เนื้อเรื่องย่อ : เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ Jimmy (Liam Neeson) ต้องฆ่าลูกชายของมาเฟียเพื่อนสนิทอย่าง Shawn (Ed Harris) เพื่อปกป้องลูกชายคนเดียวของเขา การไล่ล่าล้างแค้นสุดระห่ำจึงเกิดขึ้น คืนเดียวเท่านั้น คืนเดียวที่จะต้องเอาตัวรอด!

- ด้านตัวละคร
สารภาพตามตรงว่าถึงแม้ปากจะบอกว่าเอียนลุงเลียมแล้ว แต่พอมีผลงานใหม่ออกมาก็อดไปโดนเสียไม่ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ลุงแกก็รับบทบาทเป็น Jimmy Conlon,สุดยอดนักฆ่าแห่งวงการมาเฟียที่มาพร้อมฝีมือเมพๆเหมือนเคย เรียกได้ว่ารักษาคอนเซปต์ไว้ไม่มีเปลี่ยน ซึ่งในส่วนของการแสดงก็คงไม่มีอะไรตำหนิติเตียน, แต่ที่น่าสนใจคือตัวละครในเรื่องนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ความเป็นดราม่าในตัวเองสูงขึ้น (แลกกับการที่แอคชั่นลดลงอย่างเห็นได้ชัด) ซึ่งอาจจะเป็นทางที่ถูกควรของลุงแกแล้วกระมัง

ด้านตัวละครร้าย(?)ที่น่าสนใจก็คงหนีไม่พ้น Shawn, เจ้าพ่อประจำถิ่นผู้มีมาดเคร่งขรึมสมบทบาทเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้บทในตัวเรื่องจะไม่ได้ส่งเสริมความโหดของเฮียแกเท่าไหร่ แต่โดยรวมมาดนิ่งดูเยือกเย็นแบบนี้ก็นับได้ว่าเท่ขาดใจแล้ว สิ่งที่โดดเด่นก็คงเป็นการแสดงออกทางสีหน้าที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ในหลายๆฉาก ยิ่งโดยเฉพาะเวลาเฮียแกพูดถึงลูกชายที่ชัดมาก ถือว่าเป็นรุ่นเก๋าที่ไม่ต้องพูดถึงเหมือนกัน.

- ด้านการดำเนินเรื่อง
นับเป็นผลงานเรื่องที่สามแล้ว ระหว่างผู้กำกับ Jaume Collet-Serra กับ Liam Neeson ซึ่งเรื่องล่าสุดอย่าง Non-Stop นั้นก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีกับความตื่นเต้นเร้าใจในการไล่ล่าในพื้นที่จำกัด และดราม่าที่มีน้ำหนักสมจริงกับตัวละคร, ซึ่งสำหรับในเรื่อง Run All Night นั้น จุดแข็งเหล่านั้นก็ถูกนำมาใช้อีกครั้ง และทวีคูณดราม่าและปูมหลังของตัวละครเข้าไปอีก, สิ่งที่เราจะได้เห็นคือแรงผลักดันที่ตัวละครมีมาในอดีต ผสมผสานกับเวลาที่บีบคั้นในการเอาตัวรอดภายในคืนเดียวเข้าไป กอปรกับการกระทำที่เป็นเหตุเป็นผลทำให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นจุดแข็งของหนังเรื่องนี้ไปอย่างน่าสนใจ (ถึงแม้ส่วนของแอคชั่นก็จะลดหลั่นลงไปตามวัยของนักแสดงบ้างก็ตาม)

แต่ใช่ว่าผู้กำกับคนนี้จะขนมาแต่ส่วนดีอย่างเดียว ส่วนแย่ๆที่น่าตำหนิก็ยังพกมาอย่างครบถ้วน ซึ่งถ้าใครเคยดู Non-Stop มาก็คงจะรู้สึก 'เซ็ง' ไปตามๆกันตรงช่วงไคลแม็กซ์ของเรื่อง ซึ่งเฉลยตัวร้ายได้ง่อยมาก,ในเรื่องนี้ก็เช่นกัน ส่วนท้ายของเรื่องที่เป็นไคลแม็กซ์นั้นถูกเรียบเรียงอย่างย่ำแย่และขาดพลังอย่างยิ่ง ชนิดเรียกได้ว่า 'มันช่างแผ่วปลายเหลือเกิน' ซึ่งถ้าเทียบกับการเดินเรื่องมาตั้งแต่ต้นแล้ว ก็คงต้องพูดว่าฉากจบมันไม่สมศักดิ์ศรีหนังอย่างยิ่ง

ป.ล. ตลกตรงฉากเรียกนักฆ่าอย่าง Price มา ,ทำอย่างกะหนังการ์ตูนฮีโร่เลยให้ตายสิ

- ด้านงานภาพ-เพลงประกอบ
ด้วยความที่หนังเล่นอยู่ในธีมที่มีเวลาจำกัด จึงมีการใช้เทคนิคการเดินภาพในลักษณะที่พาคนดูเดินทางไปดูเหตุการณ์ในหลายๆที่ที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน ซึ่งจุดนี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ผสมผสานกับเพลงประกอบฉากแอคชั่นสำคัญๆที่ประคองอารมณ์คนดูอยู่ไม่ขาด ซึ่งนี่อาจจะเป็นจุดเด่นของโทนหนังแนวนี้ของลุงเลียมที่หาดูไม่ได้ใน Taken ก็ได้

"Run All Night เป็นหนังแอคชั่นไล่ล่าที่ถูกจัดอยู่ในหมวดของ 'หนังลุงเลียม' ที่มีความตื่นเต้นเร้าใจที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานกับดราม่าและปูมหลังที่เพิ่มขึ้นจนทำให้ตัวละครโดดเด่นมีความหมาย เรียกได้ว่าเป็นพัฒนาการที่น่าสนใจของลุงที่เติบโตขึ้นตามเวลา นับว่าเป็นหนังที่คอแอคชั่นควรลอง แต่ถึงยังงั้นพลาดไปก็ไม่น่าเสียใจนะ"

คะแนนความเห็นส่วนตัว : 8.0/10
ฉันฆ่าลูกชายนาย ฌอน by Jayz Hunhaboon

ติดตามรีวิวเก่าๆได้ที่ : https://www.facebook.com/jayz.hunhaboon/media_set?set=a.560682527308058.1073741825.100000989470695&type=3