จากมติชนออนไลน์
รองผบ.ตร. เผยสั่งผบก.ภ.จว. สกลนคร ตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุวิสามัญสมควรแก่เหตุหรือไม่ ยันเจ้าหน้าที่มียุทธวิธีปฏิบัติ ยิงป้องกันตัวได้
พลตำรวจเอกเรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานป้องกันและปราบปราม และรับผิดชอบพื้นที่ตำรวจภูธรภาค4 เปิดเผยถึงกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจจากตำรวจสถานีภูธรจังหวัดสกลนคร วิสามัญ นายฤไพพงษ์ ถาบุตร อายุ 50 ปีที่มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดในชุมชนหลังมีผู้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม
โดยในสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่และวิจารณ์กันถึงคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวระหว่างตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านซึ่งนายฤไพพงษ์ พยายามใช้มีดปลายแหลมแทงเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้เข้าตรวจค้นและบอกว่ามีอาวุธปืน ก่อนวิ่งเข้าประชิดตัวเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงป้องกันตัวจนทำให้กระสุนถูก นายฤไพพงษ์ และ ล้มกองลงกับพื้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่นายฤไพพงษ์เสียชีวิตในเวลาต่อมา
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ไปตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบภายในวันนี้ โดยต้องตรวจสอบทั้งก่อนและภายหลังภาพที่มีการเผยแพร่ เพราะเจ้าหน้าที่ก่อนจะเข้าไปมีการเตรียมความพร้อมเป็นชั่วโมง รวมถึงเหตุการณ์ภายหลังในคลิปด้วยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งกรณีนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ โดยไม่อยากให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องเสียกำลังใจ
พร้อมยืนยันว่าตำรวจมีระเบียบแบบแผนและยุทธวิธีการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นข้อกฎหมายที่กำหนดไว้เกี่ยวกับเรื่องป้องกันตัวไว้อยู่ซึ่งหากเป็นการป้องกันตัวต้องตัดสินใจต้องยิงบริเวณแขนหรือขาหรือส่วนอื่นๆที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตซึ่งประเด็นสำคัญที่จะต้องตรวจสอบดูข้อเท็จจริงคือมีความสมควรแก่เหตุหรือไม่ เพราะหากผู้ต้องหาเข้ามากระชั้นชิดและมีอาวุธทำร้ายเจ้าพนักงานต้องตัดสินใจในเสี้ยววินาที โดยให้ทางผู้การจังหวัดรายงานภายในช่วงเย็นวันนี้เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงสงสัย
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามยังพลตำรวจตรีพลศักดิ์ บรรจงศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนครแล้ว ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการประชุมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อติดตามสถานการณ์อยู่
รองผบ.ตร. สั่งด่วน! ผบก.สกลนคร สอบข้อเท็จจริง ปมตำรวจวิสามัญผู้ต้องหาค้ายา!?
รองผบ.ตร. เผยสั่งผบก.ภ.จว. สกลนคร ตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุวิสามัญสมควรแก่เหตุหรือไม่ ยันเจ้าหน้าที่มียุทธวิธีปฏิบัติ ยิงป้องกันตัวได้
พลตำรวจเอกเรืองศักดิ์ จริตเอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานป้องกันและปราบปราม และรับผิดชอบพื้นที่ตำรวจภูธรภาค4 เปิดเผยถึงกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจจากตำรวจสถานีภูธรจังหวัดสกลนคร วิสามัญ นายฤไพพงษ์ ถาบุตร อายุ 50 ปีที่มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดในชุมชนหลังมีผู้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม
โดยในสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่และวิจารณ์กันถึงคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวระหว่างตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านซึ่งนายฤไพพงษ์ พยายามใช้มีดปลายแหลมแทงเจ้าหน้าที่ เพื่อไม่ให้เข้าตรวจค้นและบอกว่ามีอาวุธปืน ก่อนวิ่งเข้าประชิดตัวเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจยิงป้องกันตัวจนทำให้กระสุนถูก นายฤไพพงษ์ และ ล้มกองลงกับพื้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่นายฤไพพงษ์เสียชีวิตในเวลาต่อมา
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ไปตรวจสอบและรายงานข้อเท็จจริงให้ทราบภายในวันนี้ โดยต้องตรวจสอบทั้งก่อนและภายหลังภาพที่มีการเผยแพร่ เพราะเจ้าหน้าที่ก่อนจะเข้าไปมีการเตรียมความพร้อมเป็นชั่วโมง รวมถึงเหตุการณ์ภายหลังในคลิปด้วยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งกรณีนี้จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ โดยไม่อยากให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องเสียกำลังใจ
พร้อมยืนยันว่าตำรวจมีระเบียบแบบแผนและยุทธวิธีการปฏิบัติหน้าที่ที่เป็นข้อกฎหมายที่กำหนดไว้เกี่ยวกับเรื่องป้องกันตัวไว้อยู่ซึ่งหากเป็นการป้องกันตัวต้องตัดสินใจต้องยิงบริเวณแขนหรือขาหรือส่วนอื่นๆที่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตซึ่งประเด็นสำคัญที่จะต้องตรวจสอบดูข้อเท็จจริงคือมีความสมควรแก่เหตุหรือไม่ เพราะหากผู้ต้องหาเข้ามากระชั้นชิดและมีอาวุธทำร้ายเจ้าพนักงานต้องตัดสินใจในเสี้ยววินาที โดยให้ทางผู้การจังหวัดรายงานภายในช่วงเย็นวันนี้เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงสงสัย
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามยังพลตำรวจตรีพลศักดิ์ บรรจงศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนครแล้ว ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการประชุมกับผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อติดตามสถานการณ์อยู่