เรื่องมีอยู่ว่า เย็นวันก่อน ไปรับลูกกลับมาจากโรงเรียน พร้อมกับเพื่อนๆค่ะ เพราะตั้งใจว่าจะพาลูกไปกินข้าวที่บ้านเพื่อนต่อ แล้วตอนขากลับก็แวะตลาดกับข้าว (ขายแต่กับข้าวสำเร็จไม่มีของสด) เพื่อซื้อกับข้าวไปกินด้วยกัน เราก็จูงลูกเดินผ่านร้านกับข้าวตามทางเดินเรื่อยมา
จนมาถึงร้านนึง ขายกับข้าว 3-4 อย่าง แล้วก็มีข้าวสวย ข้าวกล้อง กับข้าวดอกอัญชัญหุงสำเร็จขาย
ลูกสาวเห็นข้าวสีม่วงก็อยากได้ ร้องว่าจะเอาๆ (ลูกสาว 2 ขวบ 8 เดือนค่ะ)
เราก็พยายามพูดกับลูกว่า ที่บ้านป้า (เพื่อนเราที่จะไปกินข้าวบ้านเค้า) มีข้าวแล้วลูก อะไรที่มีแล้วเราไม่ต้องซื้ออีกนะคะ มันเปลืองเงิน
ลูกก็โวยวายๆ นิดๆ นะคะไม่มากมายอะไร
เจ้าของร้านที่ขายข้าวเลยหันมาถามว่า (ชี้ที่ลูกเรา) อยากได้อะไรน่ะ
เราก็ตอบว่า อยากได้ข้าวค่ะ แต่ที่บ้านมีแล้ว
เจ้าของร้านก็บอกว่า ซื้อให้ไปเถอะ ถุงละ 5 บาทเอง
เราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ เพราะตอนนั้นใจจดจ่อกับลูก พยายามอธิบายเหตุผลว่าเราไม่ต้องซื้อ มันไม่จำเป็น
ระหว่างที่คุยกับลูก แล้วลูกก็งอแงสลับกับโวยวาย ทั้งเจ้าของร้านข้าวอัญชัญ และร้านข้าวข้างๆ เริ่มมองเราตาขวางๆ เราก็มองดูรอบๆ ก็ไม่ได้บังหน้าร้านอะไรเค้านะ ยืนห่างออกมาเมตรนึงได้ ก็เลยคุยกับลูกต่อ ระยะเวลาที่คุยกับลูกน่าจะเกือยบ 15 นาทีได้ แต่เราคิดว่า ยังไงเราก็จะต้องสอนลูกให้รู้คุณค่าของเงิน ไม่ใช่ว่าเค้าจะต้องได้ทุกอย่างที่เค้าอยากได้ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เงิน 5 บาท 10 บาท แต่มันอยู่ที่การรู้จักการควบคุมความอยากได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องการจะสอนลูก แล้วลูกก็ไม่ได้ถึงขั้นกรีดร้อง ลงไปชักดิ้นชักงอ เราเลยยังเห็นว่า ยังคุยกันด้วยเหตุผลได้อยู่
ระหว่างนั้น เพื่อนๆของเราสามคนก็เดินซื้อกับข้าวกันตามอัธยาศัย เห็นเราคุยกับลูกเค้าก็ปล่อยเรา เค้าซื้อกับข้าวกันเอง
จนพอผ่านไป 15 นาที ลูกสาวคงเห็นว่าไม่ได้แน่ เลยบอกว่า งั้นขอซื้อกล้วยแทนได้ไม๊ เราก็เลยตอบว่า โอเคค่ะ เพราะที่บ้านป้าไม่มีกล้วย เราซื้อกล้วยไปทานหลังทานข้าวกันนะคะ ก็อุ้มลูกเดินออกจากตรงนั้นเพื่อไปซื้อกล้วย
พอเราเดินออกมา มีเพื่อนคนนึงที่เดินผ่านจุดที่เราเพิ่งออกมา แล้วซื้อกับข้าวร้านข้างๆร้านที่ขายข้าวอัญชัญ แม่ค้าร้านกับข้าวร้านนี้ นินทากับเพื่อนเราว่า เนี่ย...แม่ใจร้าย ลูกอยากได้ข้าวก็ไม่ซื้อให้ แค่ 5 บาท ถ้าซื้อไปแล้วลูกไม่กินก็ทิ้งไปสิ จะอะไรนักหนาแค่ 5 บาท
เพื่อนมาเล่าให้เราฟังตอนขึ้นรถขับออกมาจากตลาดแล้วค่ะ
โห...พอฟังแล้วของขึ้นเลยเหมือนกันนะคะ เราต้องการเลี้ยงลูกในแบบที่เราเชื่อว่าดีแล้ว เราไม่ได้ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจลูกถึงขนาดที่จะต้องให้เค้าออกมาปกป้องไม๊คะ
ที่มาเล่าเพราะหลังๆมานี่ เจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้หลายๆครั้งค่ะ เช่นครั้งนึง ลูกร้องกินไอติมก่อนกินข้าว เราก็ยืนยันว่าไม่ให้ ก็เจอคนวิจารณ์แบบนี้ คืองงอ่ะค่ะ ว่าทำไมถึงมาตัดสินคนอื่น ทั้งๆที่คุณไม่ได้รู้ที่มาที่ไป ไม่รู้ว่าคนอื่นเค้าเจออะไรมาบ้าง ไม่รู้ถึงสิ่งที่เค้าต้องการ แต่กลับมาวิพากษ์วิจารณ์นินทาว่าเป็นแม่ใจร้าย.........แม่ใจร้ายเลยนะคะ
ใครเป็นแม่ใจร้ายแบบเราบ้างคะ
คุณรู้สึกอย่างไรถ้ามีคนมาวิจารณ์การเลี้ยงลูกของคุณแบบนี้
จนมาถึงร้านนึง ขายกับข้าว 3-4 อย่าง แล้วก็มีข้าวสวย ข้าวกล้อง กับข้าวดอกอัญชัญหุงสำเร็จขาย
ลูกสาวเห็นข้าวสีม่วงก็อยากได้ ร้องว่าจะเอาๆ (ลูกสาว 2 ขวบ 8 เดือนค่ะ)
เราก็พยายามพูดกับลูกว่า ที่บ้านป้า (เพื่อนเราที่จะไปกินข้าวบ้านเค้า) มีข้าวแล้วลูก อะไรที่มีแล้วเราไม่ต้องซื้ออีกนะคะ มันเปลืองเงิน
ลูกก็โวยวายๆ นิดๆ นะคะไม่มากมายอะไร
เจ้าของร้านที่ขายข้าวเลยหันมาถามว่า (ชี้ที่ลูกเรา) อยากได้อะไรน่ะ
เราก็ตอบว่า อยากได้ข้าวค่ะ แต่ที่บ้านมีแล้ว
เจ้าของร้านก็บอกว่า ซื้อให้ไปเถอะ ถุงละ 5 บาทเอง
เราก็ไม่ได้คิดอะไรนะ เพราะตอนนั้นใจจดจ่อกับลูก พยายามอธิบายเหตุผลว่าเราไม่ต้องซื้อ มันไม่จำเป็น
ระหว่างที่คุยกับลูก แล้วลูกก็งอแงสลับกับโวยวาย ทั้งเจ้าของร้านข้าวอัญชัญ และร้านข้าวข้างๆ เริ่มมองเราตาขวางๆ เราก็มองดูรอบๆ ก็ไม่ได้บังหน้าร้านอะไรเค้านะ ยืนห่างออกมาเมตรนึงได้ ก็เลยคุยกับลูกต่อ ระยะเวลาที่คุยกับลูกน่าจะเกือยบ 15 นาทีได้ แต่เราคิดว่า ยังไงเราก็จะต้องสอนลูกให้รู้คุณค่าของเงิน ไม่ใช่ว่าเค้าจะต้องได้ทุกอย่างที่เค้าอยากได้ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เงิน 5 บาท 10 บาท แต่มันอยู่ที่การรู้จักการควบคุมความอยากได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องการจะสอนลูก แล้วลูกก็ไม่ได้ถึงขั้นกรีดร้อง ลงไปชักดิ้นชักงอ เราเลยยังเห็นว่า ยังคุยกันด้วยเหตุผลได้อยู่
ระหว่างนั้น เพื่อนๆของเราสามคนก็เดินซื้อกับข้าวกันตามอัธยาศัย เห็นเราคุยกับลูกเค้าก็ปล่อยเรา เค้าซื้อกับข้าวกันเอง
จนพอผ่านไป 15 นาที ลูกสาวคงเห็นว่าไม่ได้แน่ เลยบอกว่า งั้นขอซื้อกล้วยแทนได้ไม๊ เราก็เลยตอบว่า โอเคค่ะ เพราะที่บ้านป้าไม่มีกล้วย เราซื้อกล้วยไปทานหลังทานข้าวกันนะคะ ก็อุ้มลูกเดินออกจากตรงนั้นเพื่อไปซื้อกล้วย
พอเราเดินออกมา มีเพื่อนคนนึงที่เดินผ่านจุดที่เราเพิ่งออกมา แล้วซื้อกับข้าวร้านข้างๆร้านที่ขายข้าวอัญชัญ แม่ค้าร้านกับข้าวร้านนี้ นินทากับเพื่อนเราว่า เนี่ย...แม่ใจร้าย ลูกอยากได้ข้าวก็ไม่ซื้อให้ แค่ 5 บาท ถ้าซื้อไปแล้วลูกไม่กินก็ทิ้งไปสิ จะอะไรนักหนาแค่ 5 บาท
เพื่อนมาเล่าให้เราฟังตอนขึ้นรถขับออกมาจากตลาดแล้วค่ะ
โห...พอฟังแล้วของขึ้นเลยเหมือนกันนะคะ เราต้องการเลี้ยงลูกในแบบที่เราเชื่อว่าดีแล้ว เราไม่ได้ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจลูกถึงขนาดที่จะต้องให้เค้าออกมาปกป้องไม๊คะ
ที่มาเล่าเพราะหลังๆมานี่ เจอเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้หลายๆครั้งค่ะ เช่นครั้งนึง ลูกร้องกินไอติมก่อนกินข้าว เราก็ยืนยันว่าไม่ให้ ก็เจอคนวิจารณ์แบบนี้ คืองงอ่ะค่ะ ว่าทำไมถึงมาตัดสินคนอื่น ทั้งๆที่คุณไม่ได้รู้ที่มาที่ไป ไม่รู้ว่าคนอื่นเค้าเจออะไรมาบ้าง ไม่รู้ถึงสิ่งที่เค้าต้องการ แต่กลับมาวิพากษ์วิจารณ์นินทาว่าเป็นแม่ใจร้าย.........แม่ใจร้ายเลยนะคะ
ใครเป็นแม่ใจร้ายแบบเราบ้างคะ