สวัสดีครับ หลังจากที่ผมได้รีวิวเที่ยวฝรั่งเศสกับสวิสไปเมื่อ 1 ปีที่แล้วพอดีเป๊ะเลย >.< มาปีนี้ผมกับเพื่อนก็มีโครงการไปเที่ยวกันอีกแล้ว ซึ่งที่ๆเราเลือกกันรอบนี้ก็คือ United Kingdom นั่นเอง แต่น่าเสียดายรอบนี้มีแก๊งผมไปแค่ 2 คนเท่านั้น เพื่อนอีกคนไม่ว่างกลายเป็น 2 หนุ่มไทยไปสวีทกันซะนั้น 555
1.Visa : ตามข่าวลือเค้าว่ากันว่าเป็นวีซ่าที่ทำนานและได้ยากมาก ซึ่งจริงๆผมคิดว่าถ้าเตรียมเอกสารไปพร้อม ก็ไม่น่ามีปัญหาครับ ของผมเองยื่นไม่ถึงสิบนาที รอประมาณ 10 วันทำการก็ได้วีซ่ามาครอบครองแล้วครับ
เวปขอวีซ่าครับ :
https://www.visa4uk.fco.gov.uk/
2.Ticket : ตั๋วเครื่องบิน จริงๆผมว่ารอตอนมีโปรน่าจะถูกที่สุด สำหรับของผมกับเพื่อนรอบนี้เลือกแบบ Multicity คือ BKK >>> Manchester ,, London >>> BKK ตั๋วเลยค่อนข้างแพงครับ ผมได้ตั๋วของ Qatar airways ราคา 34xxx ครับ แอบแพงอยู่เหมือนกัน
เรื่องการบริการผมคิดว่าดีมากเลยละครับ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบสไตล์การขับเครื่องบินของเค้า มันดูไม่ค่อย smooth ยังไงไม่รู้ครับ บอกตรงๆว่าตั้งแต่นั่งเครื่องบินมายังไม่มีสายการบินไหนขับสมูทเท่าการบินไทยเลยครับ (อันนี้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทนะครับแต่ตอบตามความรู้สึกล้วนๆ)
ส่วนเรื่องการ Transit ที่สนามบิน Hamad International Airport ที่กรุงโดฮาขอบอกว่าง่ายมากๆ เดินตามป้ายก็ถึงครับ สนามบินสวยงามมาก มี WiFi ให้ใช้ด้วยครับ
3.Hotel : รอบนี้ผมจองผ่าน Expedia ครับ เพราะมีโปรลด 10% ถ้าจองผ่านบัตร KTC,,แนะนำว่ายอมจ่ายแพงนิดนึงแต่เดินทางสะดวกนะครับ เช่น โรงแรมผมจะอยู่ใกล้สถานีรถไฟหรือไม่ก็ Bus, Tram ตลอดครับเพราะไม่อยากลำบากเรื่องการขนกระเป๋าน่ะครับ
4.Food : แนะนำว่าหากไม่ได้ต้องการประหยัดงบมากผมอยากให้ลองไปกินข้าวตามร้านอาหารของประเทศนั้นๆครับ เพราะนอกจากเราจะไปเที่ยวชมเมืองเค้าแล้ว ผมว่าอาหารเป็นอีกอย่างที่ควรจะได้ลองน่ะครับ ซึ่งอยากรู้ว่าร้านอาหารไหนอร่อยผมแนะนำให้ลองหาตามเวปดูครับ
ส่วนเวปที่ผมใช้มากที่สุดก็คือ tripadvisor เพราะเค้าจะบอกตั้งแต่ราคา สถานที่ของร้าน และคะแนนรีวิวจากคนทั่วโลกที่เคยไปยังร้านนั้นๆครับ
5.Money : แนะนำว่าให้แลกไปจากเมืองไทยเฉพาะส่วนที่เราคิดว่าจะต้องใช้จ่ายเป็นเงินสดเท่าที่จำเป็น เช่นพวกค่าอาหารหรือค่าของฝากครับ เพราะหากแลกมากไปเกิดหายขึ้นมาก็ดูจะไม่คุ้มน่ะครับ ส่วนค่าโรงแรมกับค่าเดินทางผมก็รูดบัตรเครดิตเอาครับ
6.Map : สำคัญมากถึงมากที่สุดครับ ก่อนไปแนะนำว่าให้เปิด google map/ google earth เดินเล่นใน google earth บ่อยๆจะได้รู้จักทางไว้ล่วงหน้าครับ
7.Tablet/Smartphone : สำหรับผมที่ไปรอบนี้ใช้ซิมของ O2 ใส่ไอแพดเป็น hotspot ครับ ใช้สำหรับเปิด google map เป็นหลักเลย จริงๆที่ UK มีหลายเครือข่ายทั้ง Vodafone, O2, T-Mobile และอื่นๆครับ สำหรับผม UK เป็นที่ๆสัญญาณไม่ดีมากๆเลย = ="
ถ้าเทียบกับเมืองไทยแล้วผมว่าสัญญาณดีกว่า เนตเร็วกว่าเยอะครับ
เอาล่ะครับเริ่มเดินทางกัน! @ สนามบินสุวรรณภูมิ
ไฟลท์ BKK >>> Doha ผมได้นั่ง Airbus A380 ลำใหม่เอี่ยม ขอบอกว่าข้างในสะอาดและไฮเทคมากๆ เสียดายที่ขับไม่ค่อยนิ่มเท่าไหร่ และดันลืมถ่ายรูปเนื่องจากนอนหลับตลอด = =" รู้ตัวอีกทีก็มาถึงสนามบินโดฮาละครับ ตรงส่วนนี้เป็น Mascot
ของประเทศเค้ามั้งครับผมไม่แน่ใจ ส่วน CDE ที่เห็นนั้นคือทางไป Gate C-D-E ครับ ส่วน Gate A จะอยู่อีกฝั่งนึง พวกสินค้า Duty free ก็มีให้เลือกซื้อกันเยอะครับแต่ผมไม่ได้แวะเนื่องจากเวลา Transit น้อยจึงรีบเดินไปเลยครับ
มาถึง Manchester ในตอนเช้าครับ ที่ immigration ของสนามบินเข้มงวดใช้ได้ครับ แต่พอผมบอกว่าจะมาดูบอลนีให้ผ่านเลย 555+ สงสัยเป็นแฟนบอลทีมเดียวกันครับ ส่วนเพื่อนผมนี่ไม่รู้เล่นมุขหรือยังไงเล่นร้องเพลงสโมสร Arsenal ต่อหน้า
เจ้าหน้าที่เค้า ดีที่ไม่โดนกระทืบ = =",,, การเข้าเมือง Manchester สามารถเดินทางจากสนามบินได้เลย โดนพอเดิมผ่านออกมาจาก immigration แล้วให้เดินตรงผ่านมาตามป้าย Tram ครับ สักประมาณ 300-400 เมตรครับ ก็จะถึงสถานี Tram
โดยเราซื้อตั๋วจากเครื่องได้เลย มีหลายแบบให้เลือกแต่แนะนำว่าซื้อแบบ 1 day travelcard ไปเลยครับราคา 7.5 ปอนด์ เดินทางมาเรื่อยๆประมาณ 30 นาทีก็จะถึงสถานี Cornbrook ซึ่งสามารถเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางไปทุกสายได้ครับ
ขอบอกว่ารถไฟเค้าสะอาดมากๆ นั่งสบายมากเลยครับ
นี่เป็นแผนที่ของ Tram ใน Manchester ครับ ดูง่ายมาก ลองขึ้นสองสามรอบก็คุ้นเคยละครับ
ภาพนี้เป็นที่สถานี Cornbrook ครับ จะมีป้ายคอยบอกว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่และอีกกี่นาทีจะรถสายไหนจะมาครับ วันที่ผมไปอากาศค่อนข้างเย็น ประมาณ 5 องศา แต่ก็สนุกกับการเดินครับเพราะเดินได้นานไม่เหนื่อยเลย
มาถึงโรงแรมละครับ ผมจองโรงแรม Ibis Manchester Salford Quays เดินทางสะดวกดีครับนั่ง Tram ลงสถานี Salford Quays เดินอีกร้อยเมตรนิดๆก็ถึงละครับ
หลังจากเก็บของกันเรียบร้อย หาอาหารทานกันเราก็ตรงไปยังที่ๆผมอยากไปมากที่สุดของทริปนี้ครับบบบ ถึงแล้วววววว Old Trafford!! อิอิ (ต้องขออภัยแฟนทีมอื่นด้วยนะครับ กระทู้นี้เรื่องแมนยูเยอะนิดนึง >.<) ทางเข้าด้านหน้าจะมีรูปปั้นของ
Sir Matts Busby อดีดผู้จักการทีมที่ยิ่งใหญ่ของแมนยูครับ
ส่วนนักเตะสามคนที่เป็นตำนานของแมนยูในอดีตคือ Denis Laws, Sir Bobby Charlton และ George Best ครับ ซึ่งทั้งสามคนนี้เป็นกำลังหลักที่ช่วยให้แมนยูได้แชมป์ยุโรปเมื่อปี 1967-1968 และทั้งสามคนนี้ยังได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรปอีกด้วยครับ (ได้กันคนละปี)
ส่วน Sir Bobby Charlton ที่ได้ตำแหน่ง Sir เนื่องจากเคยเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษที่คว้าแชมป์โลกได้ครับ
ส่วนฝั่งนี้คือ Sir Alex Ferguson Stand ซึ่งคงเป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของแมนยูแล้วละครับ คิดถึงป๋ามากๆ >.<
ซึ่งวันนี้เราจะไป Stadium and Museum tour กันครับ โดยทางเข้าก็คือฝั่ง Sir Alex Ferguson Stand นั่นเองแหละครับ โดยเราสามารถจองล่วงหน้ามาได้ผ่านเวป
http://www.manutd.com/en/Visit-Old-Trafford/Museum-And-Stadium-Tour/Stadium-Tour.aspx
แล้วหลังจากนั้นก็ปริ้น E-Mail confirmation มาเพื่อรับตั๋วได้เลยครับ
เข้ามาปุ๊ปเราก็จะขึ้นบันไดเลื่อนมาเจอกับ Sir Alex ที่ทางเข้า Museum เลย
หน้า Museum ก็จะมีป้ายคอยต้อนรับครับ
บรรดาถ้วยรางวัลต่างๆของสโมสร จริงๆมีเยอะมากถ่ายมาไม่หมดครับ
Manchester United Hall of fame ตั้งแต่รุ่นแรกเลยครับ
รูปภาพตอนได้แชมป์ปี 2013-2014 ครั้งล่าสุดครับ ไม่รู้อีกนานแค่ไหนถึงจะได้
เข้ามาในสนามแล้วครับบบ สนามจริงเล็กกว่าที่คิดไว้ แต่มันดูยิ่งใหญ่และขอบอกว่าหญ้าสวยมากกกกกกก อยากลงไปวิ่งเล่น 555
วันนี้เรามีคนพาทัวร์สนามด้วยครับ ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว แต่เค้าจะคอยบรรยายไปตามสถานที่ที่เราเดินไปเรื่อยๆครับ ฟังรู้เรื่องไม่รู้เรื่องบ้าง แต่สนุกดีครับ ฮาดี
ขอรูปสนามอีกสักรูปครับ สวยมากกก
ห้องแต่งตัวนักเตะครับ
ส่วนนี้เป็นที่นั่งของนักเตะสำรอง สต๊าฟโค้ช และผู้จัดการทีมครับ ที่เห็นที่นั่งซีดๆนี่จริงๆมันแดงสดเลยนะครับแต่เค้าคลุมผ้ากันน้ำไว้
หลังจากสิ้นสุดทัวร์เค้าก็จะพามาจบที่ Megastore ครับ,,,แหม่จบด้วยการขายของ 555
ขอจบ Stadium & Museum tour ด้วยรูปทางเข้าสนามอีกรอบครับ
หลังจาก tour เสร็จเราก็จะไปเดินเที่ยวในเมืองกันครับ โดยผมนั่ง Tram มาลงที่สถานี Piccadilly Gardens โดยมาเจอกับเจ้ากระเช้านี้ครับคือ Wheel of Manchester แต่ไม่ได้ขึ้นไปนะครับ
บรรยากาศเมืองยามเย็นครับ จริงๆคนพลุกพล่านมากเลยล่ะครับ
วันนี้เรามาทานมื้อเย็นที่ The Allotment bar and restuarant ครับ สั่งแค่สองเมนูเพราะจานใหญ่มาก จานแรกเป็นของขึ้นชื่อของ UK เค้าเลยครับ Fish & Chips อร่อยมากครับ ส่วนจานที่สองเป็นสลัดไก่ย่างน่ะครับ เป็นสลัดที่แปลกมาก
ไม่ทราบว่าเค้าใช้ผักอะไรเหมือนกันแต่มันอร่อยมากๆ โดยเฉพาะอกไก่ย่างนี่สุดๆเลยครับ
สำหรับวันแรกเราก็หมดเพียงเท่านี้ครับ เอารูปยามค่ำคืนมาฝากสักรูปครับ
วันรุ่งขึ้นเราเริ่มจากการไปที่นี่ก่อนเลยครับ Museum of science & industry ครับ เข้าชมฟรีนะครับ
Hall ที่ผมเดินเข้ามาชมคือ Space Hall ครับ มีเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องบินมากมายเลย รูปนี้เป็นเครื่องบินลำแรกของอังกฤษครับ สร้างหลังพี่น้องตระกูล Wright ได้สักเกือบๆ 20 ปีครับ
จริงๆแล้ว Museum มีให้เดินเยอะนะครับ แต่ผมเป็นประเภทไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เลยใช้เวลาไม่นาน พอเสร็จแล้วเลยมาเดินเล่นในเมืองต่อครับ โดยนั่ง Tram มาลงที่ Market Street ครับ
เดินเข้ามาในห้างใหญ่ของเมืองชื่อว่า Manchester Arndale ก็เหมือนห้างทั่วไปของบ้านเราแหละครับ มีของให้เดินซื้อพอประมาณ
[CR] 2 หนุ่มไทย to UK >///< Part I : " Manchester place of my dream "
1.Visa : ตามข่าวลือเค้าว่ากันว่าเป็นวีซ่าที่ทำนานและได้ยากมาก ซึ่งจริงๆผมคิดว่าถ้าเตรียมเอกสารไปพร้อม ก็ไม่น่ามีปัญหาครับ ของผมเองยื่นไม่ถึงสิบนาที รอประมาณ 10 วันทำการก็ได้วีซ่ามาครอบครองแล้วครับ
เวปขอวีซ่าครับ : https://www.visa4uk.fco.gov.uk/
2.Ticket : ตั๋วเครื่องบิน จริงๆผมว่ารอตอนมีโปรน่าจะถูกที่สุด สำหรับของผมกับเพื่อนรอบนี้เลือกแบบ Multicity คือ BKK >>> Manchester ,, London >>> BKK ตั๋วเลยค่อนข้างแพงครับ ผมได้ตั๋วของ Qatar airways ราคา 34xxx ครับ แอบแพงอยู่เหมือนกัน
เรื่องการบริการผมคิดว่าดีมากเลยละครับ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบสไตล์การขับเครื่องบินของเค้า มันดูไม่ค่อย smooth ยังไงไม่รู้ครับ บอกตรงๆว่าตั้งแต่นั่งเครื่องบินมายังไม่มีสายการบินไหนขับสมูทเท่าการบินไทยเลยครับ (อันนี้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทนะครับแต่ตอบตามความรู้สึกล้วนๆ)
ส่วนเรื่องการ Transit ที่สนามบิน Hamad International Airport ที่กรุงโดฮาขอบอกว่าง่ายมากๆ เดินตามป้ายก็ถึงครับ สนามบินสวยงามมาก มี WiFi ให้ใช้ด้วยครับ
3.Hotel : รอบนี้ผมจองผ่าน Expedia ครับ เพราะมีโปรลด 10% ถ้าจองผ่านบัตร KTC,,แนะนำว่ายอมจ่ายแพงนิดนึงแต่เดินทางสะดวกนะครับ เช่น โรงแรมผมจะอยู่ใกล้สถานีรถไฟหรือไม่ก็ Bus, Tram ตลอดครับเพราะไม่อยากลำบากเรื่องการขนกระเป๋าน่ะครับ
4.Food : แนะนำว่าหากไม่ได้ต้องการประหยัดงบมากผมอยากให้ลองไปกินข้าวตามร้านอาหารของประเทศนั้นๆครับ เพราะนอกจากเราจะไปเที่ยวชมเมืองเค้าแล้ว ผมว่าอาหารเป็นอีกอย่างที่ควรจะได้ลองน่ะครับ ซึ่งอยากรู้ว่าร้านอาหารไหนอร่อยผมแนะนำให้ลองหาตามเวปดูครับ
ส่วนเวปที่ผมใช้มากที่สุดก็คือ tripadvisor เพราะเค้าจะบอกตั้งแต่ราคา สถานที่ของร้าน และคะแนนรีวิวจากคนทั่วโลกที่เคยไปยังร้านนั้นๆครับ
5.Money : แนะนำว่าให้แลกไปจากเมืองไทยเฉพาะส่วนที่เราคิดว่าจะต้องใช้จ่ายเป็นเงินสดเท่าที่จำเป็น เช่นพวกค่าอาหารหรือค่าของฝากครับ เพราะหากแลกมากไปเกิดหายขึ้นมาก็ดูจะไม่คุ้มน่ะครับ ส่วนค่าโรงแรมกับค่าเดินทางผมก็รูดบัตรเครดิตเอาครับ
6.Map : สำคัญมากถึงมากที่สุดครับ ก่อนไปแนะนำว่าให้เปิด google map/ google earth เดินเล่นใน google earth บ่อยๆจะได้รู้จักทางไว้ล่วงหน้าครับ
7.Tablet/Smartphone : สำหรับผมที่ไปรอบนี้ใช้ซิมของ O2 ใส่ไอแพดเป็น hotspot ครับ ใช้สำหรับเปิด google map เป็นหลักเลย จริงๆที่ UK มีหลายเครือข่ายทั้ง Vodafone, O2, T-Mobile และอื่นๆครับ สำหรับผม UK เป็นที่ๆสัญญาณไม่ดีมากๆเลย = ="
ถ้าเทียบกับเมืองไทยแล้วผมว่าสัญญาณดีกว่า เนตเร็วกว่าเยอะครับ
เอาล่ะครับเริ่มเดินทางกัน! @ สนามบินสุวรรณภูมิ
ไฟลท์ BKK >>> Doha ผมได้นั่ง Airbus A380 ลำใหม่เอี่ยม ขอบอกว่าข้างในสะอาดและไฮเทคมากๆ เสียดายที่ขับไม่ค่อยนิ่มเท่าไหร่ และดันลืมถ่ายรูปเนื่องจากนอนหลับตลอด = =" รู้ตัวอีกทีก็มาถึงสนามบินโดฮาละครับ ตรงส่วนนี้เป็น Mascot
ของประเทศเค้ามั้งครับผมไม่แน่ใจ ส่วน CDE ที่เห็นนั้นคือทางไป Gate C-D-E ครับ ส่วน Gate A จะอยู่อีกฝั่งนึง พวกสินค้า Duty free ก็มีให้เลือกซื้อกันเยอะครับแต่ผมไม่ได้แวะเนื่องจากเวลา Transit น้อยจึงรีบเดินไปเลยครับ
มาถึง Manchester ในตอนเช้าครับ ที่ immigration ของสนามบินเข้มงวดใช้ได้ครับ แต่พอผมบอกว่าจะมาดูบอลนีให้ผ่านเลย 555+ สงสัยเป็นแฟนบอลทีมเดียวกันครับ ส่วนเพื่อนผมนี่ไม่รู้เล่นมุขหรือยังไงเล่นร้องเพลงสโมสร Arsenal ต่อหน้า
เจ้าหน้าที่เค้า ดีที่ไม่โดนกระทืบ = =",,, การเข้าเมือง Manchester สามารถเดินทางจากสนามบินได้เลย โดนพอเดิมผ่านออกมาจาก immigration แล้วให้เดินตรงผ่านมาตามป้าย Tram ครับ สักประมาณ 300-400 เมตรครับ ก็จะถึงสถานี Tram
โดยเราซื้อตั๋วจากเครื่องได้เลย มีหลายแบบให้เลือกแต่แนะนำว่าซื้อแบบ 1 day travelcard ไปเลยครับราคา 7.5 ปอนด์ เดินทางมาเรื่อยๆประมาณ 30 นาทีก็จะถึงสถานี Cornbrook ซึ่งสามารถเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางไปทุกสายได้ครับ
ขอบอกว่ารถไฟเค้าสะอาดมากๆ นั่งสบายมากเลยครับ
นี่เป็นแผนที่ของ Tram ใน Manchester ครับ ดูง่ายมาก ลองขึ้นสองสามรอบก็คุ้นเคยละครับ
ภาพนี้เป็นที่สถานี Cornbrook ครับ จะมีป้ายคอยบอกว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่และอีกกี่นาทีจะรถสายไหนจะมาครับ วันที่ผมไปอากาศค่อนข้างเย็น ประมาณ 5 องศา แต่ก็สนุกกับการเดินครับเพราะเดินได้นานไม่เหนื่อยเลย
มาถึงโรงแรมละครับ ผมจองโรงแรม Ibis Manchester Salford Quays เดินทางสะดวกดีครับนั่ง Tram ลงสถานี Salford Quays เดินอีกร้อยเมตรนิดๆก็ถึงละครับ
หลังจากเก็บของกันเรียบร้อย หาอาหารทานกันเราก็ตรงไปยังที่ๆผมอยากไปมากที่สุดของทริปนี้ครับบบบ ถึงแล้วววววว Old Trafford!! อิอิ (ต้องขออภัยแฟนทีมอื่นด้วยนะครับ กระทู้นี้เรื่องแมนยูเยอะนิดนึง >.<) ทางเข้าด้านหน้าจะมีรูปปั้นของ
Sir Matts Busby อดีดผู้จักการทีมที่ยิ่งใหญ่ของแมนยูครับ
ส่วนนักเตะสามคนที่เป็นตำนานของแมนยูในอดีตคือ Denis Laws, Sir Bobby Charlton และ George Best ครับ ซึ่งทั้งสามคนนี้เป็นกำลังหลักที่ช่วยให้แมนยูได้แชมป์ยุโรปเมื่อปี 1967-1968 และทั้งสามคนนี้ยังได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรปอีกด้วยครับ (ได้กันคนละปี)
ส่วน Sir Bobby Charlton ที่ได้ตำแหน่ง Sir เนื่องจากเคยเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษที่คว้าแชมป์โลกได้ครับ
ส่วนฝั่งนี้คือ Sir Alex Ferguson Stand ซึ่งคงเป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของแมนยูแล้วละครับ คิดถึงป๋ามากๆ >.<
ซึ่งวันนี้เราจะไป Stadium and Museum tour กันครับ โดยทางเข้าก็คือฝั่ง Sir Alex Ferguson Stand นั่นเองแหละครับ โดยเราสามารถจองล่วงหน้ามาได้ผ่านเวป http://www.manutd.com/en/Visit-Old-Trafford/Museum-And-Stadium-Tour/Stadium-Tour.aspx
แล้วหลังจากนั้นก็ปริ้น E-Mail confirmation มาเพื่อรับตั๋วได้เลยครับ
เข้ามาปุ๊ปเราก็จะขึ้นบันไดเลื่อนมาเจอกับ Sir Alex ที่ทางเข้า Museum เลย
หน้า Museum ก็จะมีป้ายคอยต้อนรับครับ
บรรดาถ้วยรางวัลต่างๆของสโมสร จริงๆมีเยอะมากถ่ายมาไม่หมดครับ
Manchester United Hall of fame ตั้งแต่รุ่นแรกเลยครับ
รูปภาพตอนได้แชมป์ปี 2013-2014 ครั้งล่าสุดครับ ไม่รู้อีกนานแค่ไหนถึงจะได้
เข้ามาในสนามแล้วครับบบ สนามจริงเล็กกว่าที่คิดไว้ แต่มันดูยิ่งใหญ่และขอบอกว่าหญ้าสวยมากกกกกกก อยากลงไปวิ่งเล่น 555
วันนี้เรามีคนพาทัวร์สนามด้วยครับ ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว แต่เค้าจะคอยบรรยายไปตามสถานที่ที่เราเดินไปเรื่อยๆครับ ฟังรู้เรื่องไม่รู้เรื่องบ้าง แต่สนุกดีครับ ฮาดี
ขอรูปสนามอีกสักรูปครับ สวยมากกก
ห้องแต่งตัวนักเตะครับ
ส่วนนี้เป็นที่นั่งของนักเตะสำรอง สต๊าฟโค้ช และผู้จัดการทีมครับ ที่เห็นที่นั่งซีดๆนี่จริงๆมันแดงสดเลยนะครับแต่เค้าคลุมผ้ากันน้ำไว้
หลังจากสิ้นสุดทัวร์เค้าก็จะพามาจบที่ Megastore ครับ,,,แหม่จบด้วยการขายของ 555
ขอจบ Stadium & Museum tour ด้วยรูปทางเข้าสนามอีกรอบครับ
หลังจาก tour เสร็จเราก็จะไปเดินเที่ยวในเมืองกันครับ โดยผมนั่ง Tram มาลงที่สถานี Piccadilly Gardens โดยมาเจอกับเจ้ากระเช้านี้ครับคือ Wheel of Manchester แต่ไม่ได้ขึ้นไปนะครับ
บรรยากาศเมืองยามเย็นครับ จริงๆคนพลุกพล่านมากเลยล่ะครับ
วันนี้เรามาทานมื้อเย็นที่ The Allotment bar and restuarant ครับ สั่งแค่สองเมนูเพราะจานใหญ่มาก จานแรกเป็นของขึ้นชื่อของ UK เค้าเลยครับ Fish & Chips อร่อยมากครับ ส่วนจานที่สองเป็นสลัดไก่ย่างน่ะครับ เป็นสลัดที่แปลกมาก
ไม่ทราบว่าเค้าใช้ผักอะไรเหมือนกันแต่มันอร่อยมากๆ โดยเฉพาะอกไก่ย่างนี่สุดๆเลยครับ
สำหรับวันแรกเราก็หมดเพียงเท่านี้ครับ เอารูปยามค่ำคืนมาฝากสักรูปครับ
วันรุ่งขึ้นเราเริ่มจากการไปที่นี่ก่อนเลยครับ Museum of science & industry ครับ เข้าชมฟรีนะครับ
Hall ที่ผมเดินเข้ามาชมคือ Space Hall ครับ มีเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องบินมากมายเลย รูปนี้เป็นเครื่องบินลำแรกของอังกฤษครับ สร้างหลังพี่น้องตระกูล Wright ได้สักเกือบๆ 20 ปีครับ
จริงๆแล้ว Museum มีให้เดินเยอะนะครับ แต่ผมเป็นประเภทไม่ค่อยอินเท่าไหร่ เลยใช้เวลาไม่นาน พอเสร็จแล้วเลยมาเดินเล่นในเมืองต่อครับ โดยนั่ง Tram มาลงที่ Market Street ครับ
เดินเข้ามาในห้างใหญ่ของเมืองชื่อว่า Manchester Arndale ก็เหมือนห้างทั่วไปของบ้านเราแหละครับ มีของให้เดินซื้อพอประมาณ