มาเริ่มกันที่ลิปสติกที่ได้มาจากญี่ปุ่นดีกว่าเนอะ ก็อย่างที่รู้ๆกันเนอะสาวญี่ปุ่นจะเน้นความใสๆ คิกขุอาโนเนะ ลิปสติกส่วนใหญ่เลยออกแนวนู้ดๆหน่อย ตอนนนี้เรามีอยู่ 9 สี จาก 3 แบรนด์ อันแรกก็คือ
❤︎ Lavshuca ก่อนเราไปญี่ปุ่นได้ทำการบ้านในการหาข้อมูลว่าควรซื้อลิปสติกยี่ห้อไหนบ้าง และแบรนด์นี้ก็จะโชว์มาอันดับต้นๆ พอเมื่อไปเห็นของจริงพร้อมแพกเกจจิ้งที่ดูสวยสะดุดตาเราก็เลยสอยมา เนื้อสีออกแนวแบบ sheer and sheen lipstick โดย PK-3 มีเม็ดสีที่แน่นกว่านิดนึง ส่วนอีกสองสีก็จะมีกลิตเตอร์เล็กๆที่เอาจริงๆถ้าไม่สังเกตุก็จะมองไม่เห็น ทั้งสามสีเหมาะกับการทาในชีวิตประจำวันมาก ทาแล้วสบายปาก เนื้อไม่แห้งให้ความชุ่มชื่น
❤︎ Canmake แบรนด์นี้จะมีเนื้อค่อนข้างcreamy และเม็ดสีแน่นกว่าแบรนด์ข้างบน เราชอบแพกเกจจิ้งมากดูหรูแต่ราคาย่อมเยาว์ โดยลิปสติกทั้งสองแท่งมีชื่อเดียวกัน แต่คนละสี อันที่เป็นแท่งสีทองแดง 01 melty nude นั้น เราไม่เคยใช้ทาเดี่ยวๆเลยเพราะทาเมื่อไหร่ ป่วยเมื่อนั้น แต่เราชอบมากเวลาเอาไปผสมกับสีอื่น แล้วมันจะออกสีนมๆหน่อย น่ารักฟรุ้งฟริ้งเชียว ส่วนอีกสี 01 creamy touch เป็นอีกหนึ่งสีนู้ดที่ทาแล้วดูสวยธรรมชาติ
❤︎ Lookme the Lipstick ตอนไปญี่ปุ่นเราสอยมาทั้งหมด 4 แท่ง คือสี Cotton Candy-ชมพูเบบี้พิ้ง, Baby Kiss-สีส้มนู้ดๆ, Tango Dance-สีส้มเปรี้ยวปรี๊ด และ Pink Fever-สีชมพูบานเย็น ตัวเนื้อของลิปสติกเป็นเนื้อ Creamy ให้ความชุ่มชื่นค่อนข้างดี สำหรับเราเราชอบสีแจ่มๆอย่าง Tango dance กับ Pink Fever มากกว่า ส่วนสีอ่อนๆ เราว่าแบรนด์อื่นน่าจะทำออกมาได้ดีกว่า
มาต่อกันด้วยลิปสติกจากอังกฤษ อารมณ์จะต่างจากญี่ปุ่นนิดนึง อย่างแรกคือมีช๊อยของสีมีให้เลือกมากกว่า และเนื้อสีค่อนข้างจะแน่นกว่า ตอนนี้เรามีอยู่ 18 สีจาก 7 แบรนด์
❤︎ Bourjois Liquid Lipstick Rouge Edition Velvet Matte Finish เรามีสี 02 Frambourjoise สีแดงราสเบอร์รี่ 03 Hot pepper สีแดงส้ม 04 Peach club สีพีช 05 Ole Flamingo ชมพูเข้ม 06 Pink pong สีบานเย็น เป็นลิปเนื้อครีมบางเบานุ่มลื่น ลิปตัวนี้จะเป็นเนื้อแมตท์ แต่เวลาที่ทางลงปากไปแล้วจะไม่แห้งทันที มันจะค่อยๆแห้ง แต่ไม่ได้ดูแห้งกรังจนเห็นริ้วรอยบนปากนะคะ มันแห้งกำลังสวย ความคงทนดีงาม คุ้มค่าแก่การลอง แว่วๆว่าเร็วๆนี้เค้าจะออกสีใหม่มาเพิ่ม
❤︎ Me me me ของแบรนด์นี้เรามีอยู่แท่งเดียวคือสี Berry Crush เป็นสีชมพูม่วงเบอร์รี่ๆ ที่มีประกายชิมเมอร์นิดๆ เนื้อลิปสติกทำให้เรานึกถึง เนื้อ amplified ของ MAC ที่จะให้ความรู้สึก glossy เล็กๆ แต่เนื้อสียังคงแน่นอยู่ ไม่แห้งจนเกินไป
❤︎ L'oral ลิปทั้ง 4 แท่งมาจาก Privee Collection ที่ collaborate กับคนที่มีชื่อเสียง ให้ออกลิปสติกสีนู้ดที่เหมาะกับสีผิวตัวเองมา เรามีสี Doutzen สีชมพูอ่อนแบบเบบี้พิ้ง เอาจริงๆสีนี้ไม่เข้ากับเราเลย ถามตัวเองอยู่ทุกวันนี้ว่าซื้อมาทำไม 5555 Julianne สีพีชนู๊ด Eva สีน้ำตาลคารเมลอ่อนๆที่มีเหลือบทองเล็กๆ Freida สีน้ำตาลอ่อนที่มีเหลือบม่วงอ่อนๆ เนื้อ sheer แต่ creamy คล้ายๆกับเนื้อ glaze ของ MAC ทาง่าย ให้ความชุ่มชื่นกำลังดี
❤︎ Beauty UK เราเนี่ยเดินเข้าออก Superdrug กับ Boots ที่อังกฤษเป็นว่าเล่น เดือนหล่ะหลายรอบ เสียตังค์เกือบทุกครั้ง แต่เราก็มองข้ามแบรนด์นี้มาตลอด จนเราได้ดู How-to ของ Lisa Eldridge เมคอัพอาร์ตทิตส์คนโปรดชาวอังกฤษ มันมีครั้งนึงที่นางใช้ลิปนี้ในฮาวทู เราเลยสนใจและไปลองดูบ้าง สรุป เราก็ได้เลยจ้า สี Vampire สีเดียวกับที่นางใช้ในคลิปนั่นหล่ะ เป็นสีแดงสดสวยมากกกกกกก เนื้อแน่น ทนสุดๆ แถมตอนทียังให้รสและกลิ่นมิ้นด้วย ช๊อบ ชอบ สุดท้ายจึงได้มาเป็นข้อสรุปที่ว่าบางทีเพกเกจจิ้งที่ไม่ได้ดูแพงมันไม่สามารถบอกได้เลยว่าของข้างในจะดีหรือไม่ดี
❤︎ Seventeen สี Saintly ชมพูมุกอ่อนๆ เป็นลิปที่ซื้อมาแล้วเสียดายสุดเพราะทาแล้วตกร่อง เน้นรอยแห้งแตก อีกสักพักเราจะเหวี่ยงทิ้งละ >__<
❤︎ Jack Wills จริงๆอันนี้เป็นแบรนด์เสื้อผ้าของวัยรุ่นอังกฆษ และเค้าเคยทำไลน์เครื่องสำอางค์เล็กๆ แต่ตอนนี้รู้สึกจะไม่ได้ทำแล้ว คิดว่าคงจะหาซื้อตามได้ยากแต่ก็ยังอยากจะเอามาโชว์อยู่ดี 555 มีอยู่ 3 สี จริงๆเคยมีอยู่ 5 แต่ให้คนอื่นไปแท่งนึง ทำหายอีกแท่งนึง เอาจริงๆสีเค้าสวยนะ เนื้อเกือบแมตท์ แต่เราไม่ค่อยได้ใช้เพราะไอฝาพลาสติกของมันเนี่ยแหละ ทั้งแตกทั้งหลุดง่าย ไม่เหมาะแก่การพก เราเลยไม่ค่อยได้ใช้ เอาจริงๆเกือบลืมไปแล้วว่ามี 555
❤︎ Sleek มาถึงแบรนด์โปรดที่ราคาน่ารัก แต่คุณภาพเทียบเท่า MAC เลยชอบมาก เม็ดสีแน่นเวอร์ น่าเสียดายที่มีสีให้เลือกไม่มากเท่าไหร่ แบรนด์นี้ทำออกมาสองfinishคือ sheen กับ matte เนื้อ sheen เรามีสี Babydoll กับ Cherry ซึ่งเราแนะนำว่าสี Cherry เวลาทาควรใช้พู่กัน เพราะมันเลอะขอบปากได้ง่าย ส่วนเนื้อแมตท์ก็ไม่แห้งมาก กำลังดี และทั้งสองแบบเม็ดสีชัดเจนมาก ถ้าไม่ติดว่ามีลิปที่ใช้ได้ยันชาติหน้า เราก็คงซื้อมาเพิ่มละ
หมดละ 27 แท่ง ทาแล้วลบแล้วทาจนปากเปื่อยกันไปข้างนึง แต่ทั้งหมดนี้ก้อเพื่อสาวๆที่สนใจน้าาาา เป็นไงบ้างเอ่ย สาวๆชอบลิปอันไหนมากกว่ากัน
ปล. ถ้าชอบรีวิวลิปสติกแบบนี้ ยังไงฝากให้กำลังใจด้วยน้าาา ลิปสติกในคลังยังมีอีกเยอะ
[CR] เปิดกรุ Drugstore ลิปสติก UK VS Japan เต็มๆ 27 แท่ง ลิปสติกราคาเบาๆ สีสวยๆ
สวัสดีค่ะ สาวๆพันทิพย์ เพลินกลับมาอีกครั้งกับการเปิดกรุลิปสติกที่มี คราวนี้จะมาโชว์Drugstoreลิปสติกที่ซื้อมาจากญี่ปุ่น และ อังกฤษกันบ้าง บอกเลยสว๊อซจนปากเปื่อย หวังว่าเพื่อนๆจะชอบน้าาา
มาเริ่มกันที่ลิปสติกที่ได้มาจากญี่ปุ่นดีกว่าเนอะ ก็อย่างที่รู้ๆกันเนอะสาวญี่ปุ่นจะเน้นความใสๆ คิกขุอาโนเนะ ลิปสติกส่วนใหญ่เลยออกแนวนู้ดๆหน่อย ตอนนนี้เรามีอยู่ 9 สี จาก 3 แบรนด์ อันแรกก็คือ
❤︎ Lavshuca ก่อนเราไปญี่ปุ่นได้ทำการบ้านในการหาข้อมูลว่าควรซื้อลิปสติกยี่ห้อไหนบ้าง และแบรนด์นี้ก็จะโชว์มาอันดับต้นๆ พอเมื่อไปเห็นของจริงพร้อมแพกเกจจิ้งที่ดูสวยสะดุดตาเราก็เลยสอยมา เนื้อสีออกแนวแบบ sheer and sheen lipstick โดย PK-3 มีเม็ดสีที่แน่นกว่านิดนึง ส่วนอีกสองสีก็จะมีกลิตเตอร์เล็กๆที่เอาจริงๆถ้าไม่สังเกตุก็จะมองไม่เห็น ทั้งสามสีเหมาะกับการทาในชีวิตประจำวันมาก ทาแล้วสบายปาก เนื้อไม่แห้งให้ความชุ่มชื่น
❤︎ Canmake แบรนด์นี้จะมีเนื้อค่อนข้างcreamy และเม็ดสีแน่นกว่าแบรนด์ข้างบน เราชอบแพกเกจจิ้งมากดูหรูแต่ราคาย่อมเยาว์ โดยลิปสติกทั้งสองแท่งมีชื่อเดียวกัน แต่คนละสี อันที่เป็นแท่งสีทองแดง 01 melty nude นั้น เราไม่เคยใช้ทาเดี่ยวๆเลยเพราะทาเมื่อไหร่ ป่วยเมื่อนั้น แต่เราชอบมากเวลาเอาไปผสมกับสีอื่น แล้วมันจะออกสีนมๆหน่อย น่ารักฟรุ้งฟริ้งเชียว ส่วนอีกสี 01 creamy touch เป็นอีกหนึ่งสีนู้ดที่ทาแล้วดูสวยธรรมชาติ
❤︎ Lookme the Lipstick ตอนไปญี่ปุ่นเราสอยมาทั้งหมด 4 แท่ง คือสี Cotton Candy-ชมพูเบบี้พิ้ง, Baby Kiss-สีส้มนู้ดๆ, Tango Dance-สีส้มเปรี้ยวปรี๊ด และ Pink Fever-สีชมพูบานเย็น ตัวเนื้อของลิปสติกเป็นเนื้อ Creamy ให้ความชุ่มชื่นค่อนข้างดี สำหรับเราเราชอบสีแจ่มๆอย่าง Tango dance กับ Pink Fever มากกว่า ส่วนสีอ่อนๆ เราว่าแบรนด์อื่นน่าจะทำออกมาได้ดีกว่า
มาต่อกันด้วยลิปสติกจากอังกฤษ อารมณ์จะต่างจากญี่ปุ่นนิดนึง อย่างแรกคือมีช๊อยของสีมีให้เลือกมากกว่า และเนื้อสีค่อนข้างจะแน่นกว่า ตอนนี้เรามีอยู่ 18 สีจาก 7 แบรนด์
❤︎ Bourjois Liquid Lipstick Rouge Edition Velvet Matte Finish เรามีสี 02 Frambourjoise สีแดงราสเบอร์รี่ 03 Hot pepper สีแดงส้ม 04 Peach club สีพีช 05 Ole Flamingo ชมพูเข้ม 06 Pink pong สีบานเย็น เป็นลิปเนื้อครีมบางเบานุ่มลื่น ลิปตัวนี้จะเป็นเนื้อแมตท์ แต่เวลาที่ทางลงปากไปแล้วจะไม่แห้งทันที มันจะค่อยๆแห้ง แต่ไม่ได้ดูแห้งกรังจนเห็นริ้วรอยบนปากนะคะ มันแห้งกำลังสวย ความคงทนดีงาม คุ้มค่าแก่การลอง แว่วๆว่าเร็วๆนี้เค้าจะออกสีใหม่มาเพิ่ม
❤︎ Me me me ของแบรนด์นี้เรามีอยู่แท่งเดียวคือสี Berry Crush เป็นสีชมพูม่วงเบอร์รี่ๆ ที่มีประกายชิมเมอร์นิดๆ เนื้อลิปสติกทำให้เรานึกถึง เนื้อ amplified ของ MAC ที่จะให้ความรู้สึก glossy เล็กๆ แต่เนื้อสียังคงแน่นอยู่ ไม่แห้งจนเกินไป
❤︎ L'oral ลิปทั้ง 4 แท่งมาจาก Privee Collection ที่ collaborate กับคนที่มีชื่อเสียง ให้ออกลิปสติกสีนู้ดที่เหมาะกับสีผิวตัวเองมา เรามีสี Doutzen สีชมพูอ่อนแบบเบบี้พิ้ง เอาจริงๆสีนี้ไม่เข้ากับเราเลย ถามตัวเองอยู่ทุกวันนี้ว่าซื้อมาทำไม 5555 Julianne สีพีชนู๊ด Eva สีน้ำตาลคารเมลอ่อนๆที่มีเหลือบทองเล็กๆ Freida สีน้ำตาลอ่อนที่มีเหลือบม่วงอ่อนๆ เนื้อ sheer แต่ creamy คล้ายๆกับเนื้อ glaze ของ MAC ทาง่าย ให้ความชุ่มชื่นกำลังดี
❤︎ Beauty UK เราเนี่ยเดินเข้าออก Superdrug กับ Boots ที่อังกฤษเป็นว่าเล่น เดือนหล่ะหลายรอบ เสียตังค์เกือบทุกครั้ง แต่เราก็มองข้ามแบรนด์นี้มาตลอด จนเราได้ดู How-to ของ Lisa Eldridge เมคอัพอาร์ตทิตส์คนโปรดชาวอังกฤษ มันมีครั้งนึงที่นางใช้ลิปนี้ในฮาวทู เราเลยสนใจและไปลองดูบ้าง สรุป เราก็ได้เลยจ้า สี Vampire สีเดียวกับที่นางใช้ในคลิปนั่นหล่ะ เป็นสีแดงสดสวยมากกกกกกก เนื้อแน่น ทนสุดๆ แถมตอนทียังให้รสและกลิ่นมิ้นด้วย ช๊อบ ชอบ สุดท้ายจึงได้มาเป็นข้อสรุปที่ว่าบางทีเพกเกจจิ้งที่ไม่ได้ดูแพงมันไม่สามารถบอกได้เลยว่าของข้างในจะดีหรือไม่ดี
❤︎ Seventeen สี Saintly ชมพูมุกอ่อนๆ เป็นลิปที่ซื้อมาแล้วเสียดายสุดเพราะทาแล้วตกร่อง เน้นรอยแห้งแตก อีกสักพักเราจะเหวี่ยงทิ้งละ >__<
❤︎ Jack Wills จริงๆอันนี้เป็นแบรนด์เสื้อผ้าของวัยรุ่นอังกฆษ และเค้าเคยทำไลน์เครื่องสำอางค์เล็กๆ แต่ตอนนี้รู้สึกจะไม่ได้ทำแล้ว คิดว่าคงจะหาซื้อตามได้ยากแต่ก็ยังอยากจะเอามาโชว์อยู่ดี 555 มีอยู่ 3 สี จริงๆเคยมีอยู่ 5 แต่ให้คนอื่นไปแท่งนึง ทำหายอีกแท่งนึง เอาจริงๆสีเค้าสวยนะ เนื้อเกือบแมตท์ แต่เราไม่ค่อยได้ใช้เพราะไอฝาพลาสติกของมันเนี่ยแหละ ทั้งแตกทั้งหลุดง่าย ไม่เหมาะแก่การพก เราเลยไม่ค่อยได้ใช้ เอาจริงๆเกือบลืมไปแล้วว่ามี 555
❤︎ Sleek มาถึงแบรนด์โปรดที่ราคาน่ารัก แต่คุณภาพเทียบเท่า MAC เลยชอบมาก เม็ดสีแน่นเวอร์ น่าเสียดายที่มีสีให้เลือกไม่มากเท่าไหร่ แบรนด์นี้ทำออกมาสองfinishคือ sheen กับ matte เนื้อ sheen เรามีสี Babydoll กับ Cherry ซึ่งเราแนะนำว่าสี Cherry เวลาทาควรใช้พู่กัน เพราะมันเลอะขอบปากได้ง่าย ส่วนเนื้อแมตท์ก็ไม่แห้งมาก กำลังดี และทั้งสองแบบเม็ดสีชัดเจนมาก ถ้าไม่ติดว่ามีลิปที่ใช้ได้ยันชาติหน้า เราก็คงซื้อมาเพิ่มละ
หมดละ 27 แท่ง ทาแล้วลบแล้วทาจนปากเปื่อยกันไปข้างนึง แต่ทั้งหมดนี้ก้อเพื่อสาวๆที่สนใจน้าาาา เป็นไงบ้างเอ่ย สาวๆชอบลิปอันไหนมากกว่ากัน
ปล. ถ้าชอบรีวิวลิปสติกแบบนี้ ยังไงฝากให้กำลังใจด้วยน้าาา ลิปสติกในคลังยังมีอีกเยอะ
อยากถามอะไรก็เข้าไปคุยทักทายได้ที่ Facebook Page น้าา แล้วเจอกันใหม่ค่าาาา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Kiss kiss