เป็นอีกเรื่อง ที่ผมตีตั๋วเข้าชมทันที แม้จะมีเสียงบ่นหรือเสียงชมในหลากหลายก็ตาม เพราะอย่างแรกเลยคือเป็นผลงานการแสดงของลุม Liam Neeson และอีกอย่างคือเป็นงานกำกับของ Jaume Collet-Serra ซึ่งช่วงหลังมานี่ แกมือขึ้นมาก โดยเฉพาะเรื่อง Non Stop ของปีที่แล้ว ที่ทำเอาผมสะใจไปกับเนื้อเรื่องมาก
Run All Night เป็นภาพยนตร์ Action-Thriller ที่ปีนี้ ก็เริ่มจับทางงานของ Jaume Collet-Serra ได้ครับ ว่าแกคงชอบสไตล์ Thriller ที่ชวนลุ้นไปกับเนื้อเรื่อง ทีแรกก็คาดหวังว่า มันคงจะคล้ายกับ Non Stop แต่เปล่าเลย!
เพราะดูจาก Trailer ก่อนแล้ว มันต้องมี Drama และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ และที่ดูจะเสริมหล่อได้อีกคือ การดึงเอา Joel Kinnamann เจ้าของบทบาท Robocop คนล่าสุด มีแสดงร่วม
และที่ผมชอบอีกอย่างคือ ได้ Junkie XL ศิลปินแนว Electronic มาทำดนตรีประกอบให้อีกด้วย (ตอนนี้แกมือขึ้น ปีหน้าแกได้ร่วมแต่งเพลงให้กับ Batman VS Superman ร่วมกับ Hans Zimmer อีกด้วยแล)
Run All Night เป้นเรื่องราวเกี่ยวกับ Jimmy Collon อดีตมือสังหาร ที่พลิกผันวางมือ กลายเป็นคนบ้านแตก อยู่คนเดี่ยวโดดเดี่ยว ครอบครัวไม่ต้อนรับ แต่ยังดีที่ได้ Shawn Maguire (รับบทโดย Ed Harris) เพื่อนซี้และอดีตหัวเรือใหญ่ของแก๊งคอยดูแล ในทุกเรื่อง
Jimmy เป็นตัวละครที่ดูไม่มีความสมบูรณ์ แต่ความสมบูรณ์อย่าง Shawn กลับต้องมีเรื่องแย่ๆอย่างลูกชายอย่าง Danny (รับบทโดย Boyd Holbrook) ที่ไม่ค่อยเอาเรื่องดีดี แต่มักจะเอาเรื่องเลวเป็นหลัก
ความ Drama มันบังเกิดก็เมื่อว่า Danny พัวพันกับแก๊งค้ายาและฆ่าเรียบ แล้ว Michael (รับบทโดย Joel Kinnamann) ดันไปรับจ้างขับรถให้แก๊งค้ายาที่ตายอีก การไล่ล่าของสองตระกูลดันเกิดขึ้น ทั้งที่มันน่าจะเคลียร์กันได้ สุดท้าย แม้จะบ้านแตกกันแค่ไหน ผู้เป็นพ่อก็ย่อมรักลูก แม้จะต้องตายแทนก็ตาม (หาชมเนื้อเรื่องนี้ได้ในโรงภาพยนตร์)
จากเนื้อหาเพียงเท่านี้ มันก็เลยเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ของนักวิ่งขึ้นมาคือ วิ่งมันทั้งคืน ตามชื่อเรื่อง “Run All Night” จริงๆ
เรื่องนี้จะออกเป็น Action แต่เนื้อในก็มี Drama ที่ดูเป็นหนังครอบครัวแนว ลูกรักหักเหลี่ยมคมพ่อ มันได้อารมณ์ตรงที่ว่า ลูกเกลียดพ่ออย่างเอาเป็นเอาตาย ที่พ่อทิ้งครอบครัวไป แต่พ่อกลับไม่เคยเกลียดลูก และให้อภัยเสมอ ซึ่งแม้ไม่สมบูรณ์แต่ก็ทำหน้าที่พ่อจนวาระสุดท้าย
ฉากแอ็คชั่นของเรื่องก็ทำได้สะใจอารมณ์ แต่ก็เป็นสไตล์ของ Jaume Serra ที่เน้นฉากในเมือง ไม่หวือหวา แต่ดูมีความพิเศษในแบบฉบับของเขาเอง
สัปดาห์นี้ ผมก็สวนกระแสบ้านเมือง คนอื่นๆเขาควงแขนคนมีคู่ดู Cinderella ฟินไปกับบทบาทเจ้าชายหล่อเหลากับเจ้าหญิงผู้งดงาม แต่คนโสด ก็ขอไประห่ำอินกับ Drama พ่อปกป้องลูกคนเดียวก็ได้
ถ้าหากอยากรับชมภาพยนตร์ที่ยิงกันลั่นบ้านลั่นเมือง Run All Night ก็ตอบโจทย์คุณได้ในสัปดาห์นี้ครับ
Run All Night : Action Drama พ่อลูก (ไม่ Spoil)
เป็นอีกเรื่อง ที่ผมตีตั๋วเข้าชมทันที แม้จะมีเสียงบ่นหรือเสียงชมในหลากหลายก็ตาม เพราะอย่างแรกเลยคือเป็นผลงานการแสดงของลุม Liam Neeson และอีกอย่างคือเป็นงานกำกับของ Jaume Collet-Serra ซึ่งช่วงหลังมานี่ แกมือขึ้นมาก โดยเฉพาะเรื่อง Non Stop ของปีที่แล้ว ที่ทำเอาผมสะใจไปกับเนื้อเรื่องมาก
Run All Night เป็นภาพยนตร์ Action-Thriller ที่ปีนี้ ก็เริ่มจับทางงานของ Jaume Collet-Serra ได้ครับ ว่าแกคงชอบสไตล์ Thriller ที่ชวนลุ้นไปกับเนื้อเรื่อง ทีแรกก็คาดหวังว่า มันคงจะคล้ายกับ Non Stop แต่เปล่าเลย!
เพราะดูจาก Trailer ก่อนแล้ว มันต้องมี Drama และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ และที่ดูจะเสริมหล่อได้อีกคือ การดึงเอา Joel Kinnamann เจ้าของบทบาท Robocop คนล่าสุด มีแสดงร่วม
และที่ผมชอบอีกอย่างคือ ได้ Junkie XL ศิลปินแนว Electronic มาทำดนตรีประกอบให้อีกด้วย (ตอนนี้แกมือขึ้น ปีหน้าแกได้ร่วมแต่งเพลงให้กับ Batman VS Superman ร่วมกับ Hans Zimmer อีกด้วยแล)
Run All Night เป้นเรื่องราวเกี่ยวกับ Jimmy Collon อดีตมือสังหาร ที่พลิกผันวางมือ กลายเป็นคนบ้านแตก อยู่คนเดี่ยวโดดเดี่ยว ครอบครัวไม่ต้อนรับ แต่ยังดีที่ได้ Shawn Maguire (รับบทโดย Ed Harris) เพื่อนซี้และอดีตหัวเรือใหญ่ของแก๊งคอยดูแล ในทุกเรื่อง
Jimmy เป็นตัวละครที่ดูไม่มีความสมบูรณ์ แต่ความสมบูรณ์อย่าง Shawn กลับต้องมีเรื่องแย่ๆอย่างลูกชายอย่าง Danny (รับบทโดย Boyd Holbrook) ที่ไม่ค่อยเอาเรื่องดีดี แต่มักจะเอาเรื่องเลวเป็นหลัก
ความ Drama มันบังเกิดก็เมื่อว่า Danny พัวพันกับแก๊งค้ายาและฆ่าเรียบ แล้ว Michael (รับบทโดย Joel Kinnamann) ดันไปรับจ้างขับรถให้แก๊งค้ายาที่ตายอีก การไล่ล่าของสองตระกูลดันเกิดขึ้น ทั้งที่มันน่าจะเคลียร์กันได้ สุดท้าย แม้จะบ้านแตกกันแค่ไหน ผู้เป็นพ่อก็ย่อมรักลูก แม้จะต้องตายแทนก็ตาม (หาชมเนื้อเรื่องนี้ได้ในโรงภาพยนตร์)
จากเนื้อหาเพียงเท่านี้ มันก็เลยเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ของนักวิ่งขึ้นมาคือ วิ่งมันทั้งคืน ตามชื่อเรื่อง “Run All Night” จริงๆ
เรื่องนี้จะออกเป็น Action แต่เนื้อในก็มี Drama ที่ดูเป็นหนังครอบครัวแนว ลูกรักหักเหลี่ยมคมพ่อ มันได้อารมณ์ตรงที่ว่า ลูกเกลียดพ่ออย่างเอาเป็นเอาตาย ที่พ่อทิ้งครอบครัวไป แต่พ่อกลับไม่เคยเกลียดลูก และให้อภัยเสมอ ซึ่งแม้ไม่สมบูรณ์แต่ก็ทำหน้าที่พ่อจนวาระสุดท้าย
ฉากแอ็คชั่นของเรื่องก็ทำได้สะใจอารมณ์ แต่ก็เป็นสไตล์ของ Jaume Serra ที่เน้นฉากในเมือง ไม่หวือหวา แต่ดูมีความพิเศษในแบบฉบับของเขาเอง
สัปดาห์นี้ ผมก็สวนกระแสบ้านเมือง คนอื่นๆเขาควงแขนคนมีคู่ดู Cinderella ฟินไปกับบทบาทเจ้าชายหล่อเหลากับเจ้าหญิงผู้งดงาม แต่คนโสด ก็ขอไประห่ำอินกับ Drama พ่อปกป้องลูกคนเดียวก็ได้