ออกตัวก่อนเลยว่าไม่ใช่กระทู้ชวนทะเลาะ
ไม่ได้ต้องการให้ร้าย หรือยกยอศาสนาใด
ไม่มีถูกผิด ไม่มีอะไรดีกว่าอะไร ไม่ใช่การตัดสิน
อยากให้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วยดีเท่านั้น
ขออย่าโจมตีศาสนาผู้อื่น รวมถึงการไม่มีศาสนาด้วย
อย่าเอาอารมณ์ ความขัดแย้งส่วนตัว และอคติเป็นใหญ่
อย่างที่เราๆท่านๆรู้กันว่าเรื่องพวกนี้ละเอียดอ่อนยิ่งนัก
ชวนคุยเรื่องศาสนาๆแบบผู้มีปัญญานะคะ
.....................................................................................................................................................
พอดีวันนี้มีเพื่อนคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่ามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับชาวต่างชาติท่านหนึ่ง
เขาเป็นคนไม่มีศาสนา และมองว่าศาสนานั่นแหละที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ทำให้มนุษย์แตกแยก
ไม่เฉพาะระหว่างศาสนา แม้แต่ศาสนาเดียวกันก็ยังทะเลาะกันใหญ่โตมากมาย
เพราะว่าศาสนาคือสิ่งที่ควบคุมชีวิตมนุษย์ เป็นเบื้องหลังการกระทำต่างๆของมนุษย์อีกที
ส่วนตัวเขานั้นเปิดใจศึกษาคำสอนต่างๆ(ของทุกศาสนา) หรือแม้แต่หลักการปฏิบัติทั่วๆไปของมนุษย์ด้วยความเป็นกลาง
เปิดใจรับรู้ความเป็นจริงของสรรพสิ่งและชีวิตแบบไม่เอนเอียง
หลักการดำเนินชีวิตของเขาคือเก็บเอาสิ่งที่ดีๆมาปฏิบัติ อะไรที่ไม่ดีก็ทิ้งไป
ก็เลยมองว่าถ้ามนุษย์ไม่(พยายาม)ฝักใฝ่ศาสนาใดๆ ไม่เอาแต่ยึดเหนี่ยวความเชื่อตามศาสนาที่ตนนับถือ
น่าจะทำให้โลกของเราสันติสุขกว่านี้ ไม่ต้องมาทะเลาะกันเพราะเชื่อในสิ่งต่างๆไม่เหมือนกัน
ทุกคนสามารถเลือกทำดี และละทิ้งสิ่งที่ชั่ว โดยไม่ต้องมาพะวงว่าสอดคล้องกับศาสนาหรือเปล่า
ประมาณนี้นะคะ ไม่ใช่ตามนี้เป๊ะๆ เพราะเพื่อนเล่ามา แล้ว จขกท ก็แปลงเป็นความเข้าใจของตัวเองอีกที
ฟังๆไปก็เริ่มเออออห่อหมก รู้สึกเห็นด้วยอยู่บ้าง แต่ทั้ง จขกท และเพื่อนต่างก็มีศาสนาด้วยกันทั้งคู่
ก็เลยเกิดคำถามว่า "แล้วมนุษยชาติจะมีศาสนาไว้ทำไม"
ต่อไปนี้เป็นสรุปความคิดเห็นของ จขกท ซึ่งจริงๆเป็นส่วนที่ถกกับเพื่อนเฉยๆ
แต่คิดว่าน่าสนใจดี ก็เลยเอามาแบ่งปันให้อ่านกันนะคะ
"อาจจะแบ่งคร่าวๆใหญ่ๆว่าสิ่งที่ก่อให้เกิดอารยธรรมในหมู่มนุษย์อย่างเราคือปรัชญา(การศึกษาหาความรู้) และศาสนา(ศรัทธา)
มนุษย์วิวัฒน์ไปได้ไกลกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆเพราะมนุษย์นั้นสามารถคิดวิเคราะห์เองได้ แยกแยะสิ่งต่างๆได้
ทีนี้ มาสู่การตั้งคำถามที่ว่าแล้วจำเป็นต้องมีศาสนากันด้วยหรือ ในเมื่อมนุษย์มีสติปัญญาอยู่แล้ว
มองง่ายๆว่าเป้าหมายของปรัชญาและศาสนาคือมุ่งให้มนุษย์เป็นคนดี เป็นผู้มีอารยธรรม
ในส่วนของปรัชญานั้น ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์ของมนุษย์ประกอบ ถ้าจะให้มนุษย์เป็นคนดีด้วยปรัชญา(เหตุและผล)
มนุษย์ก็ต้องคิดเป็นด้วย คือจะได้ผลเฉพาะเมื่อคนๆนั้นเอามาคิดวิเคราะห์ เชื่อ และปฏิบัติ
แต่ศาสนาทำให้คนเป็นคนดีได้โดยศรัทธา แม้ว่าคนๆนั้นจะคิดไม่เป็น เรียกว่าควบคุมได้หมดก็น่าจะได้
ปัญหาต่อมาคือมนุษย์อาจจะเอาศาสนามาใช้แบบไม่กล้าคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเองร่วมด้วย
หลายๆอย่างเลยสุดโต่ง ยกศาสนามาใช้แบบทื่อๆ แถมใช้ไม่ได้จริงในโลกปัจจุบัน(ควบคุมคนให้เป็นคนดีไม่ได้)
ทั้งที่ความจริงศาสนาไม่ได้ห้ามคิดวิเคราะห์ คือใช้เหตุและผลเชิงปรัชญามาศึกษาศาสนาก็ได้
แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงที่ว่ามนุษย์นั้นเขลา เราไม่ได้รู้ทุกอย่างในโลก และไม่สามารถมั่นใจได้ว่าสิ่งที่รู้นั้นถูกต้องแน่นอน
มีทฤษฎีต่างๆมากมายที่เกิดขึ้น ถูกแทนที่ด้วยอีกทฤษฎีที่เป็นจริงกว่า แล้วศึกษาเพื่อค้นหาสิ่งที่เป็นจริง(กว่า)ไปอีกเรื่อยๆ
(เนื่องจากสรุปมาจากบทสนทนาระหว่าง จขกท กับเพื่อน อาจจะอิงกับความเชื่อส่วนตัวอยู่มาก)
จะเห็นว่าศาสนากว้างกว่าปรัชญาที่มนุษย์ศึกษาหรือว่า(กำลัง)รู้อยู่มาก
อย่างเช่นเรื่องของผลตอบแทนในวันโลกหน้าที่(บาง)ศาสนาสอนไว้ มันเกินกว่าที่มนุษย์จะอธิบายได้ก็จริง
แต่ก็ควบคุมมนุษย์ให้เป็นคนดีได้ แล้วก็ทำให้มนุษย์เกรงกลัวการทำบาป(ทั้งที่ไม่เห็นผลในโลกนี้หรอก)
บางคนอาจจะแย้งต่อว่าเพราะศาสนาคุมคนไง มันถึงได้ขัดแย้งกันแบบนี้ เพราะต่างคนต่างศาสนาต่างคำสอน
ลองคิดแบบมนุษย์ๆ ไม่ต้องถือเอาเรื่องศรัทธา ศาสนามีอะไรที่ทำให้คนทะเลาะกันงั้นหรอ
คือศาสนาเป็นส่วนของบุคคล ทำก็ได้ตัวเอง ไม่ทำก็ไม่ได้ตัวเอง อย่างเช่นเรื่องบาปบุญต่างๆ
แถมทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี ไม่ได้บอกให้ทะเลาะกันแน่นอน ถ้ามนุษย์ยึดเหนี่ยวศาสนาจริงก็ต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้แน่นอนด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ตัวปัญหาจริงๆไม่น่าจะใช่ศาสนาหรอก แต่เป็นมนุษย์เรานี่แหละ
ถ้าไม่นับความบกพร่องของมนุษย์ คิดแบบอุดมคติ อาจจะสรุปคร่าวๆว่า...
มนุษย์ที่มีทั้งศาสนาและปรัชญา อันนี้คนดีแน่นอน
มนุษย์ที่มีแต่ศาสนา ก็ยังเป็นคนดี เพราะศาสนาสอนแต่สิ่งดี
มนุษย์ที่มีแต่ปรัชญา ก็ยังเป็นคนดีแต่อาจจะน้อยกว่า เพราะตรรกะ และการคิดวิเคราะห์โอเคอยู่ รู้ชั่วดี
มนุษย์กลุ่มสุดท้าย ไม่มีทั้งสองอย่าง อันนี้แหละที่น่าห่วง
คนที่จะไม่เอาศาสนา อย่างน้อยๆก็ต้องมีปัญญา(ปรัชญา) คิดวิเคราะห์ได้ ตรรกะไม่วิบัติ ถึงจะเป็นคนดี(แบบตั้งใจเป็น)ได้
(คือถ้าไม่มีทั้งปรัชญาและศาสนาก็ยังเป็นคนดีได้ แต่มันเหมือนสุ่มๆมั่วๆ ทำๆไปแบบไม่คิดอะไร ผลอาจจะออกมาดีหรือเลวก็ได้)
และปัญญานี่ไม่ใช่แค่ระดับที่รู้ว่าอะไรดีไม่ดี แต่ต้องระงับกิเลสตัวเองได้ ควบคุมความโลภได้
แล้วคิดว่ามนุษย์ที่มีปัญญาจริงๆเนี่ย บนโลกเรามีเท่าไรเชียว
สมมติว่าทุกคนไม่มีศาสนา จะเกิดความขัดแย้ง เกิดปัญหาต่างๆในสังคมมั้ย "มันก็เกิดนั่นแหละ"
ยอมรับเถอะว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ละกิเลส ทิ้งความโลภไม่ได้ มนุษย์เบาปัญญาและเห็นแก่ตัวอยู่ดี
เพื่อที่จะให้มนุษย์เป็นคนดี ศาสนาจึงยังเป็นสิ่งที่ควรมีอยู่อย่างนี้"
.....................................................................................................................................................
ขอย้ำอีกครั้งว่าต้องการให้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วยดีเท่านั้น
จขกท กับเพื่อนที่ถกกัน นับถือศาสนาด้วยกันทั้งคู่ เราแลกเปลี่ยนกันได้เฉพาะในมุมที่อาจจะแคบ
พูดคุยกันในนี้น่าจะมีความคิดเห็นที่หลากหลายดี
และที่พิมพ์ไปทั้งหมดก็เฉพาะในมุมของ จขกท ซึ่งเป็นคนศรัทธาในศาสนา
ไม่ได้ต้องการตัดสิน หรือยกเป็นบรรทัดฐานสำหรับสิ่งใดทั้งสิ้น
"ศาสนา" ก่อเกิดสันติสุขให้มนุษยชาติ หรือสร้างความขัดแย้งปั่นป่วนกันแน่
ทุกคนคิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ
ปล.จขกท เจตนาและพยายามตั้งประเด็นให้ดีสุดความสามารถแล้วนะคะ แต่หากยังมีข้อผิดพลาดใดๆ ก็ต้องขออภัยจากใจด้วยจริงๆ
"ศาสนา" ก่อเกิดสันติสุขให้มนุษยชาติ หรือสร้างความขัดแย้งปั่นป่วนกันแน่
ไม่ได้ต้องการให้ร้าย หรือยกยอศาสนาใด
ไม่มีถูกผิด ไม่มีอะไรดีกว่าอะไร ไม่ใช่การตัดสิน
อยากให้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วยดีเท่านั้น
ขออย่าโจมตีศาสนาผู้อื่น รวมถึงการไม่มีศาสนาด้วย
อย่าเอาอารมณ์ ความขัดแย้งส่วนตัว และอคติเป็นใหญ่
อย่างที่เราๆท่านๆรู้กันว่าเรื่องพวกนี้ละเอียดอ่อนยิ่งนัก
ชวนคุยเรื่องศาสนาๆแบบผู้มีปัญญานะคะ
.....................................................................................................................................................
พอดีวันนี้มีเพื่อนคนหนึ่งมาเล่าให้ฟังว่ามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความเห็นกับชาวต่างชาติท่านหนึ่ง
เขาเป็นคนไม่มีศาสนา และมองว่าศาสนานั่นแหละที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ทำให้มนุษย์แตกแยก
ไม่เฉพาะระหว่างศาสนา แม้แต่ศาสนาเดียวกันก็ยังทะเลาะกันใหญ่โตมากมาย
เพราะว่าศาสนาคือสิ่งที่ควบคุมชีวิตมนุษย์ เป็นเบื้องหลังการกระทำต่างๆของมนุษย์อีกที
ส่วนตัวเขานั้นเปิดใจศึกษาคำสอนต่างๆ(ของทุกศาสนา) หรือแม้แต่หลักการปฏิบัติทั่วๆไปของมนุษย์ด้วยความเป็นกลาง
เปิดใจรับรู้ความเป็นจริงของสรรพสิ่งและชีวิตแบบไม่เอนเอียง
หลักการดำเนินชีวิตของเขาคือเก็บเอาสิ่งที่ดีๆมาปฏิบัติ อะไรที่ไม่ดีก็ทิ้งไป
ก็เลยมองว่าถ้ามนุษย์ไม่(พยายาม)ฝักใฝ่ศาสนาใดๆ ไม่เอาแต่ยึดเหนี่ยวความเชื่อตามศาสนาที่ตนนับถือ
น่าจะทำให้โลกของเราสันติสุขกว่านี้ ไม่ต้องมาทะเลาะกันเพราะเชื่อในสิ่งต่างๆไม่เหมือนกัน
ทุกคนสามารถเลือกทำดี และละทิ้งสิ่งที่ชั่ว โดยไม่ต้องมาพะวงว่าสอดคล้องกับศาสนาหรือเปล่า
ประมาณนี้นะคะ ไม่ใช่ตามนี้เป๊ะๆ เพราะเพื่อนเล่ามา แล้ว จขกท ก็แปลงเป็นความเข้าใจของตัวเองอีกที
ฟังๆไปก็เริ่มเออออห่อหมก รู้สึกเห็นด้วยอยู่บ้าง แต่ทั้ง จขกท และเพื่อนต่างก็มีศาสนาด้วยกันทั้งคู่
ก็เลยเกิดคำถามว่า "แล้วมนุษยชาติจะมีศาสนาไว้ทำไม"
ต่อไปนี้เป็นสรุปความคิดเห็นของ จขกท ซึ่งจริงๆเป็นส่วนที่ถกกับเพื่อนเฉยๆ
แต่คิดว่าน่าสนใจดี ก็เลยเอามาแบ่งปันให้อ่านกันนะคะ
"อาจจะแบ่งคร่าวๆใหญ่ๆว่าสิ่งที่ก่อให้เกิดอารยธรรมในหมู่มนุษย์อย่างเราคือปรัชญา(การศึกษาหาความรู้) และศาสนา(ศรัทธา)
มนุษย์วิวัฒน์ไปได้ไกลกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆเพราะมนุษย์นั้นสามารถคิดวิเคราะห์เองได้ แยกแยะสิ่งต่างๆได้
ทีนี้ มาสู่การตั้งคำถามที่ว่าแล้วจำเป็นต้องมีศาสนากันด้วยหรือ ในเมื่อมนุษย์มีสติปัญญาอยู่แล้ว
มองง่ายๆว่าเป้าหมายของปรัชญาและศาสนาคือมุ่งให้มนุษย์เป็นคนดี เป็นผู้มีอารยธรรม
ในส่วนของปรัชญานั้น ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์ของมนุษย์ประกอบ ถ้าจะให้มนุษย์เป็นคนดีด้วยปรัชญา(เหตุและผล)
มนุษย์ก็ต้องคิดเป็นด้วย คือจะได้ผลเฉพาะเมื่อคนๆนั้นเอามาคิดวิเคราะห์ เชื่อ และปฏิบัติ
แต่ศาสนาทำให้คนเป็นคนดีได้โดยศรัทธา แม้ว่าคนๆนั้นจะคิดไม่เป็น เรียกว่าควบคุมได้หมดก็น่าจะได้
ปัญหาต่อมาคือมนุษย์อาจจะเอาศาสนามาใช้แบบไม่กล้าคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเองร่วมด้วย
หลายๆอย่างเลยสุดโต่ง ยกศาสนามาใช้แบบทื่อๆ แถมใช้ไม่ได้จริงในโลกปัจจุบัน(ควบคุมคนให้เป็นคนดีไม่ได้)
ทั้งที่ความจริงศาสนาไม่ได้ห้ามคิดวิเคราะห์ คือใช้เหตุและผลเชิงปรัชญามาศึกษาศาสนาก็ได้
แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงที่ว่ามนุษย์นั้นเขลา เราไม่ได้รู้ทุกอย่างในโลก และไม่สามารถมั่นใจได้ว่าสิ่งที่รู้นั้นถูกต้องแน่นอน
มีทฤษฎีต่างๆมากมายที่เกิดขึ้น ถูกแทนที่ด้วยอีกทฤษฎีที่เป็นจริงกว่า แล้วศึกษาเพื่อค้นหาสิ่งที่เป็นจริง(กว่า)ไปอีกเรื่อยๆ
(เนื่องจากสรุปมาจากบทสนทนาระหว่าง จขกท กับเพื่อน อาจจะอิงกับความเชื่อส่วนตัวอยู่มาก)
จะเห็นว่าศาสนากว้างกว่าปรัชญาที่มนุษย์ศึกษาหรือว่า(กำลัง)รู้อยู่มาก
อย่างเช่นเรื่องของผลตอบแทนในวันโลกหน้าที่(บาง)ศาสนาสอนไว้ มันเกินกว่าที่มนุษย์จะอธิบายได้ก็จริง
แต่ก็ควบคุมมนุษย์ให้เป็นคนดีได้ แล้วก็ทำให้มนุษย์เกรงกลัวการทำบาป(ทั้งที่ไม่เห็นผลในโลกนี้หรอก)
บางคนอาจจะแย้งต่อว่าเพราะศาสนาคุมคนไง มันถึงได้ขัดแย้งกันแบบนี้ เพราะต่างคนต่างศาสนาต่างคำสอน
ลองคิดแบบมนุษย์ๆ ไม่ต้องถือเอาเรื่องศรัทธา ศาสนามีอะไรที่ทำให้คนทะเลาะกันงั้นหรอ
คือศาสนาเป็นส่วนของบุคคล ทำก็ได้ตัวเอง ไม่ทำก็ไม่ได้ตัวเอง อย่างเช่นเรื่องบาปบุญต่างๆ
แถมทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดี ไม่ได้บอกให้ทะเลาะกันแน่นอน ถ้ามนุษย์ยึดเหนี่ยวศาสนาจริงก็ต้องไม่เกิดเรื่องแบบนี้แน่นอนด้วยเช่นกัน
ดังนั้น ตัวปัญหาจริงๆไม่น่าจะใช่ศาสนาหรอก แต่เป็นมนุษย์เรานี่แหละ
ถ้าไม่นับความบกพร่องของมนุษย์ คิดแบบอุดมคติ อาจจะสรุปคร่าวๆว่า...
มนุษย์ที่มีทั้งศาสนาและปรัชญา อันนี้คนดีแน่นอน
มนุษย์ที่มีแต่ศาสนา ก็ยังเป็นคนดี เพราะศาสนาสอนแต่สิ่งดี
มนุษย์ที่มีแต่ปรัชญา ก็ยังเป็นคนดีแต่อาจจะน้อยกว่า เพราะตรรกะ และการคิดวิเคราะห์โอเคอยู่ รู้ชั่วดี
มนุษย์กลุ่มสุดท้าย ไม่มีทั้งสองอย่าง อันนี้แหละที่น่าห่วง
คนที่จะไม่เอาศาสนา อย่างน้อยๆก็ต้องมีปัญญา(ปรัชญา) คิดวิเคราะห์ได้ ตรรกะไม่วิบัติ ถึงจะเป็นคนดี(แบบตั้งใจเป็น)ได้
(คือถ้าไม่มีทั้งปรัชญาและศาสนาก็ยังเป็นคนดีได้ แต่มันเหมือนสุ่มๆมั่วๆ ทำๆไปแบบไม่คิดอะไร ผลอาจจะออกมาดีหรือเลวก็ได้)
และปัญญานี่ไม่ใช่แค่ระดับที่รู้ว่าอะไรดีไม่ดี แต่ต้องระงับกิเลสตัวเองได้ ควบคุมความโลภได้
แล้วคิดว่ามนุษย์ที่มีปัญญาจริงๆเนี่ย บนโลกเรามีเท่าไรเชียว
สมมติว่าทุกคนไม่มีศาสนา จะเกิดความขัดแย้ง เกิดปัญหาต่างๆในสังคมมั้ย "มันก็เกิดนั่นแหละ"
ยอมรับเถอะว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ละกิเลส ทิ้งความโลภไม่ได้ มนุษย์เบาปัญญาและเห็นแก่ตัวอยู่ดี
เพื่อที่จะให้มนุษย์เป็นคนดี ศาสนาจึงยังเป็นสิ่งที่ควรมีอยู่อย่างนี้"
.....................................................................................................................................................
ขอย้ำอีกครั้งว่าต้องการให้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันด้วยดีเท่านั้น
จขกท กับเพื่อนที่ถกกัน นับถือศาสนาด้วยกันทั้งคู่ เราแลกเปลี่ยนกันได้เฉพาะในมุมที่อาจจะแคบ
พูดคุยกันในนี้น่าจะมีความคิดเห็นที่หลากหลายดี
และที่พิมพ์ไปทั้งหมดก็เฉพาะในมุมของ จขกท ซึ่งเป็นคนศรัทธาในศาสนา
ไม่ได้ต้องการตัดสิน หรือยกเป็นบรรทัดฐานสำหรับสิ่งใดทั้งสิ้น
"ศาสนา" ก่อเกิดสันติสุขให้มนุษยชาติ หรือสร้างความขัดแย้งปั่นป่วนกันแน่
ทุกคนคิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ
ปล.จขกท เจตนาและพยายามตั้งประเด็นให้ดีสุดความสามารถแล้วนะคะ แต่หากยังมีข้อผิดพลาดใดๆ ก็ต้องขออภัยจากใจด้วยจริงๆ