Be Careful!! เด็กอันตราย ตอนที่4+5

กระทู้สนทนา
ตอนเก่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




4
สีเป็นเหตุ(แบบเล่นๆ)



                    หลังจากหน่วยมูลนิธิเข้ามาจัดการกับสิ่งที่พวกเนียร์เห็นเรียบร้อยแล้ว  เนียร์ตัดสินใจว่าจะกลับบ้านเลยเพื่อย่อยข้อมูลที่รู้มา
              
                    แต่ดูเหมือนว่า  คนคิดแบบนั้นจะมีแค่เธอคนเดียว

                    “จะรีบกลับทำไม  มาถึงนี่ทั้งทีไปเที่ยวกันดีกว่า”  คำเชิญชวนพร้อมรอยยิ้มแฝงความเจ้าเล่ห์ของหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกคล้อยตามเลยสักนิด

                    หากไม่ใช่พี่น้องที่รู้ไส้รู้พุงมาก่อนละก็  เธอคงจะตอบตกลงทันทีด้วยความเต็มใจ  แต่เพราะมันเป็นพี่นี่ละถึงได้รู้สึกสยองยิ่งกว่าตอนเห็นหัวคนเสียบอยู่บนเสานั่นซะอีก

                    “ถ้านายอยากเที่ยวก็ไปคนเดียวเถอะ  ฉันขอกลับก่อน”  ยังไม่ทันจะได้ชิ่งหนี  เด็กหนุ่มก็เข้ามาล็อกคอเธอจากทางด้านหลังซะก่อน  ทินก้มลงมาพูดเบาๆ ที่ข้างหู  ชนิดที่ฟังแล้วเหงื่อตกหน้าซีดได้

                    “คิดจะหนีรึไงไอ้น้องรัก  มาดวลกันสักตั้งก่อนสิ”  ทินยิ้มกว้างดูอบอุ่นแบบหญิงอื่นมาเห็นเข้ารับรองใจละลาย  แต่สำหรับเนียร์แล้ว  มันไม่ต่างจากรอยยิ้มพญามาร  ที่เตรียมส่งเธอลงนรกรวดเร็วทันใจเหมือนติดไฮสปีดเลย


              

                     ไอ้พี่ชายเฮงซวยนั่น!

                      เนียร์สบถในใจอย่างอาฆาตแค้นชายข้างตัวที่พาเธอมายังสนามบาสเล็กๆ ในเมือง ถ้าถามว่าทำไมพามาที่แบบนี้แล้วถึงโกรธน่ะเหรอ  ก็มันใช่เวลาไหมล่ะ  ทั้งที่ยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าต้องไปทำอีกแท้ๆ หากทินไปที่ที่จำเป็นกว่านี้  เธอจะไม่ว่าอะไรสักคำ

                      แต่ถึงจะบ่นไปอย่างนั้น  เนียร์ก็แอบสนใจเหมือนกันในฐานะคนที่เล่นบาสอยู่  สนามบาสที่ใช้แข่งสตรีทบาส  ซึ่งปกติจะมีผู้เล่นเพียงทีมละสามคน  แต่อาจเป็นจำนวนอื่นก็ได้ไม่มีใครเคร่ง  อย่างตอนนี้เองที่กำลังแข่งกันอยู่ในสนามคือทีมละสองคน  เพียงแต่จำนวนที่เห็นกันอยู่บ่อยๆ นั้นคือสามคน

                      พื้นสนามที่ใช้มีสีเขียวตุ่น  ทั้งสองฟากมีแป้นบาสเล็กๆ ตั้งอยู่  ทั้งสนามถูกล้อมรอบด้วยตาข่ายป้องกันไม่ให้ลูกบาสออกนอกเขต
บัดนี้มีกลุ่มผู้ชายอยู่สี่คนกำลังเล่นกันอย่างดุเดือด  มีเสียงเชียร์จากพวกข้างสนาม  ซึ่งดูจากจำนวนคนแล้ว  กลุ่มที่กำลังแข่งกันอยู่คงจะดังไม่น้อย  เพราะไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็มีเยอะพอๆ กัน

                      ไอ้การที่ทินคิดจะไปร่วมเล่นด้วยน่ะ  เนียร์ไม่ลำบากใจนักหรอก  แต่เนื่องจากรู้นิสัยพี่ตัวเองดี  จึงรู้ดีว่าชายคนนี้คงไม่ทำอะไรที่ธรรมดาทั่วไปแน่นอน  

                      พอเห็นรอยยิ้มนึกสนุกนั่นแล้ว  ยิ่งทำให้เธอมั่นใจเต็มเปี่ยมว่ามันต้องคิดอะไรที่...บ้าเกินร้อยชัวร์

                      เมื่อพวกเธอเข้าไปตรงแหวกกลุ่มคนไปอยู่ข้างสนามได้สำเร็จ <ถูกอีกฝ่ายลากไปแกมบังคับ>  ก็ทันเห็นผู้ชายตัวใหญ่กระโดดขึ้นดังค์ลูกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ  ถึงแม้แป้นจะเตี้ยกว่ามาตรฐานเล็กน้อยก็ตาม  ก็ยังหาคนที่จะดังค์ได้ยากนัก  เพราะการจะกระโดดไปให้ถึงแป้นเพื่อที่จะได้เอาลูกลงห่วงด้วยมือตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

                      เนียร์รู้แบบนั้นจึงอดทึ่งไม่ได้  เผลอตบมือเหมือนคนอื่นๆ ที่ร้องเฮไปด้วย  ในขณะที่ทินยังยืนเฉย  มีเพียงรอยยิ้มพรายเต็มใบหน้าเท่านั้น
และโดยไม่ทันตั้งตัว  ทินก็เรียกเสียงดังดึงความสนใจของพวกที่อยู่ทั้งในสนามและนอกสนามไปหมด

                      “เฮ้! พวกฉันขอร่วมเล่นด้วยสิ”

                      แน่นอนว่าประโยคนั้นประโยคเดียว  ทำเอาทั้งสนามเงียบกริบ  เกิดความสนใจให้ทินกลายเป็นจุดรวมสายตาในบัดดล

                      ส่วนคนที่มาด้วยกันน่ะหรือ

                      บัดนี้อ้าปากค้าง  หันขวับจ้องอีกฝ่ายอย่างตะลึง  เมื่อมันพูดว่า ‘พวก’ ฉัน  

                      ซึ่งนั่นหมายถึง  มันไม่ได้จะไปตายคนเดียว  แต่ยังลากเธอไปตายด้วยอีกคน  เพราะดูก็รู้ว่าพวกที่กำลังเล่นอยู่นั้น  คงไม่ใช่นักกีฬาที่ดีเต็มไปด้วยคุณธรรมมีน้ำใจนักกีฬาแน่นอน

                      ผู้ชายหนึ่งในคนที่กำลังเล่นอยู่มีรูปร่างสันทัดที่สุดในกลุ่มเดินมาทางทินพร้อมหนีบลูกบาสไว้ตรงเอว  ท่าทางเหมือนจิ๊กโก๋พร้อมหาเรื่องชัดๆ

                      “นาย...จะมาเล่นกับพวกเรา”  เขาทวนสิ่งที่ทินพูดไปเมื่อกี้  ราวกับจะบอกว่า  คิดผิดคิดใหม่ได้นะไอ้กร๊วก  โดยมีทุกคนรอฟังว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อ

                      “เปล่า”  คำตอบของทินทำเอาเนียร์โล่งใจ  ว่ามันคงเพิ่งสำนึกได้ว่าไม่ควรไปแหย็มกับคนพวกนี้  แต่ประโยคถัดมาทำเอาเธอคิดผิดถนัด

                      “พวกฉันสองคนต่างหาก”  ว่าแล้วก็พยักหน้าไปทางเนียร์ที่ยืนอยู่เคียงกัน

                      อีกฝ่ายหันมามองเนียร์อยู่ชั่วอึดใจเดียว  ก่อนไปหยุดตรงผู้ชายอีกคนซึ่งอยู่ถัดจากเนียร์ไป  

                      “นายงั้นเหรอ”

                      คนถูกจ้องส่ายหน้าแรงจนหัวแทบหลุดเมื่อถูกเข้าใจผิด  ทำเอาคนถูกมองข้ามถึงกับฉุนขาด  ทั้งๆ ที่ก็ยืนหัวโด่อยู่ข้างคนพูดแท้ๆ ยังมองข้ามไปได้นะ

                      “ฉันต่างหากล่ะ”  เนียร์เอ่ยเสียงแข็งกระด้างไม่พอใจ  ทำให้สายตาคนตรงหน้าเลื่อนกลับมามองอีกครั้งด้วยความแปลกใจ

                      ทินได้ยินแบบนั้นแล้วยิ้มมุมปาก  รับรู้ได้ว่าคนที่มาด้วยเริ่มของขึ้นแล้ว  เป็นไปตามที่เขาคิดไว้เป๊ะ  

                      ส่วนคนที่เหลือพอได้ยินแล้วก็หัวเราะเสียงดัง  เริ่มจากคนตรงหน้าเนียร์กับทิน  ก่อนจะเผื่อแผ่ไปถึงอีกสามคนที่เล่นด้วยเมื่อกี้และลามไปทั่วทั้งสนามอย่างรวดเร็ว  สร้างความขุ่นเคืองให้กับเด็กสาวไม่น้อย

                      ทั้งสองคนรอจนเสียงหัวเราะเงียบไปอย่างใจเย็น

                      “จะให้ผู้หญิงมาเล่นสตรีทบาสเนี่ยนะ  นายบ้าไปแล้วรึไงหา!”  เขาหันไปพูดกับทินที่ยังยิ้มให้  ก่อนจะหันมาตะคอกใส่เนียร์ใกล้ๆ  จนถึงกับเห็นน้ำลายกระเด็นออกมา

                      “ที่นี่ไม่ได้เล่นกันตุ้งติ้งหน่อมแหน้มแบบในโรงเรียนนะยัยหนู  กลับไปเล่นแบบพวกผู้หญิงโน่นไป”  คำดูถูกอย่างเปิดเผยทำให้ความอดทนของเนียร์เริ่มถึงขีดสุดหากยังทนไหว  ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดจะอยู่เฉยๆ เป็นฝ่ายถูกโจมตีอย่างเดียว  แต่ก่อนหน้าจะได่ทำอย่างนั้น  ทินก็ชิงพูดตัดหน้าไปซะก่อน

                      “ฉันแค่ชวนยัยนี่มาหาอะไรทำแก้เซ็งก็เท่านั้นเองแหละ  บังเอิญได้ยินมาว่ากลุ่มบาสแถวนี้เก่งสุดของเมือง  เลยว่าจะมาแก้ความเข้าใจผิดสักหน่อย  ว่าใครกันแน่...ที่เก่งสุด”  คำท้าทายอย่างไม่เกรงกลัวของทิน  ยั่วโมโหอีกฝ่ายได้เช่นกัน

                      “นี่แกรู้มั้ยว่ากำลังพูดอยู่กับใคร”  อีกฝ่ายยิ้มเหี้ยม

                      “ไม่รู้สิ”  ทินยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ  “เอาไว้ตอนนายแพ้  ค่อยบอกฉันละกัน  จะได้รู้ว่าฉันเอาชนะใครได้  อ้อ...ไม่สิ”  ทินทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้  ก่อนจะยิ้มด้วยสายตาชั่วร้าย  “ถ้าฉันชนะ  คงไม่สนใจไอ้พวกขี้แพ้หรอก”

                      เนียร์ไม่รู้หรอกว่าพี่ชายตัวเองไปรู้เรื่องคนกลุ่มนี้มาจากไหน  แต่ที่แน่ๆ คือ  ตอนนี้พวกเธอกำลังได้มีเรื่องแก้เซ็งสมใจอยากแล้ว

                      แต่เนียร์กลับตื่นเต้นมากกว่าจะกลัว  ที่จะได้เล่นสตรีทบาสกับคนอื่นนอกเหนือไปจากทิน  และด้วยความอยากจะลบคำที่บังอาจมาดูถูกเธอไว้

                      คนที่ดูถูกเนียร์ส่งเสียงหึออกมา  ใช้สายตามองทินตั้งแต่หัวจรดเท้า  และหยุดลงที่หัวทินอีกที

                      “ตอนแรกฉันกะว่าจะไม่เอาเรื่องกับคำพูดสั่วๆ ของแกนะ  แต่พอเห็นสีผมประหลาดของแกแล้วมันชวนให้น่าหงุดหงิดพิลึก  เอาเป็นว่า...หลังจากฉันกระทืบแกในเกมแล้ว  จะจัดการโกร๋นผมของแกให้เกรียนไปเลย”  เขามองผมสีดำแซมทองนั้นที่แปลกไม่เหมือนใคร  สำหรับผู้หญิงนั้นเรียกว่าเท่  แต่ผู้ชายด้วยกันกลับมองแล้วน่าหมั่นไส้

                      สรุปแล้ว  ถือว่านั่นเป็นการเปิดการแข่งระหว่างทินกับเนียร์  และ  พวกเจ้าถิ่นอีกสองคนไปโดยปริยาย

                      “เป็นไง  ได้เปลี่ยนบรรยากาศแบบนี้ดีมั้ย”  ทินหันมาถามคนข้างตัว

                      เนียร์หยิบยางรัดผมในกางเกงที่พกติดตัวไว้ขึ้นมารัดผมสีดำยาวเพื่อไม่ให้เกะกะ  ในขณะที่ดวงตาสีดำสนิทจ้องคู่ต่อสู้ด้วยแววตาเป็นประกาย

                      “ไหนๆ ก็มาหาเรื่องถึงที่แล้วนี่”  เธอยิ้มมุมปาก  “มาอาละวาดให้เต็มที่ไปเลย”

                      ทินยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว  และโดยไม่ต้องนัดหมาย  ทั้งคู่ก็ยกหมัดขึ้นชนกัน  ก่อนจะเดินไปหาคู่แข่งตรงกลางสนามบาสท่ามกลางเสียงเชียร์ที่เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง

                      “ใครได้ 10 ลูกก่อน  ชนะ”  ผู้ชายที่เหมือนเป็นหัวหน้าของที่นี่ชื่อว่าเจร็อคพูด  “สตรีทบาสเป็นไง  ฉันคงไม่ต้องอธิบาย... ให้มือใหม่เปิดสนามก่อนละกัน”  ว่าแล้วเขาก็ส่งลูกบาสสีดำพ่นสเปรย์สีขาวเป็นรูปกะโหลกไขว้ไปให้ทิน

                      กฎกติกาการเล่นของสตรีทบาสก็คือ  ไม่มีกฎ!  

                      ไม่ว่าจะกระแทกหรือทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายก็สามารถทำได้โดยไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด  จึงทำให้ถูกเรียกว่าเป็นเกมที่อันตรายไม่เหมาะจะเอามาเล่นกัน  แต่เพราะว่ามันอันตรายนี่แหละ  ที่ทำให้สนุก

                       ทินส่งลูกให้เนียร์เป็นคนเปิด  ก่อนจะไปยืนอยู่แถวๆ ใต้แป้นของฝั่งตรงข้าม  โดยมีชายร่างใหญ่ที่ชื่อว่าบิ๊ก สมรูปร่างคอยกันไว้

                       “เริ่ม”  

                       เนียร์ส่งลูกให้เจร็อคและถูกส่งกลับคืนมาเป็นการบอกเวลาเริ่มการแข่ง

                       ทันทีที่เริ่ม  เนียร์เลี้ยงลูกเบี่ยงหลบคนตรงหน้าอย่างง่ายดาย  ทว่า...ขณะที่เธอกำลังจะผ่านตัวเขาไปนั่นเอง

                       เปรี้ยง!

                       เด็กสาวถึงกับหงายหลังล้มไปบนพื้น  พร้อมกับเสียงเฮดังลั่นของคนดูที่ชอบใจกัน  คนโดนขาเหวี่ยงเข้าท้องเต็มรักก้มตัวงอด้วยความจุก
เมื่อลูกบาสหลุดจากมืออีกฝ่าย  เจร็อคก็ชิงมาเป็นของตัวเองแล้วตรงไปยังแป้นฝั่งตรงข้าม  โดยมีทินรีบวิ่งตามไปติดๆ  ไม่ปล่อยให้ทำแต้มได้

                       เจร็อคส่งลูกให้บิ๊กที่กระโดดขึ้นชู้ต  ส่วนทินก็โดดตามเพื่อบล็อกไว้  แต่คนตัวใหญ่กว่าใช้ศอกกระแทกเข้าหน้าทินแล้วยัดลูกบาสลงห่วงอย่างง่ายดาย

                       “ 1 – 0 ”  เจร็อคว่าพลางเดินผ่านตัวทินที่ลงไปนั่งชันเข่ากุมจมูกตัวเอง  “ไม่เห็นจะเก่งเท่าปากว่าเลยนี่หว่า”

                       ไม่มีเสียงโต้ตอบใดๆ จากสองคนนั้น  เห็นแต่เพียงทั้งคู่ค่อยๆ ลุกขึ้นมา

                       ทินใช้มือถูจมูกตัวเองไปมา  มีรอยแดงเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับเลือดกำเดาไหล  ส่วนเนียร์ก็ยังจับท้องตัวเองอยู่  แม้จะยังจุก  แต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว

                       “...ระดับความรุนแรงที่พวกนายเล่นกัน  คือไม่ถึงตาย กับ ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลก็พอสินะ”  ทินยังคงยิ้มได้ในเวลาแบบนี้

                       “จะได้กะแรงถูก”  เนียร์พูดบ้าง

                       เจร็อคได้ยินแบบนั้นแล้วไม่สบอารมณ์  เหมือนกับเจ้าพวกนี้มันไม่ได้ปอดแหกขึ้นมาเลยสักนิด

                       พวกเนียร์เป็นฝ่ายเริ่มอีกครั้ง  และยังคงเลี้ยงลูกเบี่ยงตัวหลบเจร็อคแบบเดิมอีกครั้ง

                       “อยากจะโดนอีกรอบรึไง”  เจร็อคว่าอย่างดูแคลน  พอจะยกขาขึ้นเตรียมฟาดเท่านั้นแหละ  บางอย่างสีดำก็ปะทะเข้าหน้าอย่างจัง

                       มือที่ถือลูกบาสอยู่เลิกจับเลี้ยง  แต่ยกขึ้นมาอัดหน้าของเจร็อคอย่างแรงแทน  จนหน้าหงายล้มไปกองกับพื้นอย่างหมดท่า  ส่วนเนียร์ก็ขว้างลูกส่งต่อไปให้ทินที่อยู่ตรงใต้แป้น

(ต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่