เชื่อว่าหลายคนคงเคยติดตามภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมชุด (Novel Series) มีทั้งที่ประทับใจบ้าง ไม่ประทับใจบ้าง (เพราะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องที่จินตนาการได้จากการอ่านเลิศหรูอลังการครบรสกว่าฉบับภาพยนตร์) แต่สำหรับผมภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมชุดที่ผมดู ผมไม่เคยอ่านหนังสือเลยสักเรื่องเดียว ผมเลยไม่มีบรรทัดฐาน หรือการตั้งเป้าความคาดหวังต่อภาพยนตร์เหมือนหลายๆ คน ดูก็ดูไม่รู้โครงเรื่องมาก่อน ไม่รู้จักตัวละครมาก่อน ไม่รู้ฉากสำคัญๆ มาก่อน ก็เป็นข้อดีที่ทำให้ผมดูแล้วรู้สึกคุ้ม แทบจะทุกเรื่อง เช่นเดียวกับ Divergent และภาคต่ออย่าง Insurgent
ซึ่งเมื่อเทียบกันที่ Trailer ของภาคแรกกับภาคต่อแล้วผมว่า Insurgent มี trailer ที่แสดงความเป็น Insurgent ได้ดีพอสมควรทำให้อยากติดตาม และพร้อมที่จะตั้งตาคอยวันเข้าฉาย
อย่างที่ผมบอกไปว่าภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมชุดที่ผมดู ผมไม่เคยอ่านหนังสือเลยสักเรื่องเดียว เพราะฉะนั้นรีวิวหนังเรื่องนี้ของผม (
http://zaneter.azurewebsites.net/?p=1611) ก็จะเป็นรีวิวแบบคนที่
"ดูแต่หนัง ไม่เคยอ่านหนังสือ"
เรามาเริ่มกันทีละนิดนะครับ
1. ภาคนี้มีกล่อง
ครับก็ตาม trailer นั่นแหละครับ กล่องที่มีสัญลักษณ์ครบทั้ง 5 กลุ่ม (Faction) อันได้แก่ ผู้เสียสละ (Abnegation), ผู้ทรงปัญญา (Erudite), ผู้กล้า (Dauntless), ผู้รักสันติ (Amity) และผู้ซื่อสัตย์ (Candor) ซึ่งยัยเจ๊ Jeanine ผู้นำกลุ่มผู้ทรงปัญญาตัวร้ายเจ้าเก่าของเราส่งคนออกไปตามหาชนิดพลิกแผ่นดินทำลายล้างกลุ่มผู้เสียสละ ด้วยความที่เจ๊แกเชื่อว่าเมื่อเปิดกล่องได้จะพบกับข้อความจากผู้ก่อตั้งระบบแบ่งกลุ่มนี้ และเนื้อเรื่องของภาคนี้ที่มันน่าตื่นเต้น น่าติดตามก็เพราะไอกล่องบ้านี่แหละครับ ที่trailerได้บอกไว้แล้วว่าคนที่จะเปิดได้คือ Tris นางเอก divergent ของเรานั่นเอง ความลุ้นของหนังคือลุ้นว่าจะเปิดได้มั้ย แล้วจะเปิดหรือเปล่า ข้างในจะมีอะไร
2. ภาคนี้บู๊เร้ว
จากเนื้อเรื่องภาคก่อนที่พระนางของเราถูกไล่ลาราวี ภาคนี้ก็ยังราวีต่อครับ นอกจากนี้ก็ยังมีตามที่ trailer ได้บอกไว้ว่า Jeanine เจ๊แกสั่งล่า divergent เพื่อหาคนที่จะเปิดกล่องได้ ดังนั้นฉากบู๊จึงหนีไปไม่ไกลตอนต้นๆ เรื่องเลย ทั้งบู๊ด้วยปืนและบู๊ด้วยมือเปล่า sound effect ฉากบู๊ก็ถึงอารมณ์ดี (ผมไปดู IMAX มา 3D ด้วยยิ่งได้อารมณ์มากครับเสียงกระหึ่มยิงเป็นยิง ชกเป็นชก ฟาดเป็นฟาด)
3. ภาคนี้มีเซอร์ไพรส์
ด้วยความที่ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนก็เลยไม่แน่ว่าเรื่องทั้งหมดมีตรงไหนฉีกแนวไปจากหนังสือหรือไม่ แต่ก็ด้วยความที่ไม่เคยอ่านมาก่อนก็เลยทำให้หลายๆ ฉากเป็นฉากเซอร์ไพรส์ที่ผมประทับใจ ทั้งในประเด็นที่เกี่ยวกับพระเอกของเรา Four หรือชื่อจริงคือ Tobias Eaton, ประเด็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของตัวละครบางตัว (ซึ่งตอนหลังผมเพิ่งรู้สึกว่ามันแปลกๆ ทะ
ๆ ดูมีอะไรไม่สมเหตุสมผล หรือทำมาเพื่อให้มีผลกับภาคต่อก็ไม่แน่ใจ) และประเด็นเกี่ยวกับกล่อง การเปิดกล่อง และสิ่งที่อยู่ข้างใน ซึ่งเป็น
"ความจริงที่ถูกเปิดเผย"
สรุปโดยรวมไม่ว่าคนที่เคยหรือไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนก็ตาม ผมว่าหากคุณได้ดูมาตั้งแต่ Divergent ภาคนี้ก็เป็นอะไรที่คุ้มค่าต่อการรอคอยและการไปดูมากครับ
ปล. ภาคนี้เราจะได้เห็นผู้นำของแต่ละกลุ่มปรากฏตัวออกมา ผมชอบผู้นำกลุ่มผู้ซื่อสัตย์กว่าคนอื่น รู้สึกดูเท่ ภูมิฐานมาก
[CR] Insurgent ภาคต่อของ Divergent ที่คุ้มค่าแค่การรอคอย
ซึ่งเมื่อเทียบกันที่ Trailer ของภาคแรกกับภาคต่อแล้วผมว่า Insurgent มี trailer ที่แสดงความเป็น Insurgent ได้ดีพอสมควรทำให้อยากติดตาม และพร้อมที่จะตั้งตาคอยวันเข้าฉาย
อย่างที่ผมบอกไปว่าภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมชุดที่ผมดู ผมไม่เคยอ่านหนังสือเลยสักเรื่องเดียว เพราะฉะนั้นรีวิวหนังเรื่องนี้ของผม (http://zaneter.azurewebsites.net/?p=1611) ก็จะเป็นรีวิวแบบคนที่ "ดูแต่หนัง ไม่เคยอ่านหนังสือ"
เรามาเริ่มกันทีละนิดนะครับ
1. ภาคนี้มีกล่อง
ครับก็ตาม trailer นั่นแหละครับ กล่องที่มีสัญลักษณ์ครบทั้ง 5 กลุ่ม (Faction) อันได้แก่ ผู้เสียสละ (Abnegation), ผู้ทรงปัญญา (Erudite), ผู้กล้า (Dauntless), ผู้รักสันติ (Amity) และผู้ซื่อสัตย์ (Candor) ซึ่งยัยเจ๊ Jeanine ผู้นำกลุ่มผู้ทรงปัญญาตัวร้ายเจ้าเก่าของเราส่งคนออกไปตามหาชนิดพลิกแผ่นดินทำลายล้างกลุ่มผู้เสียสละ ด้วยความที่เจ๊แกเชื่อว่าเมื่อเปิดกล่องได้จะพบกับข้อความจากผู้ก่อตั้งระบบแบ่งกลุ่มนี้ และเนื้อเรื่องของภาคนี้ที่มันน่าตื่นเต้น น่าติดตามก็เพราะไอกล่องบ้านี่แหละครับ ที่trailerได้บอกไว้แล้วว่าคนที่จะเปิดได้คือ Tris นางเอก divergent ของเรานั่นเอง ความลุ้นของหนังคือลุ้นว่าจะเปิดได้มั้ย แล้วจะเปิดหรือเปล่า ข้างในจะมีอะไร
2. ภาคนี้บู๊เร้ว
จากเนื้อเรื่องภาคก่อนที่พระนางของเราถูกไล่ลาราวี ภาคนี้ก็ยังราวีต่อครับ นอกจากนี้ก็ยังมีตามที่ trailer ได้บอกไว้ว่า Jeanine เจ๊แกสั่งล่า divergent เพื่อหาคนที่จะเปิดกล่องได้ ดังนั้นฉากบู๊จึงหนีไปไม่ไกลตอนต้นๆ เรื่องเลย ทั้งบู๊ด้วยปืนและบู๊ด้วยมือเปล่า sound effect ฉากบู๊ก็ถึงอารมณ์ดี (ผมไปดู IMAX มา 3D ด้วยยิ่งได้อารมณ์มากครับเสียงกระหึ่มยิงเป็นยิง ชกเป็นชก ฟาดเป็นฟาด)
3. ภาคนี้มีเซอร์ไพรส์
ด้วยความที่ไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนก็เลยไม่แน่ว่าเรื่องทั้งหมดมีตรงไหนฉีกแนวไปจากหนังสือหรือไม่ แต่ก็ด้วยความที่ไม่เคยอ่านมาก่อนก็เลยทำให้หลายๆ ฉากเป็นฉากเซอร์ไพรส์ที่ผมประทับใจ ทั้งในประเด็นที่เกี่ยวกับพระเอกของเรา Four หรือชื่อจริงคือ Tobias Eaton, ประเด็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของตัวละครบางตัว (ซึ่งตอนหลังผมเพิ่งรู้สึกว่ามันแปลกๆ ทะ
สรุปโดยรวมไม่ว่าคนที่เคยหรือไม่เคยอ่านหนังสือมาก่อนก็ตาม ผมว่าหากคุณได้ดูมาตั้งแต่ Divergent ภาคนี้ก็เป็นอะไรที่คุ้มค่าต่อการรอคอยและการไปดูมากครับ
ปล. ภาคนี้เราจะได้เห็นผู้นำของแต่ละกลุ่มปรากฏตัวออกมา ผมชอบผู้นำกลุ่มผู้ซื่อสัตย์กว่าคนอื่น รู้สึกดูเท่ ภูมิฐานมาก