด เราก็ได้แต่พูดว่า ช่างเขาเหอะ เซฟตัวเองดีกว่าอย่าไปยุ่งเลย

ปล เรามั่นใจได้ไงเหรอว่าเขาค้ายาจริงๆ ง่ายๆคือ ครอบครัวเขาทำอาชีพชาวสวนๆ อยู่ดีๆไม่กี่เดือน ก็ซื้อรถเพิ่ม สองสามคัน แบบรวยผิดปกติ ทั้งที่พวกเขาไม่ได้มีอาชีพเสริม  อยุ่บ้านอย่างเดียว เป็นชาวบ้านบ้านนอกธรรมดา ความจริงในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ชาวสวนธรรมดาไม่กล้าเพิ่มภาระหนี้ขนาดนี้ (เขารู้กันทั้งหมู่บ้านแต่ไม่มีใครกล้ายุ่ง  แต่น้าเราปากเสียเอง)

ปล เราควรทำไงดี เราเป็นห่วงน้าเรา  เราจะให้น้าเราย้ายบ้านละ  ถ้าจะเเจ้งตำรวจก็กลัวเส้นสายเพราะ ขนาดเขาทำกันขนาดนี้ยังไม่มีตำรวจเขามาดูเลย  หรือปล่อยไว้อย่างงี้ไม่ต้องไปยุ่ง