[CR] เดินป่า ปีนเขาในกรุงกัลลาลัมเปอร์ก็มีนะเออ กับภาระกิจปีนเขาในเมือง "Bukit Tabur"

กระทู้นี้ผมอยากจะแนะนำเนินเขาลูกนึง ที่ซ้อนตัวอยู่ในเมืองหลวง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มีคนไทยน้อยคนนักที่รู้จักเนินเขาลูกนี้ ผมเป็นหนึ่งในนั้นที่อยากจะแชร์สิ่งที่ผมเห็น ประสบการณ์และคำแนะนำดีๆในกระทู้นี้  ทริปนี้เป็นทริปเดินป่าระยะสั้น ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่วิวไม่ธรรมดาจริงๆ สวยมากครับ สำหรับคนที่จะไป ขอให้ดูเส้นทางเดินในกระทู้นี้ละเอียดๆ เพราะเนินเขาลูกนี้มีอุบัติเหตุทุกปี แต่เราสามารถเลือกที่จะหยุดก่อนถึงจุดที่มีความเสี่ยงสูงได้ ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ

ส่วนใครสนใจรับข้อมูลข่าวสารดีๆ จากพวกเรา "I am Travel Aholic" เข้าไปไลค์กันได้ที่เพค https://www.facebook.com/iamtravelaholic เมื่อพร้อมแล้ว เราไปผจญภัยกันเลย

1) ความลับของ  Bukit Tabur
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าเนินเขา Bukit Tabur กันก่อน  Bukit ในภาษามาเล แปลว่าเนินเขา ดังนั้นเวลาเราจะหาข้อมูลใน google ก็ลองพิม Tabur Hill ด้วย จะได้หาข้อมูลได้ครบถ้วน Bukit Tabur มีลักษณะเป็นเนินเขาหินที่นูนออกมาตรงสันเขา และทอดตัวยาวขึ้นลง จนได้รับฉายาอีกชื่อนึงว่า "Dragon's Backbone"  เสน่ห์ของเขาลูกนี้คือ วิวบนเนินเขา ที่เราจะเห็นทั้งวิวเขื่อน Klang Gate Dam ที่คอยส่งน้ำหล่อเลี้ยงเมือง วิวป่าที่อุดมสมบูรณ์รอบๆเขื่อน วิวสันเขาอีกฝากของเขื่อนและวิวเมืองกัวลาลัมเปอร์ที่เห็นไปไกลถึงตึกแฝดโน้นเลย เท่านี้ยังไม่พอเนินเขาลูกนี้ยังมีความสำคัญทางด้านธรณีวิทยาอีกด้วย ถึงระดับที่นักธรณีวิทยาขนานนามให้เป็นสันเขาควอตซ์ ที่ยาวและเก่าแก่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว เราเลยสามารถเห็นผลึกควอตซ์ได้ง่ายในช่วงที่เป็นเขาหิน แต่ก็น่าแปลกที่ภูเขาลูกนี้กลับไม่ได้รับการโปรโมทจากทางรัฐบาลมาเลเซียสักเท่าไร ประกอบกับการเดินทางที่ไม่มีรถสาธารณะเข้าถึง ทำให้คนที่มาส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น

มาดูแผนที่ของภูเขา Bukit Tabur กันก่อน สังเกตุว่า เลย Bukit Tabur ขึ้นไปหน่อยจะเป็นเขื่อน และใต้เขื่อนจะเป็นเมือง


ภาพด้านล่างเป็น ผลึกควอตซ์ที่เจอในซอกหิน ความงามที่ซ่อนตัวอยู่ในเขาลูกนี้


ลักษณะเนินเขาหินที่นูนออกมาตรงสันเขา และทอดตัวยาวขึ้นลงจนเป็นที่มาของฉายา "Dragon's Backbone"


2) การเดินทางจากตัวเมืองกัวลาเปอร์ ไป Bukit Tabur
Bukit Tabur อยู่ห่างจากใจกลางเมืองกัลลาลัมเปอร์ประมาณ 15 - 20 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าไม่ไกลจากตัวเมืองสักเท่าไร แต่ปัญหาคือไม่มีรถสาธารณะตรงไปถึง Bukit Tabur สำหรับทริปนี้ผมโชคดีมีเพื่อนมาเลขับรถพาไป เลยไม่ต้องปวดหัวเรื่องการเดินทาง แต่สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว ก็พอมีทางเลือกดังนี้
    - ทางเลือกแรก นั่งTaxi บอกไปลงที่หน้าประตูเขื่อน Klang Gate Dam  น่าจะ print แผนที่ออกมาด้วย ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรว่า Taxi จะรู้จักรึป่าว ขากลับเราต้องโทรเรียก Taxi มารับ ถ้าไม่มีโทรศัพท์ทางเลือกนี้ก็ตกไป แต่ถ้าให้ Taxi รอคงเสียค่า Taxi บาน เพราะทริปนี้ใช้เวลาประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง  
     - ทางเลือกที่สอง นั่งรถไฟฟ้า LRT จากในเมืองสถานี KL Sentral ไปลงสถานี Wangsa Maju แล้วต่อรถบัสสาย T304 ไปลง Taman Melawati แล้วเดินย้อนขึ้นไปถึงทางเข้าประตูเขื่อน ตามแผนที่ด้านล่างเลยครับ สำหรับผมทางเลือกนี้ดูน่าสนใจสุด ดูผจญภัยดี และถูก ไว้ถ้าผมมีโอกาสได้ใช้เส้นทางนี้ ผมจะมารีวิวให้ครับ

      - ทางเลือกที่สาม ติดต่อบริษัททัวร์ ราคาค่อนข้างแพง 200 ริงกิตต่อคน แต่ก็มาพร้อมกับไกด์นำทาง รถไปรับส่งถึงที่พัก มีอาหารเที่ยง ถ้าใครสนใจก็ลองไปดูตาม link ด้านล่างเลยครับ: http://openskyunlimited.com/v1.0/index.php/outdoor-adventure/wild-jungle-trekking/dragon-back-treko

3) การขอใบอนุญาติปีนเขา
การเดินทางว่ายากแล้ว แต่การขอใบอนุญาติก็ทำเอาปวดหัวไม่ใช่เล่น ก่อนปี 2014 ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาติ แต่ด้วยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทุกปี ทำให้มีการออกกฎใหม่ ให้ต้องของใบอนุญาติก่อนขึ้น Bukit Tabur โดยค่าใบอนุญาติราคา 5 ริงกิต แต่ปัญหามันอยู่ที่ ตรงทางขึ้น Bukit Tabur จะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยออกใบอนุญาติให้ ทำให้ถ้าอยากจะปีนขึ้น Bukit Tabur อย่างถูกต้องแล้วละก็ ต้องไปติดต่อขอใบอนุญาติที่ District Forest Office of Selangor Tengah หรือ Selangor Forestry Department ที่อยู่ตามด้านข้างล่างเลยครับ โดยจะเปิดเฉพาะวันธรรมดานะครับ ข้อมูลที่ต้องใช้สำหรับขอใบอนุญาติคือ ชื่อ นามสกุลและเลขพาสปอร์ด ส่วนการเดินทางไปขอใบอนุญาติ เท่าที่ลองค้นหาจาก google  ค่อนข้างซับซ้อน ต้องเดินทางหลายต่อ แนะนำว่านั่งรถTaxi ไปเลยครับ คิดไปคิดมาผมก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่ากฎใหม่จะช่วยเพิ่มควาทปลอดภัยในการปีนเขาได้อย่างไร???

Selangor Forestry Department
Bangunan Sultan Salahuddin Abdul Aziz Shah
40660 Shah Alam, Selangor Darul Ehsan.
http://www.forestry.gov.my/selangor
Tel. : 03-5544 7000
Fax : 03-5511 9961

District Forest Office of Selangor Tengah
KM 11 (Batu 9), Jalan Cheras-Kajang,
43200 Kajang, Selangor Darul Ehsan.
Tel. : 03-9075 2885
Fax : 03-9075 6022

4) เส้นทางปีนเขาและระยะเวลาที่ใช้ในทริปนี้
เส้นทางปีนเขาจะมีสองเส้นหลัก คือ Bukit Tabur West กับ Bukit Tabur East ที่ผมจะแนะนำวันนี้เป็น Bukit Tabur West เส้นทางนี้จะง่ายและปลอดภัยมากว่า โดยทางขึ้น Bukit Tabur West จะอยู่ใกล้กลับประตูทางเข้าไปเขื่อน ตามรูปข้างล่างนะครับ  จุดนี้จะไม่มีท่อน้ำขนาดใหญ่นะครับ ถ้าเจอท่อน้ำขนาดใหญ่แสดงว่าเป็น Bukit Tabur East มาผิดทางแล้วครับ


สำหรับเส้นทางปีนเขาของ Bukit Tabuk West ช่วงแรกจะเป็นทางดินไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นทางจะเปลี่ยนเป็นทางหินขึ้นไปจนถึงยอดเขา แล้วเดินลงมาอีกด้านของยอดเขาตามเส้นทางสีขาวในรูปด้านล่างครับ แต่สำหรับทริปนี้พวกเราเลือกหยุดก่อนถึงจุดที่ต้องลงบรรไดเหล็กแล้วใช้เชือกไต่ขึ้นไปในแนวตั้งไปถึงยอด เนื่องจากดูแล้วค่อนข้างเสี่ยง และตัวเชือกก็ใช้มานาน  เราเลยตัดสินใจหยุดแล้วเดินกลับทางเดิม ตามเส้นทางสีเขียวด้านล่างครับ


ส่วนระยะเวลาที่ใช้ในการเดินไปกลับ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง เส้นทางปีนเขาชัดเจนไม่จำเป็นต้องมีไกด์ แต่บนสันเขาหินต้องใช้ความระมัดระวังสูง

5) การเตรียมตัวและของจำเป็นที่ต้องติดตัวไป
ถ้าจะมาตามเส้นทางที่ผมเดิน โดยพวกเราจะหยุดก่อนถึงจุดที่ต้องใช้เชือกปีนขึ้นยอดในแนวตั้ง แล้ววกกลับทางเดิม เส้นทางนี้ถือว่าค่อนข้างง่าย เดินขึ้นเรื่อยๆ พักเป็นระยะๆ ไม่ต้องฟิตร่างกายก่อนมาก็ได้ ส่วนสิ่งของที่ควรนำติดตัวไป
- น้ำดืม 2 ขวดเล็ก เพราะบนเขาจะไม่มีศาลาให้พัก หรือจุดเติ่มน้ำใดๆทั้งสิ้น ต้องนั่งพักใต้ต้นไม้หรือตามโขดหินเอา
- อาหารให้พลังงานต่างๆ เช่น ช็อกกอแล็ต ลูกอม เอ็นเนอยีบาร์
- โทรศัพท์มือถือ เอาติดตัวไว้เผื่อใช้ยามจำเป็น  
- กล้องถ่ายรูป สิ่งที่ขาดไม่ได้

6) ประสบการณ์ปีนเขา Bukit Tabur
เรามาถึงทางขึ้นไป Bukit Tabur West ประมาณเก้าโมงครึ่ง มาสายไปนิด ให้ดีน่าจะเริ่มขึ้นเขาประมาณแปดโมง จะได้ไม่ร้อนจนเกินไป พวกเราเอารถไปจอดหน้าประตูทางเข้าไปเขื่อน แล้วก็เดินขึ้นเขา โดยทางขึ้นจะอยู่ไม่ไกลจากประตู มันเป็นเช้าที่อากาศสดใส ไม่มีทีท่าว่าจะมีฝน เราไปกันสี่คน สองคนในกลุ่มไม่เคยมีประสบการณ์เดินป่ามาก่อน เส้นทางช่วงแรกจะเป็นทางดินมีต้นไม้ขึ้นสูงตลอดสองข้างทางมองไม่เห็นวิวอะไรเลย  เราเดินไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆอยู่พักนึง  และแล้วเราก็เห็นวิวเมืองและเขื่อนแบบใกล้ๆ

ถ่ายรูปกับเขื่อนซะหน่อย

เดินขึ้นกันต่อ ช่วงนี้ยังเดินสบายๆ เดินขึ้นไปเรื่อยๆ

หลังจากเดินขึ้นมาอีกประมาณ สามสิบนาที จะเห็นวิวเขื่อน กับสันเขาของ Bukit Tabur East  จากจุดนี้เส้นทางเดินเริ่มเปลี่ยนสภาพจากดินเป็นหินแล้ว

สามหนุ่มสามมุม

เดินกันต่อ ยิ่งสูงวิวยิ่งสวย

และแล้วเราก็มาถึงสันหินอันแรก จากตรงนี้เราจะเห็นวิวโดยรอบ ทั้งวิวเขื่อน สันเขาและเมือง ทุกคนเลยอยู่ในอาการเดียวกันหมด จุดนี้เป็นลานหินกว้างๆ ก่อนจะแคบลงๆ แล้วต้องเดินลงยาว เพื่อจะไปขึ้นสันหินอันต่อไป

วิวเมืองใต้เขื่อน กับ Bukit Tabur East ด้านซ้าย สังเกตุว่าตัวสันเขาจะนูนขึ้นมาตรงกลาง แล้วทอดตัวขึ้นลง นี่เป็นอีกจุดเด้นของ Bukit Tabur จนได้ฉายาว่า "Dragon's Backbone"

สายๆหน่อย เมฆเริ่มเยอะขึ้น

วิวเมืองอีกฝั่ง เห็นไกลไปถึงตึกแฝดโน้นเลยแต่วันนี้ ฟ้าไม่ค่อยใสเท่าไร

ซูมเข้าไปหน่อย จะเห็นตึกแฝดกับ KL Tower อยู่ไกลๆ

หลังจากถ่ายรูปกันจุใจที่สันหินอันแรก เราก็เดินลง.... แล้วก็ขึ้น...เดินประมาณยี่สินนาที ก็มาถึงสันหินอันที่สอง

จากตรงนี้เราจะได้เห็นวิวเขื่อนกับสันเขาแบบเต็มๆ

จากจุดนี้เป็นต้นไป เริ่มต้องใช้ความระมัดระวังสูงขึ้น เพราะทั้งสองข้างทางจะเป็นหน้าผาหิน บางช่วงเราต้องปีนหินขึ้นไป ในรูปด้านล่างจะเห็นยอดเขียวๆอยู่ด้านบนขวา ตรงนั้นจะเป็นยอดสูงสุดของ Bukit Tabur West
ใกล้จะถึงยอดแล้ว!!!!

ข้างๆจะเป็นหน้าผา ต้องใช้ความระมัดระวังสูง แต่วิวไม่ธรรมดาจริงๆ

จุดนี้เป็นมุมมหาชล ถ้ามาแล้วไม่ได้ถ่ายมุมนี้ ถือว่ามาไม่ถึง Bukit Tabur

ฟินเบ้ย!!!!

สมกับเป็นมุมมหาชลจริง!!!!!

เราเดินกันต่อไม่นาน ก็มาถึงจุดนี้ เป็นจุดที่มีโขดหิน พอให้เรานั่งพัก กินขนมชิวๆได้ ต่อจากจุดนี้เราต้องเดินลงบันไดเหล็กแล้วไต่เชือกขึ้นยอดในแนวดิ่ง ยอดอยู่ใกล้แค่เอื้อม มันคือยอดเขียวๆถัดจากโขดหินที่เรานั่งกันในรูปข้างล่าง แต่ด้วยเส้นทางที่ต้องลงบรรไดแล้วไต่เชือกขึ้นในแนวดิ่ง ประกอบกับเชือกที่ใช้ปีนๆไม่มีการบำรุงรักษา เราเลยตัดสินใจกันว่า หยุดแค่ตรงนี้แล้ววกกลับทางเดิม

เส้นสีเขียวคือเส้นทางที่เราเดินกันวันนี้ แอบเสียใจเล็กน้อยที่ไปไม่ถึงยอด แต่ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ

เรานั่งพักตรงโขดหิน กินขนมเพิ่มพลังอยู่พักนึง แล้วก็เริ่มเดินลงทางเดิม
ชื่อสินค้า:   Bukit Tabur
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่