สวัสดีค่ะ ปกติไม่เคยเขียนรีวิวอะไรเลย นี่คือครั้งแรกในชีวิต เลยอยากจะรีวิวรูปภาพงานที่สำคัญที่สุดในชีวิตค่ะ งานแต่งงานของเราเอง เราจัดงานแต่งงานสองที่ค่ะ ที่แรกที่กรุงเทพฯ รีวิวกระทู้นี้ค่ะ อีกที่จัดที่ต่างจังหวัดค่ะ จัดที่ริมทะเล ปราณบุรี (http://ppantip.com/topic/33404654)

ต้องบอกก่อนว่า โดยลักษณะนิสัยส่วนตัวนั้น เราเป็นคนที่ชอบอะไรไทยๆมาก (แต่สามีไม่ไทยเอาซะเลย) วิชาโปรดคือวิชาภาษาไทย ชอบเรียนประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะในยุคก่อนๆ เราชอบผ้าไทย ชอบดูโขนกับละครพีเรียด ฯลฯ ฉะนั้น ถ้าเราจะแต่งงาน เราไม่อยากจัดงานแต่งงานที่โรงแรมเท่าไร เราอยากแต่งที่บ้านทรงไทยหรือบ้านไทยแบบโคโลเนียลค่ะ (ชอบละครเรื่องวนิดามากๆ 555 ประกอบกับที่แฟนเราเป็นทหาร นึกถึงในละครเลย) เราก็เลยหาข้อมูล ถามเพื่อนๆที่รู้จัก มีเพื่อนที่เป็นพี่น้องคู่นึงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานแต่งงาน พวกเขามีข้อมูลพร้อมสรรพ (เธอรู้ว่าเธอคือใคร 555) เลยได้สถานที่คร่าวๆมา เราเป็นคนฝั่งธนบุรี เลยไม่อยากไปจัดไกลจากบ้านมากเกินไป เราเลยไปตะลอนๆดูที่ทางต่างๆในกรุงเทพฯ โดยตัวเลือกที่มีคือ 3 ตัวเลือก ดังนี้ค่ะ

1.    สยามเฮ้าส์ โคโลเนียล (Siam House Colonial) ที่ราชดำเนิน ใกล้ๆกับวัดราชนัดดาแล้วก็ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เหตุผลเพราะเพื่อนที่เป็นสองศรีพี่น้องแนะนำมา เขาบอกว่ามันดีมากเลย ไม่แพง มีเตรียมพิธีการให้ครบ ไม่ไกลด้วย อยู่ใกล้ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ อีกอย่าง เป็นบ้านแบบโคโลเนียลตัวบ้านสีเหลือง หน้าต่างสีเขียว (คล้ายๆกระทรวงกลาโหม) นึกถึงละครเรื่องวนิดาเลย สมัยคุณประจักษ์ กระโปรงพองๆนี่ลอยมาเลยค่ะ เราก็ไปดูสถานที่กับเพื่อน โดยส่วนตัวชอบตัวตึกและที่ตั้ง ตอนแรกปักใจไว้ว่าจะต้องเอาที่นี่แน่ๆ แต่เราไม่ได้เลือกที่นี่เพราะรู้สึกว่าจุจำนวนคนได้น้อยค่ะ น่าประมาณ 50-100 คน แต่ว่างานเรากะประมาณคนเอาไว้ 100-200 คน บริเวณจัดงานด้านบนจะค่อนข้างเล็ก กลัวจะไม่มีที่พอสำหรับทุกคน และสถานที่จอดรถ ต้องไปจอดที่วัดแล้วจะมี Shuttle ไปรับค่ะ เสียดายค่ะ อดได้เป็นวนิดา (เว็บไซต์: http://www.siamhousegroup.com/index.php/th/siam-house-colonial)

2.    สยามเฮ้าส์ วิลเลจ (Siam House Village) ที่พุทธมณฑล สาย 3 นี่คือสถานที่แห่งที่ 2 ที่ได้มาดูสถานที่ เจ้าของเดียวกับสยามเฮ้าส์ โคโลเนียลค่ะ ตอนแรกดูจากรูปภาพในอินเตอร์เน็ตแล้วรู้สึกว่า มันไกลจังเลย ทรงไทยจ๋า แล้วบ้านจะร้อนไหมนะ จะจัดเลี้ยงส่วนไหน ต่อมาก็เลยไปดูสถานที่ด้วยกันกับที่บ้าน ไกลจริงๆแหละค่ะ แต่ก็ไม่ได้ไกลบ้านเราจนเกินไป พอลงจากรถ เห็นแว้บแรกเท่านั้นแหละ เรารู้สึกว่า “มันใช่เลย” ไม่รู้ว่าเคยมีใครมีความรู้สึกนี้บ้างไหมนะคะกับสถานที่ เราได้เดินดูรอบๆกับแม่และน้องสาว ได้ไปดูตำแหน่งการทำพิธีสู่ขอ พิธีรดน้ำสังข์ พิธีสงฆ์ และห้องจัดเลี้ยง โดยสถานที่โดยตัวมันเองเป็นบ้านทรงไทยที่มีอายุมากกว่า 120 ปี ชอบมาก สถานที่จัดเลี้ยงมีแอร์ติด มีลานจอดรถที่สามารถจุรถได้ค่อนข้างเยอะ ขนาดของสถานที่เหมาะสมกับจำนวนคนที่เรากะไว้ค่ะ เมื่อคำนวณทุกอย่างแล้ว ปักใจเลยว่า “ที่นี่แหละ” (เว็บไซต์: http://www.siamhousegroup.com/index.php/th/siam-house-village)    

3.    บ้านหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ซอยสวนพลู นี่คือสถานที่ที่ 3 ที่ไปดู อันนี้ไปดูกับเพื่อนเพราะเคยเห็นรีวิวของคุณ Sleepy Sweetie (http://ppantip.com/topic/31553698) แล้วสวยมากค่ะ อยากไปเห็นด้วยตา กลัวว่าเดี๋ยวหากไม่ได้มาดูแล้วจะเสียใจ อีกอย่างบ้านหม่อมก็อยู่ใจกลางเมืองเลย คงไปเองไม่ยาก พอเดินๆเข้าซอยสวนพลูมาเรื่อยๆแล้วมาเจอก็รู้สึกว่า โอ้โห มีที่แบบนี้อยู่ใจกลางกรุงเทพด้วยหรอเนี่ย พอไปถึงก็มีคนนำชมจุดต่างๆของการทำพิธี ส่วนของการจัดเลี้ยง ได้สอบถามเรื่องต่างๆที่อยากรู้ ส่วนตัวแล้วชอบบ้านทรงไทยอยู่แล้วก็เลยชอบที่นี่ค่ะ (เว็บไซต์: http://www.kukritshousefund.com/index.php)

หลังจากดูสถานที่สุดท้าย ก็ไปนั่งคุยกับเพื่อนที่ร้านกาแฟ นั่งคิดชั่งใจว่าจะยังไง สุดท้ายก็เลยตัดสินใจเลือก สยามเฮ้าส์ วิลเลจ (Siam House Village) ที่พุทธมณฑล สาย 3 เพราะรู้สึกว่าใช่ที่สุด

การ์ดแต่งงาน – เราใช้บริการของร้าน Silver Lab ที่มาบุญครองค่ะ เราเลือกแบบที่อยากได้เอง เขียนข้อความที่อยากใส่เอง แบบและความหนาของกระดาษ ที่ร้านจะมีคนที่ออกแบบและให้เราดูตลอดๆว่าเราโอเคหรือยัง ตอนนั้นที่ร้านมีโปรโมชั่น เราเลยได้สมุดเซ็นแถมมาด้วย พร้อมกับสติ๊กเกอร์แท็กติดของชำร่วยค่ะ งานได้เร็วมาก มีสั่งเพิ่มก็ได้เร็วค่ะ ราคาไม่แพง (เว็บไซต์: https://www.facebook.com/silverlabmbkcenter)

ขออนุญาตลบชื่อนะคะ


ช่างภาพ – ทีม คุณชาย Wedding Photographer จริงๆเราหาช่างภาพมานานมากๆๆ เป็นปีก่อนงานแต่ง เขียนอีเมลหาหลายสิบเจ้า แต่ที่เลือกช่างภาพทีมนี้เพราะเราเคยเห็นงานเก่าๆของพี่เขาแล้วเราชอบค่ะ พี่เขาเป็นกันเองมาก เข้าใจความต้องการของเรา ราคาที่เขาเสนอให้เรา เราก็โอเคกับมันมากๆ (พี่เขาเข้าใจว่าเรางบจำกัดค่ะ อิอิ) เราต้องการช่างภาพหลัก ช่างภาพแคนดิด และช่างวีดีโอ ในตัววีดีโอที่เราต้องการนั้น เราต้องการแบบถ่ายยาวๆ อยากเก็บบรรยากาศเอาไว้ดูในอนาคตตอนคิดถึงวันเก่าๆค่ะ 555 (เว็บไซต์: https://www.facebook.com/coolshinestudio) รูปและวีดีโอสวยถูกใจมากกกกกกค่ะ

*รูปที่นำมาลงทั้งหมดนี้คือรูปจากทีมช่างภาพ คุณชาย Wedding Photographer ค่ะ แล้วก็จากกล้องของเพื่อนๆด้วยค่ะ ทุกรูปมีลิขสิทธิ์ค่ะ* มาเริ่มกันเลยค่ะ

เช้าวันนั้น เราตื่นตอนตี 4 กว่าๆ จ้างรถตู้แบบครึ่งวันเพื่อรับส่งคนจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งประมาณตั้งแต่ ตี 4 ถึง บ่ายสามโมงค่ะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ญาติๆของแฟนแล้วก็ครอบครัวเราส่วนนึงค่ะ สรุปรถตู้หลงทางเพราะว่าเช้ามืดค่ะ มองไม่ค่อยเห็น ไปถึงตีห้ากว่าแน่ะ พี่ตรีช่างแต่งหน้ากับผู้ช่วยมารออยู่แล้ว มาถึงเราก็เริ่มแต่งหน้าพร้อมกับน้องสาวเลยค่ะ เพื่อนเจ้าบ่าว 2 คนมาพร้อมกับเราด้วย แล้วก็มีเพื่อนเรา เพื่อนเจ้าบ่าวอีก 1 คนและเพื่อนน้องสาวเรา มาช่วยกันจัดตกแต่งสถานที่ งานของเราเรื่องสถานที่คือจัดกันเองหมดเลยค่ะ ไม่ได้จ้างออร์แกไนเซอร์และไม่ได้จ้างร้านดอกไม้มาตกแต่งเพิ่มเติม เพราะโดยส่วนตัวไม่ได้ชอบดอกไม้มากขนาดนั้น คือมีก็สวยดี ไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ ^^ ฉะนั้นครอบครัวเราและเพื่อนๆทั้งสองฝ่ายก็มาช่วยกันตกแต่งสถานที่ด้วยรูปภาพที่เราไปถ่าย Pre-Wedding ที่ La Toscana สวนผึ้งค่ะ แล้วก็ตกแต่งเล็กๆน้อยๆด้วยดอกรัก







ขันหมาก – เราให้ทางสยามเฮ้าส์จัดหาให้ค่ะ ซึ่งทางสถานที่จะมีบริการหากว่าลูกค้าต้องการ ราคาไม่แพงด้วยค่ะ มีให้เลือก 3 สี เราเลือกสีชมพูค่ะ ขันหมากมีให้เลือกหลายขนาด ราคาก็มากน้อยแตกต่างกันไป ของบางอย่างเราซื้อแยกมาเองค่ะ



ของชำร่วย – เราเป็นคนชอบของไทยๆ เลยให้เป็นกระเป๋าใส่เหรียญลายช้างทำด้วยผ้าไทยค่ะ เข้ากับสถานที่ดีด้วย อันนี้ไปเดินหาซื้อมาที่สำเพ็งค่ะ


เราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องแต่งตัว เป็นเจ้าสาวเขาให้อยู่แต่ในนี้ แต่งตัวเสร็จก็เดินไปเดินมา หารูหาช่องตามร่องไม้ อยากเห็นว่าข้างนอกทำอะไรค่ะ เพื่อนเจ้าสาวทยอยกันมาถึงก็มาทักทาย แล้วก็ไปอีกห้องนึงกันเพื่อแต่งตัว แล้วก็มาช่วยเรานุ่งชุดไทยค่ะ มีคนถามหลายคนก่อนวันงาน มี Theme มั้ย เราก็เลยบอกไปว่า ไม่มี แต่เราใส่ผ้านุ่งสีเขียวนะ


ช่างแต่งหน้า – พี่ตรี เราเลือกช่างคนนี้เนื่องจากพี่เขาเคยแต่งให้เราตอนถ่ายรูป Pre-Wedding แล้วมีแต่คนบอกว่าพี่เขาแต่งหน้าเราสวย เหมาะกับหน้าเรามาก (ปกติเราเป็นคนไม่แต่งหน้าเลย) ในวันแต่งงาน เราเลยอยากให้พี่เขาแต่งหน้าให้เราอีกครั้งค่ะ เรามั่นใจว่าต้องออกมางามแน่ๆ ส่วนทรงผม เราอยากได้แบบมัดหางม้าเหมือนที่นุ่น วรนุชทำค่ะ แต่ข้างหน้าไม่ได้แสกกลางแบบเขาเพราะว่ามีคนบอกว่าจะทำแบบนั้นได้หน้าและรูปหน้าต้องสวย เราเลยหาแบบอีกแบบนึงให้ พี่เขาทำออกมาถูกใจเรามากเลยค่ะ แนะนำพี่เขาเลยค่ะ รับรอง สวย อิอิ แม่กับน้องเราก็แต่งหน้าทำผมกับพี่ตรีและผู้ช่วยด้วยค่ะ ราคาไม่แพง (เว็บไซต์: https://www.facebook.com/TeeMakeUpArtist)

และแล้วหลังจากนั้นครอบครัวเจ้าบ่าวก็มาถึง


แล้วเพื่อนเจ้าบ่าวก็ทยอยกันไปแต่งตัว อันนี้จะลำบากหน่อยเพราะว่าเป็นโจงกระเบนนุ่งสด เพื่อนเจ้าสาวเลยมาช่วยเขาใส่ค่ะ อ้อ เพื่อนเจ้าบ่าวมีทั้งหมด 5 คนค่ะ 2 ใน 5 เป็นผู้หญิง เพื่อนสนิทเขาค่ะ

เพื่อนเจ้าบ่าว – ใส่เสื้อราชปะแตนสีครีมและโจงกระเบนนุ่งสดสีม่วง ถุงเท้ายาว รองเท้าสีดำค่ะ


ชุดไทย – เจ้าบ่าว ตอนแรกเขาคิดว่าจะใส่เดรสยูนิฟอร์มของเขา แต่ไปๆมาๆมันขาดอะไรบนชุดไปอย่าง ทำให้ไม่สามารถใส่ได้เนื่องจากจะเป็นการไม่เคารพ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เรามีแผนสอง คือตอนเช่าชุดเพื่อนเจ้าบ่าว ก็เลยเช่าเผื่อของเขามาชุดนึง แต่สีเขียว จะได้เข้ากับของเรา เผื่อจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด (เช่นกรณีนี้เป็นต้น)


เพื่อนเจ้าสาว – เรามีเพื่อนเจ้าสาว 2 กลุ่มค่ะ สวยๆทั้งนั้นนน กลุ่มนึงจะเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยม อีกกลุ่มจะเป็นเพื่อนที่โต๊ะจากมหาวิทยาลัยค่ะ





น้องเจ้าสาว – งานนี้น้องเจ้าสาว 2 คน ใส่ชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 สีม่วงค่ะ น่ารักน่าชัง

ชุดเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว (สีม่วงอ่อน) และน้องสาว เช่าจากร้านชบาแก้ว แถวช่องนนทรีค่ะ (เว็บไซต์: https://www.facebook.com/ChudThiyPheuxnCeaSawByChabakeaw)
ชุดเพื่อนเจ้าสาว สีชมพู เช่าจากร้านคุณขวัญ แถวศรีนครินทร์ค่ะ (เว็บไซต์: https://www.facebook.com/pages/เช่าชุดไทย-เพื่อนเจ้าสาว-ราคาถูก/385598954885763)

อาหารเช้า – ที่สยามเฮ้าส์จะมีอาหารเช้าเตรียมให้แขกที่มางานตั้งแต่เช้าค่ะ เราเลือกข้าวต้มไก่ แต่ไม่มีรูปให้ดู