" INSURGENT " กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราวันพฤหัสที่ 19 มีนาคมนี้
วันนี้เลยขอจัดทำ " 40 เกร็ดความรู้ " แบบอ่านเพลิน ๆ สนุก ๆ ของนักแสดง และหนังชุดนี้มาให้ได้อ่านกัน เริ่มกันเลย !!
1. ' เวอโรนิก้า รอธ ' เริ่มแต่งนิยายชุด The Divergent Series นี้ตั้งแต่ตอนที่เธอยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
2. เหล่านักแสดงทั้งหมดต้องไปเข้าค่าย Boot Camp เพื่อฝึกซ้อมร่างกาย , ศิลปะการต่อสู้ด้วยกันเป็นเวลากว่า 2 เดือนก่อนจะเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์
3. เชย์ลีน วู้ดลีย์ เตรียมตัวมารับบท ' ทริซ ' ด้วยการลองจินตนาการย้อนกลับไปในช่วงที่เธอยังเป็นวัยรุ่น
เพื่อให้สอดคล้องกับตัวละครจากนิยายในหมู่วัยรุ่น เธอจึงต้องเตรียมการมารับบทนี้ โดยการลองนึกย้อนกลับไปว่าในช่วงวัยรุ่นเธอต้องต่อสู้กับอะไรบ้างทั้งจากสภาพภายนอก และภายในจิตใจ จากนั้นจึงนำมาดัดแปลง – ปรับให้เข้ากับตัวละครอย่าง ทริซ นั่นเอง
4. เดิมทีนั้น ไมลส์ เทลเลอร์ เข้ามาแคสติ้งนักแสดงในบทบาทของ ' โฟร์ ' แต่ก็พลาดท่าไป
ในเดือนถัดมาผู้อำนวยการสร้างได้มีโอกาสดูหนังเรื่อง The Spectacular Now (2013) [ ซึ่งเขาแสดงร่วมกับเชย์ลีน ] แล้วก็เกิดชื่นชอบในตัวไมลส์เป็นอย่างมาก จึงเรียกไมลส์กลับมาใหม่โดยเสนอว่าจะให้เล่นเป็นบท อีริค (หนึ่งในผู้นำของกลุ่มผู้กล้า) ซึ่งจะต้องเฉือนบทบาทอันเข้มข้นกับโฟร์ (ธีโอ เจมส์) อยู่บ่อยๆ แต่ไมลส์กลับบอกว่า เขาไม่น่าจะเล่นบทอารมณ์เข้มข้นๆ แบบนั้นกับธีโอได้ ...สุดท้ายแล้วเขาจึงคว้าบท ' ปีเตอร์ ' ไปแทน (ซึ่งเหตุผลที่เขาตกลงเล่นบทนี้ก็เพราะ เชย์ลีน วู้ดลีย์ ส่งข้อความไปให้เขาตกลงรับบท เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ร่วมงานกันอีก)
5. ระหว่างการถ่ายทำ Divergent : เคท วินสเลต ตั้งท้องอยู่ 5 เดือน นั่นจึงทำให้ฉากไหนที่มีเธอ ทางทีมงานจึงต้องปรับบทให้ตัวละครของเธออย่าง ' เจอนีน ' ถือพวกแฟ้ม , เอกสาร หรือ iPad เพื่อบังท้องเอาไว้
6. เชย์ลีน วู้ดลีย์ ... เธอทำอาหารทานเองในกองถ่ายด้วย !
ช่วงพักเบรกกินข้าว เธอจะไม่กินอาหารของในกองถ่าย แต่เธอจะไปเตรียมวัตถุดิบทำอาหารในแบบไลฟ์สไตล์ของตัวเธอเอง ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า กลางวัน หรือเย็นก็ตามที
7. ฉากที่ทริซต้องกระโดดจากตึกสูงเพื่อลงไปยังพื้นที่ของกลุ่มผู้กล้า สตั๊นที่มาเล่นแทนเชย์ลีนนั้น กระโดดลงไปโดยที่ไม่ได้ติดสลิงเลยแม้แต่เส้นเดียว
ลองดูเบื้องหลังในวีดีโอนี้เลย
8. โถงกินข้าวของกลุ่มผู้กล้าใน Divergent นั้นถ่ายทำกันที่สระน้ำเก่าที่สร้างตั้งแต่ในยุค 1930’s (ซึ่งมีขนาดใหญ่มากกกก)
9. ฉากต่อสู้ระหว่างทริซกับปีเตอร์ใน Divergent เราจะได้ยินเสียงสำลัก (จริงๆ) ของไมลส์ เทลเลอร์
ซึ่งจริงๆ แล้วเทคนี้เป็นอุบัติเหตุ ช่วงเทคแรกๆ ทั้งคู่ก็เล่นตามน้ำกันไป ใช้มุมกล้องแทนการจะชกต่อยกันจริงๆ แต่ไปๆ มาๆ การถ่ายทำเริ่มตึงเครียด และเข้นข้นขึ้น ผลสุดท้ายเชย์ลีนจึงต่อยไมลส์เข้าเต็มๆ อย่างจัง ซึ่งเทคนี้ก็คือที่ถูกเลือกใช้ในหนังนั่นเอง
ลองดูในวีดีโอ อยู่ที่วินาทีที่ 38 เลยจ้า
10. เวอโรนิก้า รอธ ผู้แต่งนิยาย เธอได้ร่วมแสดงใน Divergent ภาคแรกด้วย ซึ่งก็คือช่วงฉากที่ทริซจะไปคว้าธงบนตึกสูงนั่นเอง
ลองดูในวีดีโอ อยู่ที่วินาทีที่ 0:07 เลย
11. ก่อนหน้าที่เธอจะได้มารับบทเป็น ' ทริซ ไพรเออร์ ' ใน Divergent นั้น เธอเคยได้รับการพิจารณาให้รับบทเป็น แคทนิส เอเวอร์ดีน ในภาพยนตร์ชุด The Hunger Games มาก่อนอีกด้วย
12. นอกจากจะเป็นฮีโร่ในหนังแล้ว ธีโอ เจมส์ยังเป็นฮีโร่นอกจออีกด้วย
ระหว่างการถ่ายทำ Divergent โซอี้ คราวิทซ์ (ผู้รับบทเป็น คริสตินา) เกิดประสบอุบัติเหตุ เมื่อมีลมพัดแรงทำให้ประตูรถพ่วงเกิดปิด และกระแทกใส่หน้าเธอเข้าอย่างจัง ! เหตุการณ์นี้ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ เลือดไหลเล็กน้อย ธีโอผู้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยจึงจับเธอนอนลง พร้อมกับช่วยประคบน้ำแข็ง และทำแผลให้เธออีกด้วย
13. ใน The Fault in Our Stars (2014) เชย์ลีน วู้ดลีย์ และ แอนเซล เอลกอร์ต เล่นเป็นแฟนกัน แต่พอมาในหนังชุด THE DIVERGENT SERIES ทั้งคู่เล่นเป็นพี่น้องกันแทน
14. ธีโอ เจมส์ เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเล่นฉากจูบในหนังเอาไว้ว่า
“ ผมอยากจะซ้อมบทฉากจูบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเมื่อมันอยู่บนจอภาพยนตร์แล้ว ผมอยากจะให้คนดูได้รู้สึกเชื่อจริงๆ ว่า ทริซ และ โฟร์ นั้นมีความรักให้กันและกันจริงๆ ”
15. ธีโอ เล่นฉากแอ็คชั่นต่างๆ ในหนังด้วยตัวเองแทบทั้งหมด
16. ถ้าหากโลกถูกแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มแบบใน The Divergent Series ... ธีโอ เจมส์ ให้สัมภาษณ์ว่าเขาขอเลือกที่จะอยู่กับกลุ่มผู้กล้า (Dauntless) เหมือนกับบทบาทของโฟร์ที่เขาได้รับในภาพยนตร์
“ ผมขอเลือกที่จะอยู่ในกลุ่มผู้กล้า เพราะผมสามารถที่จะกิน ดื่ม หรือทำอะไรก็ได้ ซึ่งมันคงสนุกสนานมากเลยทีเดียว และอีกอย่างก็คือผู้หญิงในกลุ่มนี้ก็ดูร้อนแรงกว่ากันเยอะเลย ”
17. การมารับบทนำใน Divergent ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่ และยากมากสำหรับเชย์ลีน วู้ดลีย์
ซึ่งสุดท้ายแล้วเธอจึงลองเขียนอีเมลล์ไปหานักแสดงสาวอย่าง เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เพื่อขอคำปรึกษา โดยเธอเขียนไปทำนองที่ว่า ...
" สวัสดีเจนนิเฟอร์ ฉันรู้ว่าเธอคงไม่รู้จักฉันหรอกนะ แต่เผอิญว่าฉันได้รับโอกาสอันดีที่จะได้แสดงนำในภาพยนตร์ชุดเรื่องหนึ่ง และฉันก็อยากจะรู้ว่าจากการนำแสดงของคุณใน The Hunger Games นั้นมีอะไรกระทบกับชีวิตของคุณไหม ? คุณมีความสุขกับการตัดสินใจของคุณหรือไม่ ? ”
ซึ่งเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ก็ได้อีเมลล์ตอบกลับมาหาเธอว่า
" ฟังนะ มันมีอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตที่คุณไม่สมควรทำ เช่น การเสพยาเสพติด หรือแม้กระทั่งการอัดคลิปลับ แต่ถ้าหากคุณตัดสินใจรับบทนำนี้ แน่นอนว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล และฉันขอแนะนำให้คุณรับมันนะ "
18. Divergent นั้นสามารถทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 288 ล้านเหรียญสหรัฐ ... นี่จึงทำให้การสร้างภาคต่ออย่าง Insurgent นั้นถือได้ว่ามีความท้าทายเป็นอย่างมาก
19. ถึงแม้ว่าตัวละครอย่าง "ยูไรอาห์" จะเพิ่งโผล่มาให้เราเห็นแบบตัวเป็นๆ ใน Insurgent … แต่จริงๆ แล้วชื่อของ ยูไรอาห์นั้นก็ปรากฏอยู่บนป้ายบอร์ดคะแนนตั้งแต่ใน Divergent แล้ว
20. หลังจากที่เชลีนตัดผมสั้นเพื่อรับบทเป็นเฮเซล เกรส แลนแคสเตอร์ใน The Fault in Our Stars เธอปฏิเสธที่จะสวมวิกผมยาวเพื่อแสดง Insurgent โดยให้เหตุผลไว้ว่า
“ พวกเราวิ่ง และต่อสู้กันเยอะมาก ฉันจึงคิดว่าวิกจะทำให้ฉันดูน่าเกลียด มันจะดูดีกว่านี้มากที่จะมีฮีโร่หญิงวัยรุ่นที่มาพร้อมกับผมสั้นค่ะ ”
(ซึ่งในหนังสือนั้นจริงๆ ตัวละครทริซก็ตัดผม แต่ไม่ได้สั้นเท่ากับแบบในหนัง)
21. Insurgent ถือได้ว่าเป็นการแสดง ' หนังภาคต่อ ' เรื่องแรกในชีวิตของ เคท วินสเล็ต
22. ตอนเริ่มต้นโปรเจ็คต์ภาคต่ออย่าง Insurgent นั้น ได้มีการวางชื่อผู้กำกับในภาคที่แล้วอย่าง นีล เบอร์เกอร์ ให้มารับหน้าที่สานต่อภาพยนตร์ แต่ด้วยตารางการถ่ายทำที่ไม่ตรงกัน นีล เบอร์เกอร์จึงขอถอนตัวออกจากโปรเจ็คต์ และได้โรเบิร์ต ชเวนท์เก จาก RED , The Time Traveler's Wife และ Flightplan มารับหน้าที่ผู้กำกับสานต่อโปรเจ็คต์แทน
23. ช่วงการถ่ายทำ Insurgent ในสถานที่สาธารณะนั้น ทีมงานได้ใช้ชื่อกองถ่ายของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น “ Mineral ” แทนที่จะใช้ชื่อหลักอย่าง “ The Divergent Series: Insurgent ”
24. ถึงแม้เนื้อหาในภาพยนตร์จะเกิดขึ้นที่เมืองชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ แต่สถานที่ถ่ายทำส่วนใหญ่ของภาพยนตร์อยู่ที่เมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย
25. เชย์ลีน วู้ดลีย์ , ไมล์ส เทลเลอร์ และ แอนเซล เอลกอร์ต นั้นมีความสนิทสนมส่วนตัวกันเป็นพิเศษ
เพราะว่า INSURGENT คือหนังเรื่องที่ 3 แล้วที่พวกเขาได้แสดงร่วมกัน ... ภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ได้แก่ Divergent , The Spectacular Now และ The Fault in Our Stars
26. โรซ่า ซาลาซาร์ (คนซ้ายในภาพ) ไม่ได้ติดใจอะไรที่ต้องหั่นผมยาวทิ้งเพื่อเปลี่ยนลุคให้ดูแมนขึ้นเพื่อรับบท ' ลินน์ '
“บอกตามตรง ฉันตื่นเต้นมากเลยค่ะที่ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเอง” เธอพูดถึงทรงผมโมฮอล์คของเธอ
“การเปลี่ยนลุคทำให้ฉันมีอิสระค่ะ”
27. “ทริซชอบเตะก้นคนอื่น สตั๊นมากมายโดนเหมือนกันหมด” ธีโอ เจมส์ ผู้รับบทเป็นโฟร์ เพื่อนและคนรักของทริซ กล่าวแซวขำๆ
28. จอห์นนี่ เวสตัน รับบท ' เอ็ดการ์ ' ซึ่งเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉบับภาพยนตร์เท่านั้น
“ตัวละครของผมไม่มีอยู่ในหนังสือ” เขากล่าว
"ผมคิดว่ามันเหมาะเจาะมากที่ได้มีส่วนร่วมในภาค 2 เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนๆ"
29. คีย์แนน ลอนส์เดล (คนซ้ายในภาพ) ผู้รับบทยูไรอาห์ เพื่อนสนิทของทริซ เผาเชย์ลีนในกองถ่ายว่า
“เชย์ลีนชอบเต้นไปมาระหว่างการถ่ายทำ”
+++ รวมเด็ด " 40 เกร็ดความรู้ " จาก DIVERGENT สู่ INSURGENT +++
" INSURGENT " กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราวันพฤหัสที่ 19 มีนาคมนี้
วันนี้เลยขอจัดทำ " 40 เกร็ดความรู้ " แบบอ่านเพลิน ๆ สนุก ๆ ของนักแสดง และหนังชุดนี้มาให้ได้อ่านกัน เริ่มกันเลย !!
1. ' เวอโรนิก้า รอธ ' เริ่มแต่งนิยายชุด The Divergent Series นี้ตั้งแต่ตอนที่เธอยังเรียนอยู่ชั้นมัธยม
2. เหล่านักแสดงทั้งหมดต้องไปเข้าค่าย Boot Camp เพื่อฝึกซ้อมร่างกาย , ศิลปะการต่อสู้ด้วยกันเป็นเวลากว่า 2 เดือนก่อนจะเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์
3. เชย์ลีน วู้ดลีย์ เตรียมตัวมารับบท ' ทริซ ' ด้วยการลองจินตนาการย้อนกลับไปในช่วงที่เธอยังเป็นวัยรุ่น
เพื่อให้สอดคล้องกับตัวละครจากนิยายในหมู่วัยรุ่น เธอจึงต้องเตรียมการมารับบทนี้ โดยการลองนึกย้อนกลับไปว่าในช่วงวัยรุ่นเธอต้องต่อสู้กับอะไรบ้างทั้งจากสภาพภายนอก และภายในจิตใจ จากนั้นจึงนำมาดัดแปลง – ปรับให้เข้ากับตัวละครอย่าง ทริซ นั่นเอง
4. เดิมทีนั้น ไมลส์ เทลเลอร์ เข้ามาแคสติ้งนักแสดงในบทบาทของ ' โฟร์ ' แต่ก็พลาดท่าไป
ในเดือนถัดมาผู้อำนวยการสร้างได้มีโอกาสดูหนังเรื่อง The Spectacular Now (2013) [ ซึ่งเขาแสดงร่วมกับเชย์ลีน ] แล้วก็เกิดชื่นชอบในตัวไมลส์เป็นอย่างมาก จึงเรียกไมลส์กลับมาใหม่โดยเสนอว่าจะให้เล่นเป็นบท อีริค (หนึ่งในผู้นำของกลุ่มผู้กล้า) ซึ่งจะต้องเฉือนบทบาทอันเข้มข้นกับโฟร์ (ธีโอ เจมส์) อยู่บ่อยๆ แต่ไมลส์กลับบอกว่า เขาไม่น่าจะเล่นบทอารมณ์เข้มข้นๆ แบบนั้นกับธีโอได้ ...สุดท้ายแล้วเขาจึงคว้าบท ' ปีเตอร์ ' ไปแทน (ซึ่งเหตุผลที่เขาตกลงเล่นบทนี้ก็เพราะ เชย์ลีน วู้ดลีย์ ส่งข้อความไปให้เขาตกลงรับบท เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ร่วมงานกันอีก)
5. ระหว่างการถ่ายทำ Divergent : เคท วินสเลต ตั้งท้องอยู่ 5 เดือน นั่นจึงทำให้ฉากไหนที่มีเธอ ทางทีมงานจึงต้องปรับบทให้ตัวละครของเธออย่าง ' เจอนีน ' ถือพวกแฟ้ม , เอกสาร หรือ iPad เพื่อบังท้องเอาไว้
6. เชย์ลีน วู้ดลีย์ ... เธอทำอาหารทานเองในกองถ่ายด้วย !
ช่วงพักเบรกกินข้าว เธอจะไม่กินอาหารของในกองถ่าย แต่เธอจะไปเตรียมวัตถุดิบทำอาหารในแบบไลฟ์สไตล์ของตัวเธอเอง ไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้า กลางวัน หรือเย็นก็ตามที
7. ฉากที่ทริซต้องกระโดดจากตึกสูงเพื่อลงไปยังพื้นที่ของกลุ่มผู้กล้า สตั๊นที่มาเล่นแทนเชย์ลีนนั้น กระโดดลงไปโดยที่ไม่ได้ติดสลิงเลยแม้แต่เส้นเดียว
ลองดูเบื้องหลังในวีดีโอนี้เลย
8. โถงกินข้าวของกลุ่มผู้กล้าใน Divergent นั้นถ่ายทำกันที่สระน้ำเก่าที่สร้างตั้งแต่ในยุค 1930’s (ซึ่งมีขนาดใหญ่มากกกก)
9. ฉากต่อสู้ระหว่างทริซกับปีเตอร์ใน Divergent เราจะได้ยินเสียงสำลัก (จริงๆ) ของไมลส์ เทลเลอร์
ซึ่งจริงๆ แล้วเทคนี้เป็นอุบัติเหตุ ช่วงเทคแรกๆ ทั้งคู่ก็เล่นตามน้ำกันไป ใช้มุมกล้องแทนการจะชกต่อยกันจริงๆ แต่ไปๆ มาๆ การถ่ายทำเริ่มตึงเครียด และเข้นข้นขึ้น ผลสุดท้ายเชย์ลีนจึงต่อยไมลส์เข้าเต็มๆ อย่างจัง ซึ่งเทคนี้ก็คือที่ถูกเลือกใช้ในหนังนั่นเอง
ลองดูในวีดีโอ อยู่ที่วินาทีที่ 38 เลยจ้า
10. เวอโรนิก้า รอธ ผู้แต่งนิยาย เธอได้ร่วมแสดงใน Divergent ภาคแรกด้วย ซึ่งก็คือช่วงฉากที่ทริซจะไปคว้าธงบนตึกสูงนั่นเอง
ลองดูในวีดีโอ อยู่ที่วินาทีที่ 0:07 เลย
11. ก่อนหน้าที่เธอจะได้มารับบทเป็น ' ทริซ ไพรเออร์ ' ใน Divergent นั้น เธอเคยได้รับการพิจารณาให้รับบทเป็น แคทนิส เอเวอร์ดีน ในภาพยนตร์ชุด The Hunger Games มาก่อนอีกด้วย
12. นอกจากจะเป็นฮีโร่ในหนังแล้ว ธีโอ เจมส์ยังเป็นฮีโร่นอกจออีกด้วย
ระหว่างการถ่ายทำ Divergent โซอี้ คราวิทซ์ (ผู้รับบทเป็น คริสตินา) เกิดประสบอุบัติเหตุ เมื่อมีลมพัดแรงทำให้ประตูรถพ่วงเกิดปิด และกระแทกใส่หน้าเธอเข้าอย่างจัง ! เหตุการณ์นี้ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ เลือดไหลเล็กน้อย ธีโอผู้ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยจึงจับเธอนอนลง พร้อมกับช่วยประคบน้ำแข็ง และทำแผลให้เธออีกด้วย
13. ใน The Fault in Our Stars (2014) เชย์ลีน วู้ดลีย์ และ แอนเซล เอลกอร์ต เล่นเป็นแฟนกัน แต่พอมาในหนังชุด THE DIVERGENT SERIES ทั้งคู่เล่นเป็นพี่น้องกันแทน
14. ธีโอ เจมส์ เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเล่นฉากจูบในหนังเอาไว้ว่า “ ผมอยากจะซ้อมบทฉากจูบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเมื่อมันอยู่บนจอภาพยนตร์แล้ว ผมอยากจะให้คนดูได้รู้สึกเชื่อจริงๆ ว่า ทริซ และ โฟร์ นั้นมีความรักให้กันและกันจริงๆ ”
15. ธีโอ เล่นฉากแอ็คชั่นต่างๆ ในหนังด้วยตัวเองแทบทั้งหมด
16. ถ้าหากโลกถูกแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มแบบใน The Divergent Series ... ธีโอ เจมส์ ให้สัมภาษณ์ว่าเขาขอเลือกที่จะอยู่กับกลุ่มผู้กล้า (Dauntless) เหมือนกับบทบาทของโฟร์ที่เขาได้รับในภาพยนตร์
“ ผมขอเลือกที่จะอยู่ในกลุ่มผู้กล้า เพราะผมสามารถที่จะกิน ดื่ม หรือทำอะไรก็ได้ ซึ่งมันคงสนุกสนานมากเลยทีเดียว และอีกอย่างก็คือผู้หญิงในกลุ่มนี้ก็ดูร้อนแรงกว่ากันเยอะเลย ”
17. การมารับบทนำใน Divergent ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ใหญ่ และยากมากสำหรับเชย์ลีน วู้ดลีย์
ซึ่งสุดท้ายแล้วเธอจึงลองเขียนอีเมลล์ไปหานักแสดงสาวอย่าง เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ เพื่อขอคำปรึกษา โดยเธอเขียนไปทำนองที่ว่า ...
" สวัสดีเจนนิเฟอร์ ฉันรู้ว่าเธอคงไม่รู้จักฉันหรอกนะ แต่เผอิญว่าฉันได้รับโอกาสอันดีที่จะได้แสดงนำในภาพยนตร์ชุดเรื่องหนึ่ง และฉันก็อยากจะรู้ว่าจากการนำแสดงของคุณใน The Hunger Games นั้นมีอะไรกระทบกับชีวิตของคุณไหม ? คุณมีความสุขกับการตัดสินใจของคุณหรือไม่ ? ”
ซึ่งเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ก็ได้อีเมลล์ตอบกลับมาหาเธอว่า " ฟังนะ มันมีอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตที่คุณไม่สมควรทำ เช่น การเสพยาเสพติด หรือแม้กระทั่งการอัดคลิปลับ แต่ถ้าหากคุณตัดสินใจรับบทนำนี้ แน่นอนว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล และฉันขอแนะนำให้คุณรับมันนะ "
18. Divergent นั้นสามารถทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 288 ล้านเหรียญสหรัฐ ... นี่จึงทำให้การสร้างภาคต่ออย่าง Insurgent นั้นถือได้ว่ามีความท้าทายเป็นอย่างมาก
19. ถึงแม้ว่าตัวละครอย่าง "ยูไรอาห์" จะเพิ่งโผล่มาให้เราเห็นแบบตัวเป็นๆ ใน Insurgent … แต่จริงๆ แล้วชื่อของ ยูไรอาห์นั้นก็ปรากฏอยู่บนป้ายบอร์ดคะแนนตั้งแต่ใน Divergent แล้ว
20. หลังจากที่เชลีนตัดผมสั้นเพื่อรับบทเป็นเฮเซล เกรส แลนแคสเตอร์ใน The Fault in Our Stars เธอปฏิเสธที่จะสวมวิกผมยาวเพื่อแสดง Insurgent โดยให้เหตุผลไว้ว่า
“ พวกเราวิ่ง และต่อสู้กันเยอะมาก ฉันจึงคิดว่าวิกจะทำให้ฉันดูน่าเกลียด มันจะดูดีกว่านี้มากที่จะมีฮีโร่หญิงวัยรุ่นที่มาพร้อมกับผมสั้นค่ะ ”
(ซึ่งในหนังสือนั้นจริงๆ ตัวละครทริซก็ตัดผม แต่ไม่ได้สั้นเท่ากับแบบในหนัง)
21. Insurgent ถือได้ว่าเป็นการแสดง ' หนังภาคต่อ ' เรื่องแรกในชีวิตของ เคท วินสเล็ต
22. ตอนเริ่มต้นโปรเจ็คต์ภาคต่ออย่าง Insurgent นั้น ได้มีการวางชื่อผู้กำกับในภาคที่แล้วอย่าง นีล เบอร์เกอร์ ให้มารับหน้าที่สานต่อภาพยนตร์ แต่ด้วยตารางการถ่ายทำที่ไม่ตรงกัน นีล เบอร์เกอร์จึงขอถอนตัวออกจากโปรเจ็คต์ และได้โรเบิร์ต ชเวนท์เก จาก RED , The Time Traveler's Wife และ Flightplan มารับหน้าที่ผู้กำกับสานต่อโปรเจ็คต์แทน
23. ช่วงการถ่ายทำ Insurgent ในสถานที่สาธารณะนั้น ทีมงานได้ใช้ชื่อกองถ่ายของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็น “ Mineral ” แทนที่จะใช้ชื่อหลักอย่าง “ The Divergent Series: Insurgent ”
24. ถึงแม้เนื้อหาในภาพยนตร์จะเกิดขึ้นที่เมืองชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ แต่สถานที่ถ่ายทำส่วนใหญ่ของภาพยนตร์อยู่ที่เมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย
25. เชย์ลีน วู้ดลีย์ , ไมล์ส เทลเลอร์ และ แอนเซล เอลกอร์ต นั้นมีความสนิทสนมส่วนตัวกันเป็นพิเศษ
เพราะว่า INSURGENT คือหนังเรื่องที่ 3 แล้วที่พวกเขาได้แสดงร่วมกัน ... ภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ได้แก่ Divergent , The Spectacular Now และ The Fault in Our Stars
26. โรซ่า ซาลาซาร์ (คนซ้ายในภาพ) ไม่ได้ติดใจอะไรที่ต้องหั่นผมยาวทิ้งเพื่อเปลี่ยนลุคให้ดูแมนขึ้นเพื่อรับบท ' ลินน์ '
“บอกตามตรง ฉันตื่นเต้นมากเลยค่ะที่ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเอง” เธอพูดถึงทรงผมโมฮอล์คของเธอ “การเปลี่ยนลุคทำให้ฉันมีอิสระค่ะ”
27. “ทริซชอบเตะก้นคนอื่น สตั๊นมากมายโดนเหมือนกันหมด” ธีโอ เจมส์ ผู้รับบทเป็นโฟร์ เพื่อนและคนรักของทริซ กล่าวแซวขำๆ
28. จอห์นนี่ เวสตัน รับบท ' เอ็ดการ์ ' ซึ่งเป็นตัวละครที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉบับภาพยนตร์เท่านั้น
“ตัวละครของผมไม่มีอยู่ในหนังสือ” เขากล่าว "ผมคิดว่ามันเหมาะเจาะมากที่ได้มีส่วนร่วมในภาค 2 เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนๆ"
29. คีย์แนน ลอนส์เดล (คนซ้ายในภาพ) ผู้รับบทยูไรอาห์ เพื่อนสนิทของทริซ เผาเชย์ลีนในกองถ่ายว่า
“เชย์ลีนชอบเต้นไปมาระหว่างการถ่ายทำ”