หลังจากอ่านรีวิวนางซินทางเพจนักวิจารณ์หลายเพจ (+เป็นแฟนคลับร็อบ สตาร์ค+เลดี้กาลาเดรียล+เฮเลน่า บอนด์แฮม+สาวก Frozen) ว่าดีงามมากกก เป็นหนังดิสนีย์ฉบับคนแสดงที่ดีที่สุด เราเลยตัดสินใจไปดูตั้งแต่เมื่อวานค่ะ ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปดูวันพุธลดราคา แต่เอาวะ ความอยากมันเหนือกระเป๋าตังนี่นะ ก็เลยจัดการตีตั๋วดูในโรงหนังใกล้บ้าน
หลังจาก Frozen Fever จบไป (ขอข้ามค่ะ เป็นติ่ง Frozen ยังไงก็คิดว่าดีงาม) ก็เข้าสู่เรื่องของเทพนิยายที่ขอออกตัวก่อนว่าไม่ค่อยชอบฉบับการ์ตูนเท่าไหร่นัก เราคิดว่านางออกแนวขี้เกียจ โลกสวยไปวันๆ
แต่พอมาถึงฉบับหนัง หลังจากดูชีวิตวัยเยาว์ของเอลล่าแล้วเราก็เข้าใจได้ว่าเรื่องโลกสวยของนาง มีพื้นฐานมาจากครอบครัวอบอุ่น
ดูเหมือนจะ... อ่ะนะ
มีหลายฉากเหลือเกินที่ทำให้เราไม่คิดว่านางโลกสวย ออกจะมองโลกตามความจริงด้วยซ้ำ ตั้งแต่ตอนที่ยังเด็ก เอลล่าถามแม่ว่านางฟ้ามีจริงเหรอ เหมือนกับว่าที่จริงแล้วนางไม่ได้เชื่อว่านางฟ้ามีจริงสักนิด (นางพูดเองในฉากของนางฟ้าแม่ทูนหัว) แต่เพราะนางรักแม่ และเห็นแม่เชื่อว่ามี นางก็เลยยอมเออออ มีก็มี ให้แม่สบายใจ (ขอคั่นเวลา เสียงคุณแม่หวานเว่อร์วังมาก อยากจะพาคุณแม่กลับบ้านมาร้องเพลงกล่อม คงจะนอนหลับฝันดี T_T) แต่ดูเหมือนว่าแม่จะรู้จักลูกสาวดี เลยสั่งเสียก่อนตายว่าให้ลูก "กล้าหาญและมีเมตตา"
พอนางโตขึ้น คุณพ่อก็เริ่มทนความเดียวดายไม่ไหวและบอกลูกสาวว่าจะแต่งงาน แถมบอกลูกว่าเป็นผู้หญิงที่สามีเพิ่งตายแต่ยังสวยมาก (เอิ่ม คุณพ่อ = =’’) ความร้ายของนางก็ปรากฏ แวบแรกที่เราได้เห็นบนสีหน้าเอลล่าคือ นางชักสีหน้าไม่พอใจมากกกกก แต่เพราะนางรักแม่ แม่สอนว่าให้กล้าหาญและมีเมตตา พ่อจะแต่งก็แต่งไปค่ะ ลูกดีใจด้วย (แต่สีหน้าตอนร้องไห้นี่ตรงกันข้ามมากนะยะ)
หลังจากแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงเข้ามาในบ้าน (และลูกเลี้ยงทั้งสองของแม่ใหม่ช่างปากเปราะนัก) นางก็ชักสีหน้าอีก แต่เพราะแม่สอนให้กล้าหาญและเมตตา ชั้นยอมให้ก็ได้
แต่แล้วนางก็เผยความร้ายออกมาด้วยการแก้แค้นแม่เลี้ยงนิดๆ ด้วยการระบายกับพ่อว่าคิดถึงแม่ค่ะ แม่แสนดีค่ะ แม่อยู่แล้วบ้านอบอุ่นค่ะ ทำน้ำตาคลอๆ ให้พ่อเห็นว่าคิดถึงแม่ม้ากกกก คุณพ่อเลยหลงกล เห็นด้วยกับลูกว่าพ่อก็คิดถึงแม่ลูก แม่แสนดี พ่อรักแม่ที่หนึ่ง แล้วแม่เลี้ยงก็มาได้ยิน โป๊ะเชะ! แล้วดิฉันเป็นตัวอะไรในบ้านของพวกคุณคะ T_T (ตอนนี้สงสารแม่เลี้ยงหนักมาก) เท่านั้นยังไม่พอ พอคุณพ่อจะไปทำงาน ฮีก็หาได้ล่ำลาเมียใหม่สักนิดไม่ คุยอี๋อ๋อแต่กับลูกสาวที่เกิดจากเมียเก่า ตอนนั้นสีหน้าแม่เลี้ยงเหมือนจะถามว่า แล้วชั้นล่ะคะ T_T (สงสารแม่เลี้ยงระลอก 2)
พอสามีไม่อยู่ มหกรรมล้างแค้นก็เริ่มขึ้น~~~ ซึ่งทุกการกระทำที่แม่เลี้ยงรังแกเอลล่านั้น ถ้าดูให้ดี เอลล่าเองก็ชักสีหน้า แอบยิ้ม หัวเราะเยาะลับหลังอยู่ประจำ โดยเฉพาะฉากที่ลูกสาวทั้งสองของแม่เลี้ยงตบตีกัน เอลล่าเดินหนี ยิ้มมุมปากและอาจจะคิดว่า “เอาเลย ตบกันให้ตายไปเลย ชั้นเป็นผู้ดี ชั้นตบพวกหล่อนไม่ได้”
ฉากนางฟ้าแม่ทูนหัว ตอนที่นางมาอย่างโทรมๆ ขอนมดื่ม เอลล่ามองนางอย่างเหยียดๆ แวบหนึ่งแต่ก็ยอมไปตักนมมาให้ เพราะจำได้ว่าแม่สอนให้กล้าหาญและมีเมตตา กระนั้นตอนที่นางฟ้าดื่มนมในชามแล้วทำหก นางก็เบ้ปากแวบหนึ่งแล้วหัวเราะกลบเกลื่อน จากนั้นเอลล่าก็เลยได้ราชรถทองคำ ม้าสีขาวล่ำๆ พร้อมด้วยบริวารไปปราสาทเจ้าชาย เพราะบุญคุณนมชามเดียว
พอไปถึง เอลล่าคงรู้ตัวว่าไปสาย ด้วยความที่ถูกเลี้ยงมาอย่างมีมารยาทของผู้ดี นางก็เลยย่อเข่าขอโทษพอเป็นพิธี แล้วเจ้าชายก็ขอนางเต้นรำ แถมด้วยการยั่วยวนเจ้าชายนิดๆ พองาม นี่ถ้าแม่ไม่สอนกิริยามารยาทมาดี เจ้าชายคงไม่รอดมือนางตั้งแต่อยู่ในสวนแล้วมั้ง
จากนั้นเรื่องก็เป็นไปตามเทพนิยาย มีหลายครั้งที่เอลล่าดูเหมือนอยากจะตบแม่เลี้ยง แต่เพราะถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู และแม่เลี้ยงก็ดูจะตบตีเก่งกว่ามากนัก นางก็เลยคับแค้นใจทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งเจ้าชายมาช่วยเหลือ สีหน้านางเหมือนอยากจะแก้แค้นเต็มแก่ แต่แม่สอนไว้ว่าจงกล้าหาญและมีเมตตา นางก็เลยเลือกทางให้อภัย
แต่จริงๆ แล้วนางอาจจะรู้ก็ได้ว่าเจ้าชายคงไม่ปล่อยแม่เลี้ยงไปง่ายๆ แน่ แอ๊บสวยๆ เป็นนางเอกดีกว่า
จบแล้ว ขอบคุณที่อ่านค่ะ
ปล. ทั้งหมดนี้เรามองเอลล่าตามแง่มุมที่เราเห็นบนจอนะคะ เราคิดว่านางไม่โลกสวยหรอก ออกจะร้ายด้วยซ้ำ แต่ในฉากทุบรองเท้าแก้วที่แม่เลี้ยงบอกว่านางเป็นคนดี เพราะนางไม่เลือกวิถีทางตาต่อตาฟันต่อฟันค่ะ สุดท้ายสิ่งที่แม่เลี้ยงกระทำก็ย้อนกลับมาสู่ตัวเอง
[สปอร์ย] ซินเดอเรลลา (ขำๆ) : กะเทาะเปลือกนางซิน ใครว่าชั้นโลกสวย
หลังจาก Frozen Fever จบไป (ขอข้ามค่ะ เป็นติ่ง Frozen ยังไงก็คิดว่าดีงาม) ก็เข้าสู่เรื่องของเทพนิยายที่ขอออกตัวก่อนว่าไม่ค่อยชอบฉบับการ์ตูนเท่าไหร่นัก เราคิดว่านางออกแนวขี้เกียจ โลกสวยไปวันๆ
แต่พอมาถึงฉบับหนัง หลังจากดูชีวิตวัยเยาว์ของเอลล่าแล้วเราก็เข้าใจได้ว่าเรื่องโลกสวยของนาง มีพื้นฐานมาจากครอบครัวอบอุ่น
ดูเหมือนจะ... อ่ะนะ
มีหลายฉากเหลือเกินที่ทำให้เราไม่คิดว่านางโลกสวย ออกจะมองโลกตามความจริงด้วยซ้ำ ตั้งแต่ตอนที่ยังเด็ก เอลล่าถามแม่ว่านางฟ้ามีจริงเหรอ เหมือนกับว่าที่จริงแล้วนางไม่ได้เชื่อว่านางฟ้ามีจริงสักนิด (นางพูดเองในฉากของนางฟ้าแม่ทูนหัว) แต่เพราะนางรักแม่ และเห็นแม่เชื่อว่ามี นางก็เลยยอมเออออ มีก็มี ให้แม่สบายใจ (ขอคั่นเวลา เสียงคุณแม่หวานเว่อร์วังมาก อยากจะพาคุณแม่กลับบ้านมาร้องเพลงกล่อม คงจะนอนหลับฝันดี T_T) แต่ดูเหมือนว่าแม่จะรู้จักลูกสาวดี เลยสั่งเสียก่อนตายว่าให้ลูก "กล้าหาญและมีเมตตา"
พอนางโตขึ้น คุณพ่อก็เริ่มทนความเดียวดายไม่ไหวและบอกลูกสาวว่าจะแต่งงาน แถมบอกลูกว่าเป็นผู้หญิงที่สามีเพิ่งตายแต่ยังสวยมาก (เอิ่ม คุณพ่อ = =’’) ความร้ายของนางก็ปรากฏ แวบแรกที่เราได้เห็นบนสีหน้าเอลล่าคือ นางชักสีหน้าไม่พอใจมากกกกก แต่เพราะนางรักแม่ แม่สอนว่าให้กล้าหาญและมีเมตตา พ่อจะแต่งก็แต่งไปค่ะ ลูกดีใจด้วย (แต่สีหน้าตอนร้องไห้นี่ตรงกันข้ามมากนะยะ)
หลังจากแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงเข้ามาในบ้าน (และลูกเลี้ยงทั้งสองของแม่ใหม่ช่างปากเปราะนัก) นางก็ชักสีหน้าอีก แต่เพราะแม่สอนให้กล้าหาญและเมตตา ชั้นยอมให้ก็ได้
แต่แล้วนางก็เผยความร้ายออกมาด้วยการแก้แค้นแม่เลี้ยงนิดๆ ด้วยการระบายกับพ่อว่าคิดถึงแม่ค่ะ แม่แสนดีค่ะ แม่อยู่แล้วบ้านอบอุ่นค่ะ ทำน้ำตาคลอๆ ให้พ่อเห็นว่าคิดถึงแม่ม้ากกกก คุณพ่อเลยหลงกล เห็นด้วยกับลูกว่าพ่อก็คิดถึงแม่ลูก แม่แสนดี พ่อรักแม่ที่หนึ่ง แล้วแม่เลี้ยงก็มาได้ยิน โป๊ะเชะ! แล้วดิฉันเป็นตัวอะไรในบ้านของพวกคุณคะ T_T (ตอนนี้สงสารแม่เลี้ยงหนักมาก) เท่านั้นยังไม่พอ พอคุณพ่อจะไปทำงาน ฮีก็หาได้ล่ำลาเมียใหม่สักนิดไม่ คุยอี๋อ๋อแต่กับลูกสาวที่เกิดจากเมียเก่า ตอนนั้นสีหน้าแม่เลี้ยงเหมือนจะถามว่า แล้วชั้นล่ะคะ T_T (สงสารแม่เลี้ยงระลอก 2)
พอสามีไม่อยู่ มหกรรมล้างแค้นก็เริ่มขึ้น~~~ ซึ่งทุกการกระทำที่แม่เลี้ยงรังแกเอลล่านั้น ถ้าดูให้ดี เอลล่าเองก็ชักสีหน้า แอบยิ้ม หัวเราะเยาะลับหลังอยู่ประจำ โดยเฉพาะฉากที่ลูกสาวทั้งสองของแม่เลี้ยงตบตีกัน เอลล่าเดินหนี ยิ้มมุมปากและอาจจะคิดว่า “เอาเลย ตบกันให้ตายไปเลย ชั้นเป็นผู้ดี ชั้นตบพวกหล่อนไม่ได้”
ฉากนางฟ้าแม่ทูนหัว ตอนที่นางมาอย่างโทรมๆ ขอนมดื่ม เอลล่ามองนางอย่างเหยียดๆ แวบหนึ่งแต่ก็ยอมไปตักนมมาให้ เพราะจำได้ว่าแม่สอนให้กล้าหาญและมีเมตตา กระนั้นตอนที่นางฟ้าดื่มนมในชามแล้วทำหก นางก็เบ้ปากแวบหนึ่งแล้วหัวเราะกลบเกลื่อน จากนั้นเอลล่าก็เลยได้ราชรถทองคำ ม้าสีขาวล่ำๆ พร้อมด้วยบริวารไปปราสาทเจ้าชาย เพราะบุญคุณนมชามเดียว
พอไปถึง เอลล่าคงรู้ตัวว่าไปสาย ด้วยความที่ถูกเลี้ยงมาอย่างมีมารยาทของผู้ดี นางก็เลยย่อเข่าขอโทษพอเป็นพิธี แล้วเจ้าชายก็ขอนางเต้นรำ แถมด้วยการยั่วยวนเจ้าชายนิดๆ พองาม นี่ถ้าแม่ไม่สอนกิริยามารยาทมาดี เจ้าชายคงไม่รอดมือนางตั้งแต่อยู่ในสวนแล้วมั้ง
จากนั้นเรื่องก็เป็นไปตามเทพนิยาย มีหลายครั้งที่เอลล่าดูเหมือนอยากจะตบแม่เลี้ยง แต่เพราะถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู และแม่เลี้ยงก็ดูจะตบตีเก่งกว่ามากนัก นางก็เลยคับแค้นใจทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่งเจ้าชายมาช่วยเหลือ สีหน้านางเหมือนอยากจะแก้แค้นเต็มแก่ แต่แม่สอนไว้ว่าจงกล้าหาญและมีเมตตา นางก็เลยเลือกทางให้อภัย
แต่จริงๆ แล้วนางอาจจะรู้ก็ได้ว่าเจ้าชายคงไม่ปล่อยแม่เลี้ยงไปง่ายๆ แน่ แอ๊บสวยๆ เป็นนางเอกดีกว่า
จบแล้ว ขอบคุณที่อ่านค่ะ
ปล. ทั้งหมดนี้เรามองเอลล่าตามแง่มุมที่เราเห็นบนจอนะคะ เราคิดว่านางไม่โลกสวยหรอก ออกจะร้ายด้วยซ้ำ แต่ในฉากทุบรองเท้าแก้วที่แม่เลี้ยงบอกว่านางเป็นคนดี เพราะนางไม่เลือกวิถีทางตาต่อตาฟันต่อฟันค่ะ สุดท้ายสิ่งที่แม่เลี้ยงกระทำก็ย้อนกลับมาสู่ตัวเอง