[แปล] คอลัมน์ Churi Meshi: พิธีวิวาห์ของฟุรุยานางิ (Finale)จากนิตยสาร Entame

ไปอ่านแปลอิงแล้วมันฟินอย่างบอกไม่ถูก ช่วงนี้ว่างแล้ว เลยแปลมาแบ่งปันความฟินฮะ

(1)


(2)



คอลัมน์ทำอาหารใน Entame ของชูริ
Churi Meshi เกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ในที่สุดก็ได้ดำเนินมาถึงตอนสุดท้าย
ลูกค้าคนสุดท้ายคือ ท่านฟุรุคาว่า ไอริ ซึ่งจะจบการศึกษาในปลายเดือนมีนาคมนี้
เชิญไปเพลิดเพลินกับฉากจบสุดซึ้งที่แฟนๆฟุรุยานางิจะจำไปตลอดกาล

การจบการศึกษาสำหรับชูริและไอริน

ตอนที่ฟุรุคาว่าซังประกาศจบการศึกษา ทาคายานางิซังรู้มาก่อนหรือเปล่า?

ชูริ: ช่วงนั้น หลังจากมิเอปี้ (ซาโต้ มิเอโกะ) กับนากานิชิซัง ประกาศจบการศึกษาไม่กี่วัน
เราได้เข้าโตเกียวเพื่อซ้อมงานโคฮาคุ ที่นั่นเราอยู่ห้องเดียวกัน ตอนนั้นฉันพูดว่า "มิเอปี้กับนากานิชิซังก็จะแกรดแล้วใช่ม้าา?"
เธอ (ไอริน) หลบตาฉันแล้วตอบว่า "ช่ายยย" ฉันคิดว่ามันแปลกๆ เลยตั้งใจถามไปว่า "ถามจริงๆเถอะ ไอริก็คิดเรื่องนี้เหมือนกันใช่มั้ย?"
แล้วเธอก็ตอบมาว่า "อ่า...ใช่ รู้มั้ยจริงๆฉันตัดสินใจแล้วล่ะ"

ไอริน: แล้วเธอก็ทำหน้าแบบตกใจสุดขีด ฮ่าๆๆๆ

ชูริ: มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ! ฉันถามเธอว่า "เอ๋!? เมื่อไหร่!?" แล้วเธอก็ตอบว่า "ช่วงมีนาคม..."
ฉันเลยแบบ "นั่นมันช่วงเดียวกับมิเอปี้แล้วก็นากานิชิซังเลยไม่ใช่รึไง!"

ไอริน: คือ เพราะว่าตอนนั้นสเตจวันเกิดชูริกำลังใกล้เข้ามา ฉันเลยคิดไว้ว่าพอผ่านวันเกิดเธอไปฉันจะบอก
แบบว่า ฉันไม่อยากทำให้เธอรู้สึกไม่ดีก่อนสเตจวันเกิดเธอโดยไม่จำเป็น แต่เพราะเราสองคนดันมาคุยกันเรื่องแกรดซะก่อน
ฉันเลยคิดว่าถ้าฉันไม่บอก หลังจากนี้เธออาจจะรู้สึกไม่ดีมากกว่านี้ก็ได้ ฉันเลยบอกเธอไป

ชูริ: แต่จากนั้นเราก็หัวเราะได้ เพราะรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่เรื่องจริง แต่ถึงฉันจะร้องไห้ตอนนี้ มันก็รู้สึกผิด เพราะงั้นฉันเลยพยายามทำตัวเข้มแข็ง ฮ่าๆๆๆ
แต่ฉันก็คิดแหละว่ามันใกล้เข้ามาแล้ว

เอ๊ะ...ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?

ชูริ: ตลอดปีที่ผ่านมาเราอยู่ด้วยกันตลอดเลย ไม่ว่าจะกินข้าวหรือเวลาเดินทางไปไหน แล้วเราก็พูดถึงเรื่องแกรดอยู่บ้างตอนคุยกัน
นอกเหนือไปจากช่วงจังหวะที่จะแกรด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องประมาณว่าเธอจะไปทำอะไรหลังจากแกรด หรือไม่ก็ที่ๆอยากไปหรือความฝันของเธอมากกว่า
ฉันสังเกตว่าฉันได้ยินเรื่องพวกนี้จากไอริค่อนข้างเยอะในปีที่ผ่านมา ฉันเลยแบบ "อืม บางทีมันอาจจะใกล้เข้ามาแล้ว.." แต่ฉันไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้

ไอริน: อ่ะฮ่าๆๆ โทษทีนะ เพราะเราใช้เวลาด้วยกันเยอะ ฉันเลยไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไง

ชูริ: ช่วงนั้น เมื่อฉันต้องไปทำงานที่แยกจากไอริ เวลาฉันนั่งในรถแล้วไม่มีใครนั่งอยู่ข้างๆ ฉันมักจะคิดว่า
"อ่า...ต่อจากนี้ ไอริก็จะไม่ได้อยู่แถวๆนี้อีกแล้วใช่มั้ย?" แต่มันเริ่มจะเป็นจริงเมื่อเธอประกาศจบการศึกษาที่เธียร์เตอร์
เพราะเมื่อเธอประกาศกับแฟนๆไปแล้ว จะไม่มีทางให้ถอยกลับ

มีเรื่องเล่าของทั้งสองคนเกี่ยวกับการสื่อสารที่ผิดพลาดในวันประกาศจบการศึกษา

ชูริ: ในวันที่มีสเตจ แม้ว่าฉันจะได้ยินมาบ้างว่าเธออาจประกาศแกรด ฉันไม่รู้รายละเอียดและไม่ได้เช็คกับเธอให้แน่ใจ
แล้วการแสดงก็เริ่มโดยเราไม่ได้คุยกัน

ไอริน: ฉันเองก็คิดถึงจังหวะที่ฉันจะประกาศ แต่ฉันไม่ได้บอกเธอไป

ชูริ: เมื่อเมมเบอร์มีเรื่องจะประกาศ ส่วนใหญ่ก็จะยกมือแล้วพูดว่า "ไฮ่" ตอนก่อนเราจะกล่าวจบสเตจ
ตอนช่วงที่เราพูดว่า "พวกเราขอบคุณทุกคนจริงๆที่มาในวันนี้" รู้มั้ย ฉันคิดว่าถ้าไอริจะบอกคงจะบอกตอนนั้นแหละ
ตอนก่อนจะกล่าวจบ จริงๆฉันเว้นช่วงไว้ด้วยในขณะที่ไหลไปตามโฟลว์น่ะ ฮ่าๆๆๆ

ไอริน: ใช่ นั่นแหละ แต่ฉันก็ไหลไปตามโฟลว์ ฉันเลยแบบ "ฉันควรจะบอกตอนนี้เลยมั้ย? ตอนนี้โอเครึเปล่านะ?" ฮ่าๆๆๆ
เพราะชูริมองมาที่ฉันระหว่างที่เธอพูด แต่กลับกัน ฉันไม่รู้เลยว่ามันโอเคมั้ยที่จะบอกออกไปและในท้ายของท้ายที่สุด ฉันก็ "ไฮ่" แล้วพูดออกมา

ชูริ: ใช่เลย ตอนนั้นฉันเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังพูดอะไรอยู่...แล้วฉันก็นึกว่า บางทีเธออาจจะเปลี่ยนใจไม่ประกาศแล้ว ฮ่าๆๆๆ

ไอริน: เพราะประกาศของฉันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ ชูริเลยช็อคแล้วร้องไห้ออกมา มันเป็นเซอร์ไพรส์ที่เธอไม่ได้คิดไว้ เลยช็อคใช่มั้ย
แบบว่า "ไม่ว่ายังไงก็จะพูดออกมาให้ได้เลยใช่มั้ย!" ฮ่าๆๆๆๆ

ชูริ: พอฉันเริ่มร้องไห้ก็หยุดไม่ได้เลย ฉันเริ่มร้องไห้อีกรอบตอนที่ประกาศเงา (คาเงะ อานะ) หลังจากนั้น
แล้วก็ร้องตอนที่ลาแฟนๆด้วย เพราะฉันไม่อยากให้แฟนๆต้องกังวล ฉันเลยยิ้มในขณะที่ร้องไห้ไปด้วย แล้วหน้าฉันก็แบบ ดูไม่ได้เลย...

ไอริน: ในบล็อก มีแฟนๆมาคอมเม้นต์ด้วยว่า "เพราะฟุรุคาว่าซังใจเย็นและมีสติฉันไม่ห่วงเลย แต่ฉันห่วงทาคายานางิซัง"

ชูริ: ฉันได้รับคอมเม้นต์ประมาณว่า "การเสียทั้งซาโต้ซังกับฟุรุคาว่าซังที่ใกล้ชิดและคอยสนับสนุนกันมาพร้อมๆกัน ชูริจะยังไปต่อได้มั้ยนะ?" ในบล็อกของฉันด้วย ฮ่าๆๆ
ในวันที่ไอริประกาศ เธอได้รับคอมเม้นต์ประมาณ 800 คอมเม้นต์ แต่ฉันได้ถึง 700 คอมเม้นต์ ฉันไม่ใช่คนแกรดซะหน่อย ฮ่าๆๆๆ
ฉันรู้สึกอุ่นใจที่มีทุกคนคอยเป็นห่วง

ไอริน: แต่ แม้ในบล็อกจะมีคอมเม้นต์แบบว่า "เศร้าจัง" แต่ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการมองไปข้างหน้า เช่น "ฉันคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว" หรือไม่ก็ "พยายามต่อไปนะ"

เป็นไปได้มั้ยว่า บางทีทาคายานางิซังผู้ล่วงรู้ว่าจะมีการจบการศึกษาได้ส่งออร่าบางอย่างไปให้แฟนๆรับรู้ด้วย?

ไอริน: จริงสินะ ฉันยกธงเรื่องแกรดขึ้นมาหลายรอบมาก ฮ่าๆๆๆๆ

ชูริ: แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ไอริทำโดยไม่รู้ตัว อย่างสิ่งที่เธอพูดตอนก่อนเข้าเพลง "Ramune no Nomikata" กลายเป็นเรื่องเครียดไปเลย

ไอริน: เอ๋!? ไม่จริงอ่ะ!

ชูริ: (ทำเลียนแบบ) "ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากๆที่ได้แสดงสเตจนี้...โปรดฟังเพลงนี้นะคะ Ramune no Nomikata" แบบนี้เลย!!
ตั้งแต่นั้น ฉันก็เริ่มคิดนิดๆละว่า "อ๊ะ หรือว่า...?" (เธอจะประกาศแกรด)

ไอริน: เอ๋!? ฉันไม่รู้สึกเลยนะ แล้วปกติฉันพูดว่าไงอ่ะ?

ชูริ: "จากนี้ไปก็ด้วย ฉันหวังว่าทุกคนจะเติบโตและเติบโตไปด้วยกัน! โปรดรับฟังเพลงนี้ ไปด้วยกัน Ramune no Nomikata"

ไอริน: ไม่เห็นจะเหมือนฉันเลย! แต่ เออ...ไม่ได้สังเกตเลยแฮะ

ชูริ: "ฉันจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วปีหน้า" นั่นแหละบรรยากาศที่เธอแผ่ออกมา รู้มั้ย! อย่างกะทันหันเลย!

ไอริน: บางที แม้ว่าฉันไม่ได้พูดกับทุกคน แต่ในใจฉันมันตัดสินใจไปแล้วเลยกลายเป็นว่าแสดงออกมาละมั้ง ฮ่าๆๆๆ
หลังจากที่ตัดสินใจแล้ว ถ้าฉันยังพูดเหมือนเดิม "ทุกคนจะเติบโตและเติบโตไปด้วยกัน..." ฉันคงแบบ หลังจากประกาศ คงมีคนคิดว่า "แต่แกกำลังจะแกรดไม่ใช่เรอะ!"...เพราะงั้น แม้ฉันจะเป็นคนที่ตัดสินใจแกรด แต่คงเพราะฉันไม่อยากถูกมองเป็น "คนที่กำลังจะแกรด" ตอนยืนอยู่บนเวที คงเป็นอย่างนั้นแหละ

เพราะฉันกำลังจะจบการศึกษา งั้นมาจบแบบฮาๆกันเถอะ!

ชูริ: พูดก็พูดเถอะ ฉันคิดว่ายังมีอีกอย่างที่ยังคาใจอยู่ เราไม่เคยร้องเพลงยูนิตด้วยกันเลย รู้มั้ย
และเพราะฉันไม่ได้เตรียมใจว่าเธอจะแกรดในเดือนมีนาคม ฉันยังเคยคิดเลยว่าภายในปีนี้อยากจะร้องเพลงยูนิตกับเธอซักครั้ง

ไอริน: อ่า...จริงด้วย

ชูริ: เราเคยคุยกันว่าอยากร้อง "Wagamama na Nagareboshi" แบบฮาๆด้วยไม่ใช่เหรอ

ไอริน: "Koko de ippatsu" ด้วย

ชูริ: แต่เพราะกลายเป็นแบบนี้ บางทีอาจจะดีกว่าถ้าเราทำอะไรซีเรียสกว่านี้?

ไอริน: ถ้ามันเป็นการแกรดแบบซีเรียส มันก็ไม่ใช่ฉันสิ ฮ่าๆๆๆ ฉันอยากแกรดแบบที่รั่วๆฮาๆจนหยดสุดท้าย!

เพราะพวกคุณอยู่ด้วยกันเสมอ พอเป็นเรื่องซีเรียสเลยเขินสินะ

ชูริ: แม้ว่าพวกเราจะคุยเรื่องเครียดมากๆอย่างเรื่องทีม เช่น เมื่อกี้ตอนที่เราคุยเรื่องอนาคต
พอไอริพูดว่า "เมื่อฉันแกรดแล้ว ฉันอยากจัดงานโชว์ศิลปะ" ฉันก็แบบว่า "อ๊ะ งั้นฉันจะจัดอีเว้นต์ที่นั่นด้วย"
แบบนั้นมากกว่าจะมาพูดอย่างซีเรียสเช่นว่า "เธอจะแกรดเหรอ?"
เราจะพูดว่า "อย่าเอารูปพวกนั้นมาโชว์นะ" หรือไม่ก็ "บางทีฉันน่าจะวาดรูปล้อเลียนแล้วแจกให้กับคนที่มางานคนแรกนะ" แทน ฮ่าๆๆๆๆ

ไอริน: มันเหมือนว่าเราทำเรื่องที่มันไม่น่าตลกให้เป็นเรื่องตลกหมดเลย ฮ่าๆๆๆๆ

พวกคุณทั้งคู่ ไม่ว่าจะเรื่องวาดรูปหรือทำอาหาร ดูเป็นคนมีความสามารถหลากหลาย พวกคุณมีอะไรที่เหมือนกันมั้ย?

ชูริ: เราสองคนแคร์กับเรื่องที่คนอื่นคิดมากเกินไป ฮ่าๆๆ

ไอริน: อ่า...จริงสินะ แม้ในงานจับมือ ฉันจะคุยกับแฟนๆได้สบาย แต่ฉันไม่รู้เลยว่าจะเข้ากับคนอื่นได้ยังไงหลังจากแกรดไปแล้ว

ชูริ: แต่ขนาดในบรรดาเมมเบอร์ด้วยกัน เวลาเจอกันฉันยังรู้สึกเขินขึ้นมาเลย บางทีคนเดียวที่ฉันสนิทมากพอ แม้ว่าเธอจะมาค้างบ้านฉันก็ไม่เป็นอะไร คือ ไอริ

ไอริน: ฉันก็เหมือนกัน รู้มั้ย ชูริปั่นจักรยานมาที่สถานีรถไฟใกล้บ้านเพื่อมารับฉัน ระหว่างทางที่เราไปบ้านเธอ
เราคุยกันว่า "อ่า...ตอนนี้รู้สึกเหมือนวัยรุ่นเลย!" ใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

ชูริ: แล้วเราก็แยกกันดูหนังไม่ก็อ่านการ์ตูน แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกัน เพราะเราทั้งคู่ปกติเกรงใจคนอื่นมากเกินไป

นานแค่ไหนและเมื่อไหร่ที่ "ฟุรุยานางิ" เกิดขึ้น
แฟนๆตั้งชื่อเล่นให้ว่า "ฟุรุยานางิ" จากชื่อของพวกคุณ คุณทราบมั้ยว่าเมื่อไหร่?


ไอริน: นานมาแล้ว แฟนๆของฉันใจดีคิดให้ แล้วพอถึงจุดนึงมันก็ติดลมบน

ชูริ: สำหรับเราสองคน ตอนที่ได้ยินครั้งแรกเราก็คิด "อะไรน่ะ?" แล้วก็แบบว่า "ฟุรุยานางิ" ฟังเหมือนชื่อร้านอาหารญี่ปุ่นเก่าๆเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

ไอริน: แต่สำหรับเราสองคน ถ้าเป็นชื่อที่มันไอดอลจ๋ามากๆ คงยากที่คนจะจำ เพราะงั้นชื่อนี้เลยติดง่ายอย่างคาดไม่ถึง ฮ่าๆๆๆ

พวกเราก็เหมือนกัน เราว่ามันจำง่ายมาก ฮ่าๆๆ แล้วฟุรุคาว่าซังโดยสว่นตัวในระหว่างที่เป็นเมมเบอร์ SKE48 มีช่วงเวลาไหนที่น่าจดจำเป็นพิเศษบ้าง?

ไอริน: อืมม แม้ว่าจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าจดจำ แต่คงจะเป็นตอนที่ฉันได้รับเพลงของตัวเองนั่นแหละ ฉันดีใจมากจริงๆ
เพราะฉันได้รับเพลงของตัวเองจากคนอย่างอากิโมโตะเซนเซย์ผู้ที่อยู่เหนือเมฆ มันเป็นอะไรที่ฉันไม่คิดไม่ฝันแม้แต่ตอนก่อนจะมาเป็นไอดอล
มันไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะได้มา แต่เมื่อสเตจ "Ramune no Nomikata" ถูกเขียนขึ้นและเราได้คุยกันว่าใครจะร้องเพลงยูนิต มีข่าวลือว่าฉันจะได้ร้อง "Usotsuki na Dachou" แน่ๆ แต่จากนั้น ฉันก็ถูกเปลี่ยนให้ไปร้อง "Manazashi Sayonara"

ชูริ: ใช่ ใช่เลย ตอนแรก "Usotsuki na Dachou" มีเนื้อร้องที่แรงแล้วก็เป็นผู้ใหญ่กว่านี้ แต่หลังจากนั้นตัวเมมเบอร์ที่จะมาร้องถูกเปลี่ยน แล้วเนื้อร้องเลยเปลี่ยนด้วย เนื้อเพลงเลยออกมาน่ารักขึ้นเยอะ ใช่มะ

ไอริน: เพราะว่าตอนแรกสุด มันเป็นเพลงที่จะให้เมมเบอร์ที่มีอายุมากหน่อยร้อง รวมฉันด้วย พอมาคิดดูตอนนี้ ถ้าฉันได้ร้อง "Usotsuki na Dachou" เวอร์ชั่นเซ็กซี่ละก็
ฉันอาจจะได้คาแรคเตอร์เป็นพี่สาวสุดเอ็กซ์ไปแล้วล่ะ จริงมั้ย? (คนแปล: โอ้วโน่ววววว อย่าให้ขำไปมากกว่านี้เลย คุณพี่ฟุ ฮ่าๆๆๆ)

ชูริ: ม่ายยยย ไม่เอา ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ไอริน: แต่ฉันดีใจจริงๆที่ได้ร้อง "Manazashi Sayonara" มันกลายเป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ฉันจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่