สวัสดีครับ เท้าความกันนิดนึงกับการทำสตูดิโอถ่ายรูปด้วยงบเท่านี้เกิดมาจากที่บ้านเป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้าผู้หญิงแบบเยอะๆเอาง่ายๆก็คือขายแบบส่ง แล้วมันจะมีเสื้อผ้าที่หลุดสต๊อกออกมาหรือไม่ก็เป็นตัวแพทเทิร์นตัวแรกที่เหลืออยู่ ไอเราก็เห็นมันแขวนอยู่ทุกวันก็เลยคิดว่า แขวนแบบนี้ทุกวันมันเริ่มรกเรื่อยๆละจึงมีไอเดียไปขอทางบ้านว่าจะเอาไปขายแล้วนะ พอทางบ้านอนุญาตปุ๊ปผมก็คิดเลยว่า ขายยังไงดีฟร่ะ Facebook IG ช่องทางนี้ขายสะดวกไม่ต้องมีหน้าร้าน แต่ แต่ แต่ ต้องมีรูปให้ดูมีแบบให้ใส่ จะไปหาสถานที่ถ่ายสวยๆหรือหานางแบบมาทีนึงก็วุ่นวายแล้วก็ร้อนโคตรรรรร สุดท้ายก็ทำสตูดิโอเองมันซะเลย นี่ก็เลยเป็นที่มาของโปรเจค สตูดิโอถ่ายภาพ 500 บาท

ต่อด้วยแซมเปิลภาพจากกล้องใหญ่ครับ

พูดมากไปเยอะแล้วมาลุยกันเลย

ขั้นแรก เตรียมอุปกรณ์ทำฉากหลังก่อน ในส่วนนี้ผมเลือกกระดาษสีดำประมาณ 7 – 8 แผ่นใหญ่ๆมาแปะต่อๆกันให้เป็นแบ็คกราวแปะเรื่อยๆก็ได้ประมาณนี้ครับ (ราคาประมาณ 50 บาท รวมกระดาษกาว สก๊อตเทป)



ขั้นที่ 2 เตรียมอุปกรณ์ส่องสว่างก็ไปหาซื้อไฟกับที่หนีบไฟครับ ในส่วนของการหาซื้อไฟนั้นผมพยายามดูไฟที่ไม่ร้อนเวลาเปิดสุดท้าย ก็ได้เจ้าตัวนี้มาครับเป็นหลอด LED ของฟิลิป (ก่อนไปก็ไปค้นหาในอากู๋เกิลมาก่อนครับว่า หลอดไฟไม่ร้อน ก็เลยได้ข้อสรุปมาว่าน่าจะเป็นตัวนี้แหละ)

ผมซื้อไฟมา 2 ดวง ความสว่าง 2 อันไม่เท่ากันนะครับ เป็นตัว 3W กับ 4W ว่าจะเอามาเทสก่อนว่าต่างกันมากขนาดไหน แต่ประเภทแสงจะเป็นแสง Cool Daylight ถ้าเรียกกันบ้านๆก็เป็นแสงสีขาว


วิธีดูวัตต์ก็ดูที่ตัวเลขใหญ่ๆเลยนะครับ ส่วนสีของหลอดก็ดูที่เขียนว่า Cool daylight


ส่วนของขาหนีบไฟผมซื้อมาจาก Home pro ตอนไปซื้อหลอดไฟมา ราคาประมาณ 50 – 60 บาท ซื้อมา 3 อันสำรองไว้ก่อน 1 อันกลัวพังขี้เกียจออกไปซื้อใหม่ หน้าตาประมาณนี้

เท่านี้ก็ครบแล้วสำปรับตัวส่องสว่างของเรา

ขั้นที่ 3 หาที่หนีบหลอดไฟครับ ในส่วนนี้ผมก็หาอุปกรณ์ในบ้านมาใช้หนีบ เช่น ราวตากผ้า ที่รัดผ้า หนีบกับตู้ ฯลฯ สุดแล้วแต่จะหาได้เลยครับ แต่ในส่วนของผมใช้ราวตากกางเกงกับที่รีดผ้าครับ แล้วก็ลองเทสเปิดเลย อ๊ากกกกกกกกกกก สว่างมาก ดีนะซื้อวัตต์น้อยๆมา


ขั้นที่ 4 ทำที่ควบคุมแสงไฟ จากการที่ได้ลองเทสแสงดูแล้วจะเห็นว่าแสงที่ออกมายังกระจายไปรอบๆอยู่ครับ จึงต้องตัวควบคุมแสง โดยใช้กระดาษแข็งทำเป็นกรวยเอาไว้ครอบที่หลอดไฟอีกทีครับ

ออกมาประมาณนี้ครับ

จับตัดมุมขอบกระดาษซะหน่อยจะแสงจะได้ออกมาเท่าๆกันทุกมุม

ถ้าใครกลัวกระดาษไหม้ผมลองเทสเปิดเอาไว้ประมาณ 3 ชม. ในห้องแอร์ ไม่มีกลิ่นไหม้ กระดาษไม่ร้อน แล้วก็ลองเทสอีกรอบคือ เอามือจับซะเลย อุ่นๆครับแต่ไม่ร้อนเลย


ขั้นที่ 5 ถึงเวลาจัดไฟ ในส่วนนี้ผมเน้นการจัดไฟแบบเข้าด้านหน้าทั้งหมดเลยนะครับจะใช้ไฟ ทั้ง 2 ดวงวางใกล้ๆกัน ไฟ 1 ดวง ส่องที่หน้าแบบ อีก 1 ดวง จะส่องที่ตัวแบบ ครับ

ในส่วนนี้ผมใช้กระดาษขาวแบบบางๆมาช่วยในการลดแสงลงครับ เพราะว่าถ้าแสงเข้าหน้าแบบเต็มๆแล้ว ตัวแบบจะแสบตาได้ครับ ลองขยับความใกล้ไกลตามความเหมาะสมได้เลยครับ


ขั้นสุดท้าย ถึงเวลาถ่ายแล้ว มาลองเทสกันเลย

ภาพจากในกล้องใหญ่ของผม (แต่งมาหน่อยแล้ว)


ภาพจากในไอโฟน 4s สำหรับคนไม่มีกล้องใหญ่ครับ แต่งใน App นิดหน่อยก็แจ่มแล้ว



หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องจัดไฟด้วย ถ่ายแบบปกติก็ขายได้แล้วไม่ใช่หรอ ทำด้านหลังให้เบลอๆ ขายง่ายๆ ผมก็เลยมีรูปตัวอย่างระหว่างการจัดไฟกับไม่จัดไฟมาให้ดูนะครับว่าเป็นอย่างไรบ้างมาดูกัน

แน่นอนครับความสว่างรายละเอียดต่างๆกันก็จะเห็นกันประมาณแบบนี้เลย


และข้อแนะนำในการทำครั้งนี้ผมแนะนำว่าต้องทำให้ห้องมืดหรือห้องที่แสงเข้าน้อยๆนะครับ เพราะเราจะได้ดึงคุณภาพของแสงไฟที่เราได้จัดเอาไว้ได้ออกมาใช้ให้หมดครับ และถ้าห้องมืดหมดมันจะดีอย่างคือเราจะสามารถจัดไฟได้ง่ายควบคุมแสงได้ว่าอยากจะให้ไปทางไหนส่องตรงไหนและไม่มีแสงธรรมชาติมารบกวนครับผม

มาสรุปค่าใช้จ่ายกันหน่อยนะครับ
หลอดไฟฟิลิป 2 ดวงมี 4 วัตต์ 149 บาท กับ 3 วัตต์ 119 บาท
ขาหนีบไฟอันละ 50 บาท 3 อัน 150 บาท
กระดาษแข็ง กระดาษดำ กระดาษใส 50 บาท
สก๊อตเทป 30 บาท
รวมค่าใช่จ่าย 498 บาทถ้วน

ใครอยากลองไปทำดูที่บ้านก็สามารถเอาไปทำกันได้นะครับ ทำไม่ยากแถมสนุกด้วย ไม่ต้องต่อวงจรไฟให้วุ่นวาย จะไปเอาไปถ่ายสาวๆ ถ่ายสินค้า ถ่ายอะไรก็ได้หมดเลยนะครับ ฮ่าๆๆๆ

ผิดพลาดประการใดหรือใครมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมมาคอมเม้นคุยกันได้
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ