คือตอนนี้ผมมีความคิดสองแนวครับ แต่ขอแจ้งก่อนนะครับว่าไม่ได้อยากจะเอาเปรียบใคร อยากมาขอคำปรึกษาและมีเหตุผลประมาณนี้ครับ
ระหว่าง
ถ้าขอให้ลูกน้องทำโอฟรีๆ เพื่อที่จะดูว่าเขาทำด้วยใจมากกว่าเงินรึป่าว เผื่ออนาคตเราจะได้จ้างเขาไปนานๆ หรือเพิ่มเงินเดือน หรืออาจะให้หุ้น ถ้าบริษัทเติบโต (เพราะตอนนี้ยังเล็กๆ อยู่ครับ เงินทุนและผลกำไรยังค่อนข้างน้อย)
กับระหว่าง จ่ายเบี้ยเลี้ยง หรือโอทีลูกน้องปกติ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานเหมือนบริษัททั่วไป เพื่อให้เขาตั้งใจ ขยันทำงานมากขึ้น
คิดว่าทั้งสองแบบต่างกันยังไงครับ แล้วแบบไหนดูเข้าท่ากว่ากันที่จะทำให้ลูกน้องอยากทำงาน อยากช่วยเราไปนานๆ และได้งานที่มีประสิทธิภาพด้วย
ดูๆ ไปเหมือนมีข้อดีข้อเสียคนละแบบ
อย่างแบบแรก เราประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงแรกมากกว่า อาจจะนำไปลงทุนส่วนอื่นขยับขยายได้เร็วขึ้น แต่ลูกน้องก็ต้องกินต้องใช้ ยิ่งยุคนี้อะไรก็แพง แต่ถ้าบางคนเขาทำให้เราด้วยใจมากกว่าเงิน เราก็จะรู้สึกเหมือนได้ลุกน้องที่ร่วมทุกร่วมสุข ตั้งแต่บริษัทยังเล็กๆ พอเติบโตเราก็ดูแลเขาได้ดีขึ้น
แต่อย่างแบบสอง ก็คล้ายๆ บริษัททั่วไป คือให้ตามการทำงาน คนขยันๆ เราก็จ่ายให้เค้าเพิ่มได้ อย่างน้อยเป็นกำลังใจในความขยันและให้เขารู้สึกใช้เวลางานกับบริษัทคุ้มค่า (ถ้าแต่ลูกน้องบางคนทำงานช้าหรือไม่มีประสิทธิภาพไม่คุ้มค่า ก็อีกเรื่อง)
หรือตรงกลาง คือจ่ายเพิ่มกรณีงานมันหนักมากจริงๆ แต่ก็ดูด้วยว่าลุกน้องคนไหนอยากทำงานให้เสร็จแม้จะเลยเวลาเลิกงานมาแล้วก็ตาม
ขอคำแนะนำหน่อยครับว่า บริหารลูกน้องกันยังไงบ้างครับ โดยที่ไม่รู้สึกว่าเอาเปรียบเขาและได้ใจลูกน้อง และลูกน้องก็ได้ใจเรา
หรือถ้ามีวิธีอื่นแบบอื่น แล้วเข้าท่า เสริมได้เลยครับ
ขอบคุณครับ
.. ระหว่างขอให้ลุกน้องทำโอให้ฟรี เพื่อให้ใจเรา กับจ่ายโอลูกน้อง เพื่อเป็นกำลังใจเขา แบบไหนน่าจะได้คนที่อยู่กับเรานานๆ ?
ระหว่าง
ถ้าขอให้ลูกน้องทำโอฟรีๆ เพื่อที่จะดูว่าเขาทำด้วยใจมากกว่าเงินรึป่าว เผื่ออนาคตเราจะได้จ้างเขาไปนานๆ หรือเพิ่มเงินเดือน หรืออาจะให้หุ้น ถ้าบริษัทเติบโต (เพราะตอนนี้ยังเล็กๆ อยู่ครับ เงินทุนและผลกำไรยังค่อนข้างน้อย)
กับระหว่าง จ่ายเบี้ยเลี้ยง หรือโอทีลูกน้องปกติ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานเหมือนบริษัททั่วไป เพื่อให้เขาตั้งใจ ขยันทำงานมากขึ้น
คิดว่าทั้งสองแบบต่างกันยังไงครับ แล้วแบบไหนดูเข้าท่ากว่ากันที่จะทำให้ลูกน้องอยากทำงาน อยากช่วยเราไปนานๆ และได้งานที่มีประสิทธิภาพด้วย
ดูๆ ไปเหมือนมีข้อดีข้อเสียคนละแบบ
อย่างแบบแรก เราประหยัดค่าใช้จ่ายในช่วงแรกมากกว่า อาจจะนำไปลงทุนส่วนอื่นขยับขยายได้เร็วขึ้น แต่ลูกน้องก็ต้องกินต้องใช้ ยิ่งยุคนี้อะไรก็แพง แต่ถ้าบางคนเขาทำให้เราด้วยใจมากกว่าเงิน เราก็จะรู้สึกเหมือนได้ลุกน้องที่ร่วมทุกร่วมสุข ตั้งแต่บริษัทยังเล็กๆ พอเติบโตเราก็ดูแลเขาได้ดีขึ้น
แต่อย่างแบบสอง ก็คล้ายๆ บริษัททั่วไป คือให้ตามการทำงาน คนขยันๆ เราก็จ่ายให้เค้าเพิ่มได้ อย่างน้อยเป็นกำลังใจในความขยันและให้เขารู้สึกใช้เวลางานกับบริษัทคุ้มค่า (ถ้าแต่ลูกน้องบางคนทำงานช้าหรือไม่มีประสิทธิภาพไม่คุ้มค่า ก็อีกเรื่อง)
หรือตรงกลาง คือจ่ายเพิ่มกรณีงานมันหนักมากจริงๆ แต่ก็ดูด้วยว่าลุกน้องคนไหนอยากทำงานให้เสร็จแม้จะเลยเวลาเลิกงานมาแล้วก็ตาม
ขอคำแนะนำหน่อยครับว่า บริหารลูกน้องกันยังไงบ้างครับ โดยที่ไม่รู้สึกว่าเอาเปรียบเขาและได้ใจลูกน้อง และลูกน้องก็ได้ใจเรา
หรือถ้ามีวิธีอื่นแบบอื่น แล้วเข้าท่า เสริมได้เลยครับ
ขอบคุณครับ